หุ้น 6 ประเภท ปีเตอร์ ลินซ์ peter lynch

หุ้น 6 ประเภท ของปีเตอร์ ลินช์ Peter Lynch

ถ้าพูดกันในหมู่ของนักเล่นหุ้นและนักลงทุนแล้ว  แน่นอนว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก  ปีเตอร์  ลินซ์ นักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ชาว สหรัฐอเมริกา  หนึ่งในผู้นำทางด้านความคิดในการลงทุนที่มีชื่อเสียง  กับหลักการง่ายๆ ที่ "Invest in What you Know" ซึ่งเมื่อเราทราบว่าสิ่งที่เรากำลังลงทุนคืออะไรก็จะทำให้ทราบได้ว่า "มันมีมูลค่าที่น่าลงทุนไหม?" แค่การตั้งคำถามลักษณ์นี้ก็ทำให้เราได้เห็นว่านักลงทุนเน้นคุณค่าเขาก็เริ่มต้นคิดจากหลักการง่ายๆ กันแบบนี้  และแน่นอนว่าเรื่องการลงทุนอย่างง่ายๆนั้น ปีเตอร์ ลินซ์ เองก็บอกว่านักลงทุนรายย่อยได้เปรียบกว่าผู้จัดการกองทุนที่อย่ใน Wall Street เนื่องจากไม่ได้นั่งอยู่ดูแต่ราคาหุ้นในตลาด  แต่สามารถใช้ชีวิตประจำวันในการดูควาเป็นไปของธุรกิจรอบๆ ตัว ได้ทุกวันเพื่อจะดูว่าเราควรลงทุนกับอะไร  ไม่ว่าจะเป็นการสังเกตสิ่งรอบตัวหรือการไปเที่ยวหรือไปซื้อของที่ไหน

I’ve found that when the market’s going down and you buy funds wisely, at som point in the future you will be happy
Peter Lynch
ผมพบว่าเมื่อหุ้นกำลังตกต่ำและคุณได้ลงทุนอย่างชาญฉลาด  ในจุดหนึ่งในอนาคต  คุณจะมีความสุขกับมัน
ปีเตอ่ร์  ลินซ์


วิธีคิดของเขาน่าสนใจดีมั๊ยคับ?  พอเราเห็นอย่างนี้แล้วก็คงจะมีจินตนาการได้เหมือนกับเวลาที่เราจะไปซื้อของซักชิ้นหนึ่งในห้างสรรพสินค้า  ถ้าสินค้าชิ้นหนึ่งมันมีราคา 100 บาท  แล้วอยู่ๆ มันมีประกาศลดราคาเหลือ 70 บาท เราก็คงดีใจแน่ๆ เลยใช่มั๊ยคับ  เพราะหลังจากหมดโปรโมชั่นมันอาจจะกลับมาขายราคาเดิมที่ 100 บาท  ในเรื่ององการลงทุนมันก็มีความคาดหวัง  ราคาหุ้นมันขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา  ตามความคาดหวังของนักลงทุนที่ซื้อขายกันอยู่ในทุกวัน  ในหลักการที่ว่านี้หากเราสามารถวิเคราะห์ได้ว่ามูลค่าที่แท้จริงมันอยู่ที่ไหนและเราสามารถซื้อหุ้นในโอกาสที่เหมาะสมได้  ในอนาคตเราก็จะสามารถสร้างความมั่งคั่งได้  แต่หุ้นเองก็มีหลากหลายแบบหลายประเภท  เรามาดูกันต่อคับว่าในมุมมองของปีเตอร์ ลินซ์  เขาได้แบ่งหุ้นเป็น 6 ประเภทว่าอย่างไรบ้าง?

-หุ้นโตช้า Slow Growers
หุ้นโตช้ามักจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ๆ หรือ เป็นธุรกิจที่ไม่รู้จะขยายยังไงต่อ  ถ้าเทียบกับการขยายตัวของประเทศพวกนี้จะโตน้อยกว่าอีก  เมื่อขยายไม่ได้แต่มีกำไรเกิดขึ้นก็จะเอากำไรมาจ่ายเงินปันผล  ธุรกิจแบบนี้เราไม่สามารถหาการเจริญเติบโตกับมันได้มากนัก  แน่นอนว่าพอมันไม่เติบโตอะไรมันก็จะไม่ได้มีราคาที่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่

-หุ้นแข็งแกร่ง Stalwarts
หุ้นแข็งแกร่ง แข็งแรง จะเป็นหุ้นที่ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี  แต่การเติบโตก็จะไม่ได้สูงมากเพราะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่จะโตแบบตู้มๆๆ หลายๆ เท่าก้ต้องใช้เวลาเพราะมันใหญ่โตของมันอยู่แล้ว  แต่หุ้นเหล่านี้จะเป็นหุ้นที่ปลอดภัยอยู่มันจะอยู่รอดของมันได้ในวิกฤต  ของก็ขายได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นพวก อาหารสุนัข  ซีเรียลที่ทานกันตอนเช้า  รวมไปถึงพวกน้ำอัดลมอย่างโค้ก

-หุ้นโตเร็ว Fast Growers
หุ้นโตเร็วจะเป็นหุ้นแนวที่ปีเตอร์  ลินซ์ชอบ  เมื่อโตเร็วมันก็ย่อมสร้างความมั่งคั่งให้กับเราได้มาก  ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหุ้นขนาดเล็กที่เกิดใหม่  การขยายตัวทำได้เร็ว  สังเกตง่ายๆ คือธุรกิจไหนที่สามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดได้เร็วบ้าง  แต่เมื่อมันเป็นธุรกิจขนาดเล็กมันก็ย่อมมีความเสี่ยง  เกิดขยายๆไป  สายป่านสั้นก็อาจจะเจอปัญหาทางการเงินได้  สิ่งที่เราควรจะมองกับหุ้นประเภทนี้คือการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการดูผลประกอบการจากงบการเงินต่างๆ อย่างใกล้ชิด

-หุ้นวัฏจักร Cyclicals
หุ้นกลุ่มนี้จะเป็นหุ้นที่เติบโตและตกต่ำตามเศรษฐกิจและความเป็นไปของอุตสาหกรรม  คล้ายๆ กับแฟชั่นั่นเอง  ที่หลังจากหมดคอลเล็คชั่นหน้าร้อนแล้วก็ต้องลดราคาล้างสต็อกและรอคอเล็กชั่นในฤดูถัดไป  หุ้นประนี้ต้องดูจังหวะ  โอกาสและเวลา  เช่น หุ้นที่เกี่ยงข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์  น้ำมัน  ปิโตเคมี  ถ่านหิน  สินค้าเกษตร  อสังหาริมทรัพย์

-หุ้นฟื้นตัว Turnarounds
ในบางบริษัทอาจจะประสบปัญหา  ของขายไม่ได้  ขาดทุนย่อยยับ  ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นทำให้ตกต่ำแบบไม่มีใครมอง  แต่ก็ไม่แน่  บางทีเราอาจจะเห็นว่ามีการปรับโครงสร้างต่างๆ  ทำให้ธุรกิจมันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เมื่อเราเห็นสัญญานฟื้นตัวของบริษัทแล้วเราได้มีโอกาสลงทุนก็อาจจะทำให้เราโตไปกับมันได้อย่างระเบิดเช่นกัน  แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าทุกสิ่งที่มีความเสี่ยง  บางทีจะฟื้นแล้วแต่ไม่ฟื้นจริงก็มี  หุ้นแบบนี้มันคล้ายๆ  กับคนป่วยคับ  หายเมื่อไหร่ก็ทำมาหากินได้เหมือนเดิม

-หุ้นทรัพย์สินมาก Asset Plays
บางบริษัทอาจจะมีไข่มุกทองคำข้างในเปลือกหอยที่ดูไม่มีค่าอะไรก็มีนะคับ  หลายบริษัทมีทรัพย์สินดีๆ เยอะแต่เราไม่เห็นสิ่งที่มันซ่อนไว้  ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าผมมีที่ดินปลูกอ้อยอยู่ 70 ไร่ แต่คนมองว่ามันใช้ทำได้เพียงปลูกอ้อยกับทำการเกษตรเท่านั้น ใช้ทำอะไรไม่ได้เท่าที่เป็นอยู่  แต่หากวันนึง มีคนมาค้นพบว่า ด้านใต้ที่เดินตรงนี้มีเหมืองทองคำอยู่ล่ะ?  รับรองว่ามูลค่าของมันจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณเลยทีเดียว  หุ้นลักษณะนี้ก็ต้องไปนั่ง ดูๆ นะคับว่ามีความลับอะไรซ่อนอยู่  บางทีธุรกิจอาจมีเพียงอาคารเก่าๆ แต่พอประเมินมูลค่าใหม่รวมกับราคาที่ดินแล้วอาจจะมูลค่ามหาศาลเลยก็ได้

พอจะเห็นภาพหุ้น 6 ประเภทกันแล้วใช่มั๊ยคับ  ทีนี้ออกจากบ้านครั้งต่อไป ลองเดินเล่นตามท้องถนน และสังเกตุกันดูนะว่าเวลาเราพบเจอสินค้าหรือบริการอะไร  มันน่าจะเป็นธุรกิจที่เป็นหุ้นตรงกับหุ้นประเภทใดที่ ปีเตอร์ ลินซ์ กล่าวไว้บ้าง  คราวนี้ทุก ๆ เช้า หาเวลาว่าง วิเคราะสิ่งรอบตัวซักครู่หนึ่ง  เมื่อคุณเรียนรู้การวิเคราะห์กับสิ่งรอบตัวและเข้าใจมันได้  จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการ ลงทุนและการใช้ชีวิตของคุณ


ที่มา http://goo.gl/x8iRN6

ติดตามอ่านข่าวสารการลงทุน

Facebook Fan Page : https://www.facebook.com/setlnw
Facebook Fan Page : https://www.facebook.com/setvii

Blogger

SetLnw ประเทศไทย  http://setlnw.com/
ยำหุ้นประเทศไทย http://yamhun.blogspot.com/
หุ้นVI ประเทศไทย http://www.thaistockvi.com/
วอร์เรนต์ บัฟเฟตต์ http://warrenbuffettsay.blogspot.com/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่