เรื่องเล่าจากมหาลัย

เนื่องจากอาทิตย์นี้ว่าง ว่างแบบว่างจริงๆ ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มาตั้งแต่ เอ่อ กลางเดือนพฤศจิ ร้องไห้ ก็ไม่เคยคิดเลยนะว่าการเรียนในระดับบัณฑิตศึกษามันต้องลงแรง ใช้ใจเรียนกันขนาดนี้ เลยอยากลองเขียนเรื่องเล่าสั้นๆสนุกๆในมหาลัยแบ่งให้คนอื่นได้อ่าน  ก็จะเอามาลงจนกว่าจะยุ่งอีกทีนั่นแหล่ะค่ะ เนื่องจากเรียนแบบ full time เรื่องที่เล่าก็จะเกี่ยวข้องกับอาจารย์แล้วก็เพื่อนๆในแลปเป็นส่วนใหญ่  โอเค เริ่มเลยละกันค่ะ

อาจารย์ของผู้เขียนนะคะ ผอม สูง ผิวสีแทน สวย น่ารัก อารมณ์ดี ทำงานเก่งเสียอยู่อย่างเดียวไม่มีแฟน คนตามจีบยาวเป็นหางว่าว ท่านอาจารย์ไม่เอาสักคน ไม่เก่งพอบ้างล่ะ หน้าตาไม่ผ่านบ้างล่ะ พอถึงคนที่ถูกใจ ก็มีเมียบ้าง ไม่หล่อบ้าง สรุปง่ายๆสเปกสูงมากกกกก จนครองตัวเป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้ แต่จะว่าไปโทษว่าสเปกสูงก็ไม่ถูกนักเพราะครึ่งนึงของคนที่ถูกใจดันหายตัวไปเมื่อรู้ว่าทำงานอะไรดังเช่นเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ที่ผู้เขียนเดินผ่านไปได้ยินอาจารย์กำลังออกงิ้วกับอาจารย์อีกท่านอยู่พอดี
“นี่เล่นไปบอกว่าเราจบเอก เป็นดร. เป็นรศ. แถมมีตำแหน่งอะไรอีก ผู้ชายมันก็หนีหมดดิ ใครเค้าจะมาจีบ”
นั่นแหล่ะ ตามนั้น รศ.ดร.xxx xxxx ภาควิชาxxxxxxx  มหาวิทยาลัยxxxxxxxxxxx

ตั้งแต่ได้เลื่อนตำแหน่ง พวกเด็กในแลปต่างรู้ว่างานหลักของแกคือ
1. ประชุม – “อ. ว่างมั้ยคะ” เมื่อไหร่ก็ตามที่ถามคำถามนี้ คำตอบจากห้าในสิบครั้งคือ ไม่ว่าง ต้องไปประชุม  ประชุมๆๆๆ ประชุมทุกวัน ไม่รู้ไม่เบื่อบ้างรึไงนะ สามจากห้าครั้งที่เหลือคือ ไม่แน่ใจเดี๋ยวดูก่อน ซึ่งถ้าแกพูดประโยคนี่ปุ๊ปทำใจไว้ 80% ได้เลยว่าไม่ได้คุยหรอก ส่วนอีกสองครั้งที่เหลือคือติดสอนกับมีธุระจะรีบกลับบ้าน เอ๊าถ้าเป็นงี้อ.จะว่างให้เด็กคุยได้ตอนไหน อย่ารอช้าอ่านข้อต่อไปกัน

2. สอน – เนื่องจากอ.หาตัวยากมากถึงมากที่สุด(ในเวลาราชการ)  บางวันนักศึกษาต่อคิวยาวอยู่หน้าห้องเพื่อดักรอ พวกแก่ๆขี้เกียจต่อคิวเด็กเลยเกิดการแซงคิวกันขึ้น การแซงคิวในที่นี้คือพวกแก(น้องๆ)จะดักหน้าห้องใช่มั้ย ไม่มีปัญหา เดี๋ยวพวกพี่เสียสละดักใต้ตึกเอง ถ้าดักได้ขนาดนี้แสดงว่าต้องรู้ตารางของอ.ใช่มะ จะตอบว่าถูกค่ะ รู้หมดอ่ะวันนี้สอนเช้า วันนั้นสอนบ่าย วันโน้นสอนมหาลัยอื่น อาทิตย์หน้าเลื่อนคลาส เดือนนู้นไปต่างประเทศ เข้ากี่โมง ออกกี่โมง โคตรน่ากลัวเลย ว่ามะ

ถึงตอนนี้บางคนอาจสงสัยและด่าว่าทำไมไม่นัดก่อน นัดสินัด มารยาททั่วไปทำเป็นรึเปล่า อีเมลล์น่ะหัดเขียนซะสิ มันยากตรงไหนฟะ โธ่ ก็ไม่รู้ดิ ก็ไม่มีใครเขียนนี่นา อาจเป็นเพราะดักพบมันง่ายกว่าก็ได้มั้ง เพราะเจอเลย แล้วก็รอคุยเลยแต่เมลล์มันจะวันนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้ก็ไม่ได้ ต้องรอออกไปอีกมั้งนะ แล้วอีกอย่างเด็กๆก็รู้ว่าเมลล์อาจารย์เข้าวันละเป็นร้อย ก็อยากให้แกอ่านแต่เมลล์ที่สำคัญก่อนไง ไม่อยากให้เมลล์นัดพบไปทำให้อินบอกซ์ที่มีเนื้อที่น้อยนิดเต็มบ่อยๆจนอาจพลาดข้อมูลที่สำคัญไปได้ (เหตุผลอะไรเนี่ย เป็นข้อแก้ตัวที่ไม่ได้เรื่องซะเลยเนอะ) เอาเป็นว่า ข้อนี้เด็กผิดเต็มๆละกันที่ไม่นัดก่อนแม้ว่าอ.จะบ่นเรื่องนี้มาเป็นปีๆแล้วก็ตามเหอะ

ถึงตอนบางคนอาจสงสัย(อีกละ)ว่า เด็กตั้งเยอะแยะ คุยหมดมั้ย นี่แหล่ะทีเด็ด หมดค่ะ เยอะแค่ไหนก็หมด พวกดักรอแล้วไม่ได้คุยทั้งหลายจะต้องมารอต่อในตอนเย็นซึ่งต้องเริ่มหลังสี่โมงครึ่งเป็นอย่างน้อยยาวไปถึงดึกๆ และเมื่อเลยเวลาข้าวเย็นไปไกล อาจมีการย้ายที่คุยไปร้านข้าวแล้วเด็กกลุ่มนั้นจะได้รางวัลของการรอเป็นข้าวเย็นฟรี

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่