ช่วงนี้เห็นคนแวดดวงการเมืองถูกกองทัพ "เชิญตัว" เรื่องการแสดงออกทางการเมืองกันเป็นว่าเล่น คราวนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชูวิทย์ I′m No.5 ระบุว่า



   




พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง

คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรรมนูญจะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองร่วมแสดงความเห็นหลักการใหม่ระบอบการเมือง เพื่อนำไปประกอบการร่างรัฐธรรมนูญ

แต่ภายใต้ “กฎอัยการศึก” จะให้ใครที่ไหนแสดงความเห็นทางการเมืองได้เต็มที่?

ดีไม่ดีพูดมากไป เดี๋ยวก็ถูกเชิญร่วม “ปรับทัศนคติ” บรรยากาศแบบนี้ “หุบปากเสียดีกว่า”

บางคนที่ถูกทหารเรียกไปปรับทัศนคติ พูดตรงๆผมยังเห็นด้วย สมควรแล้วที่โดน เพราะตลอดระยะเวลายาวนานในการต่อสู้ของผม ประสบการณ์สอนให้รู้ว่า "เวลาไหนควรหยุด เวลาไหนควรรุกต่อ"

ไม่ใช่พูดเป็นต่อยหอยตลอดเวลา เดินถือจดหมายส่งให้คนนั้นทีคนนี้ที จับผิดคนอื่นเขาไปทั่ว

ต้องดูตัวอย่างนักการเมืองลายครามอย่างนายบรรหาร หัวหน้าพรรคเก่าผม หรือนักเลงเรียกพี่อย่างเฉลิม ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ถึงเวลาต้องเงียบก็เงียบกริบเป็นแมวป่วย ทำตัวโลวโปรไฟล์

คนโบราณเขาถึงบอก บางเวลา “พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง” มันเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้

รู้จักหุบปากเสียบ้าง ปล่อยให้คนบนโพเดี้ยมเขาพูดเถอะ ให้มันรู้ว่ายุคนี้ใครเป็นใคร

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1423223367