อยากมาเล่าประสบการณ์ของการเลี้ยงกระต่าย เรื่องมีอยู่ว่าเราไปซื้อกระต่ายมาจากจตุจักรตัวนึงน่ารักน่าชัง ด้วยความที่ซื้อมาเลี้ยงก็รักก็เลี้ยงโดยการให้อาหารเม็ดซึ่งเราก็คิดเอาเองว่ามันดีที่สุด ก็ให้ผักเสริมบ้างบางครั้ง อาบน้ำให้บ้างบางหน ให้ขนมบ้าง สามีชอบเอาแคปหมูให้ (ท่านคิดว่ามันเป็นหมาน้อย) เต้าหู้บ้างถั่วบ้าง จนวันนึงกระต่ายน้อยเราก็เกิดอาการซึมวันแรกเราก็ไม่สนใจคิดว่าไม่เป็นอะไรพอวันที่สองเราก็ตื่นเช้าไปทำงานปกติกลับมาเย็นก็ซึมหนักไปอีกไปหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตบอกว่ากระต่ายอาจจะท้องอืดให้ไปหาคลิติคอลแคร์ให้กินกินใบกระเพราช่วยได้เราก็เลยพาไปคลีนิคในซอยปรากฎว่าเค้าไม่รับรักษาต้องไปหาแพทย์เฉพาะทางเราก็ยังรั้นคิดว่าเค้าท้องอืดขอซื้อคลิติคอลแคร์แต่ดั๊นจำชื่อไม่ออกบอกหมอไม่ถูกกระต่ายน้อยก็อาการหนักหัวตกคอตกสามีเลยหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตพาไป ฉุกเฉินที่ รพ.สัตว์จุฬา (ค่ารักษาไม่แพง) ปรากฎว่าป่วยตัวร้อนเป็นไข้อุณหภูมิสูงถึง 42 องศา (ถ้าพามาช้ากว่านี้ตายแน่ๆ) หมอถามว่าให้กินอะไรเราก็บอกไป เจอหมอด่าเลยจ้า หมอบอกว่าธรรมชาติเค้าต้องกินหญ้าผักบางอย่างก็ห้ามกิน อาหารเม็ดให้แค่ 1 ช้อนโต๊ะเช้าเย็น ผักให้เป็นรางวัลนานๆครั้ง เราก็บอกหมอว่าเค้าไม่กินหญ้า หมอบอกว่าต้องบังคับ หมอนัดให้ไปหาอีกในวันรุ่งขึ้นได้ยามาอีกนิดหน่อยอีก 3วันไปอีกอาการยังไม่ดีขึ้นหมอก็จับ X-ray ก็ได้ยาแก้ไข้มา ต้องเช็ดหูเพื่อระบายความร้อนแล้วซื้อที่วัดไข้มาไว้ตรวจอุณภูมิว่าตัวร้อนหรือเปล่าถ้าตัวร้อนก็เช็ดหูเอาผ้าชุบน้ำโป๊ะหัว แล้วเช็ดตรงพุงเพื่อระบายความร้อน วันเสาร์หมอนัดอีกทีตอนนี้กระต่ายน้อยค่อยๆดีขึ้นละค่ะ อยากแนะนำผู้เลี้ยงกระต่ายน้อยว่า อาหารหลักของเค้าคือหญ้า ถ้าอายุน้อยๆ3-4 เดือนให้กิน อัลฟาฟ่า โตขึ้นมาให้กิน ทิโมที่ จะเสริมอัลฟาฟ่านิดหน่อยก็ได้มันมีผลต่อฟันกระต่ายด้วยถ้าเค้ากินหญ้าจะช่วยขัดฟัน ขนก็ต้องแปลงให้ประจำเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อราที่ผิวหนัง ถ้าเค้าเลียขนมากๆลำใส้ก็จะอุดตัน ห้ามให้มดกัดนะคะกระต่ายบางตัวแพ้มดค่ะ ของเราโดนกัดไข่เป็นแผลดำเลย ถ้าเค้าป่วยพาไปหาหมอเถอะค่ะดีกว่าเราคิดไปเอง
ประสบการณ์การเลี้ยงกระต่ายน้อยๆ