บ้านเราเป็นครอบครัวที่มีประมาณ 8 คนค่ะ กลางปีที่แล้ว รับกระต่ายมาเลี้ยง
เนื่องจากกระต่ายตัวนี้เป็น baby เล็กของพวกเราที่มีสมาชิกถึง 8 คน
ทุกคนเลยเอาอกเอาใจ เลี้ยงดูตามใจอย่างดี
ประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา กระต่ายไม่ค่อยยอมกินหญ้า เราก็คิดว่าไม่เปนไรค่ะ
ก็เลิกให้หญ้าและให้อาหารเม็ด ให้ผลไม้ที่ชอบ แอปเปิ้ล ฝรั่ง มันแกว
ให้ผัก เช่น ใบบัวบก กระหล่ำ ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว แครอท
อยากกินอะไรก็กิน ตามใจ โดยไม่รู้เลยว่า เรากำลังทำร้ายกระต่ายของเราโดยไม่รู้ตัว
เราเลี้ยงในบ้านค่ะ เช้าก็ปล่อยวิ่งในบ้านทั้งวัน จน 3-4 ทุ่มถึงเอาเข้ากรงนอน
เป็นอย่างงี้มาตลอด
สัตวแพทย์ที่รู้จักกันก็พยามเตือนแล้วว่าให้หญ้าเป็นหลักนะ แต่เราก็เชื่อว่า เราให้แล้วมันไม่กิน
เลยให้สิ่งที่ชอบดีกว่า
นาน 1 เดือนที่ผ่านมา กระต่ายไม่ค่อยซน กินอาหารน้อยลง
มีน้ำตาไหลออกทางตา ตาแฉะๆ
เราเลยพาไปพาคุณหมอแถวๆ ซีคอนแสควร์
คุณหมอบอกว่า เราให้กินหญ้าน้อยเกินไป ทำให้ฟันสบผิดปกติ
จ่ายยาหยอดตามาให้ ยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ
ตรวจดูเพิ่ม เห็นฝ่าเท้าของกระต่ายเป็นแผล เพราะเราเลี้ยงที่บ้าน ในบ้านเป็นพื้นกระเบื้อง
ทำให้กระต่ายลื่น และพยายามเกร็งขาเพื่อเกาะให้อยู่กับพื้น และเป็นแผล
คุณหมอให้ยามาฉีดพ่นเท้ากระต่าย
หยอดตาไปได้ 1 อาทิตย์ อาการน้ำตาไหล ตาแฉะก็ดีขึ้น หายจนปกติ
เราให้หญ้าอย่างเดียว ไม่ให้อย่างอื่นเลย ตามคำสั่งของหมอ
แต่ กระต่ายไม่กิน และไม่กินอะไรอีกเลย มันค่อยๆซึม และอยู่ตัวเดียว
ไม่ยอมให้อุ้ม ไม่วิ่งเล่น ถ่ายน้อยลง เม็ดอุจจาระเล็ก ลีบ ปัสสาวะลดลง
กินน้ำน้อยลง นอกจากป้อนถึงจะกิน
อาการสุดท้ายคือ ขณะป้อนยา กระต่ายหายใจหอบ
ดิ้น สั่น และเท้าไม่มีแรง
เมื่อคืน เราเลยพากระต่ายไปหาคุณหมอโรงพยาบาลทองหล่อที่เปิด 24 ชม เพื่อเข้าห้องฉุกเฉิน
คุณหมอแจ้งว่า เรามาสายไปมากแล้ว
กระต่ายตัวร้อนมาก ไข้จาก 106 องศา ทั้งๆที่ปกติต้องอยู่ที่ 104 องศา
กระต่ายมีอาการท้องอืด เนื่องจากอาหารที่เราให้มีแป้งสูง ทำให้แบคทีเรียในท้องกระต่ายเจริญเติบโตในรูปแบบ
ผิดปกติ คือมี yeast มากเกินไป พอ x-ray ดูพบว่า กระต่ายเป็น stage 4 คือสุดท้ายแล้ว
คือในภาพ x ray เป็น radiolucent ของอากาศ
เต็มตลอดทางเดินอาหารและ ไม่มีอาหารเลย เนื่องจากกระต่ายไม่ได้กินอะไรเลย
คุณหมอแจ้งว่า เราจะต้อง admit กระต่าย คุณหมอจะให้น้ำเกลือและให้ยาเพื่อรักษาลำไส้
กระต่ายเราไข้ลดลง เริ่มหายใจปกติ วิ่ง กระโดดเล่นอีกครั้ง
เราใจชื้นขึ้น คิดว่าทุกอย่างคง ok แล้ว ทุกอย่างดีขึ้น
เราให้กระต่ายนอน รพ เรากลับมาบ้าน ตอนกลางคืน
เราเข้าไปส่งกระต่ายใน ward ทุกอย่างดู ok มากจิงๆ
คิดว่าตอนเช้า เราจะต้องได้ข่าวดี
เมื่อคืน นอนไม่ค่อยหลับ เพราะเป็นห่วงมากค่ะ
แต่ ตอน 9 โมงเช้า โทรไปหาพยาบาลที่ดูแล พบว่า อาการไม่ดีขึ้นเลย ไม่กินอาการ และไม่ขับถ่าย
เราจึงรีบไปเยี่ยม
แต่กระต่ายดูหายใจหอบ พยายามกระโดด เราทั้งอุ้ม ทั้งลูบหัว
แต่ ไม่นานก็ล้มลง
ทีมแพทย์พยายามกู้ชีวิต แต่ทุกอย่างก็สายไปแล้ว
ที่มาตั้งกระทู้นี้เพียงเพื่อจะบอกว่า เราพลาดอะไรไปหลายอย่าง
การเลี้ยงสัตว์สักตัว มีอะไรเราก็มักจะหาข้อมูลในเน็ตเอาไปดูแล
แทนที่เราจะพากระต่ายไปหาแพทย์ที่น่าเชื่อถือ เรากลับสรุปวิธีการเลี้ยงจากเน็ต ถูกบ้าง ผิดบ้าง
เราก็คิดสรุปการดูแลกันเอาเอง
อาหารที่ดีที่สุดของกระต่ายคือหญ้า นอกจากจะมีประโยชน์ในเรื่องการบดเคี้ยวแล้ว
ยังเป็นประโยชน์ในแง่ของสขุภาพของกระต่ายด้วย
ถ้าเราคิดจะเลี้ยงสัตว์เราต้องรับผิดชอบมันให้ได้ ต้องพร้อมที่จะทุ่มเท ค่ายา ค่ารักษา ทุกอย่าง
ทั้งๆที่ดิฉันมีความเชื่อว่า โรงพยาบาลทองหล่อ น่าจะเป็นที่ๆดีที่สุด เป็นคำตอบสุดท้าย
แต่ก็ยังพามันไปที่อื่นที่คิดว่า ค่ารักษาน่าจะถูกกว่า
แต่ความจริง โรงพยาบาลทองหล่อไม่ได้แพงเลย จิงๆค่ะ
แต่เรามาสายไป เรามาช้าไป เรารักมันน้อยไป
ไม่อย่างงั้น เราก็คงจะไม่ต้องเสียมันไป
ถ้าเรารักมันมากกว่านี้ ทุ่มให้มากกว่านี้
มันเป็นเหมือนลูกน้อยของเรา
ก็คือหนึ่งชีวิตเหมือนกัน
สุดท้ายนี้ สำหรับดิฉันในวันนี้ ดิฉันคงให้คำตอบกับตัวเองได้ว่า
สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์ก็คือ การปล่อยให้ได้อยู่ตามธรรมชาติ
ไม่ใช่การนำมาเลี้ยง ดิฉันเข็ดกับการเลี้ยงสัตว์แล้วจริงๆ
เพราะเราไม่รู้เลยจิงๆว่าสิ่งที่เราทำนั้นขัดกับวิสัยตามธรรมชาติของมันหรือไม่
เช่นการเลี้ยงในบ้าน เราคิดว่า เราทำให้มันสบาย แต่แท้ที่จริง ฝ่าเท้ามันก็เป็นแผล
หรือเช่น เราประเคนผลไม้ให้มันกิน ทั้งๆที่มันควรกินหญ้า
ขอบคุณที่อ่านกระทู้ของดิฉันมาจนจบง
ดิฉันขอขอบพระคุณทีมแพทย์จากโรงพยาบาลทองหล่อที่ดูแลกระต่ายดิฉันเป็นอย่างดีจนวินาทีสุดท้าย
หวังว่ากระทู้ของดิฉันจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้เลี้ยง ผู้รักกระต่าย และสัตว์อื่นๆอีกหลายๆตัวค่ะ
กระต่ายท้องอืดตาย ขอแชร์ประสบการณ์
เนื่องจากกระต่ายตัวนี้เป็น baby เล็กของพวกเราที่มีสมาชิกถึง 8 คน
ทุกคนเลยเอาอกเอาใจ เลี้ยงดูตามใจอย่างดี
ประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา กระต่ายไม่ค่อยยอมกินหญ้า เราก็คิดว่าไม่เปนไรค่ะ
ก็เลิกให้หญ้าและให้อาหารเม็ด ให้ผลไม้ที่ชอบ แอปเปิ้ล ฝรั่ง มันแกว
ให้ผัก เช่น ใบบัวบก กระหล่ำ ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว แครอท
อยากกินอะไรก็กิน ตามใจ โดยไม่รู้เลยว่า เรากำลังทำร้ายกระต่ายของเราโดยไม่รู้ตัว
เราเลี้ยงในบ้านค่ะ เช้าก็ปล่อยวิ่งในบ้านทั้งวัน จน 3-4 ทุ่มถึงเอาเข้ากรงนอน
เป็นอย่างงี้มาตลอด
สัตวแพทย์ที่รู้จักกันก็พยามเตือนแล้วว่าให้หญ้าเป็นหลักนะ แต่เราก็เชื่อว่า เราให้แล้วมันไม่กิน
เลยให้สิ่งที่ชอบดีกว่า
นาน 1 เดือนที่ผ่านมา กระต่ายไม่ค่อยซน กินอาหารน้อยลง
มีน้ำตาไหลออกทางตา ตาแฉะๆ
เราเลยพาไปพาคุณหมอแถวๆ ซีคอนแสควร์
คุณหมอบอกว่า เราให้กินหญ้าน้อยเกินไป ทำให้ฟันสบผิดปกติ
จ่ายยาหยอดตามาให้ ยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ
ตรวจดูเพิ่ม เห็นฝ่าเท้าของกระต่ายเป็นแผล เพราะเราเลี้ยงที่บ้าน ในบ้านเป็นพื้นกระเบื้อง
ทำให้กระต่ายลื่น และพยายามเกร็งขาเพื่อเกาะให้อยู่กับพื้น และเป็นแผล
คุณหมอให้ยามาฉีดพ่นเท้ากระต่าย
หยอดตาไปได้ 1 อาทิตย์ อาการน้ำตาไหล ตาแฉะก็ดีขึ้น หายจนปกติ
เราให้หญ้าอย่างเดียว ไม่ให้อย่างอื่นเลย ตามคำสั่งของหมอ
แต่ กระต่ายไม่กิน และไม่กินอะไรอีกเลย มันค่อยๆซึม และอยู่ตัวเดียว
ไม่ยอมให้อุ้ม ไม่วิ่งเล่น ถ่ายน้อยลง เม็ดอุจจาระเล็ก ลีบ ปัสสาวะลดลง
กินน้ำน้อยลง นอกจากป้อนถึงจะกิน
อาการสุดท้ายคือ ขณะป้อนยา กระต่ายหายใจหอบ
ดิ้น สั่น และเท้าไม่มีแรง
เมื่อคืน เราเลยพากระต่ายไปหาคุณหมอโรงพยาบาลทองหล่อที่เปิด 24 ชม เพื่อเข้าห้องฉุกเฉิน
คุณหมอแจ้งว่า เรามาสายไปมากแล้ว
กระต่ายตัวร้อนมาก ไข้จาก 106 องศา ทั้งๆที่ปกติต้องอยู่ที่ 104 องศา
กระต่ายมีอาการท้องอืด เนื่องจากอาหารที่เราให้มีแป้งสูง ทำให้แบคทีเรียในท้องกระต่ายเจริญเติบโตในรูปแบบ
ผิดปกติ คือมี yeast มากเกินไป พอ x-ray ดูพบว่า กระต่ายเป็น stage 4 คือสุดท้ายแล้ว
คือในภาพ x ray เป็น radiolucent ของอากาศ
เต็มตลอดทางเดินอาหารและ ไม่มีอาหารเลย เนื่องจากกระต่ายไม่ได้กินอะไรเลย
คุณหมอแจ้งว่า เราจะต้อง admit กระต่าย คุณหมอจะให้น้ำเกลือและให้ยาเพื่อรักษาลำไส้
กระต่ายเราไข้ลดลง เริ่มหายใจปกติ วิ่ง กระโดดเล่นอีกครั้ง
เราใจชื้นขึ้น คิดว่าทุกอย่างคง ok แล้ว ทุกอย่างดีขึ้น
เราให้กระต่ายนอน รพ เรากลับมาบ้าน ตอนกลางคืน
เราเข้าไปส่งกระต่ายใน ward ทุกอย่างดู ok มากจิงๆ
คิดว่าตอนเช้า เราจะต้องได้ข่าวดี
เมื่อคืน นอนไม่ค่อยหลับ เพราะเป็นห่วงมากค่ะ
แต่ ตอน 9 โมงเช้า โทรไปหาพยาบาลที่ดูแล พบว่า อาการไม่ดีขึ้นเลย ไม่กินอาการ และไม่ขับถ่าย
เราจึงรีบไปเยี่ยม
แต่กระต่ายดูหายใจหอบ พยายามกระโดด เราทั้งอุ้ม ทั้งลูบหัว
แต่ ไม่นานก็ล้มลง
ทีมแพทย์พยายามกู้ชีวิต แต่ทุกอย่างก็สายไปแล้ว
ที่มาตั้งกระทู้นี้เพียงเพื่อจะบอกว่า เราพลาดอะไรไปหลายอย่าง
การเลี้ยงสัตว์สักตัว มีอะไรเราก็มักจะหาข้อมูลในเน็ตเอาไปดูแล
แทนที่เราจะพากระต่ายไปหาแพทย์ที่น่าเชื่อถือ เรากลับสรุปวิธีการเลี้ยงจากเน็ต ถูกบ้าง ผิดบ้าง
เราก็คิดสรุปการดูแลกันเอาเอง
อาหารที่ดีที่สุดของกระต่ายคือหญ้า นอกจากจะมีประโยชน์ในเรื่องการบดเคี้ยวแล้ว
ยังเป็นประโยชน์ในแง่ของสขุภาพของกระต่ายด้วย
ถ้าเราคิดจะเลี้ยงสัตว์เราต้องรับผิดชอบมันให้ได้ ต้องพร้อมที่จะทุ่มเท ค่ายา ค่ารักษา ทุกอย่าง
ทั้งๆที่ดิฉันมีความเชื่อว่า โรงพยาบาลทองหล่อ น่าจะเป็นที่ๆดีที่สุด เป็นคำตอบสุดท้าย
แต่ก็ยังพามันไปที่อื่นที่คิดว่า ค่ารักษาน่าจะถูกกว่า
แต่ความจริง โรงพยาบาลทองหล่อไม่ได้แพงเลย จิงๆค่ะ
แต่เรามาสายไป เรามาช้าไป เรารักมันน้อยไป
ไม่อย่างงั้น เราก็คงจะไม่ต้องเสียมันไป
ถ้าเรารักมันมากกว่านี้ ทุ่มให้มากกว่านี้
มันเป็นเหมือนลูกน้อยของเรา
ก็คือหนึ่งชีวิตเหมือนกัน
สุดท้ายนี้ สำหรับดิฉันในวันนี้ ดิฉันคงให้คำตอบกับตัวเองได้ว่า
สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์ก็คือ การปล่อยให้ได้อยู่ตามธรรมชาติ
ไม่ใช่การนำมาเลี้ยง ดิฉันเข็ดกับการเลี้ยงสัตว์แล้วจริงๆ
เพราะเราไม่รู้เลยจิงๆว่าสิ่งที่เราทำนั้นขัดกับวิสัยตามธรรมชาติของมันหรือไม่
เช่นการเลี้ยงในบ้าน เราคิดว่า เราทำให้มันสบาย แต่แท้ที่จริง ฝ่าเท้ามันก็เป็นแผล
หรือเช่น เราประเคนผลไม้ให้มันกิน ทั้งๆที่มันควรกินหญ้า
ขอบคุณที่อ่านกระทู้ของดิฉันมาจนจบง
ดิฉันขอขอบพระคุณทีมแพทย์จากโรงพยาบาลทองหล่อที่ดูแลกระต่ายดิฉันเป็นอย่างดีจนวินาทีสุดท้าย
หวังว่ากระทู้ของดิฉันจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้เลี้ยง ผู้รักกระต่าย และสัตว์อื่นๆอีกหลายๆตัวค่ะ