ดู The Kirishima Thing มาก็หลายวันแล้ว แต่รู้สึกว่ามันยังค้างอยู่ในหัว รู้สึกอยากเขียนอะไรสักอย่าง...
แรกเริ่มเดิมที The Kirishima Thing ไม่ได้อยู่ในลิสต์หนังที่อยากดูในงาน Japanese Film Festival 2015 เลย
ถึงแม้ว่าจะชอบนักแสดงนำ (Kamiki Ryunosuke) อยู่แล้ว
แต่ไม่ได้รู้สึกอยากดูคงเป็นเพราะใจไปจดจ่ออยู่กับเรื่องอื่นที่จะฉายสัปดาห์ถัดไปมากกว่า
และดูจากเรื่องย่อที่บอกเอาไว้ในเว็บ ก็คิดว่าคงไม่ได้แปลกใหม่อะไรมั้ง
เรื่องย่อ
ข่าวลือว่าคิริชิมะนักเรียนที่ทุกคนสุดปลื้มจะลาออกจากชมรมหลังเลิกเรียนสร้างความตื่นตกใจให้กับบรรดานักเรียนสุดชิคสุดเก๋ทั้งหลาย ข่าวนี้มีผลต่อนักเรียนเชยๆประจำชมรมภาพยนตร์อย่างมาเอดะที่กำลังเริ่มถ่ายภาพยนตร์ผีดิบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อารมณ์ของนักเรียนต่างกลุ่ม ค่อยๆ ประสานกัน ระหว่างการถ่ายทำก็เกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้หัวใจพวกเขาสั่นไหว
คืนวันเสาร์ หลังจากที่กลับมาจากดู A Story of Yonosuke ก็กลับมานอนอ่านบุ๊คเลท
เนื้อเรื่องก็ดูไม่น่าจะแปลกอะไร นอนคุยกับเพื่อนว่าอยากไปดูน้องคามิกิเนอะ
คุยไปคุยมาก็ตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะไปพารากอนและหวังว่าตั๋วหนังน่าจะยังมีอยู่
วันอาทิตย์ก็เลยไปพารากอนแต่เช้า ไปถึงตั้งแต่ตอนห้างเปิดเลย
และพบว่าตั๋วมันยังไม่หมดนะ แต่ตั๋วยังเดินทางมาไม่ถึงบูทขายตั๋ว (5555555)
พอซื้อตั๋วหนังเสร็จก็เดินเล่น รอเวลาหนังฉาย
และตอนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ก็คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกดู
The Kirishima Thing เล่าถึงชีวิตนักเรียนมัธยมปลาย 10 คน ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันซะทีเดียว
แต่การหายตัวไปของ Kirishima นั้นทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบกับทั้ง 10 คนโดยไม่รู้ตัว
ระหว่างที่ดูหนังเรื่องนี้ก็คิดตลอดว่าทำไม Kamiki Ryunosuke ถึงเป็นนักแสดงนำนะ
ทั้ง ๆ ที่บทในเรื่องก็ดูไม่เด่นเลย แต่พอดูจนจบถึงได้เข้าใจว่าเพราะอะไร
และสิ่งที่เราชอบที่สุดในเรื่องนี้คือ “การเล่าเรื่อง”
ผกก.ใช้วิธีการเล่าแบบ “วันศุกร์” , “วันเสาร์” , “วันอาทิตย์” , “วันจันทร์” ... ประมาณนี้
แต่วันศุกร์จะเป็นการเล่าที่ยาวที่สุด เพราะเหตุการณ์เดียวกันแต่ผ่านมุมของตัวละครทุกตัว
ส่วนวันอื่น ๆ เป็นยังไง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ดูเอง เผลอสบถในใจว่า “เชี่ย...” คือเราขำมาก รู้สึกว่าวิธีการเล่าเรื่องของเขามันน่าจดจำ
เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรเราดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ามันมีความรู้สึกตกค้าง
ขออนุญาตเทียบกับ A Story of Yonosuke ที่เรารู้สึกว่าเราชอบมาก มันสนุกมากนะ ดูแล้วอิ่มอกอิ่มใจ
แต่ The Kirishima Thing มันส่งผลกระทบกับเรามากกว่า
อาจเป็นเพราะว่าหนังสื่อออกมาว่าการหายตัวไปของคนคนนึงนั้นส่งผลกระทบกับคนอื่น ๆ ยังไง
เราคิดเองว่าทุกคนหันกลับมามองตัวเองมากขึ้น จากคนที่ไม่เคยรู้ว่าอยากทำอะไร
หรือไม่เคยคิดว่าตัวเองชอบอะไรก็เพิ่งคิดได้ว่า เออ... เราชอบมันนะ
หรืออย่างบางคนก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า แล้วฉันจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร
ตัดใจจากสิ่งที่ไม่ควรจะไปยึดติดแล้วหันกลับมาทุ่มเทให้กับสิ่งที่ตัวเองต้องการจริง ๆ ดีกว่า
เราชอบมาก ๆ ตรงที่หนังมันไม่ได้ชี้ออกมาตรง ๆ หรือซัดคำคมให้คนดูรู้สึกว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้
แต่มันทำให้คนดูอย่างเราซึมซับและค้างกับความรู้สึกที่ได้ดูหนังเรื่องนี้อยู่หลายวัน
และพอกลับบ้านมาเปิดหาข้อมูล จึงรู้ว่า The Kirishima Thing ได้รางวัลมากมาย
และเราก็คิดว่าหนังเรื่องนี้มันสมควรได้รับรางวัลจริง ๆ นั่นแหละ
*ตรงนี้สปอยล์*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฉากที่เราชอบที่สุดคือตอนที่ มาเอดะ (คามิกิหรือน้องที่อยู่ในโปสเตอร์) ยืนคุยกับฮิโรกิในตอนท้ายเรื่อง
มาเอดะเป็นคนที่มีบุคลิกตรงข้ามกับฮิโรกิ
มาเอดะเป็นเนิร์ดที่ไม่มีสาวมาสนใจ ชอบถ่ายหนังและในแต่ละวันก็ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ
ตรงข้ามกับฮิโรกิซึ่งเป็นขวัญใจสาว ๆ ในโรงเรียน แฟนสวย หน้าตาดี เล่นกีฬาเก่ง
แต่ภายในกลับเป็นคนที่ว่างเปล่า ไม่มีสิ่งที่ตัวเองชอบทำหรือจริงจังกับอะไรเลย
ตอนที่ทั้งสองคนยืนคุยกันในตอนท้ายเรื่องมันสะท้อนให้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง
คนที่ดูเป็นไอ้ขี้แพ้กลับมีเป้าหมายของตัวเองชัดเจน จิตใจเข้มแข็ง
แตกต่างจากคนที่ดูมีพร้อมทุกอย่างแต่ไม่รู้เลยว่าจริง ๆ ตัวเองต้องการอะไร
ปล. กลับถึงบ้านก็หาบิทโหลดเพื่อจะดูเรื่องนี้ซ้ำอีกครั้ง
ปล.2 อยากให้ลงแผ่นและขายในไทยมาก ชอบมากจริง ๆ นะ
ปล.3 อยากชมผู้จัดงานว่าปีนี้เลือกหนังมาดีจริงๆ
[CR] [J-Movies] - The Kirishima Thing - หนังธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
ดู The Kirishima Thing มาก็หลายวันแล้ว แต่รู้สึกว่ามันยังค้างอยู่ในหัว รู้สึกอยากเขียนอะไรสักอย่าง...
แรกเริ่มเดิมที The Kirishima Thing ไม่ได้อยู่ในลิสต์หนังที่อยากดูในงาน Japanese Film Festival 2015 เลย
ถึงแม้ว่าจะชอบนักแสดงนำ (Kamiki Ryunosuke) อยู่แล้ว
แต่ไม่ได้รู้สึกอยากดูคงเป็นเพราะใจไปจดจ่ออยู่กับเรื่องอื่นที่จะฉายสัปดาห์ถัดไปมากกว่า
และดูจากเรื่องย่อที่บอกเอาไว้ในเว็บ ก็คิดว่าคงไม่ได้แปลกใหม่อะไรมั้ง
เรื่องย่อ
ข่าวลือว่าคิริชิมะนักเรียนที่ทุกคนสุดปลื้มจะลาออกจากชมรมหลังเลิกเรียนสร้างความตื่นตกใจให้กับบรรดานักเรียนสุดชิคสุดเก๋ทั้งหลาย ข่าวนี้มีผลต่อนักเรียนเชยๆประจำชมรมภาพยนตร์อย่างมาเอดะที่กำลังเริ่มถ่ายภาพยนตร์ผีดิบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อารมณ์ของนักเรียนต่างกลุ่ม ค่อยๆ ประสานกัน ระหว่างการถ่ายทำก็เกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้หัวใจพวกเขาสั่นไหว
คืนวันเสาร์ หลังจากที่กลับมาจากดู A Story of Yonosuke ก็กลับมานอนอ่านบุ๊คเลท
เนื้อเรื่องก็ดูไม่น่าจะแปลกอะไร นอนคุยกับเพื่อนว่าอยากไปดูน้องคามิกิเนอะ
คุยไปคุยมาก็ตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะไปพารากอนและหวังว่าตั๋วหนังน่าจะยังมีอยู่
วันอาทิตย์ก็เลยไปพารากอนแต่เช้า ไปถึงตั้งแต่ตอนห้างเปิดเลย
และพบว่าตั๋วมันยังไม่หมดนะ แต่ตั๋วยังเดินทางมาไม่ถึงบูทขายตั๋ว (5555555)
พอซื้อตั๋วหนังเสร็จก็เดินเล่น รอเวลาหนังฉาย
และตอนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ก็คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกดู
The Kirishima Thing เล่าถึงชีวิตนักเรียนมัธยมปลาย 10 คน ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันซะทีเดียว
แต่การหายตัวไปของ Kirishima นั้นทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบกับทั้ง 10 คนโดยไม่รู้ตัว
ระหว่างที่ดูหนังเรื่องนี้ก็คิดตลอดว่าทำไม Kamiki Ryunosuke ถึงเป็นนักแสดงนำนะ
ทั้ง ๆ ที่บทในเรื่องก็ดูไม่เด่นเลย แต่พอดูจนจบถึงได้เข้าใจว่าเพราะอะไร
และสิ่งที่เราชอบที่สุดในเรื่องนี้คือ “การเล่าเรื่อง”
ผกก.ใช้วิธีการเล่าแบบ “วันศุกร์” , “วันเสาร์” , “วันอาทิตย์” , “วันจันทร์” ... ประมาณนี้
แต่วันศุกร์จะเป็นการเล่าที่ยาวที่สุด เพราะเหตุการณ์เดียวกันแต่ผ่านมุมของตัวละครทุกตัว
ส่วนวันอื่น ๆ เป็นยังไง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ดูเอง เผลอสบถในใจว่า “เชี่ย...” คือเราขำมาก รู้สึกว่าวิธีการเล่าเรื่องของเขามันน่าจดจำ
เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรเราดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ามันมีความรู้สึกตกค้าง
ขออนุญาตเทียบกับ A Story of Yonosuke ที่เรารู้สึกว่าเราชอบมาก มันสนุกมากนะ ดูแล้วอิ่มอกอิ่มใจ
แต่ The Kirishima Thing มันส่งผลกระทบกับเรามากกว่า
อาจเป็นเพราะว่าหนังสื่อออกมาว่าการหายตัวไปของคนคนนึงนั้นส่งผลกระทบกับคนอื่น ๆ ยังไง
เราคิดเองว่าทุกคนหันกลับมามองตัวเองมากขึ้น จากคนที่ไม่เคยรู้ว่าอยากทำอะไร
หรือไม่เคยคิดว่าตัวเองชอบอะไรก็เพิ่งคิดได้ว่า เออ... เราชอบมันนะ
หรืออย่างบางคนก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า แล้วฉันจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร
ตัดใจจากสิ่งที่ไม่ควรจะไปยึดติดแล้วหันกลับมาทุ่มเทให้กับสิ่งที่ตัวเองต้องการจริง ๆ ดีกว่า
เราชอบมาก ๆ ตรงที่หนังมันไม่ได้ชี้ออกมาตรง ๆ หรือซัดคำคมให้คนดูรู้สึกว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้
แต่มันทำให้คนดูอย่างเราซึมซับและค้างกับความรู้สึกที่ได้ดูหนังเรื่องนี้อยู่หลายวัน
และพอกลับบ้านมาเปิดหาข้อมูล จึงรู้ว่า The Kirishima Thing ได้รางวัลมากมาย
และเราก็คิดว่าหนังเรื่องนี้มันสมควรได้รับรางวัลจริง ๆ นั่นแหละ
*ตรงนี้สปอยล์*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล. กลับถึงบ้านก็หาบิทโหลดเพื่อจะดูเรื่องนี้ซ้ำอีกครั้ง
ปล.2 อยากให้ลงแผ่นและขายในไทยมาก ชอบมากจริง ๆ นะ
ปล.3 อยากชมผู้จัดงานว่าปีนี้เลือกหนังมาดีจริงๆ