ไม่ได้ตั้งกระทู้ใน pantip มานานมากแล้ว
แต่เรื่องที่เจอมาวันนี้รู้สึกอยากจะเล่าให้คนอื่นฟังบวกกับต้องการจะรีวิวหนังด้วย เพราะเรื่องที่ไปดูมาวันนี้สนุกมากจริงๆค่ะ
วันนี้เราไปงานกาลหนังญี่ปุ่นที่พารากอนมา
ตั้งใจไปดู A Story of Yonosuke ที่เขาร่ำลือกันนักหนาว่าดีมาก
เราชวนเพื่อนคนนึงไป ปรากฏว่าตอน 11:50 เพื่อนโทรมาบอกว่าลุกไม่ไหว ไม่สบาย
แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะปกติก็ดูหนังคนเดียวอยู่แล้ว
ไปถึงพารากอนประมาณ 13:00 นั่งรอเวลาหนังฉาย 13:30
ขณะที่นั่งอ่านบุ๊คเลทอยู่ มีผู้ชายญี่ปุ่นแก่มากๆคนนึง อายุน่าจะเกือบๆ 70 ผมและเคราะขาว ถือไม้เท้าลักษณะเหมือนไม้ไผ่ มีกระพรวนกลมๆห้อยอยู่ (อย่างกับตัวละครในการ์ตูน)
คุณปู่คนนั้นแกก็เดินไปหาพนักงานของพารากอน ถือตั๋วหนังกับบุ๊คเลทแล้วพูดว่า ฟรีดริ๊งๆอะไรนี่แหละ
เราได้ยินก็เลยหันไปมอง (คือคนจัดงานเขาจะแจกกาแฟเย็นให้คนมาดูหนัง)
พนักงานพูดเป็นภาษาอังกฤษอย่างไพเราะว่า กรุณารออีกสามสิบนาทีนะคะ
แน่นอนว่าปู่ญี่ปุ่นฟังไม่รู้เรื่อง และท่าทางพนักงานก็ไม่รู้ว่ามีแจกกาแฟฟรี
ด้วยความใส่ใจนี่ก็เลยถามพนักงานว่า
"เขามาดูโยโนะสุเกะใช่ไหมคะ"
นางก็พยักหน้า เราเลยบอกไปว่ามาดูเหมือนกัน เดี๋ยวพาเขาไปรับกาแฟก็ได้
โอเค ทีนี้มาถึงงานยาก เราเคยภาษาญี่ปุ่นเคยเรียนคอร์สเดียว (มินนะเล่ม 1 ยังไม่จบ) คันจิก็รู้จักไม่กี่ตัว เลยหยิบตั๋วหนังของตัวเองให้ปู่ดูแล้วชี้ไปทางบันไดเลื่อน
แกก็พยักหน้าแล้วเดินตามเรามา
ระหว่างที่ลงบันไดเลื่อนปู่แกถามว่า "พูดญี่ปุ่นได้ไหม"
เราก็ตอบไปว่า "ชตโตะ"
แล้วปู่แกก็โซโล่เลย เริ่มจากเล่าเรื่องตัวเอง (เท่าที่เข้าใจนะ) ปู่ไม่ได้อยู่เมืองไทยหรอก แต่มาพักที่นี่แล้วเห็นมันมีงานนี้เลยมาดู แล้วก็ถามว่าดูเหมือนกันเหรอ เราก็ ไฮ้ๆ
แล้วปู่แกถามว่า "ชอบญี่ปุ่นเหรอ" เราก็นึกแป๊บ ไม่รู้จะตอบยังไงดี เลยตอบไปว่า "มังงะ สึกิเดส" (ชอบการ์ตูนญี่ปุ่น)
ปู่แกก็หัวเราะดังมาก
ทีนี้ก็พาแกไปรับกาแฟเสร็จ แล้วเดินกลับมานั่งรอ
ตอนที่นั่งรอแกก็ถาม
"เป็นนักศึกษาเหรอ" เราก็บอก "ไม่ใช่ๆ" (แล้วก็นึกไม่ออกว่าต้องตอบอะไร)
ปู่แกก็ถามต่อว่าเป็นโอแอลเหรอ? (OL= สาวออฟฟิศ) เราก็เลยพยักหน้าตอบว่า ไฮ้ๆ
แล้วก็ถามเราว่า "ไม่ดื่มกาแฟเหรอ" เราเลยบอกว่าไม่ชอบกาแฟ
แล้วปู่แกบอกว่า "โคฮี้ ทตเตโมะ สึกิ๊ (ชอบกาแฟมากเลอออ) แล้วก็ยกซด
ทีนี้แกก็หยิบขนมปังลูกเกดออกมา บอกให้เราบิไปครึ่งนึง ชวนให้กิน นี่ก็ไม่กล้ารับของกินจากคนแปลกหน้า เลยบอกไม่เอาๆ อาริกาโตะ แกก็ไม่ยอม แล้วชี้ตรงกลางขนมปังบอกให้บิตรงนี้
เราเลยบิขนมปังมาแล้วรอให้เขากินก่อน แล้วก็กิน(จนหมด)
ปู่ก็ถามต่อชอบมังงะเรื่องไร เลยตอบว่าวันพีซ ลุงก็พยักหน้ากะพริบตาปริบๆ (ไม่รู้จักอะดิ) 55555555
นั่งสักพักเราปวดฉี่เลยบอกว่าไปห้องน้ำแป๊บนึงนะคะ พอเราเดินกลับมาจากห้องน้ำแกก็ไม่อยู่ซะแล้ว ในใจก็กังวลนิดหน่อยว่าแกจะไปโรงหนังถูกไหม แต่คิดว่าน่าจะถูก ก่อนเข้าโรงเลยถามพนักงานอีกทีว่าเห็นลุงญี่ปุ่นถือไม้เท้าไหม เขาก็บอกว่าเห็น เราเลยรู้สึกโล่งใจนิดหน่อย
จบแล้วค่ะ
สำหรับเรา เพิ่งเคยเจอประสบการณ์แบบนี้ครั้งแรก รู้สึกว่ามันตลกดี และถ้าเพื่อนเรามาด้วยเราก็คงให้เพื่อนเราพูดไป เพราะเพื่อนพอพูดญี่ปุ่นได้
เราไม่ได้เจอเหตุการณ์แบบกระทู้แนะนำอื่นๆนะ ไม่โรแมนติกแบบตามหาคนนั้นคนนี้ แต่เรื่องที่เราเจอวันนี้รู้สึกอยากจะเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังค่ะ อยากบันทึกเอาไว้สักที่ กลับมาอ่านทีหลังคงต้องตลกแน่ๆเลย 55555555
มาพูดถึงหนังกันบ้าง...
A Story of Yonosuke เป็นหนังที่อ่านเรื่องย่อแล้วก็รู้สึกเฉยๆ เพราะเป็นชีวิตของผู้ชายคนนึงก็แค่นั้น
ไม่ได้มีอะไรใหม่
ส่วนตัวเราอยากดูเรื่องนี้เพราะนักแสดงนำคือ Kora Kengo กับ Yoshitaka Yuriko
สองคนนี้เคยเจอกันมาแล้วใน Snake and Earring ซึ่งเป็นคนละแนวกับเรื่องนี้เลย (เรื่องนั้นเป็นยังไงลองดูเอานะคะ แผ่นมีลิขสิทธิ์ไทยด้วย)
เราไม่รู้ว่าจะอธิบายความสนุกและความดี(?)ของหนังเรื่องนี้ยังไงดี
ตั้งแต่ขณะที่ดูจนถึงตอนนี้ที่ใช้มือถือพิมพ์เรายังรู้สึกว่าเราชอบหนังเรื่องนี้มาก ชอบจนอยากดูซ้ำๆอีกหลายๆรอบ
เราชอบวิธีการเล่าเรื่อง ผกก. สามารถเล่าเรื่องราวธรรมดาๆของผู้ชายคนนึงทำให้เป็นหนังที่น่าสนใจได้
เราดูแล้วยิ้มเกือบตลอด หัวเราะเสียงดังมาก เป็นหนังที่ดูแล้วอิ่มอกอิ่มใจ มีความสุข
และเราเชื่อว่าคนอื่นๆในโรงก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน
เราไม่ได้ดูหนังในโรงแล้วได้ยินเสียงหัวเราะดังๆแบบนี้มานานแล้ว ทั้งๆที่หน้าหนังไม่ได้ขายความตลก แต่วิธีการตัดต่อภาพ ท่าทางของตัวละคร บทพูด หรืออะไรต่างๆอีกมากมายในเรื่องทำให้เราหัวเราะแบบไม่อายคนข้างๆเลย
160 นาทีอาจจะดูยาวสำหรับหนังที่ไม่ได้มีไคลแมกซ์หรือฉากตื่นเต้นอะไร แต่สำหรับเรา เราคิดว่ามันเป็น 160 นาทีที่มีความสุขมาก
ยังไงก็ตาม เราอยากให้ A Story of Yonosuke ได้ลงแผ่นและขายในไทยนะ เพราะจะเข้าโรงปกติคงมีโอกาสน้อยแหละ
เรารู้สึกว่าเราตัดสินใจไม่ผิดเลยที่เลือกดูเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆที่ยังฉายอยู่จะหาโอกาสไปดูให้ได้มากที่สุดนะคะ (ซื้อตั๋วไว้ 4 เรื่องเอง)
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
ปล. อยากขอบคุณผู้จัดจริงๆค่ะที่เอาโยโนะสุเกะมาฉาย
ปล.2 ลูแปงจะได้เข้าโรงปกติไหมคะ มีใครพอทราบบ้าง
เมื่อฉันไปดู A Story of Yonosuke ที่พารากอน
แต่เรื่องที่เจอมาวันนี้รู้สึกอยากจะเล่าให้คนอื่นฟังบวกกับต้องการจะรีวิวหนังด้วย เพราะเรื่องที่ไปดูมาวันนี้สนุกมากจริงๆค่ะ
วันนี้เราไปงานกาลหนังญี่ปุ่นที่พารากอนมา
ตั้งใจไปดู A Story of Yonosuke ที่เขาร่ำลือกันนักหนาว่าดีมาก
เราชวนเพื่อนคนนึงไป ปรากฏว่าตอน 11:50 เพื่อนโทรมาบอกว่าลุกไม่ไหว ไม่สบาย
แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะปกติก็ดูหนังคนเดียวอยู่แล้ว
ไปถึงพารากอนประมาณ 13:00 นั่งรอเวลาหนังฉาย 13:30
ขณะที่นั่งอ่านบุ๊คเลทอยู่ มีผู้ชายญี่ปุ่นแก่มากๆคนนึง อายุน่าจะเกือบๆ 70 ผมและเคราะขาว ถือไม้เท้าลักษณะเหมือนไม้ไผ่ มีกระพรวนกลมๆห้อยอยู่ (อย่างกับตัวละครในการ์ตูน)
คุณปู่คนนั้นแกก็เดินไปหาพนักงานของพารากอน ถือตั๋วหนังกับบุ๊คเลทแล้วพูดว่า ฟรีดริ๊งๆอะไรนี่แหละ
เราได้ยินก็เลยหันไปมอง (คือคนจัดงานเขาจะแจกกาแฟเย็นให้คนมาดูหนัง)
พนักงานพูดเป็นภาษาอังกฤษอย่างไพเราะว่า กรุณารออีกสามสิบนาทีนะคะ
แน่นอนว่าปู่ญี่ปุ่นฟังไม่รู้เรื่อง และท่าทางพนักงานก็ไม่รู้ว่ามีแจกกาแฟฟรี
ด้วยความใส่ใจนี่ก็เลยถามพนักงานว่า
"เขามาดูโยโนะสุเกะใช่ไหมคะ"
นางก็พยักหน้า เราเลยบอกไปว่ามาดูเหมือนกัน เดี๋ยวพาเขาไปรับกาแฟก็ได้
โอเค ทีนี้มาถึงงานยาก เราเคยภาษาญี่ปุ่นเคยเรียนคอร์สเดียว (มินนะเล่ม 1 ยังไม่จบ) คันจิก็รู้จักไม่กี่ตัว เลยหยิบตั๋วหนังของตัวเองให้ปู่ดูแล้วชี้ไปทางบันไดเลื่อน
แกก็พยักหน้าแล้วเดินตามเรามา
ระหว่างที่ลงบันไดเลื่อนปู่แกถามว่า "พูดญี่ปุ่นได้ไหม"
เราก็ตอบไปว่า "ชตโตะ"
แล้วปู่แกก็โซโล่เลย เริ่มจากเล่าเรื่องตัวเอง (เท่าที่เข้าใจนะ) ปู่ไม่ได้อยู่เมืองไทยหรอก แต่มาพักที่นี่แล้วเห็นมันมีงานนี้เลยมาดู แล้วก็ถามว่าดูเหมือนกันเหรอ เราก็ ไฮ้ๆ
แล้วปู่แกถามว่า "ชอบญี่ปุ่นเหรอ" เราก็นึกแป๊บ ไม่รู้จะตอบยังไงดี เลยตอบไปว่า "มังงะ สึกิเดส" (ชอบการ์ตูนญี่ปุ่น)
ปู่แกก็หัวเราะดังมาก
ทีนี้ก็พาแกไปรับกาแฟเสร็จ แล้วเดินกลับมานั่งรอ
ตอนที่นั่งรอแกก็ถาม
"เป็นนักศึกษาเหรอ" เราก็บอก "ไม่ใช่ๆ" (แล้วก็นึกไม่ออกว่าต้องตอบอะไร)
ปู่แกก็ถามต่อว่าเป็นโอแอลเหรอ? (OL= สาวออฟฟิศ) เราก็เลยพยักหน้าตอบว่า ไฮ้ๆ
แล้วก็ถามเราว่า "ไม่ดื่มกาแฟเหรอ" เราเลยบอกว่าไม่ชอบกาแฟ
แล้วปู่แกบอกว่า "โคฮี้ ทตเตโมะ สึกิ๊ (ชอบกาแฟมากเลอออ) แล้วก็ยกซด
ทีนี้แกก็หยิบขนมปังลูกเกดออกมา บอกให้เราบิไปครึ่งนึง ชวนให้กิน นี่ก็ไม่กล้ารับของกินจากคนแปลกหน้า เลยบอกไม่เอาๆ อาริกาโตะ แกก็ไม่ยอม แล้วชี้ตรงกลางขนมปังบอกให้บิตรงนี้
เราเลยบิขนมปังมาแล้วรอให้เขากินก่อน แล้วก็กิน(จนหมด)
ปู่ก็ถามต่อชอบมังงะเรื่องไร เลยตอบว่าวันพีซ ลุงก็พยักหน้ากะพริบตาปริบๆ (ไม่รู้จักอะดิ) 55555555
นั่งสักพักเราปวดฉี่เลยบอกว่าไปห้องน้ำแป๊บนึงนะคะ พอเราเดินกลับมาจากห้องน้ำแกก็ไม่อยู่ซะแล้ว ในใจก็กังวลนิดหน่อยว่าแกจะไปโรงหนังถูกไหม แต่คิดว่าน่าจะถูก ก่อนเข้าโรงเลยถามพนักงานอีกทีว่าเห็นลุงญี่ปุ่นถือไม้เท้าไหม เขาก็บอกว่าเห็น เราเลยรู้สึกโล่งใจนิดหน่อย
จบแล้วค่ะ
สำหรับเรา เพิ่งเคยเจอประสบการณ์แบบนี้ครั้งแรก รู้สึกว่ามันตลกดี และถ้าเพื่อนเรามาด้วยเราก็คงให้เพื่อนเราพูดไป เพราะเพื่อนพอพูดญี่ปุ่นได้
เราไม่ได้เจอเหตุการณ์แบบกระทู้แนะนำอื่นๆนะ ไม่โรแมนติกแบบตามหาคนนั้นคนนี้ แต่เรื่องที่เราเจอวันนี้รู้สึกอยากจะเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังค่ะ อยากบันทึกเอาไว้สักที่ กลับมาอ่านทีหลังคงต้องตลกแน่ๆเลย 55555555
มาพูดถึงหนังกันบ้าง...
A Story of Yonosuke เป็นหนังที่อ่านเรื่องย่อแล้วก็รู้สึกเฉยๆ เพราะเป็นชีวิตของผู้ชายคนนึงก็แค่นั้น
ไม่ได้มีอะไรใหม่
ส่วนตัวเราอยากดูเรื่องนี้เพราะนักแสดงนำคือ Kora Kengo กับ Yoshitaka Yuriko
สองคนนี้เคยเจอกันมาแล้วใน Snake and Earring ซึ่งเป็นคนละแนวกับเรื่องนี้เลย (เรื่องนั้นเป็นยังไงลองดูเอานะคะ แผ่นมีลิขสิทธิ์ไทยด้วย)
เราไม่รู้ว่าจะอธิบายความสนุกและความดี(?)ของหนังเรื่องนี้ยังไงดี
ตั้งแต่ขณะที่ดูจนถึงตอนนี้ที่ใช้มือถือพิมพ์เรายังรู้สึกว่าเราชอบหนังเรื่องนี้มาก ชอบจนอยากดูซ้ำๆอีกหลายๆรอบ
เราชอบวิธีการเล่าเรื่อง ผกก. สามารถเล่าเรื่องราวธรรมดาๆของผู้ชายคนนึงทำให้เป็นหนังที่น่าสนใจได้
เราดูแล้วยิ้มเกือบตลอด หัวเราะเสียงดังมาก เป็นหนังที่ดูแล้วอิ่มอกอิ่มใจ มีความสุข
และเราเชื่อว่าคนอื่นๆในโรงก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน
เราไม่ได้ดูหนังในโรงแล้วได้ยินเสียงหัวเราะดังๆแบบนี้มานานแล้ว ทั้งๆที่หน้าหนังไม่ได้ขายความตลก แต่วิธีการตัดต่อภาพ ท่าทางของตัวละคร บทพูด หรืออะไรต่างๆอีกมากมายในเรื่องทำให้เราหัวเราะแบบไม่อายคนข้างๆเลย
160 นาทีอาจจะดูยาวสำหรับหนังที่ไม่ได้มีไคลแมกซ์หรือฉากตื่นเต้นอะไร แต่สำหรับเรา เราคิดว่ามันเป็น 160 นาทีที่มีความสุขมาก
ยังไงก็ตาม เราอยากให้ A Story of Yonosuke ได้ลงแผ่นและขายในไทยนะ เพราะจะเข้าโรงปกติคงมีโอกาสน้อยแหละ
เรารู้สึกว่าเราตัดสินใจไม่ผิดเลยที่เลือกดูเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆที่ยังฉายอยู่จะหาโอกาสไปดูให้ได้มากที่สุดนะคะ (ซื้อตั๋วไว้ 4 เรื่องเอง)
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
ปล. อยากขอบคุณผู้จัดจริงๆค่ะที่เอาโยโนะสุเกะมาฉาย
ปล.2 ลูแปงจะได้เข้าโรงปกติไหมคะ มีใครพอทราบบ้าง