เรากับสามีแต่งงานกันมาได้ 3 ปี ก่อนแต่งก็มีปัญหามากมาย (แม่เราจับได้ว่าเค้ามานอนที่บ้าน) และบ้านเราอยู่ใกล้กัน กว่าจะแต่งๆๆ ให้มันพ้นๆ มาได้
เราก็เคยคิดว่าจะอยู่กันได้สักแค่ไหน เพราะปัญหาบั่นทอนความรักไปเยอะ แต่ก็มาซื้อบ้านอยู่ด้วยกันสองคนได้ ไกลจากบ้านแม่เราทั้งสองประมาณ 30 นาที
ยังไม่มีลูกกันนะคะ เค้าไม่อยากมี แต่เราเองอยากมี แต่ก็สุขภาพไม่ค่อยดี เลยไม่ได้คุยกันเรื่องนี้สักเท่าไหร่
จนเมื่อกลางปีที่แล้ว ที่ทะเลาะกันรุนแรงเรื่องทัศนคติไม่ตรงกันหลายๆ เรื่อง (ตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคนเผยออกมาสินะ) แฟนแก่กว่าเรา 7 ปี ตอนนี้เราก็ย่าง 35 แล้วค่ะ
เลยคุยๆ กัน พยายามปรับความเข้าใจกัน ปีใหม่นี่ก็เพิ่งไปเที่ยว ตปท กันมา แต่ก็ไม่ดีขึ้น เราเองก็เซ็งๆ เค้าเองก็เบื่อๆ
จนเมื่อวานเรานั่งคุยกัน บอกว่าไปเที่ยวที่ผ่านมาไม่สนุกเลย อยู่กันไปวันๆ ต่างคนต่างแรง ไม่ค่อยมีใครยอมกัน เราเองก็พยายามปรับตัว แต่บอกตามตรงว่าเหนื่อยใจมากมาย ทั้งก่อนแต่งก็เสียน้ำตาไปหลายปี๊บ ทะเลาะกับแม่ กับทางบ้าน พอแต่งมาก็พยายามอดทน ทำงานหาเงินเข้าบ้าน ไม่เอาแต่ขอเงินเค้า แต่เค้าก็บอกว่าเราไม่กระตือรือร้น เป็นคนเฉื่อยชา ผิดกับเค้าที่ไฮเปอร์ คิดนู่นนี่ตลอดเวลา
อืม เราก็พูดไม่ออกค่ะ เราออกแนวแม่บ้านอ่ะนะ ชอบอยู่บ้าน แต่งตัวธรรมดา ไม่ใช่สาวสังคม เปรี้ยวแต่งตัวมากมาย แถมตอนนี้ทำงานอยู่บ้านอีก คงจะเผลอปล่อยเนื้อปล่อยตัวเกินไป
เรื่องผู้หญิงอื่น เราไม่แน่ใจว่าเค้าจะมีหรือเปล่านะ เพราะเค้าก็ไปทำงาน กลับบ้านทุกวัน (เลี้ยงแมว เค้ารักแมวมาก กลับบ้านมาเล่นกับแมวทุกวัน)
แต่ถึงเค้าจะมีจริงๆ เราก็คงทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าคนมันหมดรักกันแล้ว
ตอนนี้เลยโลกมืด มึนๆ จะกลับบ้านไปอยู่กับแม่ กลัวแม่จะอายคน บ้านเรากับบ้านเค้าใกล้กันอีก
จะออกไปเช่าหออยู่คนเดียว จะอยู่บ้านเดียวกันไปก่อน แต่ต่างคนต่างอยู่ มันก็ทรมานใจไม่ใช่น้อย
ไม่รู้จะหาทางออกยังไง ถามว่ายังรักเค้ามั้ย ก็รักนะ แต่มันเหนื่อยหน่ายกันไปแล้ว มันเซ็งๆ
ไม่แน่ต่างคนต่างอยู่ อาจจะดีขึ้น ไปตามทางเดินชีวิตของตัวเอง
สงสัยตอนนี้เวรกรรมจะตามทัน ที่เคยทำให้แม่เสียใจนะคะ คิดแล้วก็เสียใจ
ก่อนแต่งก็ทำเค้าอายคน กว่าจะแต่งได้ พอแต่งออกมาแล้วอยู่กันไม่รอด ก็ต้องทำเค้าอายคนอีก
ขอโทษที่ระบายยืดยาวนะคะ อยากหลุดพ้นจากอารมณ์นี้เหมือนกัน พยายามเข้มแข็งอยู่จริงๆ ค่ะ
ปล. ขอเพิ่มเติมเรื่องที่เราทำงานที่บ้านนะคะ
เราทำงานอยู่บ้านแต่กินเงินเดือนบริษัทค่ะ เจ้านายประหยัดค่าเช่าออฟฟิศ ให้พนักงานทุกคนทำงานที่บ้าน
หาเงินได้เดือนละ 40K ไม่เอาเปรียบสามีค่ะ
เค้าผ่อนบ้าน 15K แต่ภาระทุกอย่างในบ้านเรารับผิดชอบ ตั้งแต่น้ำปลา ยันผงซักฟอก อาหารการกิน น้ำ ไฟ เนต
อาจไม่มากเท่าค่าผ่อนบ้าน แต่ไม่น้อยเลยค่ะต่อเดือน
เรื่องไปเที่ยว ตปท ออกคนละครึ่งทุกครั้งค่ะ เราไม่เคยไปขอร้องให้เค้าพาไปโดยที่เอาเปรียบเค้าเลย ครั้งนี้ก็ความคิดเค้า ก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะถือว่าพยายามหาที่เที่ยวปรับความเข้าใจกัน
เรื่องเงินไม่ค่อยมีปัญหากันค่ะ แยกกันรับผิดชอบ แต่ปัญหาทัศนคติ ต่างกันจริงๆ
กำลังตัดสินใจจะแยกกันอยู่กับสามี ขอกำลังใจด้วยค่ะ
เราก็เคยคิดว่าจะอยู่กันได้สักแค่ไหน เพราะปัญหาบั่นทอนความรักไปเยอะ แต่ก็มาซื้อบ้านอยู่ด้วยกันสองคนได้ ไกลจากบ้านแม่เราทั้งสองประมาณ 30 นาที
ยังไม่มีลูกกันนะคะ เค้าไม่อยากมี แต่เราเองอยากมี แต่ก็สุขภาพไม่ค่อยดี เลยไม่ได้คุยกันเรื่องนี้สักเท่าไหร่
จนเมื่อกลางปีที่แล้ว ที่ทะเลาะกันรุนแรงเรื่องทัศนคติไม่ตรงกันหลายๆ เรื่อง (ตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคนเผยออกมาสินะ) แฟนแก่กว่าเรา 7 ปี ตอนนี้เราก็ย่าง 35 แล้วค่ะ
เลยคุยๆ กัน พยายามปรับความเข้าใจกัน ปีใหม่นี่ก็เพิ่งไปเที่ยว ตปท กันมา แต่ก็ไม่ดีขึ้น เราเองก็เซ็งๆ เค้าเองก็เบื่อๆ
จนเมื่อวานเรานั่งคุยกัน บอกว่าไปเที่ยวที่ผ่านมาไม่สนุกเลย อยู่กันไปวันๆ ต่างคนต่างแรง ไม่ค่อยมีใครยอมกัน เราเองก็พยายามปรับตัว แต่บอกตามตรงว่าเหนื่อยใจมากมาย ทั้งก่อนแต่งก็เสียน้ำตาไปหลายปี๊บ ทะเลาะกับแม่ กับทางบ้าน พอแต่งมาก็พยายามอดทน ทำงานหาเงินเข้าบ้าน ไม่เอาแต่ขอเงินเค้า แต่เค้าก็บอกว่าเราไม่กระตือรือร้น เป็นคนเฉื่อยชา ผิดกับเค้าที่ไฮเปอร์ คิดนู่นนี่ตลอดเวลา
อืม เราก็พูดไม่ออกค่ะ เราออกแนวแม่บ้านอ่ะนะ ชอบอยู่บ้าน แต่งตัวธรรมดา ไม่ใช่สาวสังคม เปรี้ยวแต่งตัวมากมาย แถมตอนนี้ทำงานอยู่บ้านอีก คงจะเผลอปล่อยเนื้อปล่อยตัวเกินไป
เรื่องผู้หญิงอื่น เราไม่แน่ใจว่าเค้าจะมีหรือเปล่านะ เพราะเค้าก็ไปทำงาน กลับบ้านทุกวัน (เลี้ยงแมว เค้ารักแมวมาก กลับบ้านมาเล่นกับแมวทุกวัน)
แต่ถึงเค้าจะมีจริงๆ เราก็คงทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าคนมันหมดรักกันแล้ว
ตอนนี้เลยโลกมืด มึนๆ จะกลับบ้านไปอยู่กับแม่ กลัวแม่จะอายคน บ้านเรากับบ้านเค้าใกล้กันอีก
จะออกไปเช่าหออยู่คนเดียว จะอยู่บ้านเดียวกันไปก่อน แต่ต่างคนต่างอยู่ มันก็ทรมานใจไม่ใช่น้อย
ไม่รู้จะหาทางออกยังไง ถามว่ายังรักเค้ามั้ย ก็รักนะ แต่มันเหนื่อยหน่ายกันไปแล้ว มันเซ็งๆ
ไม่แน่ต่างคนต่างอยู่ อาจจะดีขึ้น ไปตามทางเดินชีวิตของตัวเอง
สงสัยตอนนี้เวรกรรมจะตามทัน ที่เคยทำให้แม่เสียใจนะคะ คิดแล้วก็เสียใจ
ก่อนแต่งก็ทำเค้าอายคน กว่าจะแต่งได้ พอแต่งออกมาแล้วอยู่กันไม่รอด ก็ต้องทำเค้าอายคนอีก
ขอโทษที่ระบายยืดยาวนะคะ อยากหลุดพ้นจากอารมณ์นี้เหมือนกัน พยายามเข้มแข็งอยู่จริงๆ ค่ะ
ปล. ขอเพิ่มเติมเรื่องที่เราทำงานที่บ้านนะคะ
เราทำงานอยู่บ้านแต่กินเงินเดือนบริษัทค่ะ เจ้านายประหยัดค่าเช่าออฟฟิศ ให้พนักงานทุกคนทำงานที่บ้าน
หาเงินได้เดือนละ 40K ไม่เอาเปรียบสามีค่ะ
เค้าผ่อนบ้าน 15K แต่ภาระทุกอย่างในบ้านเรารับผิดชอบ ตั้งแต่น้ำปลา ยันผงซักฟอก อาหารการกิน น้ำ ไฟ เนต
อาจไม่มากเท่าค่าผ่อนบ้าน แต่ไม่น้อยเลยค่ะต่อเดือน
เรื่องไปเที่ยว ตปท ออกคนละครึ่งทุกครั้งค่ะ เราไม่เคยไปขอร้องให้เค้าพาไปโดยที่เอาเปรียบเค้าเลย ครั้งนี้ก็ความคิดเค้า ก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะถือว่าพยายามหาที่เที่ยวปรับความเข้าใจกัน
เรื่องเงินไม่ค่อยมีปัญหากันค่ะ แยกกันรับผิดชอบ แต่ปัญหาทัศนคติ ต่างกันจริงๆ