แล้วเราละ เราทำอะไร ตื่นเช้ามาทำวัตรเช้าไหม ทำบุญทุกวันไหม
หรือเราๆ ได้แค่ บ่น ด่า ว่า ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพียงอย่างเดียว จนกลายเป็นบาปที่จะติดตัวข้ามภพข้ามชาติไป

      ทุกวัน เจ้าอาวาสท่านฉันข้าวต้มกับผัก จะเป็นผัด ต้มก็หมุนเวียนไป ไม่ได้หรูหรา เป๋าฮือ หูฉลาม
                                   สรงน้ำก็เพียงถังเดียว จีสรราคาปกติเหมือนพระรูปอื่น ไม่ได้ราคาเป็นแสนตามที่เล่าลือ
                                     ตื่นก่อนตีสี่ทำวัตรเช้า กว่าจะเข้าจำวัดก็เที่ยงคืนหรือบางทีอาจไม่จำวัด นั่งสมาธิโตรุ่งเลย
                           ทั้งๆที่ ท่านเป็นโรคประจำตัว และโรคทั่วไป เช่น เบาหวาน ท่านก็อาการค่อนข้างหนักแต่ไม่เคยเปิดข่าวให้ลูศิษยรู้เพราะกลัวเป็นห่วง

ท่านเป็นพระที่พอได้ศึกษาการปฏิบัติตัวแล้วน่าเลื่อมใส
ลูกศิษย์วัดนี้ถึงมีมากมายทั้ง หมอ อัยการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า คนธรรมดาหรือคนใหญ่ๆ โตๆ มากมาย
และคนระดับรวยในสังคมมากมาย คนเหล่านี้ไม่ต้องทำอะไรก็อยู่สบาย แต่เพราะเขาเชื่อและศรัทธาจึงมาปฏิบัติที่วัด

ลองคิดตามเล่นๆ นะ
คุณคิดว่าคนอย่างคุณอนันต์ อัศวโภคิน นักธุรกิจระดับโลกเลยก็ว่าได้ ท่านโง่ไหมละ ระดับท่านมีสมองคิดว่าอะไรถูกอะไรผิด
ท่านก็มาวัดทุกอาทิตย์ มานั่งสมาธิ มาเป็นผู้นำบุญ หลวงพ่อมีโครงการบุญอะไร ท่านทำหมด คุณอาจบอกว่าก็เขารวยมีเงิน >>>อย่าลืมนะว่าคุณอนันต์เคยล้มละลาย เป็นหนี้สินเป็นหมื่นๆ ล้าน<<< ตอนนั้นท่านก็ได้หลวงพ่อชี้ทางให้ปฏิบัติ ท่านก็กลับมารวย ท่านก็ยิ่งศรัทธา มีคนอีกมากมายเลยที่ร่ำรวยโดยมีบุญเป็นตัวนำ

อีกหนึ่งคน คุณบุญชัย เบญจรงคกุลท่านก็ทำทุกบุญ ช่วยหลวงพ่อหมดทุกโครงการเหมือนกัน ระดับคนมีความรู้ ความสามารถคงไม่โดนใครหลอกง่ายๆ

บุญนะ ทำตามกำลังกับทำสุดกลังมันต่างกัน .....

     " ถ้าทำบุญตามกำลัง เวลาบุญส่งผลก็ส่งตามกำลัง แต่ถ้าทำบุญ เต็มกำลัง เวลาบุญส่งผลก็เต็มกำลัง หรือการตัดใจทำในสิ่งที่ทำได้ยาก เวลาจะได้อะไร ก็จะได้ครอบครอง ในสิ่งที่คนทั่วไปครอบครอง ได้ยากเช่นกัน เหมือนการทำบุญของ มหาทุคตะในสมัยพุทธกาล คือ ทุ่มทำบุญจนสุดตัว ทำในสิ่งที่คนทั่วไปทำได้ยาก เวลาบุญส่งผล ก็ทำให้เขารวยอย่างอัศจรรย์ ได้ในสิ่งที่คนทั่วไปได้ยาก หรือเราคงเคยได้ยินที่เขาพูดๆ กันว่า คนมาวัดพระธรรมกาย..แล้วรวย ก็จริงนะครับ เพราะบุญ.. ถ้ายิ่งทำ ผลบุญก็จะยิ่งดึงดูดสิ่งดีๆ "



     คุณมีครูบาอาจารย์ท่านอื่นก็ปฏิบัติต่างกันไป ผลสุดท้ายปลายทางก็ที่เดียวกัน หรือคุณรู้ว่าปลายทางเป็นแบบไหน คนเราตายก็จะรู้อะไรถูกผิด เราก็เลือกที่เราอยากไป คุณไม่เชื่อ ก็อย่าเพิ่งว่า แต่จงมาศึกษา ว่าจริงเท็จเป็นเช่นไร
   ตามที่พระพุทธเจ้าบอก "เราไม่ได้สอนให้เชื่อ แต่ให้ศึกษาดูก่อนถ้าเป็นจริงดั่งนั้นก็ค่อยเชื่อ"

      ไม่ดี ก็ถอยออก ดีก็อยู่ต่อ ที่นี่มาฟรี มีอาหารเลี้ยง ไม่เชื่อ บุญ ยังไม่ต้องทำเพียงมานั่งสมาธิที่วัดวันอาทิตย์ก็ได้

      มนุษย์เราก่อนจะว่าอะไรเราต้องดูตัวเองก่อน ว่าเราดีกว่าเขาแล้วหรือถึงว่าเขาได้
       เรานั่นวิจารย์ได้แน่นอน แต่ต้องอยู่ในกรอบที่เหมาะสม อย่าให้ความคะนองของปากนำไปสู่อบายภูมิ นรกภูมิ

       ของไม่ดี ไม่เกิน 20 ปีก็น่าจะต้องเสียหาย หรือโดนทำลายไปแล้ว หรือมีท่าทีแสดงออกมาให้เห็น คนที่เคยเชื่อก็ต้องหนีหาย กันออกมาหมด ทุกวันนี้ มีแต่คนเข้าไปเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นเรื่องที่แปลกดี ที่มีคนเชื่อและศรัทธาเพิ่ม แถมมีหลายคนที่ไม่เคยเชื่อพอมาศึกษา ทำบุญ ทำทาน ปฏิบัติ กลับพลิกชีวิตร่ำรวยก็หลายราย อย่าเอาอคติเเค่ว่าชื่อวัดนี้ วันนั้นและมาข่มกัน ปฏิบัติตามแนวทางของตน แล้วทุกอย่างจะดีเอง

       เชื่อซิข้างล่างกระทู่นี้ต้องมีคนมาบ่น ด่าสารพัดประโยค คนตั้งกระทู้เพียงนำสิ่งที่เข้าไปศึกษาไปค้นหาความจริงมาเล่าสู่กันฟัง ยาวหน่อย แต่คนที่เป็นบัวพ้นน้ำแล้วย่อมอ่านแล้ว เข้าใจและพิจารณาตามไม่ใช่บัวใต้ตมที่ไม่แม้จะพิจารณาก็อ้าปากค้างเตรียมด่าอย่างเดียว

ขออนุโมทนากับผู้มีบุญทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่าน