เมื่อวานช่วงบ่ายๆ เรากับครอบครัวตั้งใจว่าจะไปซื้อของใช้เข้าบ้านใหม่กัน คุณพ่อแนะนำว่ามี do home ใกล้ๆมหาชัยเพิ่งเปิดใหม่ เราก็ตกลงว่าจะไปเดินเลือกของกันที่นั่น
ก็มีเรา พ่อ แม่ น้า พ่อกับแม่เราเดินตัวปล่าวไม่มีกระเป๋าถือ ส่วนน้ามีกระเป๋าถือ ขนาดกว้างยาวคืบกว่าๆ ข้างในมีเงินกับโทรศัพท์ แล้วก็รายการของที่จะซื้อ
พอกำลังเดินเข้ากันที่ทางเข้าสโตร์ ก็มีพนักงานเรียกให้หยุด แล้วถามน้าเราว่าจะฝากของมั๊ย
น้าเราก็งง เพราะนอกจากกระเป๋าถือแล้วก็ไม่มีอะไรติดตัวมาอีกเลย
พนักงานก็ถามย้ำมาอีกทีว่า จะฝากของมั๊ย ถ้าไม่ฝากเขามีกระเป๋าตาข่ายแบบล็อกซิบแล้วตอนจ่ายเงิน พนักงานจะไขกุญแจให้ (เรารู้จักกระเป๋าฝากของแบบนี้ดี เพราะตามห้างใหญ่ๆ หรือตามซุปเปอร์สโตร์ต่างประเทศชอบใช้แบบนี้กัน เอาไว้ใส่ของหรือถุงที่เราซื้อมาจากที่อื่นเพื่อป้องกันการขโมยของ)
น้าเราก็เลยถามพนักงานคนนั้นว่า กระเป๋าใบแค่นี้ต้องฝากด้วยเหรอ?
พนักงานก็ตอบมาพร้อมเริ่มชักสีหน้าว่า... นโยบายบริษัท...
น้าเราก็เลยเลือกถุงล็อกซิบ พอพนักงานล็อกเสร็จก็ถามน้าเราว่าจะเอามือถือออกมาก่อนมั๊ย. แต่คือนางล็อกไปแล้วนะ
เราก็เริ่มไม่อยากเดินแล้ว แต่พ่อเราบอกว่าอุตส่าห์วนรถมาด้วยความยากลำบาก ของสำคัญๆก็ต้องซื้อเข้าบ้าน
ก็เดินกันไปสักครู่ เราก็ต้องดูรายการของที่จะซื้อ อ้าว..กระเป๋าถือของน้าอยู่ในกระเป๋าล็อกซิบ ถ้าจะเอาอะไรก็ต้องวิ่งไปให้ พนักงานไขกุญแจให้
พ่อเราเลยซื้อของที่พอจำได้แล้วไปคิดเงิน
ปรากฏว่า กว่าจะได้จ่ายเงินใช้เวลาพอสมควร เพราะพนักงานแคชเชียร์หากุญแจเปิดซิบไม่เจอ
ต้องวิ่งไปขอจากเคาท์เตอร์อื่น
รู้สึกแย่กับที่นี่มากๆ ขับรถมากว่าจะถึงแต่มาเจอบริการแบบนี้
คงไม่ขอกลับไปซื้ออะไรที่นั่นอีกแล้ว
ปล.แนบรูปขนาดกระเป๋าถือมาให้ดูนิดนึง
เพลียเบาๆที่ do home สมุทรสาคร
ก็มีเรา พ่อ แม่ น้า พ่อกับแม่เราเดินตัวปล่าวไม่มีกระเป๋าถือ ส่วนน้ามีกระเป๋าถือ ขนาดกว้างยาวคืบกว่าๆ ข้างในมีเงินกับโทรศัพท์ แล้วก็รายการของที่จะซื้อ
พอกำลังเดินเข้ากันที่ทางเข้าสโตร์ ก็มีพนักงานเรียกให้หยุด แล้วถามน้าเราว่าจะฝากของมั๊ย
น้าเราก็งง เพราะนอกจากกระเป๋าถือแล้วก็ไม่มีอะไรติดตัวมาอีกเลย
พนักงานก็ถามย้ำมาอีกทีว่า จะฝากของมั๊ย ถ้าไม่ฝากเขามีกระเป๋าตาข่ายแบบล็อกซิบแล้วตอนจ่ายเงิน พนักงานจะไขกุญแจให้ (เรารู้จักกระเป๋าฝากของแบบนี้ดี เพราะตามห้างใหญ่ๆ หรือตามซุปเปอร์สโตร์ต่างประเทศชอบใช้แบบนี้กัน เอาไว้ใส่ของหรือถุงที่เราซื้อมาจากที่อื่นเพื่อป้องกันการขโมยของ)
น้าเราก็เลยถามพนักงานคนนั้นว่า กระเป๋าใบแค่นี้ต้องฝากด้วยเหรอ?
พนักงานก็ตอบมาพร้อมเริ่มชักสีหน้าว่า... นโยบายบริษัท...
น้าเราก็เลยเลือกถุงล็อกซิบ พอพนักงานล็อกเสร็จก็ถามน้าเราว่าจะเอามือถือออกมาก่อนมั๊ย. แต่คือนางล็อกไปแล้วนะ
เราก็เริ่มไม่อยากเดินแล้ว แต่พ่อเราบอกว่าอุตส่าห์วนรถมาด้วยความยากลำบาก ของสำคัญๆก็ต้องซื้อเข้าบ้าน
ก็เดินกันไปสักครู่ เราก็ต้องดูรายการของที่จะซื้อ อ้าว..กระเป๋าถือของน้าอยู่ในกระเป๋าล็อกซิบ ถ้าจะเอาอะไรก็ต้องวิ่งไปให้ พนักงานไขกุญแจให้
พ่อเราเลยซื้อของที่พอจำได้แล้วไปคิดเงิน
ปรากฏว่า กว่าจะได้จ่ายเงินใช้เวลาพอสมควร เพราะพนักงานแคชเชียร์หากุญแจเปิดซิบไม่เจอ
ต้องวิ่งไปขอจากเคาท์เตอร์อื่น
รู้สึกแย่กับที่นี่มากๆ ขับรถมากว่าจะถึงแต่มาเจอบริการแบบนี้
คงไม่ขอกลับไปซื้ออะไรที่นั่นอีกแล้ว
ปล.แนบรูปขนาดกระเป๋าถือมาให้ดูนิดนึง