คุณรู้สึกยังไงถ้าคนที่คบบอกคุณว่า "คุณเป็นคนประหยัดจนเราไม่กล้าชวนไปไหนหรือเวลาคุณจะออกเงินใหเราก็เกรงใจคุณเลย"

นิสัยส่วนตัวของเรา ไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืน(นานๆครั้ง) ไม่ค่อยกินเหล้า(นานๆครั้ง) ไม่ติดซื้อของแบรนด์เนม ไม่ติดกินร้านอาหารในห้าง(นานๆครั้ง) ชอบเดินห้างแต่ไม่ค่อยชอบซื้อของหากไม่อยากได้จริงๆ(นานๆครั้ง) ชอบเก็บเงินเที่ยวแต่เที่ยวแบบbackpacker ชอบเรียนรู้เรื่องการออมและการลงทุน เริ่มออมเงินเริ่มลงทุนและวางแผนการเงินของตัวเอง แต่ถ้าหากอยากได้อะไรที่มันเป็นของฟุ่มเฟือยบางครั้งก็ซื้อเพื่อเป็นรางวัลชีวิตให้ตัวเองแต่ไม่ซื้อของฟุ่มเฟือยพร่ำเพื่อ (โดยส่วนตัวคิดว่าตัวเราเป็นคนใช้เงินเป็น)

จนมีวันหนึ่ง ผญ คนที่เราคบอยู่ บอกกับเราว่า "คุณเป็นคนประหยัดจนเราไม่กล้าชวนไปไหน หรือเวลาคุณจะออกเงินซื้อของอะไรให้เราก็เกรงใจคุณเลย"

เราก็เลยบอกกับเธอคนที่เราคบไปว่า "เราไม่ได้เป็นคนประหยัดแต่เราเป็นคนใช้เงินเป็น เราไม่อยากลำบากตอนแก่ อยากยืนด้วยลำแข้งตัวเองให้ได้ไม่เป็นภาระของที่บ้าน สร้างอนาคตเพื่อคนที่เรารัก เราเป็นคนไม่ชอบใช้ชีวิตที่เงินช๊อตเดือนชนเดือน ไม่อยากยืมเงินคนอื่นมาใช้จ่ายเพราะการใช้เงินที่ไม่คิดของตัวเอง"

*เพื่อนๆคิดว่าเราตึงกับการใช้ชีวิตเกินไปรึเปล่า คือเราไม่อยากทำให้คนที่เราคบอึดอัดกับการที่เค้าต้องคิดแบบนั้น หรือเราควรจะเป็นคนใช้เงินมากกว่านี้ แล้วคุณจะรู้สึกยังไงถ้าคนที่คุณคบบอกกับคุณแบบนี้ แล้วคำว่า ประหยัด กับ ใช้เงินเป็น มันเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร โดยส่วนตัวคิดว่ามันต่างแต่ก็อธิบายไม่ได้ว่ามันต่างอย่างไร

ปล. เวลาเรามีแฟนอะไรที่เราให้ได้หรือทำให้ได้เราก็จะให้ตามกำลังที่สุดเท่าที่จะทำได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คุณเป็นคนประหยัดไป แต่คุณหาแฟนที่มีทัศนคติในการใช้ชีวิตไม่ตรงกันต่างหาก

หาคนที่เหมือนๆ กันคือคำตอบครับ ถ้าความคิดต่างกัน คนนึงชอบเก็บคิดถึงอนาคต อีกคนผลาญแหลกสนใจแค่วันนี้ มันจะอยู่ด้วยกันลำบาก
ความคิดเห็นที่ 15
ไม่ได้ตอบกระทู้นานมากแล้ว เข้ามาตอบเพราะคุณกับผมเหมือนกัน

แต่ ของผมแต่งแล้ว มีลูกแล้ว

มีปัญหากวนใจทะเลาะกันเล็กน้อยบ่อยๆ เรื่องมาจากความตระหนี่ที่มากเกินไปของผม(ในความคิดของเค้า)
ผมมีความสุขดีกับการไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย (คำว่าฟุ่มเฟือยแต่ละคนไม่เท่ากัน)
ผมมีความสุขกับการนั่งจินตนาการเงินเก็บว่าปีนี้จะได้เท่าไร ทำถึงเป้าหรือไม่

ภรรยาผมใช้ค่าโทรศัพท์เดือนละ 1 พันบาท (เงินเดือน 5 หมื่น) ฟุ่มเฟือยไหม  ผมว่า"ไม่"
ผมใช้แบบเติมเงินเดือนละ 1 ร้อยบาท(ยังโทรไม่หมดเลย) ตระหนี่ไปไหม   ผมก็คิดว่า "ไม่" รายได้ผมมากกว่าเกือบ 2 เท่า
ผมแทบไม่กินข้าวนอกบ้าน เพราะคิดว่ามันแพงไป (รวมทั้ง MK pizza KFC) เวลาไปห้างภรรยากิน ผมก็ไม่กิน
รายจ่ายในบ้านผมเป็นคนจ่ายทั้งหมด ภรรยามาเบิกเอาได้ (ซึ่งแน่นอนผมก็จะบ่นจุกจิกทำให้ทะเลาะกันอีก)

การทำแบบนี้ทำให้ ภรรยา อึดอัดใจ เป็นข้อดีที่ไม่ฟุ่มเฟือย แต่ทำให้คนข้างๆ อึดอัด
การรู้สึกอึดอัดนี่มันแย่กว่าการว่ากันตรงๆอีก เค้าอยากจะว่าแต่มันไม่ใช่ข้อเสียที่ชัดเจนจนจะว่าได้นั่นแหละ



ผมว่าคุณไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน ผญ.เขาเลือกคุณตรงนี้ (ผมก็ไม่-เพราะเสียดายตัง)

เค้าพูดแบบนี้ แปลว่า คุณมากไปแล้ว (ในความคิดของเค้า) บางที่ตัวเองไม่รู้ตัวหรอก

ผ่อนๆลงบ้างแล้วชีวิตคุณจะมีความสุข  เมื่อแฟนคุณมีความสุข คุณก็จะมีความสุขเอง ทะเลาะกันน้อยครั้งลงมาก

ผมว่าเค้าพูดกับคุณแบบนี้ก็แปลว่าถ้าคุณผ่อนลงบ้างเค้าก็คงร่วมหอลงโลงกับคุณแน่ๆแหละ
ขอให้โชคดีครับ

ปล.  ตอนนี้ผมปรับตัวเองแล้ว
โดยเอาเงินสดใส่เซฟไว้ อยากหยิบหยิบไป ไม่ต้องมาขอเป็นครั้งๆ
เงินเค้าผมไม่ยุ่ง อยากจะใช้อะไรใช้ไป อย่าไปรู้ยิ่งรู้เดี๋ยวก็อดพูดอีกไม่ได้ ไม่เกินวงเงินเดือนก็ไม่ว่ากัน
ผมมีหน้าที่เติมเงินใส่เซฟอย่างเดียว  ถ้าก้อนใหญ่ๆหายไปค่อยมาถาม (ถ้าไม่ถามเดี๋ยวตัวเองจะอึดอัด)
พยายามไม่พูดเรื่องการใช้เงินกันอีก  กินข้าวนอกบ้านให้บ่อยขึ้น ฟุ่มเฟือยมากขึ้นนิดนึง  (แต่ยังไม่ยอมดูหนังนอกบ้านนะ-แพงไป)
เรายอมเค้า-เค้าเข้าใจเรา
รู้สึกว่าชีวิตครอบครัวมีความสุขมากขึ้นครับ (ยอมถอยซักนิด มันดีกว่าจริงๆ)
ความคิดเห็นที่ 6
อ่านดูแล้วมันก็ไม่มีผิดมีถูกนะ ทั้งคุณและแฟนคุณ

ไลฟ์สไตล์ต่างกันแค่นั้น  คำพูดที่แฟนคุณพูดมันก็เป็นเรื่องจริง เขามีสิทธิที่จะรู้สึกแบบนั้น

คุณควรจะคุยกับแฟนให้ชัดว่า มันเป็นงี้ๆๆ คุณคิดแบบนี้นั้นโน้นก็ว่าไป   ถ้าไปกันได้ก็ยาวไป

ถ้าต่างกันเกินไปก็จะได้แยกย้าย ไม่ต้องเสียเวลา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่