ดาร์เรน เฟลทเชอร์ หรือชื่อเล่นที่พวกเราชอบเรียกแกกันว่า เฮียเฟล็ทช์ เทพเฟล็ทช์
นักเตะอดีตหัวหน้าจตุรเทพoriginal the last stand คนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ ณ ยูไนเต็ด
กระทู้นี้แฟนผีถ้าใครผ่านมาเห็น ก็แวะมาร่ำลาแกหน่อยแล้วกันครับ
สำหรับผม เฟลทเชอร์ถือเป็นนักเตะที่จงรักภักดีกับสโมสร และมีความเป็นมืออาชีพสูง
ไม่เคยงอแงอะไรสักอย่าง ให้เล่นตำแหน่งไหนก็เล่น(แบ็คขวายังเคยโดนป๋าใช้ไปเล่นเลย) ขึ้นมาก็เริ่มต้นจากAMRปีกขวาตัวบุก
ลงสลับช่วยเบ็คแฮมก็บ่อยสมัยนั้น ในCM2001นี่ เป็นดาวรุ่งตีคู่มากับอิเนสต้าของบาซ่าเลย ถ้าใครเกิดทันก็คงจำได้
สโมสรก็ปั้นมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นลูกหม้อของแท้อีกคนนึงเลย
สมัยก่อนแรกๆขึ้นมา ก็โดนด่าเสียหมาเหมือนกัน เพราะฟอร์มไม่เอาอ่าวสุดๆ
คือแกเองก็เล่นเกมส์รุกไม่ได้ดีอะไรในระยะแรกๆ ช่วงนั้นคิดว่าก็น่าจะหูชากันไป
ถ้ามีsocial network เฟล็ทช์ก็คงโดนด่าเต็มnews feedตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
คำกระแนะกระแหนที่ฮาที่สุดคงหนีไม่พ้นคำครหาเรื่องที่แกเป็น "ลูกรัก" ของเซอร์อเล็กซ์
ชื่อ Darren "Ferguson" Fletcher ไม่ได้ได้มาง่ายๆ
เรื่องวีรกรรมวีรเวรสมัยเป็นหัวหน้าแก๊งค์จตุรเทพนั้น มีให้คุยกันสามวันสี่วันไม่รู้จบ
รู้แต่ว่า เห็นหน้าเฟล็ทเชอร์และผองเพื่อนวันไหน วันนั้นแฟนผีต้องดูบอลกันแบบปวดตับเวลาที่เจ้าพวกนี้ได้บอลเสมอ
ไม่ว่าจะเป็น เงาะต้นตำรับเจ้าของฉายานิวไรอันกิ๊กส์ .. น้องน้ำตาล ที่เวอร์ชั่นธรรมดาก็แย่แล้ว
ช่วงไหนเป็นร่างทองGolden Wes Brown ฟิวชั่นกับการ์ดบาร์เตซนี่ อย่าให้เซดจริงๆ- -*
ซิลแวสต์ มนุษย์หินกองหลังสายVit Luk (เน้นถึก ผีเข้าผีออกแล้วแต่ดวง)
จอห์นนี่โอเช มิสเตอร์เอ๊ฟฝะหรี่ติง ผู้เคยแตะลอดดาร์คฟิโก้มาแล้ว (!?)
มีอยู่นัดนึงเจ้าพวกนี้ได้ลงพร้อมกันนี่ เหมือนขบวนการห้าสีประกอบร่างแล้วยิงปืนfinishปีศาจเลย
และแน่นอน เพราะอะไรก็ไม่รู้ ผมยังร้องเพลงในตำนานนี้ได้อยู่
วันนี้คงเป็นกระทู้สั่งลาสำหรับเทพเฟล็ทช์แล้ว ขอยกเอานามเต็มๆของเฟล็ทชิโอซุส เดอะก็อดออฟมาร์คกิ้ง
สุดยอดมหาเทพในตำนานแห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดมาให้ได้ชื่นชมกันอีกครั้ง .. ก่อนลืม (ฮา)
===========================================================
ดาร์เรน เฟอร์กุสัน เฟลทเชอร์ เดอะวันเดอร์มิราเคิลป็อปปูล่าโกลเด้นบอย ปรินซ์ออฟสก็อต
เลิฟซันออฟเดอะเฟอร์กี้ลอควัน-ทูบีฟอร์ชู้ตโกลลล์ บัลลงดอร์กิฟฟอร์ฮิมนาว
บีคอสดิสอิสเดอะเกรตเพลย์เมคเกอร์ออฟเดอะเวิร์ลด์ บอร์นทูบีเฮดเดอร์คิลเลอร์อินสะติ๊งค์
ยูนิเวอร์แซลคลาสสกิลลลลมิดฟิลด์ เกรทเทสเพลย์เยอร์คัมแบ็คออฟเดอะเยียร์เบสต์ไรท์วิงออฟเดอะยูนิเวิร์สสสส
นัมเบอร์ทะเว้นตี้โฟร์เลจึ้นด์ออฟยูไนเต็ด
ฮูอีสชาบีพลาตินี่ซีดานตะวันศรีปานไอด้อนท์โนวเดมบีคอสแดอิ๊สสะโอ๊นหลี่วันเฟล็ทเชอร์
พาสซิ่งดริ้บบลิ้งชู้ตติ้งครอสซิ่งแท็คกลิ้งมาร์คกิ้งยี่สิบสปีดเก้าเก้าพาวเวอร์โอเวอร์เก้าพัน!!เดอะวันฮูรูลเดอะเวิร์ลด์
เดอะลาสต์บลัดออฟจตุรเทพออริจินอลฟอร์เอฟเวอร์ ฮูยูสดึทูลิฟท์พรีเีมียร์ลีกโทรฟฝี่แมนี่ทามม์อินฮิสไลฟ์
ขอบคุณภาพเก่าจากพี่Muyanด้วยฮะ
============================================================
แต่เวลาผ่านไป ตำแหน่งที่เปลี่ยน พร้อมด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น ช่วงปี2009ราวๆนั้นน ฟอร์มเฟล็ทช์อย่างกับองค์ลง
ถอดร่างเทพกิ๊กก๊อกแบบสิ้นเชิง มาเป็นเทพของแท้ เป็นกองกลางจอมขยันที่วิ่งไล่บอลราวกับม้า จนคู่กลางทีมตรงข้ามทำอะไรลำบาก
คือฟอร์มช่วงนั้นตื่นตาตื่นใจมาก และก็ยังคงประทับใจแฟนผีอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้แน่ๆ เสียดายมากจริงๆที่ช่วงพีคแกมีแค่แว้บเดียว
เหมือนกับดอกไม้ไฟที่สวยงามที่พวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ถึงมันจะอยู่ไม่นาน แต่มันตราตรึงดีนะ
ผมเชื่อและกล้าพูดว่า ถ้านัดชิงปีนั้น แมนยูไนเต็ดมีเฟล็ทเชอร์อยู่ในทีม
เราจะต้องสู้กับมิดฟิลด์ปีศาจต่างดาวของบาร์ซ่าได้
ดีกว่าที่เห็นแน่ๆ เพราะมีกองกลางที่จะวิ่งพล่านไล่บอลแบบหนักหน่วง1ตัว
อย่างน้อยที่สุด ถึงแม้จะไม่ชนะ แต่เค้าตั้งปั้นเกมส์ลำบากแน่นอน เจอฟอร์มของเฟล็ทตอนที่พีคที่สุดช่วงนั้น
เพราะบาร์ซ่ายุคนั้นมันสุดยอดแล้ว แต่ผลที่ออกมามันจะไม่เป็นแบบที่เห็นแน่ๆ
.. แต่ก็อย่างว่า โลกของฟุตบอล ไม่มีคำว่าถ้า ไม่งั้นใครต่อใครก็อ้างได้หมดแหละ
เฟล็ทช์ยังเป็นนักเตะที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครได้อีกหลายๆคน
เขาใช้เวลานานมากในการต่อสู้ฝ่าฟันกับอาการป่วยติดเชื้อในลำไส้ใหญ่บวมตั้งแต่นู่น Dec2012
เพิ่งจะกลับมาได้เมื่อไม่นานมานี้ ยาวนานขนาดนี้ถ้าใจไม่สู้จริงกลับมาไม่ได้นะครับ
ยิ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับอวัยวะภายในนี่ สาหัสเลย กับกีฬาฟุตบอลที่มันต้องใช้ร่างกายหนักหน่วงมาก
เป็นกีฬาที่พวกเรารู้กันดีว่ามันเป็นเกมส์การวัดกันของความเป็นลูกผู้ชายอย่างหนึ่ง
ถ้าร่างกายไม่แข็งแกร่งจริงๆ เล่นลำบาก บอลมันไม่ได้มีแค่วิ่ง แต่มันต้องปะทะกันด้วยพลัง
แล้วเฟล็ทช์ที่ป่วยหนักขนาดนั้น ใช้เวลาในการค่อยๆกลับมา จากการรักษาโรคให้หาย
แล้วจึงค่อยๆฟิตร่างกายเพิ่ม กลับมาในทีมสำรอง จนในที่สุดได้มาลงตัวจริงในเกมส์เป็นทางการ
ผมว่า เค้าเป็นนักสู้ที่หัวใจแข็งแกร่งมากๆคนนึงจริงๆ
เราดีใจที่สโมสรเองก็ยังมองเห็นคุณค่าของสมาชิกเก่าๆ
ยังคงดูแลและให้โอกาส ให้อาชีพเขามาอยู่จนถึงตอนนี้ หวังว่าต่อไปในอนาคตคงจะมีที่ว่างให้กับเขา
ในฐานะอื่นๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสต๊าฟโค้ช หรือสเก๊าท์แมวมอง หรือจะเป็นทูตสโมสรก็ตาม
นักเตะที่จงรักภักดีขนาดนี้ วัฒนธรรมของสโมสรคงจะนำพาให้เขากลับมาหาเรา ในวันใดก็วันหนึ่งแน่นอน
หลายท่านอาจจะเห็นข่าวบ้างแล้ว ไม่ใช่ว่าสโมสรจะไม่ต้องการเก็บเขาไว้แล้วนะครับ
ตอนแรกเห็นข่าวผมก็เข้าใจแบบนั้นว่าเขาอาจจะต้องการโละนักเตะที่ฟอร์มด้อยลงไป เพื่ออะไรก็แล้วแต่
แต่จริงๆแล้ว มันตรงกันข้ามเลย สโมสรพยายามรั้งและอยากให้เฟล็ทช์อยู่ต่อนั่นแหละครับ
เพียงแต่ว่า เฟล็ทช์เองก็ต้องการโอกาสการลงสนามที่สม่ำเสมอกว่านี้และเขาก็ได้พูดคุยกับฟานกัลเรียบร้อยแล้ว
สุดท้ายแล้ว ในที่สุดเฟล็ทช์ก็เลือกเส้นทางเดียวกับสองเพื่อนซี้ของเค้าอย่าง โอเช และ บราวน์
ย้ายออกเพื่อตำแหน่งตัวจริงถาวรในทีมอื่นนั่นเอง ซึ่งเฮียแกก็บอกว่า สโมสรเรา(ยูไนเต็ด)ดูแลและทำทุกอย่างให้เขาดีมากๆ
เพราะงั้นนี้น่าจะเป็นข่าวที่ดีอย่างนึงว่า อย่างน้อยมันคือการจากลากันที่สวยงาม ตามเส้นทางของนักฟุตบอลปกติคนนึงนั่นเอง
ฝากแมนยูไนเต็ดด้วยนะบิ้น.. เฟล็ทเชอร์อาจจะไม่ได้กล่าวเอาไว้แบบนั้นในรูปนี้ -.,-
ถึงตอนนี้ จะเป็นเวลาของการจากลา แต่ผมก็เชื่อว่า มันน่าจะเป็นผลดีกับตัวนักเตะและสโมสรเราเองด้วย
เฟล็ทเชอร์น่าจะได้รับโอกาสการลงเล่นที่มากและสม่ำเสมอขึ้น เป็นผลดีกับตัวเอง รวมถึงทีมชาติสก็อตแลนด์
แม้ว่าใจผมส่วนนึงมันจะเศร้าก็ตาม ที่ต้องนั่งมองดูเหล่าอดีตสายเลือดยูไนเต็ดแท้ๆคนแล้วคนเล่า
ตบเท้าเดินออกจากสโมสรทีละคนๆ ..
ยังไงผมก็อยากให้เค้าอยู่จนจบฤดูกาลก่อนก็ยังดีแล้วค่อยย้าย แต่ก็นะ มันเป็นเรื่องของการตัดสินใจที่ดีที่สุดของเขาแล้ว
ถ้าวันใดที่ไรอันกิ๊กส์ต้องไปจากที่นี่ด้วย ผมแอบกลัวเล็กๆว่า วัฒนธรรมเดิมๆของยูไนเต็ดมันจะหายไปแบบสิ้นเชิง
ตอนนี้ก็ได้แต่ลุ้นว่ากิ๊กซี่คงได้อยู่ช่วยกอบกู้สโมสรเราวันใดวันนึงแน่นอนในอนาคต
คนนี้แหละ รู้แน่นอนว่าทำยังไงทีมถึงจะเป็นแชมป์ เห็นทุกสิ่งที่เฟอร์กี้ทำมาแล้ว
คงต้องตามลุ้นทิศทางของสโมสรกันต่อไป สักวันนึงเราคงจะกลับมายืนอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นเช่นเดิม ในไม่ช้านี้.. ก็เป็นได้ ...
ถึงแม้จะมีคำสวยหรูที่คนมักพูดอยู่เสมอว่า
ไม่ว่าใครจะอยู่หรือไป สุดท้ายแล้ว สโมสรต้องอยู่และเดินหน้าต่อ (ซึ่งมันก็จริง)
แต่มันก็อดใจหายไม่ได้อยู่ดี
เอาเถอะ! นี่มันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องเสียใจ นักเตะที่พวกเรารักได้มีเส้นทางใหม่ที่ดีและน่าตื่นเต้นสำหรับเขา
...
สุดท้ายนี้
ไม่อยากใช้คำสวยหรูอะไรปั้นให้ข้อเขียนมันดูดีเลย แต่เศร้าจริงๆ
เรื่องราวของนักเตะแบบเฟล็ทช์นั้น ผมอยากบอกว่า เราไม่ได้อยากได้นักเตะที่เก่ง ฝีเท้าระดับโลก
หรือโด่งดังอะไรเลยเข้ามาอยู่ในสโมสร (ได้เก่งมันก็ดีอยู่แล้วแหละ)
แต่ผมชอบนักเตะที่มีความจงรักภักดี ใจสู้ และ
"อยากเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจริงๆ" มากกว่า (อันนี้สำคัญมาก)
อยากได้นักเตะที่มีDNAแมนยูอยู่แบบเต็มๆ วิ่งและสู้เพื่อจะเอาชนะจนวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อย่างวันก่อน นัดชนะเลสเตอร์ บอกตรงๆว่าผมหงุดหงิดเล็กน้อยนะ จบครึ่งแรกนำ3-0
สิ่งที่พวกเราคาดหวังคือ ครึ่งหลังเราจะบุกหนักเพื่อเอาประตูอีกเรื่อยๆ จนกว่าจะจบเกมส์ ต้องยิงอีก
แต่กลายเป็นว่า ผ่อนเกมส์ ถอดกองหน้าออก แล้วก็เล่นประคองๆไป
ผมไม่พอใจแมนยูที่เป็นแบบนี้มากๆ ถึงจะรู้ว่า มันมีแมตช์คืนนี้(แคมบริดจ์)ที่กระชั้นชิด
และ ผจก ก็ต้องโรเตชั่นนักเตะ+ผ่อนเกมส์เพื่อเซฟลูกทีมก็ตามที
ผมรู้ว่า เวลาเล่นฟุตบอลแบบเต็มๆที่ แถมเป็นสนามใหญ่ ขามันจะล้าขนาดไหน ผมเตะบอลเกือบทุกวันเข้าใจดี
แต่ก็นะ ถ้าเป็นยุคเซอร์อเล็กซ์ ผมเชื่อว่ามันต้องมีประตูเดินหน้าฆ่าไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดเวลาแน่ๆ
นั่นแหละ ผมอยากได้แบบนั้น
และเฟล็ทเชอร์ก็คือหนึ่งในนักเตะที่มีคุณสมบัตินั้นอยู่ในตัวแบบเต็มๆ ผมถึงยังคงอยากให้เค้าอยู่ต่อ
ถึงไม่อยากเอ่ยคำนี้ แต่ก็ได้เวลาแล้วที่จะต้องพูดว่า
"ขอให้โชคดีนะเฟล็ทช์ ได้ลงเล่นเยอะๆอย่างมีความสุขนะ พวกเราจะคิดถึงนายตลอดไป
ขอบคุณสำหรับแชมป์ทุกถ้วย และความสุขทุกค่ำคืนที่โอลด์แทรฟฟอร์ดที่มอบให้พวกเราแฟนบอล"
Good Luck ..Fletch
[Manchester United] มาร่ำลาอดีตหัวหน้าจตุรเทพ(แต่ดันมี5คน)กันดีกว่า โชคดีนะปรินซ์..Darren Fletcher
นักเตะอดีตหัวหน้าจตุรเทพoriginal the last stand คนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ ณ ยูไนเต็ด
กระทู้นี้แฟนผีถ้าใครผ่านมาเห็น ก็แวะมาร่ำลาแกหน่อยแล้วกันครับ
สำหรับผม เฟลทเชอร์ถือเป็นนักเตะที่จงรักภักดีกับสโมสร และมีความเป็นมืออาชีพสูง
ไม่เคยงอแงอะไรสักอย่าง ให้เล่นตำแหน่งไหนก็เล่น(แบ็คขวายังเคยโดนป๋าใช้ไปเล่นเลย) ขึ้นมาก็เริ่มต้นจากAMRปีกขวาตัวบุก
ลงสลับช่วยเบ็คแฮมก็บ่อยสมัยนั้น ในCM2001นี่ เป็นดาวรุ่งตีคู่มากับอิเนสต้าของบาซ่าเลย ถ้าใครเกิดทันก็คงจำได้
สโมสรก็ปั้นมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นลูกหม้อของแท้อีกคนนึงเลย
สมัยก่อนแรกๆขึ้นมา ก็โดนด่าเสียหมาเหมือนกัน เพราะฟอร์มไม่เอาอ่าวสุดๆ
คือแกเองก็เล่นเกมส์รุกไม่ได้ดีอะไรในระยะแรกๆ ช่วงนั้นคิดว่าก็น่าจะหูชากันไป
ถ้ามีsocial network เฟล็ทช์ก็คงโดนด่าเต็มnews feedตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
คำกระแนะกระแหนที่ฮาที่สุดคงหนีไม่พ้นคำครหาเรื่องที่แกเป็น "ลูกรัก" ของเซอร์อเล็กซ์
เรื่องวีรกรรมวีรเวรสมัยเป็นหัวหน้าแก๊งค์จตุรเทพนั้น มีให้คุยกันสามวันสี่วันไม่รู้จบ
รู้แต่ว่า เห็นหน้าเฟล็ทเชอร์และผองเพื่อนวันไหน วันนั้นแฟนผีต้องดูบอลกันแบบปวดตับเวลาที่เจ้าพวกนี้ได้บอลเสมอ
ไม่ว่าจะเป็น เงาะต้นตำรับเจ้าของฉายานิวไรอันกิ๊กส์ .. น้องน้ำตาล ที่เวอร์ชั่นธรรมดาก็แย่แล้ว
ช่วงไหนเป็นร่างทองGolden Wes Brown ฟิวชั่นกับการ์ดบาร์เตซนี่ อย่าให้เซดจริงๆ- -*
ซิลแวสต์ มนุษย์หินกองหลังสายVit Luk (เน้นถึก ผีเข้าผีออกแล้วแต่ดวง)
จอห์นนี่โอเช มิสเตอร์เอ๊ฟฝะหรี่ติง ผู้เคยแตะลอดดาร์คฟิโก้มาแล้ว (!?)
มีอยู่นัดนึงเจ้าพวกนี้ได้ลงพร้อมกันนี่ เหมือนขบวนการห้าสีประกอบร่างแล้วยิงปืนfinishปีศาจเลย
วันนี้คงเป็นกระทู้สั่งลาสำหรับเทพเฟล็ทช์แล้ว ขอยกเอานามเต็มๆของเฟล็ทชิโอซุส เดอะก็อดออฟมาร์คกิ้ง
สุดยอดมหาเทพในตำนานแห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดมาให้ได้ชื่นชมกันอีกครั้ง .. ก่อนลืม (ฮา)
เลิฟซันออฟเดอะเฟอร์กี้ลอควัน-ทูบีฟอร์ชู้ตโกลลล์ บัลลงดอร์กิฟฟอร์ฮิมนาว
บีคอสดิสอิสเดอะเกรตเพลย์เมคเกอร์ออฟเดอะเวิร์ลด์ บอร์นทูบีเฮดเดอร์คิลเลอร์อินสะติ๊งค์
ยูนิเวอร์แซลคลาสสกิลลลลมิดฟิลด์ เกรทเทสเพลย์เยอร์คัมแบ็คออฟเดอะเยียร์เบสต์ไรท์วิงออฟเดอะยูนิเวิร์สสสส
นัมเบอร์ทะเว้นตี้โฟร์เลจึ้นด์ออฟยูไนเต็ด
ฮูอีสชาบีพลาตินี่ซีดานตะวันศรีปานไอด้อนท์โนวเดมบีคอสแดอิ๊สสะโอ๊นหลี่วันเฟล็ทเชอร์
พาสซิ่งดริ้บบลิ้งชู้ตติ้งครอสซิ่งแท็คกลิ้งมาร์คกิ้งยี่สิบสปีดเก้าเก้าพาวเวอร์โอเวอร์เก้าพัน!!เดอะวันฮูรูลเดอะเวิร์ลด์
เดอะลาสต์บลัดออฟจตุรเทพออริจินอลฟอร์เอฟเวอร์ ฮูยูสดึทูลิฟท์พรีเีมียร์ลีกโทรฟฝี่แมนี่ทามม์อินฮิสไลฟ์
แต่เวลาผ่านไป ตำแหน่งที่เปลี่ยน พร้อมด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น ช่วงปี2009ราวๆนั้นน ฟอร์มเฟล็ทช์อย่างกับองค์ลง
ถอดร่างเทพกิ๊กก๊อกแบบสิ้นเชิง มาเป็นเทพของแท้ เป็นกองกลางจอมขยันที่วิ่งไล่บอลราวกับม้า จนคู่กลางทีมตรงข้ามทำอะไรลำบาก
คือฟอร์มช่วงนั้นตื่นตาตื่นใจมาก และก็ยังคงประทับใจแฟนผีอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้แน่ๆ เสียดายมากจริงๆที่ช่วงพีคแกมีแค่แว้บเดียว
เหมือนกับดอกไม้ไฟที่สวยงามที่พวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ถึงมันจะอยู่ไม่นาน แต่มันตราตรึงดีนะ
ผมเชื่อและกล้าพูดว่า ถ้านัดชิงปีนั้น แมนยูไนเต็ดมีเฟล็ทเชอร์อยู่ในทีม
เราจะต้องสู้กับมิดฟิลด์ปีศาจต่างดาวของบาร์ซ่าได้ดีกว่าที่เห็นแน่ๆ เพราะมีกองกลางที่จะวิ่งพล่านไล่บอลแบบหนักหน่วง1ตัว
อย่างน้อยที่สุด ถึงแม้จะไม่ชนะ แต่เค้าตั้งปั้นเกมส์ลำบากแน่นอน เจอฟอร์มของเฟล็ทตอนที่พีคที่สุดช่วงนั้น
เพราะบาร์ซ่ายุคนั้นมันสุดยอดแล้ว แต่ผลที่ออกมามันจะไม่เป็นแบบที่เห็นแน่ๆ
.. แต่ก็อย่างว่า โลกของฟุตบอล ไม่มีคำว่าถ้า ไม่งั้นใครต่อใครก็อ้างได้หมดแหละ
เฟล็ทช์ยังเป็นนักเตะที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครได้อีกหลายๆคน
เขาใช้เวลานานมากในการต่อสู้ฝ่าฟันกับอาการป่วยติดเชื้อในลำไส้ใหญ่บวมตั้งแต่นู่น Dec2012
เพิ่งจะกลับมาได้เมื่อไม่นานมานี้ ยาวนานขนาดนี้ถ้าใจไม่สู้จริงกลับมาไม่ได้นะครับ
ยิ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับอวัยวะภายในนี่ สาหัสเลย กับกีฬาฟุตบอลที่มันต้องใช้ร่างกายหนักหน่วงมาก
เป็นกีฬาที่พวกเรารู้กันดีว่ามันเป็นเกมส์การวัดกันของความเป็นลูกผู้ชายอย่างหนึ่ง
ถ้าร่างกายไม่แข็งแกร่งจริงๆ เล่นลำบาก บอลมันไม่ได้มีแค่วิ่ง แต่มันต้องปะทะกันด้วยพลัง
แล้วเฟล็ทช์ที่ป่วยหนักขนาดนั้น ใช้เวลาในการค่อยๆกลับมา จากการรักษาโรคให้หาย
แล้วจึงค่อยๆฟิตร่างกายเพิ่ม กลับมาในทีมสำรอง จนในที่สุดได้มาลงตัวจริงในเกมส์เป็นทางการ
ผมว่า เค้าเป็นนักสู้ที่หัวใจแข็งแกร่งมากๆคนนึงจริงๆ
เราดีใจที่สโมสรเองก็ยังมองเห็นคุณค่าของสมาชิกเก่าๆ
ยังคงดูแลและให้โอกาส ให้อาชีพเขามาอยู่จนถึงตอนนี้ หวังว่าต่อไปในอนาคตคงจะมีที่ว่างให้กับเขา
ในฐานะอื่นๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสต๊าฟโค้ช หรือสเก๊าท์แมวมอง หรือจะเป็นทูตสโมสรก็ตาม
นักเตะที่จงรักภักดีขนาดนี้ วัฒนธรรมของสโมสรคงจะนำพาให้เขากลับมาหาเรา ในวันใดก็วันหนึ่งแน่นอน
หลายท่านอาจจะเห็นข่าวบ้างแล้ว ไม่ใช่ว่าสโมสรจะไม่ต้องการเก็บเขาไว้แล้วนะครับ
ตอนแรกเห็นข่าวผมก็เข้าใจแบบนั้นว่าเขาอาจจะต้องการโละนักเตะที่ฟอร์มด้อยลงไป เพื่ออะไรก็แล้วแต่
แต่จริงๆแล้ว มันตรงกันข้ามเลย สโมสรพยายามรั้งและอยากให้เฟล็ทช์อยู่ต่อนั่นแหละครับ
เพียงแต่ว่า เฟล็ทช์เองก็ต้องการโอกาสการลงสนามที่สม่ำเสมอกว่านี้และเขาก็ได้พูดคุยกับฟานกัลเรียบร้อยแล้ว
สุดท้ายแล้ว ในที่สุดเฟล็ทช์ก็เลือกเส้นทางเดียวกับสองเพื่อนซี้ของเค้าอย่าง โอเช และ บราวน์
ย้ายออกเพื่อตำแหน่งตัวจริงถาวรในทีมอื่นนั่นเอง ซึ่งเฮียแกก็บอกว่า สโมสรเรา(ยูไนเต็ด)ดูแลและทำทุกอย่างให้เขาดีมากๆ
เพราะงั้นนี้น่าจะเป็นข่าวที่ดีอย่างนึงว่า อย่างน้อยมันคือการจากลากันที่สวยงาม ตามเส้นทางของนักฟุตบอลปกติคนนึงนั่นเอง
ถึงตอนนี้ จะเป็นเวลาของการจากลา แต่ผมก็เชื่อว่า มันน่าจะเป็นผลดีกับตัวนักเตะและสโมสรเราเองด้วย
เฟล็ทเชอร์น่าจะได้รับโอกาสการลงเล่นที่มากและสม่ำเสมอขึ้น เป็นผลดีกับตัวเอง รวมถึงทีมชาติสก็อตแลนด์
แม้ว่าใจผมส่วนนึงมันจะเศร้าก็ตาม ที่ต้องนั่งมองดูเหล่าอดีตสายเลือดยูไนเต็ดแท้ๆคนแล้วคนเล่า
ตบเท้าเดินออกจากสโมสรทีละคนๆ ..
ยังไงผมก็อยากให้เค้าอยู่จนจบฤดูกาลก่อนก็ยังดีแล้วค่อยย้าย แต่ก็นะ มันเป็นเรื่องของการตัดสินใจที่ดีที่สุดของเขาแล้ว
ถ้าวันใดที่ไรอันกิ๊กส์ต้องไปจากที่นี่ด้วย ผมแอบกลัวเล็กๆว่า วัฒนธรรมเดิมๆของยูไนเต็ดมันจะหายไปแบบสิ้นเชิง
ตอนนี้ก็ได้แต่ลุ้นว่ากิ๊กซี่คงได้อยู่ช่วยกอบกู้สโมสรเราวันใดวันนึงแน่นอนในอนาคต
คนนี้แหละ รู้แน่นอนว่าทำยังไงทีมถึงจะเป็นแชมป์ เห็นทุกสิ่งที่เฟอร์กี้ทำมาแล้ว
คงต้องตามลุ้นทิศทางของสโมสรกันต่อไป สักวันนึงเราคงจะกลับมายืนอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นเช่นเดิม ในไม่ช้านี้.. ก็เป็นได้ ...
ถึงแม้จะมีคำสวยหรูที่คนมักพูดอยู่เสมอว่า ไม่ว่าใครจะอยู่หรือไป สุดท้ายแล้ว สโมสรต้องอยู่และเดินหน้าต่อ (ซึ่งมันก็จริง)
แต่มันก็อดใจหายไม่ได้อยู่ดี
เอาเถอะ! นี่มันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องเสียใจ นักเตะที่พวกเรารักได้มีเส้นทางใหม่ที่ดีและน่าตื่นเต้นสำหรับเขา
...
สุดท้ายนี้
ไม่อยากใช้คำสวยหรูอะไรปั้นให้ข้อเขียนมันดูดีเลย แต่เศร้าจริงๆ
เรื่องราวของนักเตะแบบเฟล็ทช์นั้น ผมอยากบอกว่า เราไม่ได้อยากได้นักเตะที่เก่ง ฝีเท้าระดับโลก
หรือโด่งดังอะไรเลยเข้ามาอยู่ในสโมสร (ได้เก่งมันก็ดีอยู่แล้วแหละ)
แต่ผมชอบนักเตะที่มีความจงรักภักดี ใจสู้ และ "อยากเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจริงๆ" มากกว่า (อันนี้สำคัญมาก)
อยากได้นักเตะที่มีDNAแมนยูอยู่แบบเต็มๆ วิ่งและสู้เพื่อจะเอาชนะจนวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และเฟล็ทเชอร์ก็คือหนึ่งในนักเตะที่มีคุณสมบัตินั้นอยู่ในตัวแบบเต็มๆ ผมถึงยังคงอยากให้เค้าอยู่ต่อ
ถึงไม่อยากเอ่ยคำนี้ แต่ก็ได้เวลาแล้วที่จะต้องพูดว่า
"ขอให้โชคดีนะเฟล็ทช์ ได้ลงเล่นเยอะๆอย่างมีความสุขนะ พวกเราจะคิดถึงนายตลอดไป
ขอบคุณสำหรับแชมป์ทุกถ้วย และความสุขทุกค่ำคืนที่โอลด์แทรฟฟอร์ดที่มอบให้พวกเราแฟนบอล"
Good Luck ..Fletch