ขอแชี้แจงนิดหนึ่งนะครับ รู้สึกว่ามีหลายคนเข้าใจผิดนิดหนึ่ง คือ ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นนักเรียนทุนเกาหลีนะครับ เนื่องจากอย่างที่เขียนไปในกระทู้ "ผมผ่านการคัดเลือกจาก มหาวิทยาลัย แต่ ไม่ผ่านการคัดเลือกจากส่วนกลาง คือรัฐบาลเกาหลี" และ ตอนนี้ผมเป็นนักศึกษาปริญญาเอก ทุนรัฐบาลจีน ครับ กลับมาเรียนที่เมืองจีนอีกรอบ แต่จากประสบการณ์การสมัครทุนเกาหลีปีที่แล้ว เลยพอจะแชร์ประสบการณ์ได้ครับ
สำหรับรายละเอียดทุนรัฐบาลเกาหลีปีนี้ ผมได้เขียนข่าวเกี่ยวกับทุนรัฐบาลเกาหลีสำหรับปีนี้เอาไว้ที่ eduzones ลองอ่านได้ที่นี่ https://blog.eduzones.com/pagon/140420
ย้อนไปเมื่อประมาณเดือนมีนาคม ปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกที่ได้ทำความรู้จักกับทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ หลังจากที่ดั้นด้นจนเรียนจบ ป.โท จากเมืองจีน ดินแดนมหัศจรรย์
ตอนนั้นตั้งใจจะเรียนต่อ ป.เอก อยู่แล้ว พอเจอทุนนี้ เลยลองหาข้อมูลดู ซึ่งก็เจอกระทู้แชร์ประสบการณ์ของรุ่นพี่ที่ได้รับทุนก่อนหน้านี้ จากใน Pantip เลยตั้งใจว่าแม้ได้ทุนหรือไม่ได้ทุนก็ตาม ก็จะมาแชร์ประสบการณ์ ซึ่งในที่สุดก็…ไม่ได้ทุน T___T แต่อย่างน้อย ยังโชคดีที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก จากมหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงพอจะแชร์ประสบการณ์ได้บ้าง
จากวันที่ผลออกว่าไม่ได้ทุน มาถึงวันนี้ ก็ผ่านมานานโข แต่ยังไม่มีโอกาสได้มาแชร์ประสบการณ์สักที วันนี้ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ประกาศรับสมัครทุนสำหรับ ป.โท และ ป.เอก สำหรับปี 2558 ออกมาพอดีสดๆร้อนๆ เลยขอถือโอกาสมาแชร์วันนี้เลยละกัน
ข้อมูลพื้นฐานสำหรับทุนรัฐบาลเกาหลีใต้
- ดูประกาศรายละเอียดการรับสมัครได้ที่นี่
http://www.studyinkorea.go.kr/en/cop/bbs/JobBoard/selectBoardArticle.do?bbsId=BBSMSTR_000000000714&nttId=1959&pageIndex=1 ซึ่งรายละเอียดที่สำคัญจะบอกอยู่ในประกาศรับสมัครหมดแล้ว ,,,ผมจึงขอแชร์แต่ประสบการณ์ของผมที่อาจเป็นประโยชน์แต่ผู้ที่สนใจสมัครในปีนี้
ก่อนอื่นขอเกริ่นนิดหนึ่งเพื่อไม่งงว่า
การสมัครทุนทำได้ 2 ทาง 1)ผ่านทางสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย 2) สมัครผ่านทางมหาวิทยาลัยที่ทางรัฐบาลจีนเกาหลีใต้กำหนดมาให้ว่ามี ม.ไหน ที่เราสามารถเลือกได้บ้าง
ซึ่งผมได้เลือกทางที่ 2 คือสมัครผ่าน ม.โดยตรง
โดย สำหรับปี 2558 ปีนี้มีโควตาสำหรับคนไทย 14โควตา แบ่งเป็น
1) สมัครผ่านสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย 5โควตา
2) สมัครผ่านมหาวิทยาลัยโดยตรง 9โควตา ซึ่งโควตามหาวิทยาลัยในปีนี้ ได้มีการแบ่งออกมาเป็น 7โควตา สำหรับ General (คือสมัคร ม.ไหนก็ได้ใน 66 ม.ที่ทางรัฐบาลเกาหลีใต้กำหนด จะสาขาใดๆก็ได้) และ 2โควตา สำหรับ Regional university ในสาย Natural Science and Engineering โดยมีกำหนดไว้ 35 ม.
ทั้งนี้ 7โควตาใน General จะรวมผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อจาก Regional university ด้วยก็ได้
- หากมีความรู้ภาษาเกาหลี และมีคะแนนสอบวัดระดับความสามารถภาษาเกาหลี (TOPIK) ระดับ 5 หรือ 6 สามารถเข้าเรียนในระดับปริญญาโท ,เอก ได้เลย แต่ถ้าไม่มี ต้องเรียนภาษาก่อน 1ปี โดยทุนครอบคลุม
การเลือกมหาวิทยาลัย
สำหรับผม ผมเลือกสมัครโดยผ่านทางมหาวิทยาลัย ซึ่งเลือกได้ มหาวิทยาลัยเดียวเท่านั้น ดังนั้น จึงพิจารณาอยู่นานพอสมควร เพราะไม่เคยมีข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อที่เกาหลีใต้มาก่อน ซึ่งขอเล่ารายละเอียดการพิจารณาของผมคร่าวๆ ดังนี้
- เริ่มดูจาก LIST มหาวิทยาลัย ในประกาศรับสมัครทุน ว่ามี ม.ไหน ที่เปิดสอนในสาขาที่ผมสนใจบ้าง และจากการพิจารณาทักษะความสามารถและขีดจำกัดของสมองอันน้อยนิดแล้ว คาดการณ์ว่า แม้จะได้เรียนภาษาเกาหลีก่อน1ปี ก็อาจจะไม่ไหวสำหรับเรียน ป.เอก แน่ ดังนั้น จึงเลือก ม.ที่เปิดหลักสูตรภาษาอังกฤษด้วย เพราะอย่างน้อยๆ ก็จบ ป.โท หลักสูตรอินเต๊ออินเตอร์จากพี่จีนมา ดังนั้นน่าจะพองูๆปลาๆไปได้จนจบ ป.เอก
- พอได้รายชื่อ ม. ตามเงื่อนไขของผมในข้อที่ผ่านมา ผมจึงเริ่มหาข้อมูลใน Google และเว็บไซต์ของ ม.นั้นๆ เกี่ยวกับ ม.นั้น ทั้งสถานที่ตั้ง สภาพภูมิอากาศ การใช้ชีวิต แลปวิจัยทางด้านที่ผมสนใจ รวมถึงชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ซึ่งข้อสุดท้ายนี้ ผมไม่ค่อยสนใจมากเท่าไหร่ เพราะผมคิดว่า การเรียนต่อในต่างประเทศ เราควรเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเราที่สุด และมั่นใจว่าเราจะอยู่ได้จนเรียนจบ ดังนั้น สถานที่ตั้ง สภาพภูมิอากาศ การใช้ชีวิต และแลปวิจัยที่ผมจะต้องไปทำ มีผลมากกว่าชื่อเสียงของ ม.
- ก่อนที่ผมจะตัดสินใจได้ว่าเลือก ม.ไหน ผมได้ลองส่งอีเมล์ไปติดต่อยังแลปที่ผมสนใจทำวิจัยด้วย ซึ่งจริงๆตรงนี้ ไม่ได้มีการกำหนดเอาไว้ ว่าเราจำเป็นต้องติดต่อแลป หรืออาจารย์ที่ปรึกษาก่อน แต่จากประสบการณ์จากการเรียน ป.โท ที่ประเทศจีน ผมคิดว่ามันเป็นการสร้างโอกาสให้ตัวเองทางหนึ่ง อย่างน้อยๆถ้ามีแลปหรือที่ปรึกษารับเรา ก็ทำให้อุ่นใจขึ้น เหมือนได้ของขลังติดตัว ฮ่าๆ
- ผมได้ติดต่อไปประมาณ 3-4แลป ซึ่งรอประมาณอาทิตย์กว่าๆ ก็ยังเงียบ ตอนนั้นก็เหลือเวลาอีกไม่มากในการสมัครทุน จึงตัดสินใจแล้วว่า ลองส่งอีก1แลป หากไม่ตอบกลับ ก็จะลองเสี่ยงสมัคร ม.ใด ม.หนึ่งนี่แหละ แต่ในที่สุด แลปสุดท้ายที่ส่งอีเมล์ไป ก็ตอบรับกลับมา ในเวลาไม่ถึง 24ชม. ซึ่งตอนนั้นดีใจมาก ราวกับว่าจะได้ทุนแล้ว ฮ่าๆ คือมันเป็นความรู้สึกที่เคว้งมานาน ส่งหาใครก็ไม่มีใครตอบเลย T__T โดย Prof.ที่เป็นหัวหน้าของแลปนี้ ติดต่อกลับมาว่าสนใจที่จะรับไปทำแลปด้วย และยินดีเขียนจดหมายรับรอง เพื่อแจ้งความจำนงว่าจะรับเด็กต่างด้าวคนนี้เป็นเด็กในสังกัด หากได้รับทุน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจสมัคร ม.นี้ และก็เตรียมตัวส่งเอกสารต่างๆไปสมัครทุน ตามกำหนดของทุนรัฐบาลเกาหลีใต้
เรื่องราวของเอกสารสมัครทุน
ดูเหมือนว่า สิ่งที่ผมเล่ามา มันก็คือข้อมูลทั่วๆไป และน่าจะราบรื่น แต่!!! ไม่เป็นเช่นนั้นฮะ ,,,พอมานั่งดูรายละเอียดของการสมัครทุน มาเจอะกับส่วนของ
ใบปริญญาและ Transcript ที่ต้องเป็นแบบ Notarized ก็คือต้องรับรองโดยกรมการกงสุล หรือหน่วยงานที่รับรองเอกสารโดยตรง ซึ่งผมสมัครในระดับปริญญาเอก ต้องส่งเอกสารทั้ง ป.ตรี และ ป.โท โดย ป.ตรี ไม่เป็นปัญหา เพราะ
จบที่ไทย สามารถนำเอกสารไปรับรองที่กรมการกงสุลได้ แต่จุด CLIMAX อยู่ที่จบจากจีนนี่แหละ เพราะเป็นเอกสารของจีน ทางกรมการกงสุลรับรองไม่ได้ และได้ติดต่อไปยังสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ก็ได้รับคำตอบว่า รับรองให้ไม่ได้เช่นกัน ต้องให้หน่วยงานรับรองเอกสารของจีน รับรองเท่านั้น!!!
ตอนนั้นยอมรับว่าเคว้งเลยฮะ คือเป็นความผิดของผมเอง ที่ไม่หาข้อมูลเกี่ยวกับการรับรองเอกสาร ก่อนที่จะกลับมาเมืองไทย ><
แบบว่าตอนนั้นคิดว่า คงไม่ได้สมัครทุนแน่ๆ เพราะเหลือเวลาอีกไม่มาก ไม่ถึง15วัน แล้วจะบินกลับไปจีนยังไง และ Process การรับรองเอกสารของจีนเกิน 15วันแน่ๆ แต่ตอนนั้นยังไม่ยอมแพ้ครับ ก็พยายามติดต่อหน่วยงานรับรองเอกสารของจีน ที่ตั้งอยู่ในมหานครปักกิ่ง ว่าหากเราส่งเอกสารไปให้ทางไปรษณีย์จะได้ไหม เขาตอบว่าได้ แต่ระยะเวลาการรับรองก็นานพอสมควร (จำไม่ได้ว่านานแค่ไหน แต่ตอนนั้นคิดว่าไม่ทันแน่ๆ และอีกอย่างกลัวว่าพี่ไปรษณีย์ไทยจะมอบของขวัญให้ผมอย่างงาม >< เพราะต้องแนบใบปริญญาตัวจริงไปด้วย…บอกตรงๆว่ากลัวฮะ)
ดังนั้น หนทางสุดท้ายที่พยายามทำให้ได้สมัคร เพราะถ้าหากเราไม่ทำอะไรเลย ไม่ได้สมัคร มันเท่ากับโอกาสเป็น0 แต่อย่างน้อยได้สมัคร โอกาสก็ยังพอมี ,,,ผมจึงติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ของ ม. ที่ดูแลเรื่องการสมัครทุน โดยเล่าปัญหาของผมให้เขาฟัง ซึ่งตอนแรกเขาก็ยืนยันว่าต้องส่งแบบ Notarized แต่สุดท้ายเขาบอกว่า งั้นส่งตัวจริงมา แต่ไม่รู้นะว่าโอเคไหม เพราะปกติแล้วเอกสารปริญญาและTranscript ต้อง Notarized เท่านั้น เพื่อป้องกันการปลอมแปลง และเช็คได้ว่าคือของจริง จบจริง
ได้ฟังแบบนี้ก็ดีใจฮะ แต่มามองดูความเป็นจริง …อ้าวเฮ้ย ส่งตัวจริง? คือใบ Transcript ยังโอเค ขอมาหลายชุด แต่ใบปริญญานี่สิ พี่จีนให้มาใบเดียว และจะขอใบรับรองวุฒิที่ขอได้เรื่อยๆ แบบเมืองไทย ก็ไม่มีให้ !!! แต่ยังพอมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เมื่อนึกขึ้นได้ว่า คนที่จบจากจีน จะได้เอกสารมา 4ใบ คือใบปริญญาบัตร 2ใบ เวอร์ชั่นจีนและอังกฤษ ซึ่งออกโดยกระทรวงการศึกษาจีน และ ใบจบการศึกษาที่ออกโดยมหาวิทยาลัยเอง เวอร์ชั่นจีนและอังกฤษเช่นกัน โดยใบนี้เป็นการบอกว่าจบ ได้วุฒิอะไร แต่ไม่ใช่ใบปริญญาบัตรที่ออกโดยกระทรวงการศึกษาจีน แต่ก็ยังดี ที่ยังมีบอกวุฒิ และ ม.ที่จบ ดังนั้นจึงส่งใบจบการศึกษาตัวจริง เวอร์ชั่นอังกฤษไปเลย …อยากได้ทุนเขา ก็ต้องลองเสี่ยงฮะ
พอส่งเอกสารไปแล้ว ตอนนั้นส่งโดย DHL ที่จังหวัดเชียงใหม่ ค่าส่งตอนนั้นประมาณพันกว่าบาท ,,,ใช้เวลาประมาณ 3วันก็ถึง ทันวันปิดรับสมัครพอดี แต่…
เรื่องราวยังคงไม่จบ ปัญหาเอกสาร notarized จบไป มีปัญหาใหม่ตามมา คือใบ Transcript !!!
ปัญหาคือ Grade conversion …
ผมได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ม. คนเดิม ว่า
เอกสาร Transcript ของผมมีปัญหา ซึ่ง
ปัญหาเกิดจากในใบ Transcript ไม่มีเกรดเฉลี่ยรวม ซึ่งแม้ผมจะหาค่าเฉลี่ยเอง และเขียนกำกับไว้ พร้อมกับเทียบเคียงจาก scale ในระบบ 4.0 ตามรายละเอียดในประกาศรับสมัครทุน แต่ทาง ม.แจ้งว่า ไม่ได้ !!! คือมันดูไม่น่าเชื่อถือ ,,,ให้ผมติดต่อ ม. และให้ ม.ส่ง Transcript ที่มีการคิดเกรดเฉลี่ยมาให้เรียบร้อย ,,,ผมจึงรีบติดต่อ ม.ที่จีนในวันนั้นเลย แต่
ปัญหาคือ ทาง ม.ที่จีน ตอบกลับมาว่า “เราไม่มีนโยบายที่จะออก Transcript แบบนี้” “เราออกได้แต่ Transcript แบบนั้น ที่ออกไปแล้ว”
,,,ความรู้สึกตอนนั้น บอกเลยว่า “พัง!!!”
แต่ช้าก่อน แม้จะจิตตก นอยด์ขนาดไหน แต่ยังไม่ยอมแพ้ครับ ,,,สวมจิตวิญญาณนักต่อรองอีกครั้ง คือผมคิดอย่างเดียวว่า
โอกาสมันยังมี เราต้องวิ่งเข้าหาโอกาส อย่าเพิ่งปิดประตูแพ้ให้ตัวเอง ตราบใดที่มันยังพอมีหนทาง ต้องทำให้สุด ถ้าไม่มีทางแล้ว ค่อยยอมแพ้แล้วกระโดดลงเหวก็ไม่สาย
ผมโทรทางไกลไปหาเจ้าหน้าที่ที่เกาหลีใต้อีกครั้ง โดยบอกถึงเหตุผลให้เขา ซึ่งเขารับฟังเป็นอย่างดี และบอกว่ารอสักครู่ เดี๋ยวจะติดต่อกลับทางอีเมล์
สักพักเขาอีเมล์กลับมา และแนะนำว่า ให้ส่งเอกสาร Transcript ไปตรวจสอบและ convert ให้เป็นในระบบ 4.0 จากบริการของบริษัทที่น่าไว้ใจในอเมริกา ซึ่งค่อนข้างแพงมาก และใช้เวลานานเหมือนกัน รู้สึกจะมากกว่า 7วัน ซึ่งคงไม่ทันแน่ ,,,เลยต่อรองกับเขา(อีกแล้ว) เขาเลยบอกว่า งั้นลองใช้บริการ conversion ฟรี แต่ไม่รับรองว่าจะโอเคไหม เพราะเป็นระบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ไม่ได้มีตราประทับรับรองใดๆ
โดยเขาแนะนำให้ใช้
http://www.foreigncredits.com/Resources/GPA-Calculator/
ผมก็ทำตามที่เขาบอก และ save ผล conversion และส่งไปให้เขาทางอีเมล์ เพราะตอนนั้น หาก Print ส่งไป ไม่ทันแน่ๆ ><
สุดท้ายปัญหาเรื่องเอกสารก็จบไป ซึ่งดูเหมือนว่า จะไม่ใช่ปัญหามากมายอะไร แต่ขอบอกว่า ณ ตอนนั้น เป็นปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่จริงๆ เพราะผมเข้าใจดีว่า ในการสมัครทุน สมัครเรียนต่อ เอกสารเป็นสิ่งสำคัญ แต่ผมก็ผ่านมันมาได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนนั้น บอกว่า ให้รอดูผลว่าจะโอเคไหม และทิ้งท้ายว่า แม้จะผ่านการคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยของเขา แต่ไม่แน่ใจว่าพอไปถึงทางรัฐบาลเกาหลีคัด เลือก จะเป็นเช่นไร คงต้องไปเสี่ยงดวง ว่าทางรัฐบาลเกาหลี จะซีเรียสกับเอกสารมากน้อยแค่ไหน T___T
แต่เอาวะ อย่างน้อยก็ได้ส่งเอกสาร ได้สมัคร ..เย้!!!
หลังจากสมัครเสร็จเรียบร้อย เวลาผ่านไปสักระยะ ผมเห็นในกลุ่มผู้สมัครทุนใน Facebook บอกว่า ได้รับเมล์จาก ม.ของผม ให้ตอบแบบสอบถามเบื้องต้น ผมเลยเช็คเมล์ดู ,,,ปรากฏว่า ผมไม่ได้รับ!!! จึงไปสอบถามคนที่สมัคร ม.ผม และได้รับเมล์ เขาบอกว่าได้รับตั้งแต่ตอนเช้า ,,, ตอนนั้นบอกกับตัวเอง อ้าว!!! ซวยแว้วกรู …สงสัยจะไม่ผ่าน T___T
ขอแชร์ประสบการณ์เมื่อ(เกือบจะ)ได้ไปเป็นต่างด้าวในเกาหลี ด้วยทุนรัฐบาลเกาหลีใต้
สำหรับรายละเอียดทุนรัฐบาลเกาหลีปีนี้ ผมได้เขียนข่าวเกี่ยวกับทุนรัฐบาลเกาหลีสำหรับปีนี้เอาไว้ที่ eduzones ลองอ่านได้ที่นี่ https://blog.eduzones.com/pagon/140420
ย้อนไปเมื่อประมาณเดือนมีนาคม ปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกที่ได้ทำความรู้จักกับทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ หลังจากที่ดั้นด้นจนเรียนจบ ป.โท จากเมืองจีน ดินแดนมหัศจรรย์
ตอนนั้นตั้งใจจะเรียนต่อ ป.เอก อยู่แล้ว พอเจอทุนนี้ เลยลองหาข้อมูลดู ซึ่งก็เจอกระทู้แชร์ประสบการณ์ของรุ่นพี่ที่ได้รับทุนก่อนหน้านี้ จากใน Pantip เลยตั้งใจว่าแม้ได้ทุนหรือไม่ได้ทุนก็ตาม ก็จะมาแชร์ประสบการณ์ ซึ่งในที่สุดก็…ไม่ได้ทุน T___T แต่อย่างน้อย ยังโชคดีที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก จากมหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงพอจะแชร์ประสบการณ์ได้บ้าง
จากวันที่ผลออกว่าไม่ได้ทุน มาถึงวันนี้ ก็ผ่านมานานโข แต่ยังไม่มีโอกาสได้มาแชร์ประสบการณ์สักที วันนี้ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ประกาศรับสมัครทุนสำหรับ ป.โท และ ป.เอก สำหรับปี 2558 ออกมาพอดีสดๆร้อนๆ เลยขอถือโอกาสมาแชร์วันนี้เลยละกัน
ข้อมูลพื้นฐานสำหรับทุนรัฐบาลเกาหลีใต้
- ดูประกาศรายละเอียดการรับสมัครได้ที่นี่ http://www.studyinkorea.go.kr/en/cop/bbs/JobBoard/selectBoardArticle.do?bbsId=BBSMSTR_000000000714&nttId=1959&pageIndex=1 ซึ่งรายละเอียดที่สำคัญจะบอกอยู่ในประกาศรับสมัครหมดแล้ว ,,,ผมจึงขอแชร์แต่ประสบการณ์ของผมที่อาจเป็นประโยชน์แต่ผู้ที่สนใจสมัครในปีนี้
ก่อนอื่นขอเกริ่นนิดหนึ่งเพื่อไม่งงว่า
การสมัครทุนทำได้ 2 ทาง 1)ผ่านทางสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย 2) สมัครผ่านทางมหาวิทยาลัยที่ทางรัฐบาลจีนเกาหลีใต้กำหนดมาให้ว่ามี ม.ไหน ที่เราสามารถเลือกได้บ้าง ซึ่งผมได้เลือกทางที่ 2 คือสมัครผ่าน ม.โดยตรง
โดย สำหรับปี 2558 ปีนี้มีโควตาสำหรับคนไทย 14โควตา แบ่งเป็น
1) สมัครผ่านสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย 5โควตา
2) สมัครผ่านมหาวิทยาลัยโดยตรง 9โควตา ซึ่งโควตามหาวิทยาลัยในปีนี้ ได้มีการแบ่งออกมาเป็น 7โควตา สำหรับ General (คือสมัคร ม.ไหนก็ได้ใน 66 ม.ที่ทางรัฐบาลเกาหลีใต้กำหนด จะสาขาใดๆก็ได้) และ 2โควตา สำหรับ Regional university ในสาย Natural Science and Engineering โดยมีกำหนดไว้ 35 ม.
ทั้งนี้ 7โควตาใน General จะรวมผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อจาก Regional university ด้วยก็ได้
- หากมีความรู้ภาษาเกาหลี และมีคะแนนสอบวัดระดับความสามารถภาษาเกาหลี (TOPIK) ระดับ 5 หรือ 6 สามารถเข้าเรียนในระดับปริญญาโท ,เอก ได้เลย แต่ถ้าไม่มี ต้องเรียนภาษาก่อน 1ปี โดยทุนครอบคลุม
การเลือกมหาวิทยาลัย
สำหรับผม ผมเลือกสมัครโดยผ่านทางมหาวิทยาลัย ซึ่งเลือกได้ มหาวิทยาลัยเดียวเท่านั้น ดังนั้น จึงพิจารณาอยู่นานพอสมควร เพราะไม่เคยมีข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อที่เกาหลีใต้มาก่อน ซึ่งขอเล่ารายละเอียดการพิจารณาของผมคร่าวๆ ดังนี้
- เริ่มดูจาก LIST มหาวิทยาลัย ในประกาศรับสมัครทุน ว่ามี ม.ไหน ที่เปิดสอนในสาขาที่ผมสนใจบ้าง และจากการพิจารณาทักษะความสามารถและขีดจำกัดของสมองอันน้อยนิดแล้ว คาดการณ์ว่า แม้จะได้เรียนภาษาเกาหลีก่อน1ปี ก็อาจจะไม่ไหวสำหรับเรียน ป.เอก แน่ ดังนั้น จึงเลือก ม.ที่เปิดหลักสูตรภาษาอังกฤษด้วย เพราะอย่างน้อยๆ ก็จบ ป.โท หลักสูตรอินเต๊ออินเตอร์จากพี่จีนมา ดังนั้นน่าจะพองูๆปลาๆไปได้จนจบ ป.เอก
- พอได้รายชื่อ ม. ตามเงื่อนไขของผมในข้อที่ผ่านมา ผมจึงเริ่มหาข้อมูลใน Google และเว็บไซต์ของ ม.นั้นๆ เกี่ยวกับ ม.นั้น ทั้งสถานที่ตั้ง สภาพภูมิอากาศ การใช้ชีวิต แลปวิจัยทางด้านที่ผมสนใจ รวมถึงชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ซึ่งข้อสุดท้ายนี้ ผมไม่ค่อยสนใจมากเท่าไหร่ เพราะผมคิดว่า การเรียนต่อในต่างประเทศ เราควรเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเราที่สุด และมั่นใจว่าเราจะอยู่ได้จนเรียนจบ ดังนั้น สถานที่ตั้ง สภาพภูมิอากาศ การใช้ชีวิต และแลปวิจัยที่ผมจะต้องไปทำ มีผลมากกว่าชื่อเสียงของ ม.
- ก่อนที่ผมจะตัดสินใจได้ว่าเลือก ม.ไหน ผมได้ลองส่งอีเมล์ไปติดต่อยังแลปที่ผมสนใจทำวิจัยด้วย ซึ่งจริงๆตรงนี้ ไม่ได้มีการกำหนดเอาไว้ ว่าเราจำเป็นต้องติดต่อแลป หรืออาจารย์ที่ปรึกษาก่อน แต่จากประสบการณ์จากการเรียน ป.โท ที่ประเทศจีน ผมคิดว่ามันเป็นการสร้างโอกาสให้ตัวเองทางหนึ่ง อย่างน้อยๆถ้ามีแลปหรือที่ปรึกษารับเรา ก็ทำให้อุ่นใจขึ้น เหมือนได้ของขลังติดตัว ฮ่าๆ
- ผมได้ติดต่อไปประมาณ 3-4แลป ซึ่งรอประมาณอาทิตย์กว่าๆ ก็ยังเงียบ ตอนนั้นก็เหลือเวลาอีกไม่มากในการสมัครทุน จึงตัดสินใจแล้วว่า ลองส่งอีก1แลป หากไม่ตอบกลับ ก็จะลองเสี่ยงสมัคร ม.ใด ม.หนึ่งนี่แหละ แต่ในที่สุด แลปสุดท้ายที่ส่งอีเมล์ไป ก็ตอบรับกลับมา ในเวลาไม่ถึง 24ชม. ซึ่งตอนนั้นดีใจมาก ราวกับว่าจะได้ทุนแล้ว ฮ่าๆ คือมันเป็นความรู้สึกที่เคว้งมานาน ส่งหาใครก็ไม่มีใครตอบเลย T__T โดย Prof.ที่เป็นหัวหน้าของแลปนี้ ติดต่อกลับมาว่าสนใจที่จะรับไปทำแลปด้วย และยินดีเขียนจดหมายรับรอง เพื่อแจ้งความจำนงว่าจะรับเด็กต่างด้าวคนนี้เป็นเด็กในสังกัด หากได้รับทุน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจสมัคร ม.นี้ และก็เตรียมตัวส่งเอกสารต่างๆไปสมัครทุน ตามกำหนดของทุนรัฐบาลเกาหลีใต้
เรื่องราวของเอกสารสมัครทุน
ดูเหมือนว่า สิ่งที่ผมเล่ามา มันก็คือข้อมูลทั่วๆไป และน่าจะราบรื่น แต่!!! ไม่เป็นเช่นนั้นฮะ ,,,พอมานั่งดูรายละเอียดของการสมัครทุน มาเจอะกับส่วนของใบปริญญาและ Transcript ที่ต้องเป็นแบบ Notarized ก็คือต้องรับรองโดยกรมการกงสุล หรือหน่วยงานที่รับรองเอกสารโดยตรง ซึ่งผมสมัครในระดับปริญญาเอก ต้องส่งเอกสารทั้ง ป.ตรี และ ป.โท โดย ป.ตรี ไม่เป็นปัญหา เพราะจบที่ไทย สามารถนำเอกสารไปรับรองที่กรมการกงสุลได้ แต่จุด CLIMAX อยู่ที่จบจากจีนนี่แหละ เพราะเป็นเอกสารของจีน ทางกรมการกงสุลรับรองไม่ได้ และได้ติดต่อไปยังสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ก็ได้รับคำตอบว่า รับรองให้ไม่ได้เช่นกัน ต้องให้หน่วยงานรับรองเอกสารของจีน รับรองเท่านั้น!!!
ตอนนั้นยอมรับว่าเคว้งเลยฮะ คือเป็นความผิดของผมเอง ที่ไม่หาข้อมูลเกี่ยวกับการรับรองเอกสาร ก่อนที่จะกลับมาเมืองไทย ><
แบบว่าตอนนั้นคิดว่า คงไม่ได้สมัครทุนแน่ๆ เพราะเหลือเวลาอีกไม่มาก ไม่ถึง15วัน แล้วจะบินกลับไปจีนยังไง และ Process การรับรองเอกสารของจีนเกิน 15วันแน่ๆ แต่ตอนนั้นยังไม่ยอมแพ้ครับ ก็พยายามติดต่อหน่วยงานรับรองเอกสารของจีน ที่ตั้งอยู่ในมหานครปักกิ่ง ว่าหากเราส่งเอกสารไปให้ทางไปรษณีย์จะได้ไหม เขาตอบว่าได้ แต่ระยะเวลาการรับรองก็นานพอสมควร (จำไม่ได้ว่านานแค่ไหน แต่ตอนนั้นคิดว่าไม่ทันแน่ๆ และอีกอย่างกลัวว่าพี่ไปรษณีย์ไทยจะมอบของขวัญให้ผมอย่างงาม >< เพราะต้องแนบใบปริญญาตัวจริงไปด้วย…บอกตรงๆว่ากลัวฮะ)
ดังนั้น หนทางสุดท้ายที่พยายามทำให้ได้สมัคร เพราะถ้าหากเราไม่ทำอะไรเลย ไม่ได้สมัคร มันเท่ากับโอกาสเป็น0 แต่อย่างน้อยได้สมัคร โอกาสก็ยังพอมี ,,,ผมจึงติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ของ ม. ที่ดูแลเรื่องการสมัครทุน โดยเล่าปัญหาของผมให้เขาฟัง ซึ่งตอนแรกเขาก็ยืนยันว่าต้องส่งแบบ Notarized แต่สุดท้ายเขาบอกว่า งั้นส่งตัวจริงมา แต่ไม่รู้นะว่าโอเคไหม เพราะปกติแล้วเอกสารปริญญาและTranscript ต้อง Notarized เท่านั้น เพื่อป้องกันการปลอมแปลง และเช็คได้ว่าคือของจริง จบจริง
ได้ฟังแบบนี้ก็ดีใจฮะ แต่มามองดูความเป็นจริง …อ้าวเฮ้ย ส่งตัวจริง? คือใบ Transcript ยังโอเค ขอมาหลายชุด แต่ใบปริญญานี่สิ พี่จีนให้มาใบเดียว และจะขอใบรับรองวุฒิที่ขอได้เรื่อยๆ แบบเมืองไทย ก็ไม่มีให้ !!! แต่ยังพอมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เมื่อนึกขึ้นได้ว่า คนที่จบจากจีน จะได้เอกสารมา 4ใบ คือใบปริญญาบัตร 2ใบ เวอร์ชั่นจีนและอังกฤษ ซึ่งออกโดยกระทรวงการศึกษาจีน และ ใบจบการศึกษาที่ออกโดยมหาวิทยาลัยเอง เวอร์ชั่นจีนและอังกฤษเช่นกัน โดยใบนี้เป็นการบอกว่าจบ ได้วุฒิอะไร แต่ไม่ใช่ใบปริญญาบัตรที่ออกโดยกระทรวงการศึกษาจีน แต่ก็ยังดี ที่ยังมีบอกวุฒิ และ ม.ที่จบ ดังนั้นจึงส่งใบจบการศึกษาตัวจริง เวอร์ชั่นอังกฤษไปเลย …อยากได้ทุนเขา ก็ต้องลองเสี่ยงฮะ
พอส่งเอกสารไปแล้ว ตอนนั้นส่งโดย DHL ที่จังหวัดเชียงใหม่ ค่าส่งตอนนั้นประมาณพันกว่าบาท ,,,ใช้เวลาประมาณ 3วันก็ถึง ทันวันปิดรับสมัครพอดี แต่…
เรื่องราวยังคงไม่จบ ปัญหาเอกสาร notarized จบไป มีปัญหาใหม่ตามมา คือใบ Transcript !!!
ปัญหาคือ Grade conversion …
ผมได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ม. คนเดิม ว่า เอกสาร Transcript ของผมมีปัญหา ซึ่งปัญหาเกิดจากในใบ Transcript ไม่มีเกรดเฉลี่ยรวม ซึ่งแม้ผมจะหาค่าเฉลี่ยเอง และเขียนกำกับไว้ พร้อมกับเทียบเคียงจาก scale ในระบบ 4.0 ตามรายละเอียดในประกาศรับสมัครทุน แต่ทาง ม.แจ้งว่า ไม่ได้ !!! คือมันดูไม่น่าเชื่อถือ ,,,ให้ผมติดต่อ ม. และให้ ม.ส่ง Transcript ที่มีการคิดเกรดเฉลี่ยมาให้เรียบร้อย ,,,ผมจึงรีบติดต่อ ม.ที่จีนในวันนั้นเลย แต่ปัญหาคือ ทาง ม.ที่จีน ตอบกลับมาว่า “เราไม่มีนโยบายที่จะออก Transcript แบบนี้” “เราออกได้แต่ Transcript แบบนั้น ที่ออกไปแล้ว”
,,,ความรู้สึกตอนนั้น บอกเลยว่า “พัง!!!”
แต่ช้าก่อน แม้จะจิตตก นอยด์ขนาดไหน แต่ยังไม่ยอมแพ้ครับ ,,,สวมจิตวิญญาณนักต่อรองอีกครั้ง คือผมคิดอย่างเดียวว่า โอกาสมันยังมี เราต้องวิ่งเข้าหาโอกาส อย่าเพิ่งปิดประตูแพ้ให้ตัวเอง ตราบใดที่มันยังพอมีหนทาง ต้องทำให้สุด ถ้าไม่มีทางแล้ว ค่อยยอมแพ้แล้วกระโดดลงเหวก็ไม่สาย
ผมโทรทางไกลไปหาเจ้าหน้าที่ที่เกาหลีใต้อีกครั้ง โดยบอกถึงเหตุผลให้เขา ซึ่งเขารับฟังเป็นอย่างดี และบอกว่ารอสักครู่ เดี๋ยวจะติดต่อกลับทางอีเมล์
สักพักเขาอีเมล์กลับมา และแนะนำว่า ให้ส่งเอกสาร Transcript ไปตรวจสอบและ convert ให้เป็นในระบบ 4.0 จากบริการของบริษัทที่น่าไว้ใจในอเมริกา ซึ่งค่อนข้างแพงมาก และใช้เวลานานเหมือนกัน รู้สึกจะมากกว่า 7วัน ซึ่งคงไม่ทันแน่ ,,,เลยต่อรองกับเขา(อีกแล้ว) เขาเลยบอกว่า งั้นลองใช้บริการ conversion ฟรี แต่ไม่รับรองว่าจะโอเคไหม เพราะเป็นระบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ไม่ได้มีตราประทับรับรองใดๆ
โดยเขาแนะนำให้ใช้ http://www.foreigncredits.com/Resources/GPA-Calculator/
ผมก็ทำตามที่เขาบอก และ save ผล conversion และส่งไปให้เขาทางอีเมล์ เพราะตอนนั้น หาก Print ส่งไป ไม่ทันแน่ๆ ><
สุดท้ายปัญหาเรื่องเอกสารก็จบไป ซึ่งดูเหมือนว่า จะไม่ใช่ปัญหามากมายอะไร แต่ขอบอกว่า ณ ตอนนั้น เป็นปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่จริงๆ เพราะผมเข้าใจดีว่า ในการสมัครทุน สมัครเรียนต่อ เอกสารเป็นสิ่งสำคัญ แต่ผมก็ผ่านมันมาได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนนั้น บอกว่า ให้รอดูผลว่าจะโอเคไหม และทิ้งท้ายว่า แม้จะผ่านการคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยของเขา แต่ไม่แน่ใจว่าพอไปถึงทางรัฐบาลเกาหลีคัด เลือก จะเป็นเช่นไร คงต้องไปเสี่ยงดวง ว่าทางรัฐบาลเกาหลี จะซีเรียสกับเอกสารมากน้อยแค่ไหน T___T แต่เอาวะ อย่างน้อยก็ได้ส่งเอกสาร ได้สมัคร ..เย้!!!
หลังจากสมัครเสร็จเรียบร้อย เวลาผ่านไปสักระยะ ผมเห็นในกลุ่มผู้สมัครทุนใน Facebook บอกว่า ได้รับเมล์จาก ม.ของผม ให้ตอบแบบสอบถามเบื้องต้น ผมเลยเช็คเมล์ดู ,,,ปรากฏว่า ผมไม่ได้รับ!!! จึงไปสอบถามคนที่สมัคร ม.ผม และได้รับเมล์ เขาบอกว่าได้รับตั้งแต่ตอนเช้า ,,, ตอนนั้นบอกกับตัวเอง อ้าว!!! ซวยแว้วกรู …สงสัยจะไม่ผ่าน T___T