ไม่รู้ว่ามีใครทันได้ยินเหมือนผม ตอนที่ครูคาบหนึ่งกำลังสอนและพูดถึงเรื่อง มิติที่หนึ่ง มิติที่สอง อยู่มั่ง พอผมได้ยินเรื่องมิติแค่นั้นล่ะ ผมว่ามันต้องเป็นการใบ้ตอนจบที่ต้องเกี่ยวกับ การชนกันและบิดเบี้ยวของเอกภพคู่ขนาน (parallel universe ) แน่ๆเลย
สิ่งที่ผมคิดไว้:
เสียงดนตรีที่ได้ยินนั้น เป็นเพลงที่ถูกแต่งขึ้นโดยครูฟิสิกส์คนนึงที่เก่งมากๆในโรงเรียน ที่คลั่งไคล้เรื่องทฤษฏีเอกภพคู่ขนานว่ามันมีอยู่จริง ซึ่งสถานที่ทดลองประตูมิติของเขาคือที่ห้องโสตแห่งนี้ วันหนึ่งการทดลองสำเร็จกึ่งผิดพลาด ทำให้ครูหลุดไปอยู่อีกเอกภพหนึ่งและทำให้เสียชีวิตลงเพราะเหลือตัวขาดครึ่งท่อนล่างเอาไว้ ส่วนท่อนบนไปอยู่อีกมิติหนึ่งแล้ว ไม่มีใครหาตัวท่อนบนของครูเจอ คิดว่าเป็นการฆาตกรรม ห้องโสตจึงถูกปิดตาย
ดนตรีเชลโล่นี้ครูแต่งขึ้นไว้เพื่อให้ส่งผลต่อระบบโสตประสาทโดยตรง เมื่อได้ยินแล้วจะช่วยให้หลุดไปสู่อีกเอกภพได้ง่ายๆ
สาเหตุที่เพลงมันเล่นได้เอง ก็เพราะครูเปิดมาจากอีกเอกภพหนึ่ง (ครูอาจตายแล้วหรือไม่ก็ได้ และคือเอกภพทั้งสองมันชนกันแล้ว) จึงเปิดทดลองซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆ ในอีกเอกภพหนึ่งซึ่งมีห้องโสตที่อุปกรณ์ใช้งานได้ดี (แต่เอกภพออริจินอลนี้ ห้องโสตเครื่องพัง) นี่ถึงเป็นเหตุว่า ทำไมหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอว่าต้นตอของเสียงมาจากไหน ก็เพราะว่าเปิดจากอีกเอกภพหนึ่ง
การที่เพื่อนคนนึงของเกมส์วิ่งชนโกลฟุตบอลหัวชนตาย เพราะเมื่อได้ยินเพลงนี้แล้วทำให้หลุดไปอยู่อีกเอกภพหนึ่งซึ่งสนามไม่มีโกล เป็นสนามเปล่าๆ แต่ที่จริงแล้วเขากำลังอยู่ในเอกภพออริจินอลซึ่งมีโกลตั้งอยู่ แต่มองไม่เห็น ไม่ได้ตั้งใจจะวิ่งมาชนหรอก อาจกำลังวิ่งเตะบอลเฉยๆในอีกเอกภพหนึ่ง จึงทำให้ต้องตาย มันจึงเป็นอุบัติเหตุ ตรงนี้ถ้าเอาเรื่องวิ่งชนของอีกสองคนที่เหลือมาเล่นดีๆนะ จะเจ๋งมากๆๆๆๆ ทำไม่ไม่สร้างแบบนี้เนี่ยยยยย
สิ่งที่เป็น:
หลอกวิศรุตเป็นตัวการ แต่ไอ้อ้วนนั้นโผล่มาจากไหน คืออารมณ์เสียสุดๆๆๆ ไม่อินเอามากๆๆๆ ไม่มีที่มาที่ไป เล่นง่ายๆงี้เลยเหรอ - - "
อีกอย่างคือเดาง่ายมากๆ ว่าไม่ใช่วิศรุตหรอกที่เป็นผี อย่ามาพยายามหลอกเลย เพราะมันมีเรื่องเกิดขึ้นก่อนหน้าอยู่แล้ว แต่วิศรุตเพิ่งมาถูกแกล้ง คงไม่ใช่วิศรุตแน่ๆ คือ ไม่ได้เดา ว่าวิศรุตเป็นตัวการเลยอะ - -"
------------------------------------------------------
เอเลี่ยนเลือดเขียวเอย กอลั่มไร้กระดูกเอย ก็มีมาหมดละ ครั้งนี้ ไอเราก็คิดว่าไม่ใช่ผีจูออนง่ายๆแบบนี้แน่นอน ที่ไหนได้ เด็กสมบูรณ์ใส่คอนแทคเลนส์สีเชลโล่ซะงั้น - -"
ห่วยมากๆๆ ดนตรีหลอน และ disturbing แบบไม่เหมาะกับตอนจบที่สุด
1 / 10
[ตอน เสียงตามสาย] คิดว่าพล็อตเรื่องเกี่ยวกับเอกภพคู่ขนานซะอีก เหอๆ เฟลแป๊ป
สิ่งที่ผมคิดไว้:
เสียงดนตรีที่ได้ยินนั้น เป็นเพลงที่ถูกแต่งขึ้นโดยครูฟิสิกส์คนนึงที่เก่งมากๆในโรงเรียน ที่คลั่งไคล้เรื่องทฤษฏีเอกภพคู่ขนานว่ามันมีอยู่จริง ซึ่งสถานที่ทดลองประตูมิติของเขาคือที่ห้องโสตแห่งนี้ วันหนึ่งการทดลองสำเร็จกึ่งผิดพลาด ทำให้ครูหลุดไปอยู่อีกเอกภพหนึ่งและทำให้เสียชีวิตลงเพราะเหลือตัวขาดครึ่งท่อนล่างเอาไว้ ส่วนท่อนบนไปอยู่อีกมิติหนึ่งแล้ว ไม่มีใครหาตัวท่อนบนของครูเจอ คิดว่าเป็นการฆาตกรรม ห้องโสตจึงถูกปิดตาย
ดนตรีเชลโล่นี้ครูแต่งขึ้นไว้เพื่อให้ส่งผลต่อระบบโสตประสาทโดยตรง เมื่อได้ยินแล้วจะช่วยให้หลุดไปสู่อีกเอกภพได้ง่ายๆ
สาเหตุที่เพลงมันเล่นได้เอง ก็เพราะครูเปิดมาจากอีกเอกภพหนึ่ง (ครูอาจตายแล้วหรือไม่ก็ได้ และคือเอกภพทั้งสองมันชนกันแล้ว) จึงเปิดทดลองซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆ ในอีกเอกภพหนึ่งซึ่งมีห้องโสตที่อุปกรณ์ใช้งานได้ดี (แต่เอกภพออริจินอลนี้ ห้องโสตเครื่องพัง) นี่ถึงเป็นเหตุว่า ทำไมหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอว่าต้นตอของเสียงมาจากไหน ก็เพราะว่าเปิดจากอีกเอกภพหนึ่ง
การที่เพื่อนคนนึงของเกมส์วิ่งชนโกลฟุตบอลหัวชนตาย เพราะเมื่อได้ยินเพลงนี้แล้วทำให้หลุดไปอยู่อีกเอกภพหนึ่งซึ่งสนามไม่มีโกล เป็นสนามเปล่าๆ แต่ที่จริงแล้วเขากำลังอยู่ในเอกภพออริจินอลซึ่งมีโกลตั้งอยู่ แต่มองไม่เห็น ไม่ได้ตั้งใจจะวิ่งมาชนหรอก อาจกำลังวิ่งเตะบอลเฉยๆในอีกเอกภพหนึ่ง จึงทำให้ต้องตาย มันจึงเป็นอุบัติเหตุ ตรงนี้ถ้าเอาเรื่องวิ่งชนของอีกสองคนที่เหลือมาเล่นดีๆนะ จะเจ๋งมากๆๆๆๆ ทำไม่ไม่สร้างแบบนี้เนี่ยยยยย
สิ่งที่เป็น:
หลอกวิศรุตเป็นตัวการ แต่ไอ้อ้วนนั้นโผล่มาจากไหน คืออารมณ์เสียสุดๆๆๆ ไม่อินเอามากๆๆๆ ไม่มีที่มาที่ไป เล่นง่ายๆงี้เลยเหรอ - - "
อีกอย่างคือเดาง่ายมากๆ ว่าไม่ใช่วิศรุตหรอกที่เป็นผี อย่ามาพยายามหลอกเลย เพราะมันมีเรื่องเกิดขึ้นก่อนหน้าอยู่แล้ว แต่วิศรุตเพิ่งมาถูกแกล้ง คงไม่ใช่วิศรุตแน่ๆ คือ ไม่ได้เดา ว่าวิศรุตเป็นตัวการเลยอะ - -"
------------------------------------------------------
เอเลี่ยนเลือดเขียวเอย กอลั่มไร้กระดูกเอย ก็มีมาหมดละ ครั้งนี้ ไอเราก็คิดว่าไม่ใช่ผีจูออนง่ายๆแบบนี้แน่นอน ที่ไหนได้ เด็กสมบูรณ์ใส่คอนแทคเลนส์สีเชลโล่ซะงั้น - -"
ห่วยมากๆๆ ดนตรีหลอน และ disturbing แบบไม่เหมาะกับตอนจบที่สุด
1 / 10