7 แนวทางที่จะทำให้เราได้กำไรจาก Day Trade ตอนที่ 1

การปล่อยให้ผลกำไรงอกขึ้นเทรดเดอร์จะทำไม่เหมือนกัน ซึ่งจะต้องอาศัยแรงเหวี่ยงและการตั้งเป้าหมายทำกำไรอย่างเหนียวแน่น เทรดเดอร์หลายคนที่ชอบปล่อยให้ผลกำไรเพิ่มขึ้นก็ทำให้เทรดเดอร์หลายคนเสียสมาธิและเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเองมากขึ้นเช่นกัน

เทรดเดอร์หลายคนคิดว่า ไม่ต้องไปกังวลกับการเล่นหุ้นแต่ละครั้ง แต่จะต้องเข้าใจตลาดระยะยาวในแต่ละช่วงเวลา คิดว่าทำกำไรไม่กี่ครั้งในแต่ละปีก็โอเคแล้ว

ก่อนที่เราจะอ่านบทความนี้ เราจะต้องตอบคำถามตัวเองอย่างมีเกียรติ์ก่อนว่า เราเป็นเทรดเดอร์แบบไหน?

หากเราเป็นเทรดเดอร์ที่ยึดมั่นกับเป้าหมายทำกำไร (อย่างเช่นจะทำให้ได้ 8 %) การปล่อยผลกำไรเพิ่มขึ้นไม่เหมาะสมสำหรับเรา ทั้งยังจะเจอกับความเจ็บปวดเมื่อทิศทางการเคลื่อนไหวตรงข้ามกับที่เราคิดเอาไว้ และก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูแย่

ตอนนี้หากเราเป็นเทรดเดอร์อีกแบบหนึ่ง ก็จะต้องดูปฎิกิริยาของตลาดหุ้นด้วยว่าเป็นอย่างไร ผมจะเขียนบทความนี้ให้กระจ่างชัดว่าจะปล่อยให้ผลกำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างไร

เราจะเห็นได้ว่ามันไม่มีสูตรไหนที่ทำกำไรได้สมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเป็นวิธีอะไรก็ตาม แต่จะต้องดูความแตกต่างตลาดหุ้นให้ดีก่อนว่า ตลาดหุ้นมันมีกุญแจดอกไหนที่เราจะเข้าไปไขได้บ้าง ซึ่งเราจะต้องดูตัวเองดังนี้


1.เราจะต้องมีทัศนคติที่จะเอาชนะก่อน

ทัศนคติที่เอาชนะจะต้องมีอยู่ในชีวิตของเราหากเราอยากประสบความสำเร็จได้ตามที่เราวางแผนเอาไว้ หากเราไม่เชื่อว่าตัวเองจะชนะ แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ?

เหตุผลก็คือ เทรดเดอร์มักจะหลอกตัวเองเสมอว่า คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง นี่ถือเป็นมายาคติที่ครอบงำเรามาโดยตลอด เมื่อเราเล่นหุ้น เราอาจจะลืมไปว่า มนุษย์เองก็ต้องมีการซื้อขายแปรปรวนแบบนี้เสมอ จนเกิดกระทิงหรือหมีขึ้นมา

การเล่นหุ้นส่วนหนึ่งเราจะไม่เห็นมุมมองอีกด้านหนึ่ง การทำเงินที่ชาญฉลาดจะต้องทำให้ได้ทั้งขาขึ้นหรือลงก่อนที่จะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่

บางทีเราก็ต้องมาถามตัวเองว่า “เรามีทัศนคติที่เป็นบวกทุกๆครั้งหรือเปล่า”

แม้ว่าทุกๆคนจะตัดขาดทุนได้ตามสัญญาเทคนิคหรือตามข้อมูลข่าวสาร เทรดเดอร์บางคนก็สามารถตีความข้อมูลได้ว่าจะประสบความสำเร็จในการทำเงินได้อย่างไร

ความสำเร็จนี้เพื่อนของผมก็มีทัศนคติแบบนี้มาก่อน ลองคิดดูสิว่า เมื่อเราเห็นหุ้นที่เป็นขาขึ้น เราจะต้องล็อคเป้าขายทำกำไรหรือเปล่า หรือจะปล่อยให้การเคลื่อนไหวมันเป็นไปตามคนควบคุมราคาล่ะ?

เทรดเดอร์ที่ทำกำไรได้จะเข้าใจการเคลื่อนไหวราคาหุ้นเหมือนกับพวกเรานี่แหละ อย่างไรก็ดีเขาหรือเธอไม่สามารถตีความหมายได้เหมือนกันว่ามันเคลื่อนไหวยังไง พวกเขาจะเห็นสัญญาณที่เป็นขาขึ้นที่ดี และสบายใจกับการดูกราฟหุ้นโดยที่ไม่มีอารมณ์ด้านลบเข้ามาเกี่ยวข้อง

ทัศนคติแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถบริหารจัดการเงินทุนตัวเองได้ หมายความว่าพวกเขาเชื่อว่าตลาดจะต้องไม่ได้รับความเสียหายแน่ๆเมื่อดูทิศทางภาพรวมแล้ว
แล้วเรามีทัศนคติอย่างไรกับตลาดล่ะ?

หากเรารู้สึกว่าใจของเรายังไม่สามารถยอมรับชัยชนะได้ ผมอยากจะบอกกับพวกเราว่า เราไม่สามารถทำกำไรได้ตอนนี้หรอก เราจะต้องหาเหตุผลบางอย่างมาลบล้างทัศนคติออกไปเพื่อให้เราเดินหน้าทำกำไรได้


2.ความคิดของเราคิดอย่างไรกับการทำกำไรและขาดทุน

เริ่มแรกที่ผมได้เข้าสู่อาชีพนี้ ผมก็ได้อ่านความคิดเกี่ยวกับว่าจะปรับแนวคิดให้ตัวเองทำกำไรและเข้าใจการขาดทุนให้กลายเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างไร
ผมจำได้ว่ามีเทคนิคบางอย่างที่ทำให้ผมสามารถชนะได้และทำให้ผมมีสมาธิมากขึ้น ก็คือ “อย่าไปมองที่เงิน แต่ให้มองกราฟหุ้นเป็นหลัก”

แน่นอนว่าผมได้ทำการตรวจสอบเงินในบัญชีของผมและชั่งน้ำหนักแล้วว่าจะต้องทำกำไรยังไงบ้าง ก่อนที่ผมจะทำเงินได้ในตลาดหุ้น ก็จะต้องกลับมาดูแนวคิดตัวเองอีกครั้งนึงก่อนว่า ยังมีตรงไหนที่ยังไม่เข้าใจบ้าง

ในทางตรงกันข้าม เมื่อผมขาดทุน ไม่เพียงแค่จะได้รับผลกระทบจากเงินในบัญชีเท่านั้น แต่ยังกระทบต่ออารมณ์ของผมด้วย ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจมน้ำลึกขึ้นเรื่อยๆ

อารมณ์ด้านลบทำให้เราจะต้องจับตาดูว่า ตัวเองเดินเกมพลาดยังไง เราจะต้องคิดเกี่ยวกับการทำกำไรให้มากขึ้น สิ่งแรกที่เราจะต้องทำเลยก็คือ ดูอัตราผลแพ้ชนะในแต่ละครั้ง หากเราไม่รู้ ก็ต้องกลับไปคิดทบทวนตัวเองใหม่

อัตราชนะควรจะได้ประมาณ 50 % ในแต่ละครั้ง หากเราสามารถแก้ไขตัวเองให้เดินหน้าต่อได้ เราก็จะรู้ว่าการเล่นหุ้นแต่ละครั้งจะเป็นอย่างไร ตอนนี้เราจะต้องเพิ่มระดับให้ตัวเองชนะบ่อยขึ้น

แล้วเราคิดว่าตัวเองจะได้ชัยชนะสักกี่ครั้งในการทำกำไร?

แน่นอนว่าความจริงแล้วการเล่นหุ้นไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองเก่งกาจอะไร เราอาจจะตกใจที่การเล่นหุ้นของเราไม่ประสบความสำเร็จก็ด้วยเหตุผลนี้

ให้ผมอธิบายในบทความนี้ให้เข้าใจก่อนว่า ก่อนที่จะเข้าไปเล่น เราจะต้องเข้าใจการทำกำไรในแต่ละช่วงเวลา ที่ช่วยให้เราเข้าใจการเล่นหุ้นทุกๆครั้งว่า ไม่ได้ทำให้เราตีโฮมรันได้ตลอดและเราจะต้องเข้าใจอัตราผลแพ้ชนะในการทำกำไร ปรับความคิดแบบนี้จะช่วยให้เรามองโอกาสครั้งต่อๆไปในการเล่นหุ้นได้

สิ่งที่เราไม่ควรทำก็คือ ทัศนคติที่คิดว่าตัวเองจะต้องขาดทุนแน่ๆ หมายความว่าเราพูดกับตัวเองว่า “มีโอกาสชนะแค่ 50 % เท่านั้นเอง แบบนี้ปิดตาเล่นหุ้นจะดีกว่า”

คิดผิดมหันต์แล้ว การเล่นหุ้นเราจะต้องเล่นโดยปราศจากความกลัวและเรียนรู้อยู่เสมอว่าที่ผ่านมาเราเล่นหุ้นมายังไงบ้าง เพิ่มศักยภาพของตัวเอง แล้วก็สังเกตตัวเองว่าจะต้องพัฒนาตัวเองอย่างไรต่อไปและจะเริ่มต้นใหม่ยังไง

ติดตามชมตอนต่อไป

โชคดีมีกำไร

ผู้เขียน : Anton Hill

ผู้แปล : Mr.lawrence10

ที่มา : tradingsim.com

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่