หากเราเคยรายการที่ชื่อว่า House นั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Dr.Gregory มีการประเมินและการปฏิบัติต่อคนไข้ได้เป็นอย่างดี เขาเป็นคุณหมอที่ดีมากคนหนึ่ง (จากทีวีนะ) แต่เขาก็คิดว่าตัวเองไม่ได้ประเมินถูกต้องเสมอไป สิ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจก็คือเขายอมรับว่าตัวเองผิดพลาดอยู่บ่อยครั้งและเขาก็ยังช่วยชีวิตคนไข้อย่างต่อเนื่อง
คุณหมอมีการฝึกฝนปฏิบัติในการเรื่องใช้ยาเป็นอย่างดี บางครั้งเขาก็ถูกและบางครั้งก็ลงมือผิดพลาดบ้าง แต่เขาก็ยังตั้งใจทำงานแก้ปัญหาต่อไปและพยายามทำตามให้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนหากว่ามีความจำเป็นจริงๆ กุญแจก็คือความตั้งใจของเขาที่มีต่อผลลัพธ์ที่ออกมา การตัดสินใจถือเป็นส่วนหนึ่ง แต่จะต้องปรับอารมณ์ตัวเองให้เข้ากับแบบแผนในแต่ละเกมที่ถือเป็นส่วนที่สำคัญในการเดินไปให้ถึงเป้าหมาย
มันมีความแตกต่างกับเทรดเดอร์ยังไงงั้นเหรอ? ก็ไม่ต่างมากหรอก ผมคิดว่าการเป็นเทรดเดอร์โดยเฉพาะใครที่ชอบใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้น จะต้องมีพื้นฐานในการตัดสินใจที่สำคัญ ประเมินผลลัพธ์ที่ออกมาและจากนั้นก็ปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามที่เราต้องการ เป้าหมายของเราก็คือการทำกำไรและก็หาแนวทางที่ประสบความสำเร็จให้ได้
การทำกำไรง่ายๆนั้น พวกเราจะต้องหาทางเลือกและยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น แต่นั่นเป็นเพียงแค่ก้าวแรกของการวางแผนเท่านั้น ทันทีที่เราทำได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องก้าวและทำการประเมินว่าตัวเองตัดสินใจได้ดีแค่ไหน เมื่อเราสามารคาดการณ์ได้ พวกเราก็สามารถทำตามแบบแผนและก็เล่นหุ้นด้วยความอดทนได้ เมื่อพวกเรายังมองไม่เห็นผลลัพธ์ ก็จะต้องย้อนกลับไปดูตัวเองแล้วก็เคลื่อนไหวไปข้างหน้าต่อไป
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นส่วนที่จะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับเล่ห์เหลี่ยมการเคลื่อนไหวแต่ละแบบ แต่มันก็เป็นเรื่องตลกที่นักเทคนิคบ่อยครั้งก็มักจะให้ความสำคัญกับปัจจัยทางด้านพื้นฐาน ผมเห็นว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคมันก็อธิบายถึงอุปสงค์ อุปทานอยู่แล้ว มันไม่จำเป็นที่จะต้องหาศาสตร์อย่างอื่นมาเข้าช่วย
หมอเองก็ต้องฝึกฝนการใช้ยา ตีความอาการต่างๆเพื่อทำการรักษา หลายครั้งก็จะต้องพบกับอาการใหม่ๆ ประสบการณ์ถือเป็นสิ่งล้ำค่ามากและทำให้เปิดกว้างทางความคิดในการรักษารูปแบบใหม่ๆ
เทรดเดอร์ที่เป็นนักเทคนิคก็จะมีแนวทางที่คล้ายคลึงกัน ที่จะมีการประเมินความเคลื่อนไหวในแต่ละช่วงเวลาและก็จับตากราฟหุ้นที่มีความชัดเจนในแต่ละปี ที่บางครั้งพบว่ามันก็ไม่ถูกต้องเสมอไป เทรดเดอร์อาจจะต้องเริ่มเข้าไปเล่นหุ้นบริเวณแนวรับหากว่าตลาดหุ้นมันเอื้ออำนวย แน่นอนว่ามุมมองทางเทคนิคก็อาจจะทำให้การเล่นหุ้นยากขึ้นหากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป และนักเทคนิคที่ฉลาดหลักแหลมจะรู้ดีหากเขาทำการบ้านมาดี ที่พวกเขารู้ว่าตลาดหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
เราจะต้องเป็นนักเรียนในตลาดหุ้น สังเกตจับตาดูผลลัพธ์อย่างใกล้ชิด และก็ยึดมั่นในการปฏิบัติแล้วก็ดูว่าแบบไหนได้ผล ไม่ได้ผล เราจะต้องเปิดกว้างทางความคิดที่อาจจะต้องปรับปรุงแก้ไข และจำไว้ว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะต้องฝึกฝนอยู่ต่อเนื่อง จะต้องนำแนวทางผสมผสานเท่าที่เรารู้และก็ปล่อยให้ตลาดหุ้นบอกกับพวกเราเองว่าจะต้องทำอย่างไร
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net
ฝึกฝนการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค
คุณหมอมีการฝึกฝนปฏิบัติในการเรื่องใช้ยาเป็นอย่างดี บางครั้งเขาก็ถูกและบางครั้งก็ลงมือผิดพลาดบ้าง แต่เขาก็ยังตั้งใจทำงานแก้ปัญหาต่อไปและพยายามทำตามให้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนหากว่ามีความจำเป็นจริงๆ กุญแจก็คือความตั้งใจของเขาที่มีต่อผลลัพธ์ที่ออกมา การตัดสินใจถือเป็นส่วนหนึ่ง แต่จะต้องปรับอารมณ์ตัวเองให้เข้ากับแบบแผนในแต่ละเกมที่ถือเป็นส่วนที่สำคัญในการเดินไปให้ถึงเป้าหมาย
มันมีความแตกต่างกับเทรดเดอร์ยังไงงั้นเหรอ? ก็ไม่ต่างมากหรอก ผมคิดว่าการเป็นเทรดเดอร์โดยเฉพาะใครที่ชอบใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้น จะต้องมีพื้นฐานในการตัดสินใจที่สำคัญ ประเมินผลลัพธ์ที่ออกมาและจากนั้นก็ปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามที่เราต้องการ เป้าหมายของเราก็คือการทำกำไรและก็หาแนวทางที่ประสบความสำเร็จให้ได้
การทำกำไรง่ายๆนั้น พวกเราจะต้องหาทางเลือกและยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น แต่นั่นเป็นเพียงแค่ก้าวแรกของการวางแผนเท่านั้น ทันทีที่เราทำได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องก้าวและทำการประเมินว่าตัวเองตัดสินใจได้ดีแค่ไหน เมื่อเราสามารคาดการณ์ได้ พวกเราก็สามารถทำตามแบบแผนและก็เล่นหุ้นด้วยความอดทนได้ เมื่อพวกเรายังมองไม่เห็นผลลัพธ์ ก็จะต้องย้อนกลับไปดูตัวเองแล้วก็เคลื่อนไหวไปข้างหน้าต่อไป
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นส่วนที่จะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับเล่ห์เหลี่ยมการเคลื่อนไหวแต่ละแบบ แต่มันก็เป็นเรื่องตลกที่นักเทคนิคบ่อยครั้งก็มักจะให้ความสำคัญกับปัจจัยทางด้านพื้นฐาน ผมเห็นว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคมันก็อธิบายถึงอุปสงค์ อุปทานอยู่แล้ว มันไม่จำเป็นที่จะต้องหาศาสตร์อย่างอื่นมาเข้าช่วย
หมอเองก็ต้องฝึกฝนการใช้ยา ตีความอาการต่างๆเพื่อทำการรักษา หลายครั้งก็จะต้องพบกับอาการใหม่ๆ ประสบการณ์ถือเป็นสิ่งล้ำค่ามากและทำให้เปิดกว้างทางความคิดในการรักษารูปแบบใหม่ๆ
เทรดเดอร์ที่เป็นนักเทคนิคก็จะมีแนวทางที่คล้ายคลึงกัน ที่จะมีการประเมินความเคลื่อนไหวในแต่ละช่วงเวลาและก็จับตากราฟหุ้นที่มีความชัดเจนในแต่ละปี ที่บางครั้งพบว่ามันก็ไม่ถูกต้องเสมอไป เทรดเดอร์อาจจะต้องเริ่มเข้าไปเล่นหุ้นบริเวณแนวรับหากว่าตลาดหุ้นมันเอื้ออำนวย แน่นอนว่ามุมมองทางเทคนิคก็อาจจะทำให้การเล่นหุ้นยากขึ้นหากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป และนักเทคนิคที่ฉลาดหลักแหลมจะรู้ดีหากเขาทำการบ้านมาดี ที่พวกเขารู้ว่าตลาดหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
เราจะต้องเป็นนักเรียนในตลาดหุ้น สังเกตจับตาดูผลลัพธ์อย่างใกล้ชิด และก็ยึดมั่นในการปฏิบัติแล้วก็ดูว่าแบบไหนได้ผล ไม่ได้ผล เราจะต้องเปิดกว้างทางความคิดที่อาจจะต้องปรับปรุงแก้ไข และจำไว้ว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะต้องฝึกฝนอยู่ต่อเนื่อง จะต้องนำแนวทางผสมผสานเท่าที่เรารู้และก็ปล่อยให้ตลาดหุ้นบอกกับพวกเราเองว่าจะต้องทำอย่างไร
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net