สวัสดีคะ คลิกเข้ามาชม อย่าเพิ่งกลับออกไปนะ (ขอร้องๆล่ะ 555 ) การเดินทาง จะสนุกเสมอ...ถ้าเราไปกับคนที่รู้ใจ  ที่สำคัญนะ จากอุบลราชธานี ไปจังหวัดเลย ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ลำบากนิดหน่อยเองคะ ถือซะว่า ท้าทายความสามารถของตัวเองกัน   จขกท. ก็เพิ่งไปจังหวัดเลยเป็นครั้งแรกเหมือนกัน ก่อนจะไปก็อ่านนู้นอ่านนี่ จนเกิดกิเลิส อยากไปๆ ก็เลยลุยเองซะเลย เย้ๆ พร้อมแล้ว !!!
อันดับแรกเลยนะคะ เรียกรถแท็กซี่มารับไป บขส.คะ หมดไป 30 บาท .....ตามด้วย ซื้อตั๋ว อุบลราชธานีไปขอนแก่นคะ หมดไป  277 บาท

นั่งรถประมาณ 5 ชั่วโมง ยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ มัวตื่นเต้นกันอยู่ ฮ่าๆ  พอถึง บขส.1 ขอนแก่น ต้องนั่งรถสองแถว ไป บขส.3 คะ หมดไป 10 บาท  พอถึงเท่านั้นแหละ วิ่งเข้าหา บริษัทขอนแก่นเมืองเลย ซื้อตั๋วอีกแล้ว หมดคนละ 94 บาทคะ

นั่งรถไปสามชั่วโมง คือนานมากกกกกกกกกกกก   พวกเราเห็นว่าค่ำแล้วคะ เลยตัดสินใจจะไปพักที่เชียงคานกัน ก็ลงรถกันที่ในอำเภอเลย  นั่งรถสองแถวไปเชียงคาน อีก 1 ชั่วโมงครึ่ง หมดคนละ 35 บาท  นั่งจนสุดสายคะ แล้วก็ลงตามพี่ๆกับผู้ใหญ่กลุ่มนึง แล้วเดินตามอย่างไม่รอช้า  จากนั้นก็โทรหาห้องพักที่เสิร์ชหาตอนนั่งรถ (ไม่เตรียมอะไรเลย ถ้าไม่มีที่นอนคง นอนข้างถนนกันล่ะ) แต่โชคดีคะ ได้ห้องพักคืนละ 400 บาท   เย้ๆ รอดแล้ว เป็นห้องพักที่น่าอยู่เลยทีเดียวคะ ไม่มีแอร์นะคะ (แค่นี้ก็หนาวแล้ว) แต่จำชื่อที่พักไม่ได้แล้ว แง่ว

มีฟูบหนาๆ ให้ปูนอนข้างล่างด้วย สบาย คุ้ม....คุ้มมาก   เพื่อนก็นอนข้างบน ส่วนเจ้าของกระทู้นอนข้างล่าง ด้วยความที่ว่าเป็นห้องไม้ เพื่อนจขกท.เป็นคนซุ่มซ่ามมาก  555 (ขายเพื่อนด้วย)

ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมคะ ไม่ถือกับวุ่นวาย ก็ส่วนตัวดีนะคะสะอาด สบายตา  และข้างหลังชั้นล่างมีระเบียงติดริมโขงด้วยล่ะ ให้นั่งเล่นได้ สบายใจจริงๆ บรรยากาศดีมากคะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา

พอได้ห้องพักแล้ว ก็รีบอาบน้ำมาเดินเล่นถนนคนเดินกับเพื่อน สองคน โรแมนติกจัง แฮ่ๆ

เดินๆ ไป เอ๊ะ !!!! เจอพี่ๆกลุ่มเดิม เดินเล่นซื้อของฝากแล้ว ก็นั่งเล่นริมระเบียงสักแปป ก็เข้านอน..

วันนี้ตื่นเช้าคะ ตีห้าก็ลุกแล้ว จะไปปั่นจักรยานเล่น ให้หมอกลงหัวเล่น ฮ่าๆ

พอสักหกโมงนิดๆ ก็มาใส่บาตรกันคะ (ทำบุญแต่เช้า คือดีอ่ะ) เมื่อคืนก็ได้รบกวนให้คุณยายเตรียมของใส่บาตรให้ ชุดละ 50 บาท

พอใส่บาตรเสร็จก็ปั่นจักรยานเล่นสักพัก (ต้องรีบออกจากที่นี้เพราะ ทริปนี้เราตั้งใจจะมาภูกระดึง จะมัวสนุกอยู่ที่นี้ไม่ได้ 555 )
ความโชคดีของพวกเราสองคนก็คือ เจ้าของที่พักเราจะไปส่งลูกชายที่ท่ารถพอดี ท่านผู้ใหญ่ใจดีของเรา เลยให้ติดรถไปด้วย ขอบคุณมากๆนะคะ ไว้โอกาสหน้าพักที่เดิมแน่ๆ แฮ่ๆ  พอถึงท่ารถ รถก็กำลังจะออกพอดี .....ซื้อตั๋วไปลงผานกเค้า หมดคนละ 115 บาท     นั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงปากทางผานกเค้าแล้ว

นี่ก็สายแล้วนะ ... 9.30 น. เหมารถสองแถวเข้าอุทยานเลย  200 บาท
พอถึงอุทยานก็รีบไปจ่ายค่าเข้าอุทยาน ค่าที่พัก(เต้นท์) 2 คืน หมดไป 500 บาท(สองคน) แล้วก็เอากระเป๋าไปชั่งกิโล จ้างลูกหาบ กิโลล่ะ 30 บาท 7 กิโล ก็ 210 พร้อมแล้ววววววว ลุยเลย
เริ่มลุยเวลา 10.30 น.
เลือกไม้ค้ำ ได้พอดีมือแล้วก็ลุยกันเลยคะ  
เห็นแค่บันได ใจก็ฮึดเลย จั้มอ้าวๆๆ
บรรยากาศดีคะ เดินแล้วไม่ร้อน เหนื่อยมากๆก็เริ่มร้อน ฮ่าๆ   เดินไป เล่นไป สักพัก (ใหญ่ๆ) ก็ถึง ซำแฮกคะ

เพื่อนจขกท.แอบบ่นด้วย ยกซดด้วย เหนื่อยโว้ย
พักสักแปป ก็ลุยกันต่อ หนทางอีกยาวไกล  
เดินไปคนเอียง หรือเส้นทางเอียงหว่า
  สู้ๆนะเธอ ฉันรอเธออยู่บนนี้นะ ฮ่าๆ
ตรงไหนมีที่ให้พัก เราพัก เรากินตลอดทาง สบายใจ
เที่ยงกว่าๆ แดดร้อน อยากพักไวๆ
ไกลไปไหนเนี๊ยยยย ใครเดินลง ก็หลอกเราสองคนตลอดเลย ว่าใกล้ถึงแล้ว ที่ไหนได้ น้ำตาจะไหล
มองลงไปสุดตา เหนื่อยแค่ไหน ก็สดชื่นเหมือนเดิมแฮะ

เย้ยๆ ถึงแล้วววววววววว เราคือผู้พิชิตภูกระดึง

ด้านหลังของป้าย สวยมาก ไม่เสียใจเลย ที่พยายามดั้นด้นขึ้นมาใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง สวรรค์ของข้า   ด้วยความที่เราไม่เคยมา เห็นป้ายก็ดีใจมาก นึกว่าถึงแล้ว ที่ไหนได้ ต้องเดินไปที่พักกลางเต้นท์อีก โด่ว วัยรุ่นนอยด์เลย  เดินต่อไปดีกว่า อีกแค่นิดเดียวเอง
อีกนานแค่ไหนนจะถึงที่ตรงนั้น ตรงที่ฉันใฝ่ฝันนน (ร้องเพลง ฮ่าๆ)
มองไปทางไหน ก็สวยไปหมด นี่คือตกหลุมรักใช่ไหม?
เดินมาเกือบสองชั่วโมง ก็เจอประตูห้องนอนที่ยิ่งใหญ่ พอมาถึงแล้วก็มุ่งหน้าไปที่จุดบริการนักท่องเที่ยว เช่า หมอน ผ้าห่ม เช่าเสร็จก็ไปเลือกเต้นท์ที่ชอบเลย
ชอบๆ ลองนอนดูแล้ว
ได้รับกระเป๋าแล้ว ก็เอาสัมภาระไปเก็บไว้ในเต้นท์รูดซิบให้เรียบร้อย ไปเช่าจักรยาน ปั่นไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูกดีกว่า เอาไฟฉาย เสื้อแขนยาว หมวกไปด้วย ลุยต่อกันเลยกับ 4 กิโลนี้ ไปกลับ 8 กิโล สบายๆ อยู่แล้ว ปั่นจักรยาน
พาโน สักรูป ....
ท้องฟ้าของที่นี่ ช่างงดงาม หลงรักเธอนะ (คนอ่านทุกคน)
นางแบบของจขกท. หน้าหักไปนิด ขออภัยด้วยนะคะ ก๊ากๆ
ตอนเห็นท้องฟ้าสีนี้ ความรู้สึกของวันนั้นคือ "โคตรมีความสุข"
พระอาทิตย์ก็ตกไปแล้ว .... เราก็ต้องปั่นจักรยานกลับแล้ว  แต่เอ๊ะ !!! ลืมบอกไป ปกติเพื่อนจขกท.เป็นคนเดินขึ้นเขาช้ามาก เผลอแปปๆก็พักๆ แต่พอได้ปั่นจักรยาน นางใส่ไม่ยั้ง นำหลิ้วววเลยยยย ....
กลับมาถึงเต้นท์ก็รีบไปอาบน้ำ วันนั้นอากาศหนาว ประมาณ 8 องศา แต่ก็ทนอาบนะ (ปกติอยู่บ้านไม่ค่อยอาบน้ำ ไปภูกระดึงดันอยากอาบ กรี๊ดๆ เป็นการอาบน้ำที่สะใจมาก ขอบอก ใครไปภูกระดึงไม่อาบน้ำ ถือว่าพลาดดดดดด !! พลาดในความรู้สึก  5555)  อาบน้ำเสร็จก็ไปทานข้าวคะ แล้วก็มานอน เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว .... พี่จ๋า ฉันเพลีย ฉันต้องการพักผ่อนน  

  สวัสดีตอนเช้าคะ (ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นขี้เกียจตื่น )
เซอร์ไพร้ส ท่านผู้ชม เมื่อคืนโดนทากดูด  เพราะกลับมาจากทานข้าวไม่ได้ดูว่า ที่เท้ามีอะไรเกาะไหม ใส่ถุงเท้าแล้วนอนเลย สภาพเช้ามาเป็นอย่างที่เห็นคะ  เพื่อนจขกท.กรี๊ดคะ ถามว่าเจ็บไหม??
จขกท.ก็ตอบกลับไปว่า "กรี๊ดทำไม คนโดนดูด ไม่รู้สึกอะไรเล้ยยยยย" 555 (ทำหน้าเฉยๆใส่เพื่อนด้วย)  จขกท.ก็เดินออกไปนอกเต้นท์แล้วก็แคะๆออก ไม่เจ็บไม่อะไรเลย (หรือเรามึนเองน๊าาาา)  เช้าแล้ว...อาบน้ำ ทานข้าวแล้วไปลุยกันต่อเลย....
ที่แรกของวันนี้ ก็คือ....... น้ำตกวังกวาง  
เดินไปเรื่อยๆก็เห็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ

เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึงน้ำตกเพ็ญพบใหม่
  
เจอใบเมเปิ้ลด้วย ตอนเราไป ก็ยังร่วงไม่เยอะ
ออกเดินทางกันต่อ

ยามเหนื่อยกายแวะพักที่ต้นไม้ แล้วเหนื่อยใจต้องพักที่ไหน???
ถึงไหนแล้วนะ ใครทายถูก ?
ใช่แล้ว ! ถึงน้ำตกพวงพบ
มุ่งหน้าต่อไปกัน..
น้ำยังไม่เยอะเท่าไหร่เลย

เดินต่อกันเถอะ.. ถึงสระอโนดาตแล้ว
ถึงขั้นถอดรองเท้าเดินแล้ว ฮ่าๆ
และแล้วก็ถึงผาหล่มสัก เย้ๆ
แดดร้อน ก็จะถ่าย
***** กระดาษหมดซะแล้ว ******