อายุ 24 ปี มีหนี้ 10 ล้าน จัดการยังไงดี ?

ก่อนอื่นต้องเล่าเรื่องราวย้อนไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน ที่บ้านเราก็มีความเป็นอยู่พอประมาณ แม่เป็นคนจัดการทุกๆอย่าง และเรายังไม่ค่อยรู้เรื่องเงิน เรื่องหนี้อะไรเท่าไร ณ ตอนนั้นที่บ้านมีหนี้อยู่ไม่กี่แสน เป็นหนี้รถยนต์ 2 คันเท่านั้น ลักษณะบ้านเราจะคล้ายๆกับห้องแถว เพราะต่อเติมต่อกันไปเรื่อยๆ พอมีเงินก็ต่อเติมตัวบ้านออกมาทำหลายๆกิจการต่อกัน
                  จนวันนึงแม่เราคิดว่าเค้าอยากจะรีโนเวทบ้านที่มีอยู่เดิมให้เป็นระบบระเบียบมากขึ้น  ก็เลยวางแผนทำบ้านเป็นตึก 2 ชั้นข้างบนเป็นที่อยู่ ข้างล่างเป็นมินิมาร์ทและร้านอื่นๆ ซึ่งแม่เราบอกเราว่าเค้าไปกู้ธนาคารมาด้วยเงินราวๆ 4 ล้านบาทสำหรับทำบ้าน (ความจริงเราก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าเท่าไรกันแน่) พอบ้านสร้างเสร็จ ก็ถึงคราวที่ต้องหาเงินมาจ่ายค่าบ้านในแต่ละเดือน (เค้าไม่ค่อยยอมบอกเราว่ายอดที่แท้จริงคือเท่าไรแน่) ตอนที่บ้านกำลังสร้าง เราไม่ได้อยู่บ้านเลยเพราะเป็นช่วงที่เราเพิ่งเรียนจบ และเพิ่งได้งาน ช่วงที่รอเริ่มงานเราทะเลาะกับแม่ (ขอไม่บอกว่าเรื่องอะไร) จนเราหนีออกจากบ้านมาโดยมีแค่เงินค่ารถ และเสื้อผ้าหนึ่งกระเป๋า ช่วงนั้นเราลำบากมาก หายืมเงินจากเพื่อนเพื่อให้ดำรงชีวิตได้ พอเงินเดือนออกก็เอาเงินใช้หนี้จนหมด ต้องกินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หลังจากนั้นไม่นานแม่เราก็ติดต่อมาอยากให้เราช่วยส่งเงินให้เค้าเดือนละ 10,000 บาทเพราะเค้าอยากจะเอาไปโปะบ้านให้หมดไวๆ จนทะเลาะกันไปอีกรอบ เพราะเราบอกว่าเราไม่มีพอ เราให้ไม่ได้ขนาดนั้นหรอก สุดท้ายก็เจอกันครึ่งทางคือเดือนละ 5000 บาท เงินเดือนเราไม่มาก ค่าห้องรวมน้ำไฟก็ปาไป 5000 บาทแล้ว เราพยายามประหยัดที่สุดเพราะเราเองก็มีภาระหนี้ของ กยศ ที่เรากู้ยืมมาเรียน ตอนเรียนเราก็เรียนไปทำงานไปสลับกับขอเงินเค้าเป็นบางช่วง จบมาตัวเองก็มีภาระหนี้ติดตัวอยู่ราวๆ 2-3 แสน
                  ผ่านไปไม่กี่เดือนเค้าอยากได้เงินก้อน บอกว่าจะเอาไปลงทุนทำธุรกิจรถแมกโคร รถสิบล้อ เค้าขอให้เราส่งเงินก้อนให้เค้า ทั้งๆที่เราส่งเงินให้เค้าอยู่แล้วทุกเดือน เราเลยต่อรองว่า ถ้าเอาเงินก้อน เงินทุกเดือนเราก็คงไม่มีให้นะ เค้าก็โอเค แต่เค้าไม่ได้ต้องการเงินก้อนตอนปลายปี แต่เค้าอยากได้ตอนนี้เลย เเราเลยเก็บเงินเดือนเราให้เค้าไปหมด เป็นเวลาราวๆ 4-5 เดือนเพื่อให้เค้าได้เงินก้อน แล้วเค้าก็หายไปอีก จนโทรมาหาเราอีกทีอยากได้เงินอีก เพราะธุรกิจเค้ามีปัญหาแต่เพราะเรารวบรวมเงินให้เค้าไปหมดแล้วเราจึงไม่มีเงินพอจะให้เค้า เค้าเลยขอให้เราไปหายืมจากคนอื่นมา จนสุดท้ายได้มา 40000 ก็ให้เค้าไป เค้าก็ได้แต่บอกว่า กิจการเค้ากะลังจะดีขึ้นๆ จนวันนึงเราจึงเริ่มถามสืบสาวราวเรื่องจนได้รู้จากปากเค้าว่า ตอนนี้เค้าไปกู้ธนาคารมาเกือบ 10 ล้าน คือนอกจากค่าบ้านแล้ว เค้ายังกู้เอามาออกรถสิบล้อ รถแบกโฮ และรถน้ำ ซึ่งรถพวกนี้เค้าซื้อมือสองมา ทำให้พอได้มาแล้วก็ใช้ไม่ค่อยได้เพราะ ต้องใช้ไปซ่อมไป และยังมีค่าจ้างคนขับตกอีกเดือนละประมาณ 30000 ทำให้เค้าประสบปัญหาทางการเงินอยู่ตลอดเวลา เพราะเงินหามาไม่พอจ่าย เค้าจึงโทรมาหาเราเพราะคิดว่าเราจะต้องมีให้เค้าตลอด เราเคยบอกหลายครั้งให้เค้าเลิกทำเถอะ หยุดเถอะ ทำไปแล้วเหมือนยิ่งขาดทุนไปเรื่อยๆ เราอยากขายทุกอย่าง อยากทิ้งทุกอย่างแล้วอยากมาเริ่มใหม่ เราเครียดมากบางทีก็รู้สึกอยากหายตัวไปเลย เราไม่รู้จะหาวิธีอะไรเพื่อให้ได้เงินมาใช้หนี้มูลค่าขนาดนี้ เราเหนื่อยเราท้อ เราทำงานมาก็โปะหนี้หมด บางทีเราก็อดอิจฉาคนที่เกิดมาในครอบครัวที่มีพร้อมทุกอย่างไม่ได้ เราไม่มีทรัพย์สินใดๆติดตัวมากจากบ้าน เราต้องขวนขวาย ดิ้นรน หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง บางทีเราก็เหนื่อย ท้อ รู้สึกอยากจะอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ให้เวลามันผ่านไป ...
                 ตอนนี้เราเริ่มคุยกับเค้า เค้าก็เริ่มรู้สึกเห็นว่าธุรกิจเค้า มันไม่ไปได้สวยอย่างที่เค้าหวัง เราอยากให้เค้าเลิกทำอะไรเกินตัว อยากให้เค้าทิ้งแล้วมาเริ่มใหม่ เราไม่รู้ว่าเราทำถูกไหม แต่เราคิดออกแค่ทางนี้จริงๆ ใครพอจะมีหนทางไหนแนะนำบ้างไหม?  หรือใครมีหนทางหารายได้ดีๆ ช่วยแนะนำเราหน่อยนะ ตอนนี้เราก็คิดจะหาทางรับพวกงานฝีมือมาทำอยู่ แต่คิดว่าคงได้ไม่เท่าไร แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย
                 ตอนนี้ที่ดินแถวบ้านเราราคาค่อนข้างขึ้นแล้ว เราอยากจะขายที่ดินรวมกับบ้าน แต่เราไม่รู้ว่าจะมีใครอยากซื้อไหม แล้วสงสัยอีกอย่างว่าถ้าเราปล่อยให้ธนาคารยึดไป มันจะดีกว่ารึเปล่า? เรายังไม่ค่อยเข้าใจกับการโดนธนาคารยึด หรือการโดนฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลายเท่าไร ถ้าใครพอมีความรู้รบกวนช่วยตอบให้เราหายสงสัยทีนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่