สวัสดีค่ะ คือเราอยากเลืาเรื่อง แต่ว่าเรากดเป็นกระทู้เล่าเรื่องไม่ได้ ขอกดเป็นกระทู้คำถามละกันนะคะ สมัครล็อกอินมาเพื่อบ่นเรื่องนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ
คืออย่างที่บอกค่ะ เราหมั่นไส้สองแม่ลูกเมียน้อยมาก เมื่อประมาณกลางปีที่แล้วบ้านเราจำใจต้องรับสองแม่ลูกคู่นึงมาอาศัยในบ้านด้วยเหตุจำเป็น และเราไม่รู้ด้วยว่าเค้าจะอยู่กับเราไปจนถึงเมื่อไหร่ แม่ลูกคู่นี้จริงๆแล้วเป็นเมียน้อยแปะเราค่ะ ก่อนอื่นต้องท้าวความก่อน คือบ้านเราเป็นครอบครัวคนจีนครอบครัวใหญ่ ทำธุรกิจครอบครัวมาตั้งแต่รุ่นเหล่ากงเหล่าม่า แล้วก็เป็นกงสีเรื่อยไป พอมาถึงรุ่นอากงเรา อากงเรามีพี่น้องทั้งหมด 9 คน ซึ่งอาแปะ(ลุง)เป็นคนโต ลูกชายคนแรก รองลงมาเป็นเตี่ยเรา แล้วก็น้องๆเตี่ย
ทีนี้คือลุงของเราก็แต่งงานกับป้าเรา ซึ่งมารู้ทีหลังว่าป้าเราให้กำเนิดบุตรไม่ได้ เพราะว่ามดลูกมีปัญหาอะไรซักอย่าง ก็ไม่รู้จะทำไง เตี่ยบอกสมัยนั้นเทคโนโลยีอะไรก็ยังไม่มีเท่าสมัยนี้ จู่ๆแปะก็เอาผู้หญิงอีกคนเข้าบ้าน ก็รู้ๆกัน ว่าเมียใหม่นะ ผ่านไปไม่นานผู้หญิงคนนี้ก็ท้องค่ะ ได้ลูกชายด้วย อากงอาม่าก็ดีใจกันใหญ่ เหตุการณ์ตอนนั้นเรายังไม่เกิดนะคะ
พอชีได้ลูกชาย อยู่ดีๆก็ชูคอเป็นคุณนายเลยค่ะ นี่ม้าเราเล่าให้ฟัง จากตอนแรกที่เงียบๆ ช่วยงานที่บ้านบ้างเล็กน้อย พอมีลูกนี่ไม่ทำอะไรเลยคืะ ขอเงินอย่างเดียว บางทีลามไปถึงสั่งอาอึ้มทำนู่นทำนี่ จนอึ้มทนไม่ไหว ก็ทะเลาะกับชีใหญ่โต ถึงขั้นจะตบจะตีกัน จริงๆอาม่าก็ไม่ชอบยัยคนนี้อยู่แล้ว เพราะมาจากไหนไม่รู้ ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า ที่สำคัญคือชีไม่ใช่คนจีน ก็เลยทะเลาะเบาะแว้งกัน จนอาแปะต้องแยกบ้านให้ ก็ซื้อตึกแถวให้ชีไปอยู่แถวเจริญนคร แปะก็ไปๆมาๆระหว่าง 2 บ้าน ก็พาหลานมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว
คืออาอึ้มเป็นคนรักเด็กมาก แล้วก๋อยากมีลูก ก็เลยไปเอาเด็กมาเลี้ยงค่ะ ขอเรียกว่าเฮียต้นละกันค่ะ คือบ้านเราสนิทกับเฮียต้นมาก เป็นคนดี มีน้ำใจมากค่ะ ทีนี้คือเค้าก็สังเกตกันว่าทำไมชายลูกแปะดูผิดปกติ ไปตรวจที่รพ. ตอนนั้นประมาณ 2-3 ขวบ เฮียแท้ๆเรา(ไม่ใช่เฮียต้นนะคะ)เกิดแล้ว ปรากฏว่าลูกอาแปะเป็นดาวน์ซินโดรมค่ะ พอแม่เค้ารู้ แม่เค้าก็ไม่อยากเลี้ยง ไม่ิยากดูแล แปะเลยต้องเอาลูกกลับมาบ้านใหญ่ แล้วให้อึ้มเลี้ยงแทน หลังจากนั้น 3-4 ปีให้หลังชีก็มีลูกใหม่เป็นลูกสาว ซึ่งอายุเท่าเราค่ะ
คือเราเองไม่รู้มาก่อนว่าแปะเคยมีเมียอีกคน คือไม่รู้จะเรียกว่าเมียน้อยดีหรือเปล่า เราเพิ่งมารู้ตอนที่เราอยู่ประมาณ ม.3 เฮียที่เป็นดาวน์เราก็คิดว่าเป็นลูกเลี้ยงเหมือนเฮียต้น ที่รู้ว่าแปะเคยมีเมียอีกคนเพราะว่า คืออยู่ดีๆ ชีก็มาอยู่ที่หน้าบ้านใหญ่ แล้วมาขอร้องอากงอาม่าขออยู่ด้วย เพราะว่าไม่มีที่อยู่แล้ว เรามารู้ทีหลังเพราะว่าตึกแถวที่ชีอยู่โดนยึด เพราะชีติดพนัน เป็นหนี้เป็นสินเยอะแยะ
อากงอาม่าก็สงสารชี เพราะอย่างน้อยเด็กผู้หญิงก็เป็นหลานค่ะ แต่จริงๆก็ยังไม่ชอบแม่อยู่ดี แต่ก็ให้อยู่ๆไป เราเองจำได้ว่าตอนนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเค้า ขอเรียกเด็กผู้หญิงว่าแก้วแล้วกันนะคะ
คืออย่างที่บอก แก้วอายุเท่าเรา อยู่ชั้นเดียวกัน เตี่ยก็บอกว่าให้สนิทกันไว้ เป็นญาติพี่น้องกัน เราเองก็ไม่ได้มีปัญหาไร แต่ดูเหมือนแก้วจะไม่ชอบเรา ด้วยสาเหตุอะไรไม่ก็ไม่ทราบ แล้วแก้วก็ไม่ชอบเฮียต้นมาก เพราะชีมองว่าชีเป็นลูกแท้ๆ เฮียต้นเป็นลูกเลี้ยง เวลาเราไปบ้านใหญ่ (เตี่ยเราแยกมาอยู่อีกบ้านค่ะ แต่ไม่ได้ไกลกันมาก แค่อยู่คนละซอย) แก้วจะชอบประจบอาแปะ แล้วทำเหมือนตัวเองอยู่สูงกว่าเรา มองเราแบบ ฉันเหนือกว่า ฉันเป็นลูกพี่ชายคนโต อะไรแบบนี้ คือไม่ได้คิดเลยนะ ว่าเมิงมันก็แค่ลูกเมียน้อย คือถ้ามีคนมาทำแบบนี้ใส่ ใครจะชอบ ถูกมั้ยคะ เราก็เลยไม่ชอบแก้วมากๆ
พอจะขึ้นม.4 ค่ะ เด็กม.ต้นหลายๆคนก็อยากจะเข้าโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่มีแต่ม.ปลาย และสอบเข้ายากมาก คือแก้วก็อยากเข้าค่ะ คือชีอยู่เรียนรัฐบาล แถวๆฝั่งธน เรียนก็เก่งมั้ง ได้เกรด 4 หลายตัว ชีก็คุยโวตอนกินข้าวที่บ้านใหญ่ว่าชีจะไปสอบสายวิทย์โรงเรียนนี้ แล้วก็มาถามเราว่าเราจะสอบมั้ย สอบสายอะไร เราก็ตอบไปตามตรงว่าเราก็ลองสอบดู แต่จะสอบสายศิลป์ ชีก็พูดทำนองว่า ก็เงี้ยแหละนะ คนเรียนไม่เก่งก็ต้องเรียนศิลป์ คนเก่งก็ต้องเรียนวิทย์ ชีนะได้เกรด 4 คณิตทุกเทอม แล้วเราละ เคยได้คณิตมากกว่า 2.5 มั้ย อะไรงี้ คือดูชีมั่นใจมากว่าชีจะเข้าได้ ตอนนั้นเราโมโหมากค่ะ คือเราก็เรียนคณิตไม่าเก่งจริงๆ และเราก็รู้สึกว่า อีลูกเมียน้อยนี่อะไรเนี่ย เป็นแค่ลูกเมียน้อย บ้านก็โดนยึด อย่ามาทำข่มคนอื่นได้ปะ
สรุปแล้วเราก็สอบเข้ารร.นั้นได้ค่ะ แต่ชีสอบไม่ได้ ชีก็มาออดอ้อนให้แปะเส้นเข้าสายวิทย์ให้ แล้วก็มาบอกเราว่า ก็สายศิลป์มันง่าย ใครๆก็สอบได้ หือออ อยากจะเตะให้หน้าหงาย คือชีก็ได้เรียนค่ะ แต่ก็อยู่ห้องวิทย์ที่แบบ มีเด็กเส้นเยอะๆ แล้วดูเหมือนชีจะเรียนไม่ได้ เพราะเนื้อหาโรงเรียนยากมาก แล้วก็เข้มมาก จากเด็ก 4.00 ก็หล่นลงมาเป็น 2 ปลายๆ เราโคดสมน้ำหน้าเลยค่ะ ไม่ดีเลยเนอะ ขนาดวิชาอังกฤษที่ชีบอกว่า ภาษามันก็ง่ายๆ ชียังไม่ได้เลยค่ะ อาม่าเห็นเราเก่งอังกฤษ ก็เลยจะให้เราติวให้ นี่อาม่าพูดกลางโต๊ะอาหารเลย ซึ่งเราโคดสะใจเลยค่ะ แต่เราก็ไม่ติวให้นะคะ เสียเวลาอ่สนหนัฃสือเรา ชีก็คงไม่อยากให้เราติวให้เหมือนกัน
คือเราไม่อยากจะว่า แต่แม่มันเป็นยังไง ลูกมันก็ไม่ต่างกันนั่นแหละค่ะ คือไม่ทำอะไรเลย ไม่เคยช่วยงานกงสี มีแต่ใช้เงินไปวันๆ คิดเหลือเกินว่าเป็นลูกแปะแล้วใหญ่สุดในบ้าน เฮียตัวเองที่เป็นดาวน์ซินโดรมก็ไม่เคยสนใจใส่ใจ ขอแต่จะซื้อของ แล้วก็ชอบดูถูกเฮียต้น ซึ่งเรากับเฮียรู้สึกว่าเฮียต้นเป็นเหมือนพี่เป็นน้องเราจริงๆด้วยซ้ำ เราเเกลียดพฤติกรรมของแก้วที่ปฏิบัติต่อเฮียต้นมาก
คือด้วยความที่แก้วเป็นคนแบบนี้ แล้วก็เรื่องในอดีตของแม่เค้า อาอึ้มอาม่าอากงก็ไม่ชอบสองแม่ลูกนี้อยู่แล้ว แม่เค้าก็ทะเลาะกับอาอึ้มอีกรอบ ช่วงปีที่แล้วนี่เองค่ะ ตอนนั้นเราเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว แต่อยู่คนละมหาลัยกับแก้วนะคะ เราไม่รู้รายละเอียดว่าเรื่องอะไร แต่เหมือนเกี่ยวกับบ้านที่ถูกธนาคารยึดไปแล้วก็บัญชีเงินในกงสี แต่คือมันใหญ่โตมโหฬารมากถึงขั้นอึ้มจะฟ้องร้องอีเมียน้อยนี่เลย ก็เลยอยู่ด้วยกันไม่ได้อีก ซึ่งจะซื้อบิานซื้อคอนโดให้ใหม่แปะก็ไม่ซื้อให้แล้ว ที่สำคัญอากงห้ามด้วยว่าห้ามซื้ออะไรที่เป็นอสังหาให้สองคนนี้อีก ตอนแรกคือเค้าจะออกจากบ้านไปอยู่กันสองคน แต่แปะบอกว่าจะให้แค่เงินค่าเล่าเรียนแก้วเท่านั้น ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นให้ไปทำมาหากินเอาเอง ชีก็ไม่ยอม ร้องห่มร้องไห้ ก็คุยๆกันไปกันมา สรุปคือให้มาอยู่ที่บ้านเรา แต่ให้นอนบ้านแยกที่เป็นบ้านของแม่บ้าน แล้วให้ช่วยทำงานบ้าน ง่ายๆคือมาเป็นคนใช้บ้านเรานั่นแหลพค่ะ
คือตอนแรกๆชีมาอยู่ชีก็ทำงานบ้านนะคะ ซึ่งทางบ้านเราไม่ได้ขอให้ชีทำเลย คุณอยู่เฉยๆไม่สร้างปัญหาก็พอแล้ว แต่หลังๆชีก็เริ่มเรียกร้องว่าถ้าอยากให้ชีทำงานบ้าน ก็ต้องจ่ายค่าจ้างชี ซึ่งเราแบบ เดี๋ยวก่อน นี่คือไม่ได้ขอให้ทำแถมนี่ให้อยู่ฟรีๆ กินข้าวฟรีๆ ค่าน้ำค่าไฟก็จ่ายให้ คือให้อยู่สบายขนาดนี้ยังจะมาเรียกร้องอะไรอีก ไม่เข้าใจคนแบบนี้จริงๆ
เตี่ยเราก็ด่า ชีก็โกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถูกมั้ยคะ ชีขู่ว่าชีจะไม่รดน้ำต้นไม้ให้ โอ๊ยยย คุณขา ป๊าฉันต้องจ้างคุณเป็นหลายๆพันเพื่อรดน้ำต้นไม้เหรอ
ใครมีปัญหากับครอบครัวเมียน้อยบ้างคะ?
คืออย่างที่บอกค่ะ เราหมั่นไส้สองแม่ลูกเมียน้อยมาก เมื่อประมาณกลางปีที่แล้วบ้านเราจำใจต้องรับสองแม่ลูกคู่นึงมาอาศัยในบ้านด้วยเหตุจำเป็น และเราไม่รู้ด้วยว่าเค้าจะอยู่กับเราไปจนถึงเมื่อไหร่ แม่ลูกคู่นี้จริงๆแล้วเป็นเมียน้อยแปะเราค่ะ ก่อนอื่นต้องท้าวความก่อน คือบ้านเราเป็นครอบครัวคนจีนครอบครัวใหญ่ ทำธุรกิจครอบครัวมาตั้งแต่รุ่นเหล่ากงเหล่าม่า แล้วก็เป็นกงสีเรื่อยไป พอมาถึงรุ่นอากงเรา อากงเรามีพี่น้องทั้งหมด 9 คน ซึ่งอาแปะ(ลุง)เป็นคนโต ลูกชายคนแรก รองลงมาเป็นเตี่ยเรา แล้วก็น้องๆเตี่ย
ทีนี้คือลุงของเราก็แต่งงานกับป้าเรา ซึ่งมารู้ทีหลังว่าป้าเราให้กำเนิดบุตรไม่ได้ เพราะว่ามดลูกมีปัญหาอะไรซักอย่าง ก็ไม่รู้จะทำไง เตี่ยบอกสมัยนั้นเทคโนโลยีอะไรก็ยังไม่มีเท่าสมัยนี้ จู่ๆแปะก็เอาผู้หญิงอีกคนเข้าบ้าน ก็รู้ๆกัน ว่าเมียใหม่นะ ผ่านไปไม่นานผู้หญิงคนนี้ก็ท้องค่ะ ได้ลูกชายด้วย อากงอาม่าก็ดีใจกันใหญ่ เหตุการณ์ตอนนั้นเรายังไม่เกิดนะคะ
พอชีได้ลูกชาย อยู่ดีๆก็ชูคอเป็นคุณนายเลยค่ะ นี่ม้าเราเล่าให้ฟัง จากตอนแรกที่เงียบๆ ช่วยงานที่บ้านบ้างเล็กน้อย พอมีลูกนี่ไม่ทำอะไรเลยคืะ ขอเงินอย่างเดียว บางทีลามไปถึงสั่งอาอึ้มทำนู่นทำนี่ จนอึ้มทนไม่ไหว ก็ทะเลาะกับชีใหญ่โต ถึงขั้นจะตบจะตีกัน จริงๆอาม่าก็ไม่ชอบยัยคนนี้อยู่แล้ว เพราะมาจากไหนไม่รู้ ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า ที่สำคัญคือชีไม่ใช่คนจีน ก็เลยทะเลาะเบาะแว้งกัน จนอาแปะต้องแยกบ้านให้ ก็ซื้อตึกแถวให้ชีไปอยู่แถวเจริญนคร แปะก็ไปๆมาๆระหว่าง 2 บ้าน ก็พาหลานมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว
คืออาอึ้มเป็นคนรักเด็กมาก แล้วก๋อยากมีลูก ก็เลยไปเอาเด็กมาเลี้ยงค่ะ ขอเรียกว่าเฮียต้นละกันค่ะ คือบ้านเราสนิทกับเฮียต้นมาก เป็นคนดี มีน้ำใจมากค่ะ ทีนี้คือเค้าก็สังเกตกันว่าทำไมชายลูกแปะดูผิดปกติ ไปตรวจที่รพ. ตอนนั้นประมาณ 2-3 ขวบ เฮียแท้ๆเรา(ไม่ใช่เฮียต้นนะคะ)เกิดแล้ว ปรากฏว่าลูกอาแปะเป็นดาวน์ซินโดรมค่ะ พอแม่เค้ารู้ แม่เค้าก็ไม่อยากเลี้ยง ไม่ิยากดูแล แปะเลยต้องเอาลูกกลับมาบ้านใหญ่ แล้วให้อึ้มเลี้ยงแทน หลังจากนั้น 3-4 ปีให้หลังชีก็มีลูกใหม่เป็นลูกสาว ซึ่งอายุเท่าเราค่ะ
คือเราเองไม่รู้มาก่อนว่าแปะเคยมีเมียอีกคน คือไม่รู้จะเรียกว่าเมียน้อยดีหรือเปล่า เราเพิ่งมารู้ตอนที่เราอยู่ประมาณ ม.3 เฮียที่เป็นดาวน์เราก็คิดว่าเป็นลูกเลี้ยงเหมือนเฮียต้น ที่รู้ว่าแปะเคยมีเมียอีกคนเพราะว่า คืออยู่ดีๆ ชีก็มาอยู่ที่หน้าบ้านใหญ่ แล้วมาขอร้องอากงอาม่าขออยู่ด้วย เพราะว่าไม่มีที่อยู่แล้ว เรามารู้ทีหลังเพราะว่าตึกแถวที่ชีอยู่โดนยึด เพราะชีติดพนัน เป็นหนี้เป็นสินเยอะแยะ
อากงอาม่าก็สงสารชี เพราะอย่างน้อยเด็กผู้หญิงก็เป็นหลานค่ะ แต่จริงๆก็ยังไม่ชอบแม่อยู่ดี แต่ก็ให้อยู่ๆไป เราเองจำได้ว่าตอนนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเค้า ขอเรียกเด็กผู้หญิงว่าแก้วแล้วกันนะคะ
คืออย่างที่บอก แก้วอายุเท่าเรา อยู่ชั้นเดียวกัน เตี่ยก็บอกว่าให้สนิทกันไว้ เป็นญาติพี่น้องกัน เราเองก็ไม่ได้มีปัญหาไร แต่ดูเหมือนแก้วจะไม่ชอบเรา ด้วยสาเหตุอะไรไม่ก็ไม่ทราบ แล้วแก้วก็ไม่ชอบเฮียต้นมาก เพราะชีมองว่าชีเป็นลูกแท้ๆ เฮียต้นเป็นลูกเลี้ยง เวลาเราไปบ้านใหญ่ (เตี่ยเราแยกมาอยู่อีกบ้านค่ะ แต่ไม่ได้ไกลกันมาก แค่อยู่คนละซอย) แก้วจะชอบประจบอาแปะ แล้วทำเหมือนตัวเองอยู่สูงกว่าเรา มองเราแบบ ฉันเหนือกว่า ฉันเป็นลูกพี่ชายคนโต อะไรแบบนี้ คือไม่ได้คิดเลยนะ ว่าเมิงมันก็แค่ลูกเมียน้อย คือถ้ามีคนมาทำแบบนี้ใส่ ใครจะชอบ ถูกมั้ยคะ เราก็เลยไม่ชอบแก้วมากๆ
พอจะขึ้นม.4 ค่ะ เด็กม.ต้นหลายๆคนก็อยากจะเข้าโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่มีแต่ม.ปลาย และสอบเข้ายากมาก คือแก้วก็อยากเข้าค่ะ คือชีอยู่เรียนรัฐบาล แถวๆฝั่งธน เรียนก็เก่งมั้ง ได้เกรด 4 หลายตัว ชีก็คุยโวตอนกินข้าวที่บ้านใหญ่ว่าชีจะไปสอบสายวิทย์โรงเรียนนี้ แล้วก็มาถามเราว่าเราจะสอบมั้ย สอบสายอะไร เราก็ตอบไปตามตรงว่าเราก็ลองสอบดู แต่จะสอบสายศิลป์ ชีก็พูดทำนองว่า ก็เงี้ยแหละนะ คนเรียนไม่เก่งก็ต้องเรียนศิลป์ คนเก่งก็ต้องเรียนวิทย์ ชีนะได้เกรด 4 คณิตทุกเทอม แล้วเราละ เคยได้คณิตมากกว่า 2.5 มั้ย อะไรงี้ คือดูชีมั่นใจมากว่าชีจะเข้าได้ ตอนนั้นเราโมโหมากค่ะ คือเราก็เรียนคณิตไม่าเก่งจริงๆ และเราก็รู้สึกว่า อีลูกเมียน้อยนี่อะไรเนี่ย เป็นแค่ลูกเมียน้อย บ้านก็โดนยึด อย่ามาทำข่มคนอื่นได้ปะ
สรุปแล้วเราก็สอบเข้ารร.นั้นได้ค่ะ แต่ชีสอบไม่ได้ ชีก็มาออดอ้อนให้แปะเส้นเข้าสายวิทย์ให้ แล้วก็มาบอกเราว่า ก็สายศิลป์มันง่าย ใครๆก็สอบได้ หือออ อยากจะเตะให้หน้าหงาย คือชีก็ได้เรียนค่ะ แต่ก็อยู่ห้องวิทย์ที่แบบ มีเด็กเส้นเยอะๆ แล้วดูเหมือนชีจะเรียนไม่ได้ เพราะเนื้อหาโรงเรียนยากมาก แล้วก็เข้มมาก จากเด็ก 4.00 ก็หล่นลงมาเป็น 2 ปลายๆ เราโคดสมน้ำหน้าเลยค่ะ ไม่ดีเลยเนอะ ขนาดวิชาอังกฤษที่ชีบอกว่า ภาษามันก็ง่ายๆ ชียังไม่ได้เลยค่ะ อาม่าเห็นเราเก่งอังกฤษ ก็เลยจะให้เราติวให้ นี่อาม่าพูดกลางโต๊ะอาหารเลย ซึ่งเราโคดสะใจเลยค่ะ แต่เราก็ไม่ติวให้นะคะ เสียเวลาอ่สนหนัฃสือเรา ชีก็คงไม่อยากให้เราติวให้เหมือนกัน
คือเราไม่อยากจะว่า แต่แม่มันเป็นยังไง ลูกมันก็ไม่ต่างกันนั่นแหละค่ะ คือไม่ทำอะไรเลย ไม่เคยช่วยงานกงสี มีแต่ใช้เงินไปวันๆ คิดเหลือเกินว่าเป็นลูกแปะแล้วใหญ่สุดในบ้าน เฮียตัวเองที่เป็นดาวน์ซินโดรมก็ไม่เคยสนใจใส่ใจ ขอแต่จะซื้อของ แล้วก็ชอบดูถูกเฮียต้น ซึ่งเรากับเฮียรู้สึกว่าเฮียต้นเป็นเหมือนพี่เป็นน้องเราจริงๆด้วยซ้ำ เราเเกลียดพฤติกรรมของแก้วที่ปฏิบัติต่อเฮียต้นมาก
คือด้วยความที่แก้วเป็นคนแบบนี้ แล้วก็เรื่องในอดีตของแม่เค้า อาอึ้มอาม่าอากงก็ไม่ชอบสองแม่ลูกนี้อยู่แล้ว แม่เค้าก็ทะเลาะกับอาอึ้มอีกรอบ ช่วงปีที่แล้วนี่เองค่ะ ตอนนั้นเราเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว แต่อยู่คนละมหาลัยกับแก้วนะคะ เราไม่รู้รายละเอียดว่าเรื่องอะไร แต่เหมือนเกี่ยวกับบ้านที่ถูกธนาคารยึดไปแล้วก็บัญชีเงินในกงสี แต่คือมันใหญ่โตมโหฬารมากถึงขั้นอึ้มจะฟ้องร้องอีเมียน้อยนี่เลย ก็เลยอยู่ด้วยกันไม่ได้อีก ซึ่งจะซื้อบิานซื้อคอนโดให้ใหม่แปะก็ไม่ซื้อให้แล้ว ที่สำคัญอากงห้ามด้วยว่าห้ามซื้ออะไรที่เป็นอสังหาให้สองคนนี้อีก ตอนแรกคือเค้าจะออกจากบ้านไปอยู่กันสองคน แต่แปะบอกว่าจะให้แค่เงินค่าเล่าเรียนแก้วเท่านั้น ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นให้ไปทำมาหากินเอาเอง ชีก็ไม่ยอม ร้องห่มร้องไห้ ก็คุยๆกันไปกันมา สรุปคือให้มาอยู่ที่บ้านเรา แต่ให้นอนบ้านแยกที่เป็นบ้านของแม่บ้าน แล้วให้ช่วยทำงานบ้าน ง่ายๆคือมาเป็นคนใช้บ้านเรานั่นแหลพค่ะ
คือตอนแรกๆชีมาอยู่ชีก็ทำงานบ้านนะคะ ซึ่งทางบ้านเราไม่ได้ขอให้ชีทำเลย คุณอยู่เฉยๆไม่สร้างปัญหาก็พอแล้ว แต่หลังๆชีก็เริ่มเรียกร้องว่าถ้าอยากให้ชีทำงานบ้าน ก็ต้องจ่ายค่าจ้างชี ซึ่งเราแบบ เดี๋ยวก่อน นี่คือไม่ได้ขอให้ทำแถมนี่ให้อยู่ฟรีๆ กินข้าวฟรีๆ ค่าน้ำค่าไฟก็จ่ายให้ คือให้อยู่สบายขนาดนี้ยังจะมาเรียกร้องอะไรอีก ไม่เข้าใจคนแบบนี้จริงๆ
เตี่ยเราก็ด่า ชีก็โกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถูกมั้ยคะ ชีขู่ว่าชีจะไม่รดน้ำต้นไม้ให้ โอ๊ยยย คุณขา ป๊าฉันต้องจ้างคุณเป็นหลายๆพันเพื่อรดน้ำต้นไม้เหรอ