ถึงธรรมกาย ทำไมต้องปูพรมแดง และโรยดอกดาวเรือง และเดินในเมืองคะ

ถึงธรรมกาย   

    เดือดร้อน ตั้งแต่เมือวานแล้วค่ะ  ตั้งแต่มี พระธุดงค์ ในสมัยพุทธกาลเป็นต้นมา  ไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์ที่สร้างความเดือดร้อนถึงเพียงนี้
ขนาดพระไปเหยียบผัก หญ้า พีชผล สร้างความเดือดร้อน แก่ชาวบ้าน พระพุทธองค์ ยังตรัสไม่ให้เดินผ่าน เรือกสวนไร่นา ชาวบ้าน
เพราะสร้างความเดือดร้อนเลย  ลองคิดดูว่าเมตตา กรุณาพระพุทธองค์มากมายถึงเพียงไหน

สมัยนี้ การธุดงค์ ต้องธุดงค์ในเมือง กีดขวางการสัญจร ของประชาชน  สร้างความเดือดร้อน
เมื่อวาน รถพยาบาลติดอยู่บนสะพานข้าม ไปไม่ถึงโรงพยาบาลสักที
เห็นแล้ว สงสารคนในรถพยาบาลจับใจ ช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย  

คนทีจัด event  ที่พยายามเรียกว่า ธุดงค์ นั้น หากทราบว่ามีความเดือดร้อน แก่ประชาชน ก็พึงหยุด
นี่ก็ไม่หยุด จัดครั้งที่สองอีก   แค่เรือกสวนไร่นา ชาวบ้านพระพุทธองค์ยังทรงเมตตาเลย  
เด๋วนี้  ถนนหนทางทางเดินในเมือง  คนเดือดร้อนบ่นทุกหย่อมหญ้า ทำไมถึงไม่คิด คิดแต่จะถ่ายภาพสวย ทำให้อลังการ
สักแต่ว่ามีเงินมีทอง มีคน  มีอำนาจ ทำสิ่งไรก็ได้

ความเมตตา สักเสี้ยวหนึ่งเท่าที่พระศาสดา มีต่อเรือกสวนไร่นาชาวบ้าน ยังไม่มีในจิตใจคนพวกนี้เลย


ถึงธรรมกาย (อีกสักรอบ)

1.ทำไมต้องปูพรมแดง และโรยดอกดาวเรือง และเดินในเมืองคะ
โยมสงสัย  
โยมเห็นแค่ ดาราฮอลลีวู้ด เขาปูพรมแดงกันเจ้าคะ ดอกไม้ก็โรยให้เจ้าบ่าว เจ้าสาวเดินกัน  

ขอพูดตรงๆนะเจ้าคะ โยมเห็นพระธุดงค์สุปฏิปัณโน  ท่านไม่ใส่รองเท้าเจ้าค่ะ
โยมเคยทดลองไม่ใสรองเท้า เดินในป่า ในเขาบ้าง  หิน กรวด บาดเป็นทาง เท้าหยาบหนากระด้าง ทีเดียวเจ้าค่ะ
เดินครึ่งวัน ติดกอเอี๊ยะ เป็นอาทิตย์เจ้าค่ะ  

ดูๆไปก็ไม่งามนะเจ้าคะ พระสงฆ์มาเดินพรมแดง  โรยดอกไม้ ดูแล้วเป็นการได้คำติติงจาก ชาวพุทธเสียมากค่าที่ไม่ได้กระทำ
เพื่อการสละออก   โยมต้องเลื่อมใสในจริยวัตรที่ดีของพระ ไม่ใช่ด้วยการให้ท่านมาเดินพรมแดง โรยดอกไม้โยมจึงเลื่อมใสนะเจ้าคะ
พระดี ไม่ต้องโฆษณา โยมไปกราบเองถึงที่เลยเจ้าค่ะ



หากธรรมกาย จะอ้าง รัตนสูตรขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ  http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=7
ทำไมถึงคิดว่าอ้างได้คะ ในเมื่อ ไม่ใช่การโปรยดอกไม้ให้พระธุดงค์เสียหน่อย   
ในพระสูตรนั้น เขาโปรยดอกไม้เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้าที่จะเสด็จมาเมืองเขา  อย่าอ้างว่าเกี่ยวกันเลย มันไม่เกี่ยวนะเจ้าคะ
แถมยังขัดต่อหลักธุดงค์ด้วยเจ้าค่ะ เพราะไม่ได้เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส

2.ทำไม กฏ 13 ข้อ ในการธุดงค์ ทำไมถึงเอามาใช้กระหยิบกระหย่อนคะ หรือบัญญัติกฏธุดงค์ตามอำเภอใจ สร้างขึ้นใหม่แล้วค่ะ
**<<ข้อ 2 นี่ธรรมกายจะมาแย้งข้างล่างมากที่สุด  ^ ^  คำถามข้อ2 จขกท อาจจะดูสุดโต่งไป เพราะการสมาทานนั้น
ิอย่างหมวดเสนาสนะ เพราะท่านก็เลือกได้ตามวัตรที่ท่านจะถือเพื่อจิตใจสงบ

    แต่ก็คุ้มที่ถามนะคะ  เพราะข้างลา่งธรรมกายเขาเถียงคอเป็นเอ็นว่าเขาไม่ผิดหลักธุดงค์ เออก็ดูจะจริง
แต่ธุดงค์ที่เป็นการสละกิเลสออก เขาไม่สนใจค่ะ เขาทำธุดงค์เพื่อฉลองศรัทธาญาติโยม ง่ายๆแค่นี้ก็ผิดจุดประสงค์ธุดงค์เสียแล้ว
จะถือข้อไหน  กี่ข้อก็ตาม ในเมื่อจิตเจตนาไม่ได้กระทำ ให้ดีงาม ตามจุดประสงค์ธุดงค์  ท่านก็เรียกอย่างอื่นไปเสียเถิดค่ะ
ศาสนาพุทธเราไม่มีธุดงค์เรียกศรัทธาญาติโยมนะเจ้าคะ  จากการสนทนากันความเห็นข้างล่าง จขกท สรุปได้ว่า  มีแต่ข่มขู่จขกท ว่าไม่กลัวเกรงบาปค่ะ  ก็ไม่กลัวค่ะ เป็นคนดีจะกลัวบาปไปไย  >>

กฏธุดงค์

หมวด จีวรปฏิสังยุตต์ (เกี่ยวกับจีวร)
            1. ถือการนุ่งห่มผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
            2. ถือการนุ่งห่มผ้าสามผืนเป็นวัตร
หมวด ปิณฑปาตปฏิสังยุตต์ (เกี่ยวกับบิณฑบาต )
            3. ถือการบิณฑบาตเป็นวัตร
            4. ถือการบิณฑบาตไปโดยลำดับแถวเป็นวัตร
            5. ถือการฉันจังหันมื้อเดียวเป็นวัตร
            6. ถือการฉันในภาชนะเดียวคือฉันในบาตรเป็นวัตร
            7. ถือการห้ามภัตตาหารที่เขานำมาถวายภายหลังเป็นวัตร
หมวด เสนาสนปฏิสังยุตต์ (เกี่ยวกับเสนาสนะ )
            8. ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร
            9. ถือการอยู่โคนต้นไม้เป็นวัตร
            10. ถือการอยู่อัพโภกาสที่แจ้งเป็นวัตร
            11. ถือการอยู่ป่าช้าเป็นวัตร
            12. ถือการอยู่ในเสนาสนะตามมีตามได้เป็นวัตร
            13. ถือเนสัชชิกังคธุดงค์ คือการไม่นอนเป็นวัตร

**โดยระดับการถือ แต่ละข้อถือได้ 3 ระดับ คือ
           1) อย่างอุกฤษฏ์ หรืออย่างเคร่ง เช่น ผู้ถืออยู่ป่า ต้องให้ได้อรุณในป่าตลอดไป
           2) อย่างมัธยม หรืออย่างกลาง เช่น ผู้ถืออยู่ป่า อยู่ในเสนาสนะชายบ้านตลอดฤดูฝน 4 เดือน ที่เหลืออยู่ป่า
           3) อย่างอ่อน หรืออย่างเพลา เช่น ผู้ถืออยู่ป่า อยู่ในเสนาสนะชายบ้านตลอดฤดูฝนและหนาวรวม 8 เดือน

       ข้อ 9 ถือการอยู่โคนต้นไม้เป็นวัตร   และ 10  ถือการอยู่อัพโภกาสที่แจ้งเป็นวัตร   ถือได้เฉพาะนอกพรรษา เพราะวินัยกำหนดให้ต้องถือเสนาสนะในพรรษา




3.ภาพสวยงามเหล่านี้ที่พากันเผยแพร่   ต้องการเรียกศรัทธาอะไรจาก ญาติโยมเจ้าคะ??
   

4.รู้จักความหมาย ของธุดงค์มั้ยคะ  ธุดงค์มีความหมายในตัวจะมาเปลี่ยนแปลงเองตามอำเภอใจไม่ได้นะเจ้าคะ
หากพระคุณเจ้าไม่ได้สมาทาน ธุดงค์ 13 ข้อ ก่อนธุดงค์   **แก้ไขบรรทัดนี้ค่ะ 31/1/2015

หากท่านจะเปลี่ยนความหมายการธุดงค์ว่าเป็นไปเพื่อการฉลองศรัทธาญาติโยม  ก็อย่าอ้างคำว่า ธุดงค์นะคะ ไม่งามเจ้าค่ะ  
  แต่กระทำการที่ขัดกับการสละกิเลส ขัดเกลากิเลส  เช่นมีการทำบุญให้กับพระธุดงค์ ดูไม่งามเลยค่ะ ไม่น่าเลื่อมใส
ใช้คำพูดอื่นที่เหมาะสมจะเหมาะจะดีกว่านะเจ้าคะ  

"ธุดงค์   เป็นวัตรปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตไว้ แต่ไม่มีการบังคับ แล้วแต่ผู้ใดจะสมัครใจปฏิบัติ
เป็นอุบายวิธีกำจัดขัดเกลากิเลส ทำให้เกิดความมักน้อยสันโดษยิ่งขึ้น ไม่สะสม
เพื่อให้เบาสบายไปมาได้สะดวกด้วยไม่มีภาระมาก เหมือนนกที่มีเพียงปีกก็บินไป
มิใช่เพื่อสะสมหรือเพื่อลาภสักการะและชื่อเสียง ถ้าทำเพื่อลาภ เพื่อชื่อเสียง ต้องอาบัติทุกกฎ"



5.อุบาสก อุบาสิกา ที่ดี ก็ต้องทักท้วง หากเห็นว่าไม่งาม ไม่เหมาะ ไม่ควร  มิเช่นนั้นลูกหลานจะแยกไม่ออกว่า
สิ่งใดคือศาสนาพุทธ สิ่งใดคือที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันสมัยโดยความเห็นของคนบางกลุ่มเจ้าค่ะ


   โยมมิได้หยาบคาย มิได้กล่าว วาจา กล่าวล่วงพระสงฆ์  โยมไม่ต้องตกนรกนะเจ้าคะ ไม่ต้องมาแช่งโยมเจ้าค่ะ
เพราะโยมศรัทธาใน พระพุทธเจ้ามิเคยขัดต่อ คำสอน ของพระพุทธองค์  โยมเชื่อมั่นว่า ความดีงามนั้น  ไม่จำเป็นต้องเก็บควาูมเห็นถูกไว้ที่บ้านทั้งๆที่เห็น สิ่งทีไม่ควรในการศาสนา เช่นการอ้างธุดงค์เช่นนี้ค่ะ


   ที่สำคัญ การบอกว่าทำบุญ ได้ขึ้นสวรรค์  ก็เป็นความจริงนะเจ้าคะ   แต่ก็ไม่เคยปรากฏในพุทธศาสนามาก่อนว่า ต้องเอาเรื่องสวรรค์
มาชักจูง ญาติโยม  ให้ทำบุญ   และก้ไม่เคยปรากฏในพระพุทธศาสนาเช่นกัน ว่า ต้องไปชักชวนว่า ทำบุญมากแล้วได้บุญมาก

     จริงอยู่ ไม่มีใครบังคับว่าต้องทำเท่าไหร่  แต่ก็ไม่ปฏิเสธใช่มั้ยคะ ว่ามีการชักชวนให้ทำบุญมาก จะได้ขึ้นสวรรค์ค่ะ
แน่ใจแค่ไหน ว่าคำพูดแบบนี้ ไมได้เป็นไปด้วยการ ต้องการ ลาภ  จากผู้มีศรัทธาคะ
เชื่อเถอะว่า  คนทำบุญไม่ได้ ไม่หวังจะไปสวรรค์จริงๆ  การหวังเป็นการสร้างจุดดำในกุศลนะคะ  เพราะบุญนั้นไม่บริสุทธิ์เจ้าค่ะ
ยิ่งใช้คำพูดให้คนมีความหวัง  ในการไปสวรรค์  ... นั่นยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลยนะคะ ยิ่งหวังมากทำมาก ก็จะได้ผลในทางตรงข้ามนะเจ้าคะ
ขอไม่เอ่ยแล้วกันเจ้าค่ะ

  หมายเหตุ ขอทุกท่าน ข้ามความเห็นคุณตองเก้า และ สมาชิกหมายเลข 1831258   ข้างล่างไปนะเจ้าค่ะ  ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่