***เพิ่มเติมลิ้งกระทู้ 2 เกี่ยวกับที่เที่ยวไว้ให้นะคะ จะได้ไม่ต้องเลื่อนไปล่างกระทู้ รอโหลดรูปนาน
อาจจะไม่ละเอียดเท่ากระทู้แรก เนื่องด้วยเวลาน้อยมากแต่อยากมาเขียนให้จบ ใครมีอะไรสงสัยหลังไมค์มาถามได้ตลอดค่า
>>>> http://ppantip.com/topic/33240696
สวัสดีค่ะ
นี่ไม่ใช่กระทู้แรกของเราในพันทิป แต่เป็นกระทู้แรกที่เราจะรีวิวการไปแบ็คแพ็คต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตของเราเอง
ทุกอย่างในทริปแทบจะเป็นครั้งแรก พูดได้เต็มปากว่าเราโคตรจะเป็นมือใหม่มากๆ
เราเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์แต่ละสิ่งอย่างที่ได้ไปเจอะเจอะมาในทริปนี้
และแบ่งปันโซลในมุมมองของเราให้คนอื่นหรือคนที่เป็นมือใหม่ในการไปเที่ยวได้เก็บไว้เป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆบ้างค่ะ
ทริปนี้เกิดขึ้นจากแรงผลักดันในช่วงที่เราไม่ได้ไปเที่ยวไหน ได้แต่อยู่บ้านดูรีวิวไปเที่ยวในพันทิปเป็นไม่รู้กี่ร้อยกระทู้
นั่งกดไลค์เพจไปเที่ยวไม่รู้กี่สิบเพจ นั่งเขียนประเทศเป้าหมายที่จะต้องไปแบ็คแพ็คให้ได้ไปวันๆ
จนกระทั่ง โชคดีก็มาถึงเรา เราเรียกว่าเป็นความโชคดีที่พ่อกับแม่ให้โอกาสเราได้ไปทริปนี้
และเป็นความโชคดีที่มหาลัยเราจะหยุด 1 อาทิตย์ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2558
...ย้อนกลับไปตอนเดือนตุลาคมปี 2557
official line account ของ Airasia เด้งขึ้นมา บอกโปรโมชั่นลดราคากระหน่ำเหมือนเช่นเคย
เราเปิดดูแล้วได้แต่ครุ่นคิด ถึง to do list ที่เคยคิดไว้ว่าจะไปแบ็คแพ็คที่เกาหลีใต้ให้ได้
ประจวบเหมาะกับที่มหาลัยเราจะมีวันหยุดกีฬาช่วงวันที่ 19-23 มกราคม 2558
ซึ่งมันก็ตรงกับความต้องการของเรา ที่อยากจะไปเห็นหิมะให้ได้ซักครั้งในชีวิต แม้จะรู้ว่าอากาศคงหนาวมาก
แต่เราก็ไม่ได้หวั่น เพราะอยู่เมืองไทยก็จินตนาการความหนาวสุดขั้วขนาดนั้นไม่ออกอยู่ดี จึงต้องลองไปเจอด้วยตัวเอง!
โอเค เรามีวันเวลาที่แน่นอนว่าเราว่างชัวร์ๆแล้ว เรารีบจัดแจงไปขอพ่อกับแม่
ยอมรับว่าตอนแรกในใจไม่ได้หวังว่าจะได้ไป แต่พ่อแม่ตอบมาว่า "ก็ไปสิ" เท่านั้นแหละ ทริปนี้จึงเริ่มต้นขึ้น เย้!
เราจองตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ จากดอนเมืองไปโซลได้ในราคา 8000 กว่าบาทรวมไปกลับ
และจองที่พักผ่านเว็บ agoda เป็นจำนวน 4 คืน ในราคาประมาณ 2800 บาทต่อคน เป็นห้องแบบ dormitory เตียง 2 ชั้น 2 เตียง (ห้องละ 4 คน)
**ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่จองตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศและวางแผนไปเที่ยวเองครั้งแรก ไม่รู้อะไรเลย เราจึงไปหาข้อมูลเกี่ยวกับกระเป๋าสัมภาระ น้ำหนัก บลาๆๆ เยอะมาก โทรไปถามคอลเซ็นเตอร์ของแอร์เอเชียเองก็หลายรอบ จนสรุปได้ว่า กระเป๋าที่เอาขึ้นเครื่องต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม อนุโลมให้เอาขึ้นไป 2 ใบได้ คืออีกใบจะต้องเป็นกระเป๋ากล้องหรือกระเป๋าถือของผู้หญิง ส่วนพวกของเหลวในกระเป๋า ต้องไม่เกิน 100 ml ต่อ 1 ชิ้น ส่วนกระเป๋าที่โหลดลงใต้เครื่อง จะใส่ของเหลวอะไรเท่าไหร่ก็ได้ แต่ต้องซื้อน้ำหนักก่อนบินนั่นเอง แล้วก็อย่าไปซื้อที่หน้าเคาร์เตอร์เด็ดขาด เพราะแพงตาปรือแน่ๆ ควรสั่งซื้อเพิ่ม อย่างน้อยก่อนเวลาบินประมาณ 1 ชม. แล้วก็กระเป๋าที่โหลดใต้เครื่องมีกี่ใบก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนใบ
เราซื้อกระเป๋าน้ำหนักขาไปและกลับไว้ก่อนเที่ยวละ 20 กิโลกรัม (เพิ่มอีก 1400 บาท)
แชร์กับเพื่อนร่วมทริปนี้อีก 1 คน อ้อ ทริปนี้เราไปกับรุ่นน้องที่สนิทกันอีก 1 คนค่ะ
ส่วนที่พัก เราช่วยกันดูกับน้อง เลือกอันที่ดูปลอดภัย ได้รับคำชมเยอะๆ แล้วก็ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือจุดแลนด์มาร์คในโซลค่ะ
เราจะขอแบ่งเป็นพาร์ทๆ ตั้งแต่รีวิวที่พัก การเดินทาง อาหารการกิน ข้าวของเครื่องใช้ ที่เที่ยวต่างๆที่เราได้สัมผัสมาด้วยตัวเอง
อาจจะไม่มากไม่มาย แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมีแพลนจะไปแบ็คแพ็คที่โซลนะคะ
"การเดินทาง ทำให้เราเรียนรู้และเติบโตขึ้น"
เราไม่ค่อยเข้าใจประโยคนี้ดีเท่าไหร่นัก จนกระทั่งถึงวันที่เรากล้าจะออกเดินทางด้วยตัวเองดูบ้าง
แล้วการเดินทางก็ให้อะไรหลายๆอย่าง ไม่ใช่แค่การได้ออกไปเที่ยว หรือได้ไปสถานที่สวยๆ
สำหรับเรามันทำให้เราได้รู้จักทั้งตัวเองแล้วก็คนอื่นมากขึ้น รู้จักปล่อยวาง รู้จักยืดหยุ่นเมื่อแผนที่คิดไว้ไม่เป็นอย่างที่หวัง
เราได้เรียนรู้ว่า การไปเที่ยวด้วยตัวเองมันดียังไง และการได้ไปเปิดหูเปิดตา ได้เห็นโลกใบนี้กว้างขึ้น มันดียังไง
//// Seoul 1st time : มือใหม่ หัดไปโซล : ตอน โซลหนาวมาก ///// 5 วัน 4 คืน งบ 17000 บาท
อาจจะไม่ละเอียดเท่ากระทู้แรก เนื่องด้วยเวลาน้อยมากแต่อยากมาเขียนให้จบ ใครมีอะไรสงสัยหลังไมค์มาถามได้ตลอดค่า
>>>> http://ppantip.com/topic/33240696
สวัสดีค่ะ
นี่ไม่ใช่กระทู้แรกของเราในพันทิป แต่เป็นกระทู้แรกที่เราจะรีวิวการไปแบ็คแพ็คต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตของเราเอง
ทุกอย่างในทริปแทบจะเป็นครั้งแรก พูดได้เต็มปากว่าเราโคตรจะเป็นมือใหม่มากๆ
เราเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์แต่ละสิ่งอย่างที่ได้ไปเจอะเจอะมาในทริปนี้
และแบ่งปันโซลในมุมมองของเราให้คนอื่นหรือคนที่เป็นมือใหม่ในการไปเที่ยวได้เก็บไว้เป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆบ้างค่ะ
ทริปนี้เกิดขึ้นจากแรงผลักดันในช่วงที่เราไม่ได้ไปเที่ยวไหน ได้แต่อยู่บ้านดูรีวิวไปเที่ยวในพันทิปเป็นไม่รู้กี่ร้อยกระทู้
นั่งกดไลค์เพจไปเที่ยวไม่รู้กี่สิบเพจ นั่งเขียนประเทศเป้าหมายที่จะต้องไปแบ็คแพ็คให้ได้ไปวันๆ
จนกระทั่ง โชคดีก็มาถึงเรา เราเรียกว่าเป็นความโชคดีที่พ่อกับแม่ให้โอกาสเราได้ไปทริปนี้
และเป็นความโชคดีที่มหาลัยเราจะหยุด 1 อาทิตย์ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2558
...ย้อนกลับไปตอนเดือนตุลาคมปี 2557
official line account ของ Airasia เด้งขึ้นมา บอกโปรโมชั่นลดราคากระหน่ำเหมือนเช่นเคย
เราเปิดดูแล้วได้แต่ครุ่นคิด ถึง to do list ที่เคยคิดไว้ว่าจะไปแบ็คแพ็คที่เกาหลีใต้ให้ได้
ประจวบเหมาะกับที่มหาลัยเราจะมีวันหยุดกีฬาช่วงวันที่ 19-23 มกราคม 2558
ซึ่งมันก็ตรงกับความต้องการของเรา ที่อยากจะไปเห็นหิมะให้ได้ซักครั้งในชีวิต แม้จะรู้ว่าอากาศคงหนาวมาก
แต่เราก็ไม่ได้หวั่น เพราะอยู่เมืองไทยก็จินตนาการความหนาวสุดขั้วขนาดนั้นไม่ออกอยู่ดี จึงต้องลองไปเจอด้วยตัวเอง!
โอเค เรามีวันเวลาที่แน่นอนว่าเราว่างชัวร์ๆแล้ว เรารีบจัดแจงไปขอพ่อกับแม่
ยอมรับว่าตอนแรกในใจไม่ได้หวังว่าจะได้ไป แต่พ่อแม่ตอบมาว่า "ก็ไปสิ" เท่านั้นแหละ ทริปนี้จึงเริ่มต้นขึ้น เย้!
เราจองตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ จากดอนเมืองไปโซลได้ในราคา 8000 กว่าบาทรวมไปกลับ
และจองที่พักผ่านเว็บ agoda เป็นจำนวน 4 คืน ในราคาประมาณ 2800 บาทต่อคน เป็นห้องแบบ dormitory เตียง 2 ชั้น 2 เตียง (ห้องละ 4 คน)
**ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่จองตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศและวางแผนไปเที่ยวเองครั้งแรก ไม่รู้อะไรเลย เราจึงไปหาข้อมูลเกี่ยวกับกระเป๋าสัมภาระ น้ำหนัก บลาๆๆ เยอะมาก โทรไปถามคอลเซ็นเตอร์ของแอร์เอเชียเองก็หลายรอบ จนสรุปได้ว่า กระเป๋าที่เอาขึ้นเครื่องต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม อนุโลมให้เอาขึ้นไป 2 ใบได้ คืออีกใบจะต้องเป็นกระเป๋ากล้องหรือกระเป๋าถือของผู้หญิง ส่วนพวกของเหลวในกระเป๋า ต้องไม่เกิน 100 ml ต่อ 1 ชิ้น ส่วนกระเป๋าที่โหลดลงใต้เครื่อง จะใส่ของเหลวอะไรเท่าไหร่ก็ได้ แต่ต้องซื้อน้ำหนักก่อนบินนั่นเอง แล้วก็อย่าไปซื้อที่หน้าเคาร์เตอร์เด็ดขาด เพราะแพงตาปรือแน่ๆ ควรสั่งซื้อเพิ่ม อย่างน้อยก่อนเวลาบินประมาณ 1 ชม. แล้วก็กระเป๋าที่โหลดใต้เครื่องมีกี่ใบก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนใบ
เราซื้อกระเป๋าน้ำหนักขาไปและกลับไว้ก่อนเที่ยวละ 20 กิโลกรัม (เพิ่มอีก 1400 บาท)
แชร์กับเพื่อนร่วมทริปนี้อีก 1 คน อ้อ ทริปนี้เราไปกับรุ่นน้องที่สนิทกันอีก 1 คนค่ะ
ส่วนที่พัก เราช่วยกันดูกับน้อง เลือกอันที่ดูปลอดภัย ได้รับคำชมเยอะๆ แล้วก็ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือจุดแลนด์มาร์คในโซลค่ะ
เราจะขอแบ่งเป็นพาร์ทๆ ตั้งแต่รีวิวที่พัก การเดินทาง อาหารการกิน ข้าวของเครื่องใช้ ที่เที่ยวต่างๆที่เราได้สัมผัสมาด้วยตัวเอง
อาจจะไม่มากไม่มาย แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมีแพลนจะไปแบ็คแพ็คที่โซลนะคะ
"การเดินทาง ทำให้เราเรียนรู้และเติบโตขึ้น"
เราไม่ค่อยเข้าใจประโยคนี้ดีเท่าไหร่นัก จนกระทั่งถึงวันที่เรากล้าจะออกเดินทางด้วยตัวเองดูบ้าง
แล้วการเดินทางก็ให้อะไรหลายๆอย่าง ไม่ใช่แค่การได้ออกไปเที่ยว หรือได้ไปสถานที่สวยๆ
สำหรับเรามันทำให้เราได้รู้จักทั้งตัวเองแล้วก็คนอื่นมากขึ้น รู้จักปล่อยวาง รู้จักยืดหยุ่นเมื่อแผนที่คิดไว้ไม่เป็นอย่างที่หวัง
เราได้เรียนรู้ว่า การไปเที่ยวด้วยตัวเองมันดียังไง และการได้ไปเปิดหูเปิดตา ได้เห็นโลกใบนี้กว้างขึ้น มันดียังไง