แชร์ประสบการณ์หางาน กับ บริษัทจัดหางาน หรือ HEAD HUNTER ทั้งหลาย

เนื่องจาก ป้า เป็นแม่บ้านจนแก่ยาน กลับมาหางานอีกครั้ง ทำให้ได้สมัครไปทั่วมาก เจอะเจอมาหลายอย่าง บางทีก็ทำให้เรามีความหวัง บางที ไปมาแล้วรู้สึก ไม่น่าไปเลย  หลังๆ ห้องสีลม มีหลานๆเอ๊ย น้องๆมาถามเกี่ยวกับงานเยอะ ขอถือโอกาสรีวิวซะเลย

ทั้งหมดเป็นความเห็น และ ประสบการณ์ส่วนตัว ประเมินจากความชอบ ไม่ชอบ เนื่องจาก จขกท เป็นเคสยากถึงยากมาก สำหรับพวกเค้า การดิวจึงต่างกันไป

เริ่มจาก ใครดีหล่ะ เอานี่ก่อน

1. บริษัท P อักษรสี่ตัว
ตามธรรมเนียม กรอกประวัติเป็นใบมาไม่มีตัวอย่าง ไม่มีปากกาที่โต๊ะ อ่านดีๆและควรเตรียมปากกา สัมภาษณ์ไทย ทดสอบ eng โดยฝรั่ง โดยรวมปกติ ไม่มีอะไรมาก คนไปเยอะอยุ่ ที่นี่มีแยกเป็นอันนี้ กะ outsource และ executive มั้ง จริงๆเค้าเรียกไปเป็น recuiter แหล่ะ แต่พอไม่ผ่านหัวหน้า ก็ไม่เคยได้เรียกตำแหน่งไหนอีกเลย และ  แต่ไม่เคยได้งานจากที่นี่เลย  ก็มีงานเยอะนะคิดว่า และตัวเลือกเยอะ แต่แค่ไม่ตรงกับเราเลยๆไม่เคยมีงานให้เลย

คหสต เฉยๆ เนื่องจากไม่ได้งานไง ป้าเลยเฉย ป้าก็ไม่กดสมัครอีกเหมือนกัน เวลาเจอที่ jobdbอ่ะนะ

2. บริษัท A
กรอกประวัติ ไม่มีใบตัวอย่าง ไม่มีปากกา กรอกเสร็จ มีทำแบบทดสอบ essay อังกฤษนิดหน่อย แล้ว มีสัมภาษณ์กะคนไทยดูเนือยๆหน่อย
ที่นี่ ไม่เคยโดนเสนองานเลยสักครั้งเหมือนกัน  

คหสต เฉยๆเหมือนกัน แต่แอบไม่ชอบตอนสัมภาษณ์กะคนไทย ดูเค้าเองก็ชิวๆเฉยๆไม่สนใจ

3. บริษัท M
ไม่เคยแม้แต่จะเรียกไปกรอกไปสมัคร ไม่ว่ากดสมัครไปกี่ตำแหน่ง เลยไม่รู้จะมีความเห็นอะไร แต่ที่นี่รู้สึกจะเรียกแต่คนprofileดีเท่านั้น เพราะ มีบริษัทน้ำมัน หรือ ข้ามชาติเยอะ

4.บริษัท วันศุกร์
กรอกใบสมัคร ทำเทสภาษา ทำเทสกะคอมนิดหน่อยไม่ยากดูว่าทำโปรแกรมได้ไหม คุยกะเจ้าของ คุยดี แต่ไม่เคยได้งานจากที่นี่ มีมาเรียกงานด่วนๆ ตอนหลายทุ่มๆแล้วเหมือนกัน งานรายวันด้วย เค้าคงขาดคนหนักเพราะตอ้งไปทำเช้ารุ่งขึ้น เผอิญสนใจอยากรู้เลยยอมไป  พอทำเสร็จ เงินไม่ได้ตามตกลง บอกอย่างหนึ่ง จ่ายอีกอย่างเพราะบอกหักภาษี ไม่โอ อย่างแรง
-------------------------------------------------------------------------
ทั้ง 4 อัน ไม่รู้จะประเมินไงนะ เพราะไม่เคยได้อะไรเลยๆ บอกได้แค่นี้ค่ะ แนะนำ หรือ อะไรที่ไหน คงต้องแล้วแต่บุคคลหล่ะ

--------------------------------------------------------------------------

5.บริษัท A ฟากโกโบริ
กรอกใบสมัคร คุยกะคนไทย สัมภาษณ์กะญี่ปุ่น ค่อนข้างเป็นระเบียบใช้ได้  เคยได้เสนองานครั้งนึง แต่พอไปถึง บ ลูกค้า จริงๆ รู้สึกไม่ใช่ เลยบอก บ ลูกค้าไปเลยว่าคงไม่ใช่ที่ของเรา หลังจากนั้นเค้าคงเข็ด 555 ไม่มีมาเสนออีก

6. บริษัท J อยู่แถวสุขุมวิท
เป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่นโดยเฉพาะ  เป็นระเบียนดี สัมภาษณ์ไทย และ กับคนญี่ปุ่น งานที่นีโดยรวมค่อนข้างดี รอบแรกไม่เคยได้งานเลย คราวหลัง ไปupdate ใบสมัคร ก้อมีเสนอมางานนึง แต่ไปสัมภาษณ์แล้วไม่ตรงกันเรื่องเงินเดือนตามเสนอ ก็ผ่านไป จริงๆ จะบอกว่า บ ลูกค้าราย นี้ เราเห็นประกาศจาก บ Sแหละ แต่ว่าเค้าไม่ส่งเราไปที่นี่  บ J นี้ส่งเราแทน

7.บริษัท S ตรงสีลม
เป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่นโดยเฉพาะเหมือนกัน ออฟฟิสเล็กกว่าสองที่แรก ๆเป็นห้องๆแยกสัมภาษณ์เลย อันนี้จะเป็น partition กั้น แต่เป็นสัดส่วน
น้องๆพนักงานต้อนรับดี  ข้อมูลตัวอย่างดี ตามสไตส์ญี่ปุ่น กรอกใบสมัคร ถ่ายรูป สัมภาษณ์eng กับน้องเชื้อแขก ภาษาดี ถามทั่วไป เช่น วันหยุดทำอะไร เคยไปไหนมา แค่ดูภาษา น้องเบื่อชีวิตมาก เบื่อการที่ทำอย่างรุนแรง 555 รู้สึกได้ว่า กุโคตรเบื่อแม่มเลย เค้าถามคำเราเลยตอบคำหน่ะ มันก้อไม่ใช่หน้าที่เราต้องมาpleaseเค้าเหมือนกัน ต่อมา  คนญี่ปุ่นสัมภาษณ์ มียื่นนามบัตรแนะนำตัวด้วย
อืม ที่ J ก้อมีนะไม่แน่ใจ ตรงนี้เรารู้สึกว่าเค้าปฎิบัติกับเราตามธรรมเนียมญี่ปุ่นดีและการให้นามบัตรดูให้ความสำคัญเราด้วย คหสต อ่อ ระหว่างรอน้องนำน้ำมาให้ทานด้วยค่ะ ก่อนกลับคนญี่ปุ่น เอาปากกากะโน๊ตมาให้ ดีใจเหลือหลาย 555  แต่เราไม่ได้งานจากที่นี่นะ ถ้าใครภาษาโอเค สมัครโลดงานดี โดยส่วนมาก
8.บริษัท P ตรงสีลม
เป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่น เป็นออฟฟิสเล็กๆไม่ใหญ่มาก เป็นสัดส่วนดีเหมือนกัน แต่เวลาสัมภาษณ์คุยกันในห้องนะคะ  กรอกฟอร์ม มีตัวอย่าง มีวิธีบอกหมด ตามสไตล์ยุ่น น้องพนักงานโอเค ส่วนเรื่องเทสeng ที่ตอ้งทำ เคยอ่านเจอเรื่องคนบ่นว่า นั่งใกล้ reception เสียงรบกวนมาก ตอนเราไปนั่งนั่นเลย เสียงก้อมีบ้างนะ แต่เทสมันไม่ยากเลยนะ แล้วก้อไม่ได้รบกวนอะไรขนาดนั้น อ่อ ในสมุดคำถาม มีคนแบบว่า วงๆไว้ด้วย อย่าไปตามเชียว มันวางยา 5555 พอสัมภาษณ์กะคนญี่ปุ่น ก้อถามตามเรซูเม่ทั่วไปก็โอเค สัมภาษณ์กับคนไทยน่ารักมาก อัธยาศัยดี ตั้งแต่ไปมานี่ เราชอบคนนี้สุด อ่อ ที่ S ก็ดีนะน่ารัก เหมาะกับงานมาก คือ อัธยาศัยดี คุยไหลลื่น นึกถึงคนที่ยิ้มแย้มแล้วคุณคุยกะเค้าได้ลื่นไหลไหม สองที่นี้เป็นแบบนั้น
เค้าเสนองานให้เลยว่าพอจะได้ที่ไหนบ้าง ก็โอเค เราไม่อะไรมากเพราะลูกค้าต้องตัดสินใจเลือกอีกที  ทั้งหมดราวๆ ชั่วโมงครึ่ง ถึง สองชั่วโมง
พอตอนเย็น เค้าโทรมาเสนออีกที รู้สึกเค้าตามงานดี  คือ เราแก่แล้วไง choice เรายากมากเพราะไร้ประสบการณ์ เลยรู้สึกดี จากที่ตอนตอบๆเมลกัน ดูไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ อ่อ เค้ามีเมลมาแจ้งเตือน smsแจ้งเตือนวันสัมภาษณ์เราด้วยนะ

9.บริษัท P อโศก
ที่นี่ใหญ่ น้องพนักงานเด็กๆเยอะ ไปถึงติดต่อเคาเตอร์ กรอกใบสมัคร รับข้อสอบ ตรงนี้แบบว่าโคตรเกลียดเลย เราว่าบางข้อchoice เค้าผิดนะ ก็ทำเท่าที่ทำได้ ส่ง รอเรียกสัมภาษณ์ เข้าไปเป็นคอกๆเล็กๆ  เค้าจะถามที่เรากรอกนั่นแหล่ะค่ะ แล้วน้องๆเค้าก้อพิมให้ มีคุยกันนิดหน่อยก็น่ารักดีนะ พอเสร็จ ก้อคุยกะญี่ปุ่น โหดอ่ะ คนนี้ คือ เค้าค่อนข้างเย็นชา ภาษาengดี เพราะ เค้าเรียนabac แต่ก้อตามสไตล์คือจะมั่นไง เย็นชามาก คือ ถ้าถามว่า onamae wa nan desu ka จาก บริษัททั้งหมด เราว่าที่นี่เสียงเย็นชา สุดๆหล่ะ  อ่อ ที่นี่มีน้ำกดกินๆได้ตามศรัทธา ปากกาไม่มีที่โต๊ะ ตัวอย่างการกรอกขั้นตอนชัดดี
สัมภาษณ์เสร็จ ถ้าได้ภาษาก็จะมีคนมาสัมภาษณ์อีกนะคิดว่า แนวเสนองานเลย อันนี้เดาเพราะดูจากคนอื่น ส่วนของเรา มีน้องมาเสนองานให้อันนึงค่ะ แต่ตอนเค้าบอกเราคิดว่า บ ไม่เอาหรอก เราแก่แล้วแหะๆๆ แต่ก้อโอเค เผอิญมันนานกว่าสองชม เกือบ สองครึ่งหล่ะ เราติดสัมภาษณ์อีกที่ เราเลยบอกเค้าว่า เราติดต้องรีบไป  

จากที่นี่มีเสนองานค่ะ การตามโอเค เมลตามปกติ แต่ว่าเสียเวลานิดนึงตรงข้อมูลงานไม่ตรงกัน ทำให้การเดินทางไปทำงานเราคิดหนัก  แต่ก้อมีตามงาน มาเสนออีกที่ให้

10.บริษัท S แถวอโศก
อืม ออฟฟิสเล็กๆ แอบไม่คอ่ยชอบ ตอนที่ขึ้นไป แล้วมีน้องผู้หญิงเดินออกมาจากห้องด้านซ้าย แล้วเราบอกว่า นัด......ไว้  เค้าก็สมัครงานโน่นไง โบ้ยด้วยปาก คือ หน้าตากับน้ำเสียงนึกออกป่ะค่ะ  เรารู้สึกว่า เราเป็นลุกค้าเค้านะถึงจะมาสมัครให้เค้าหางานให้แต่เค้าได้เงินจากเรา
อันนี้ปกติ กรอกใบสมัคร มีtest ภาษานิดหน่อย มีปากกาเตรียมไว้ให้  เราขีดดูก่อนว่าเค้าเตรียมไว้สีอะไร เพราะ ปกติญี่ปุ่นใช้สีดำหน่ะค่ะ เราจะได้เลือกถูก เรามีปากกาทุกสีไปเอง กรอกเสร็จ ถ่ายรูป ไปสัมภาษณ์อีกห้อง กับน้องคนไทย ก็ไม่มีอะไรมาก ถามเพื่อกรอกข้อมูลให้เราหน่ะค่ะ ไม่ได้ลึกอะไร แล้วก้อมีคนญี่ปุ่น  จบคำสัมภาษณ์ด้วยว่าแล้วจะติดต่อกลับไป ก็ทราบว่าไม่มีงานให้ แต่จริงๆ จากที่เค้าให้กรอกนี่ เราก็พอทราบแล้วว่า งานส่วนใหญ่ที่นี่น่าจะเป็นแถบโรงงานเป็นหลัก  ที่นี่กรอกไม่เยอะ ไม่เยิ่นเย้นค่ะ เอาท ีใช้จริงๆ เรียกว่า กรอกนอ้ยที่สุดเท่าที่เราเขียนมา 555

สรุป  ถ้าภาษาคุณดี นะคะ เราแนะนำ  บริษัท J และ S อันนี้ดูเค้าจะมีงานดี เงินเดือนเยอะๆอลังๆให้นะ คิดว่า  
ส่วน ถ้าภาษาคุณพอได้หรือไม่ได้ หรือแม้แต่ดี  บริษัททั้งสอง P โอเคเลยจริงๆ Pที่แรกหน่ะ เราเคยได้ยินไม่ดีเยอะ แต่พอไปเองก็โอเคทีเดียว
ส่วนตัว เราประทับใจสองบริษัทนี้ เนื่องจาก เป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่นก้อจริง แต่ถ้าคุณไม่ได้ภาษา หรือ ได้ง่อยๆ เค้ายังมีงานให้คุณได้ นั่นหมายถึง เค้าค่อนข้างมีลูกค้าเยอะในมือทีเดียว ที่จะหาให้คุณลงได้  จากการติดตามงานและเสนองานเราเลยชอบค่ะ

ส่วน S เราว่า อืม.... คุณต้องได้ภาษาถึงจะมีงานนะ only ดังนั้นเหมาะกับ น้องจบใหม่ ที่พอได้ภาษา อยากสตาร์ทเงินเดือนเร็ว และ เก็บประสบการณ์  สำหรับเรา เสียเวลาอ่ะ

คร่าวๆก็ประมาณนี้ หวังว่าคงพอจะช่วยได้  น้องๆจบใหม่อย่าท้อ  ยังเด็ก ยังมีโอกาศเสมอค่ะ พี่ตกมาปีกว่าแล้วยังสมัครอยู่เลย คนเราทำงานได้ถึง 60 นะถ้าคิดจะเป็นแค่พนักงานบริษัทหน่ะ ก็ยังมีเวลายาวใช่ไหม พี่ยังมีเวลาอีก 20 ปีเลย ถ้าน้องท้อให้ดูพี่ บางทีบางอย่างเราผ่าน แต่เค้าบอกเราแก่นี่มันก้อนะ
ขอให้รักษาเวลา รักษาสัญญา  บอกอะไรไว้ ทำ นัดเป็นนัด ไม่อยากทำไม่อยากไป บอกกล่าว อย่าหนีหาย อย่าสาย อย่ากลัว โชคดีจ๊ะ  

สู้ต่อไปจ๊ะ มนุษย์เงินเดือน
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
สมัยอยู่ไทยมีประสบการณ์ตรงจากการได้งานโดยผ่าน Head Hunter (แต่บริษัทของเราคือ E แถวสีลม ไม่มีในลิสต์ของ จขกท.) ส่วนตัวเราคิดว่ามันตอบโจทย์เราได้ตรงที่เราไม่ชอบการสมัครงานที่แบบต้องไปง้อของานแบบส่งใบสมัครแล้วก็รอๆๆ รอแบบไร้ความหวัง (อันนี้คือเข็ดจากสมัยจบใหม่ๆ แล้วตระเวนหางาน 555) ด้วยจังหวะชีวิตที่ฟลุ๊คๆ ได้ไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศอยู่ 6 เดือน หมดคอร์สก็อยากต่อโท แต่เจ้ากรรมเจอปัญหาค่าเงินจากปอนด์ละ 40 ขึ้นเป็นปอนด์ละ 90 ชีวิตพัง!! พ่อแม่เรียกกลับไทย "หนูไม่กลับ" อยู่สู้ชีวิตโดยลำพัง โชคดีมีโอกาสทำงานบริษัทฝรั่งที่มีชื่อเสียงนิดหน่อยอยู่หลายปี...ตัดฉับมาที่คิดถึงบ้าน กลับไทยดีกว่า

ตอนกลับมานั้นเราอายุ 37 เมื่อกลับมาแล้วเราก็ได้ความมั่นใจจากภาษาและประสบการณ์การทำงานของเรา บอกเพื่อนว่าอยากทำงานล่ะเพื่อนเลยเอา CV เราไปให้คนรู้จักที่เค้าทำงานที่บริษัท E ซักแป๊บทาง E ก็เรียกเข้าไปสัมภาษณ์(คนสัมเป็นสิงคโปร์)ก็คุยอยู่เป็นชั่วโมง หลักๆ เลยเราว่าเค้าดูพื้นภาษาอังกฤษของเราว่าอยู่ในระดับไหน บริษัท E นี้เลือกคนเข้ามาสำหรับตำแหน่งงานระดับผู้บริหาร ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็ต้องการคนไทยที่สื่อสารใช้ภาษาอังกฤษได้ดีพอสมควร เราเข้าเกณฑ์ในจุดนี้ ไม่นานก็มีการนำเสนอเราจากบริษัท E ให้กับบริษัทนึงที่สิ่งที่เค้าต้องการมันแมทช์กับความสามารถที่เรามี สรุปด้วยวุฒิปริญญาตรีไทยแลนด์เนี่ยแหล่ะ เรามีค่าตัวห้าหมื่นห้า (เกือบ 10 ปีที่แล้วก็เยอะอยู่นะสมัยนั้นสำหรับวุฒิปริญญาตรีสาขาไก่กา) และหลังจากทำบริษัทนั้นไม่นานก็มี Head Hunter ที่อื่นโทร.มาจีบเราไปทำงานที่อื่น หลายๆ ที่เสนอเงินเดือนเฉียดแสน  แต่เราเองมองดูศักยภาพตัวเองแล้วคิดว่า ชั้นจะไปทำงานให้เค้าได้ไม๊ 555 เงินน่ะอยากได้แต่ความสามารถไม่ถึง ก็ต้องปฏิเสธไปด้วยความเสียดาย เค้าอาจจะรับแต่พอทำงานไปไม่พ้นโปรมันจะอายกว่าไม๊ 555

เล่ามาซะยาว ได้โอกาสรำลึกความหลังแล้วมีความสุข ทุกวันนี้เป็นแม่เต็มเวลาเงินเดือนก็ไม่ได้ 555  คิดซะว่าครั้งนึงในชีวิตก็เคยได้ทำงานที่สร้างความภูมิใจให้กับตัวเองและพ่อแม่  หลังๆ เราจะแนะนำเพื่อนๆ น้องๆ ที่ดูแล้วมีศักยภาพเจ๋งๆ แต่ไม่รู้วิธีการหางานที่เงินดีๆ (บางคนก็ไม่รู้จริงๆ นะ) ว่าการหางานผ่านบริษัทพวกนี้มันก็ไม่มีอะไรต้องเสีย(นอกจากเวลา) แต่ถ้าจังหวะดีๆ อาจจะโชคดีได้ร่วมงานกับบริษัทดีๆ ที่เสนอเงินเดือนให้แบบ ชีวิตนี้ชั้นจะเกาะขาเก้าอี้ที่นี่ไว้ไม่ไปไหนเด็ดขาดอะไรแบบนี้เป็นต้น...ลองดูนะคะ
ความคิดเห็นที่ 9
ท่านทั้งหลาย ปรองดองกันเด้อนะคะ  ถ้าท่านใดไม่ทราบเรื่อง head hunter หรืออาจมองผิดไป เพราะ ตรงกับคำว่า บริษัทจัดหางาน อาจเข้าใจ concept สมัยก่อนก็เป็นได้ ไม่เป็นไรนะคะ  

กระทู้นี้เหมาะกับ เด็กน้อยหอยสังข์ และ ป้าแก่ไร้ประสบการณ์ เหมือน จขกทค่ะ
จุดประสงค์ทีตั้งรีวิวนี้  เพราะ  การเดินทางไปสมัครงาน ใช้เงิน เงิน เงิน เงิน เวลา และความหวัง สำหรับเด็กจบใหม่มันค่าใช้จ่ายเยอะ ป้าโดนไปเยอะทีเดียวจะไปจำนำกระเป๋าเป็นค่ารถเมล์หล่ะ  :p  ดังนั้นเวลา plan ไปพยายามให้คุ้ม ที่ไหนไม่ตรงงาน ตรงสาย ตรงประสบการณ์ ท่านจะได้ไม่เสียเวลา เสียเงินไป ก็ต้องเลือกให้มันคุ้มที่สุด  และ ส่วนใหญ่เวลา จขกท หาประวัติ บริษัทก่อนไปมันไม่ค่อยมีคนพูดถึงในบ้างที่


ส่วนท่านที่เก่งๆกันแล้วกระทุ้นี้อาจไม่ประโยชน์กับท่านเลย เพราะ head เค้าล่าท่านอยู่แล้วค่ะ ท่านอาจจะเซ็งบ้างเพราะคนรอบข้างข้าพเจ้าโดนล่ากันทั้งนั้น เว้น ป้าแก่คนนี้ T  T  

ขอบคุณที่มาแชร์กันนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่