ถ้าลูกคุณติดโทมหา’ลัยท็อป 5 ของอังกฤษ คุณจะจำนองบ้านเอาเงินเกือบ 1 ล้าน มาส่งลูกเรียนไหมครับ

อันดับแรก ผมต้องขออภัยที่ชี้แจงไม่หมดว่า ลูกได้ทุนลดค่าเทอมส่วนหนึ่งจากบางมหาวิทยาลัยแล้วครับ เดิมค่าเทอมหลายที่ 20,000 ปอนด์ขึ้นไป แต่ลูกได้ลดเหลือราว 15,000-18,000 ปอนด์ครับ (นี่คือสาเหตุที่กะกันไว้ว่าหาเพิ่มอีกราว 700,000-800,000 บาทก็พอครับสำหรับการขอวีซ่า)
และวันนี้ญาติผู้ใหญ่ที่ฐานะดีมากทราบข่าวจากคุณป้าของหลาน ท่านฟังเรื่องการเก็บเงินของลูกและผลตอบรับมหาวิทยาลัยทั้งหมดแล้วท่านทึ่งมาก และท่านยินดีช่วยเหลือค่าเตรียมตัวช่วงแรก ค่าตั๋วเครื่องบิน ให้อีก100,000 บาทเลยครับ

คิดว่าหลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นโดยไม่ได้อ่านเนื้อหาเดิม เนื้อหาเดิมผมขออนุญาตลบเพื่อความเป็นส่วนตัว แค่อยากอธิบายว่าทางผมไม่ไม่ได้ยากจนหรือแร้นแค้นขนาดนั้น มีบ้านเดี่ยวกับรถมูลค่าเกือบหลักสิบล้านบาท และมีที่ดินอีก 6 แปลงใน 6 จังหวัด แต่ละที่ก็มูลค่าหลายแสนบาทถึงหลักล้าน ตอนนี้ก็กำลังจะขายอยู่ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าจำนองบ้าน เงินเก็บผมก็มีส่วนหนึ่งครับ ซึ่งผมให้ลูกมาขอวีซ่าได้พออยู่แล้ว ที่จะจำนองเพราะแค่เผื่อลูกต้องการใช้เงินฉุกเฉินเพิ่มครับ


ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งสำหรับคำแนะนำครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 34
แนะนำให้ไปเลยค่ะ การเรียนต่างประเทศในมหาวิทยาลัยดีๆ มันไม่ใช่แค่ใบปริญญา แต่มันคือ การสร้างคอนเนคชั่น การเปิดโลก และที่สำคัญ คือการได้รับโอกาส ที่น้อยคนในประเทศไทยจะได้รับ หรือจะไปถึงจุดนั้นได้ ลองนึกภาพว่าปีนึงคนไทยไปเรียนต่ออังกฤษหลายพัน แต่มีไม่กี่ร้อยหรอกที่จะเข้า U แบบ LSE UCL Imperial LB S King's college หรือ Oxford ได้
เราประวัติการศึกษาแบบลูกคุณเป๊ะๆ เราจบมา 2 ปีกว่า น่าจะเข้าเตรียมและจุฬาก่อนลูกคุณปีนึง เรากำลังจะไปเรียนต่อปีนี้ อยู่ในระหว่างการสมัคร (เราเก็บเงินไปเองได้ส่วนหนึ่งราว 700,000 บาทจากการทำงานมา 2 ปีครึ่งสำหรับเป็นค่าเทอม คุณแม่ออกเพิ่มให้อีก 500,000 บาทเป็นค่าครองชีพ  ของเราคณะไม่ใช่สายบัญชีหรือวิศวะ ค่าเทอมจะถูกกว่าหลายแสนบาทค่ะ)
เราขอแนะนำดังนี้
1. พอจำนองบ้านได้เงินมาเอาให้เอาไปยื่นวีซ่าเลย แล้วพอยื่นวีซ่าผ่านเราสามารถอนเงินออกจากบัญชีได้ทันทีค่ะ ก็อาจจะเอาเงินครึ่งหนึ่งไปโปะบ้านคืน หนี้ก็จะเหลือ 400,000 แล้วค่ะ ให้เงินลูกเป๋นค่ากินอยู่ราว 500,000 พอ ถ้าไม่ฟุ่มเฟือย อยู่หอแชร์กับคนไทยด้วยกัน ยังไงก็พอค่ะ ไม่ก็พยายามหางานเสริมทำบ้าง
2. ระหว่างทำ dissertation  ถ้าอยากประหยัด ลองคุยกับอาจารย์หรือถ้าทำเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทยก็จะสามารถกลับมาทำที่ไทยได้ค่ะ
3. ถ้าน้องจบเตรียม หรือจุฬา ในคณะเช่น บัญชี อักษร นิติ วิศวะ รัฐศาสตร์ ยังไงก็จะมีเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องอยู่อังกฤษเยอะมากๆๆๆๆ ลองให้เค้าสอบถามดูเรื่องที่พัก การหางานเสริม อย่างเราเองตอนนี้เพื่อนในห้องที่เตรียมอุดมก็เรียนอยู่อังกฤษ อเมริกากันเกือบครึ่งห้องแล้ว ถามข้อมูลได้ตลอดค่ะ
4. คิดดูลูกคุณทำงานแค่2 ปี เก็บเงินได้เฉียดล้าน ในขณะที่คนอายุ 30 ขึ้นไปหลายคนยังทำไม่ได้ คิดดูว่าเรียนจบกลับมาต้องได้เงินมากกว่านี้แน่ๆ ค่ะ คือ เราต้องดูศักยภาพลูกเราค่ะ ถ้าเป็นเด็กเหลาะแหละ เรียนๆเล่นๆ ยากเรียนนอกโชว์พาว ได้ยูแย่ๆก็ไม่ส่งค่ะ แต่ถ้าศักยภาพระดับลูกคุณ ยังไงก็ควรผลักให้สุดค่ะ

สรุป ไปเลยค่ะ หลายคนอาจบอกว่าต้องเจียมตัวสิ เรียนในไทยก็ได้ มีเท่าไหร่ได้เท่านั้น เราบอกเลยว่าไม่เห็นด้วยค่ะ คำว่าเจียมตัวไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมของเรา ถ้าคิดแบบนั้นชีวิตมันจะไม่ move on คนเราต้องหวังสูง พยายามเท่าที่ทำได้ เราไม่เคยเห็นคนที่พยายามมากๆ แล้วล้มเหลวค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
เรามีไม่เท่าคุณด้วยซ้ำ  แต่สิ่งหนึ่งที่เราสอนลูกคือ

หากลูกอยากเรียนต่างประเทศ ให้สอบชิงทุนไป แล้วที่เหลือ เราจะช่วย
แต่จะให้เราส่งทั้งหมด เราไม่ทำ

ในเมื่อลูกมีความสามารถถึงขนาดนี้ จงใช้ความสามารถให้เป็นประโยชน์ที่สุด
และปัจจุบัน ลูกเราทำได้ เราส่งเงินช่วยเหลือบ้างตามความเหมาะสม วินๆทั้งแม่และลูก
ภาระไม่หนักเกินไป ลูกก็ไม่เครียด ไม่กดดันที่เอา"สมบัติ"ของครอบครัวมาใช้

อย่ายึดติดกับชื่อมหาวิทยาลัยเลยค่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เนื้อหาความรู้และเวลาที่เหมาะสม
ความคิดเห็นที่ 50
ถ้าตอบในฐานะลูก จะตอบว่า พ่อแม่ไม่ต้องแล้ว มันถึงเวลาที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว พ่อแม่ส่งเสียให้ร่ำเรียนมาขนาดนี้ เก็บเงินได้ครึ่งนึงแล้ว เก็บต่ออีกสักปีกว่าๆจะเป็นไรไป ทำไมต้องรบกวนพ่อแม่ ลูกขนาดจะเรียนปอโท พ่อแม่อายุเท่าไร ถ้าเงินแปดแสนไม่มีให้ถึงขนาดจำนองบ้าน แปลว่าที่ผ่านมาของชีวิตตั้งแต่มีลูกก็ทำงานตัวเป็นเกลียวสร้างฐานะ เลี้ยงดูให้การศึกษาลูกจนหมด จะไปรบกวนท่านอีกทำไม ถึงเวลาพ่อแม่สบายได้แล้ว ไม่รู้นะ ส่วนเรามาจากครอบครัวปากกัดตีนถีบ พ่อแม่เสียไปแต่เด็ก หาเงินส่งเสียตัวเองมาตลอด จนได้ทำงานแบบเดียวที่เดียวกับเพื่อนร่วมงานก็คนจบยูท๊อปแรงค์นี่หละ  จบจากที่ดีๆมันก็ดี แต่ทัศนคติ ความเติบโตเป็นผู้ใหญ่นั่นสำคัญยิ่งกว่า และในฐานะลูก ทุกวันนี้คิดอย่างเดียวพ่อแม่น่าจะยังอยู่  จะเลี้ยงดูให้ท่านสบาย สามีเราก็ปากกัดตีนถีบหาเงินเรียนเหมือนกัน จบปอตรีมา บอกแม่เลย ม๊าหยุดทำงานได้แล้ว ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว จะให้เงินม๊าเอง คือคนเราทุกคนมีฝันนะ ยิ่งเรียนคณะดี มหาวิทยาลัยดีๆ ฝันเราก็ไกลนะ แต่บางครั้งเราต้องรู้หน้าที่ตัวเอง ตัวเราตัวสามีก็มีฝัน จะไปเรียน uk แต่ว่า เราก็มีคนที่เรารักต้องดูแลใช่มั้ย ถ้าเราหาเงินเรียนเองได้ พร้อมทั้งเลี้ยงดูคนที่เรารักได้ด้วยมันน่าภูมิใจ สุดท้ายเรากับสามีก็จบโทนะ หลังจากที่พยายามสร้างฐานะ รอเวลาและโอกาสเท่านั้น


แต่ในฐานะพ่อแม่ คือตอนนี้เป็นแม่คน คงตอบว่าไปเหอะลูก การศึกษาเป็นสมบัติที่ดีที่สุดที่ให้ได้ อย่าว่าแต่เงินเลย ชีวิตแม่ก็ใหัได้ เราก็มีแพลนจะส่งลูกชายไปเรียนตรีโทเอกตปทเหมือนกัน คือชีวิต คิดว่าการศึกษาเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดที่จะให้ลูกได้แล้ว แต่วางแผนการเงินตั้งแต่เค้ายังเด็กๆ จะประหยัดอดออม ละทิ้งทุกความฝัน ความอยากได้อยากมีทั้งหมดเพื่อคนที่เรารักที่สุด แล้วฐานะพอให้เค้าได้แค่ไหนก็แค่นั้น และถ้าจขกทเป็นพ่อแม่ เราคงตอบว่า ทำเถอะค่ะ เราเข้าใจ พ่อแม่ทุกคนรักลูกมากกว่าตัวเอง ความฝันของลูกสำคัญกว่าความจริงของตัวเองเสียอีก อนาคตของลูก ความเป็นอยู่ที่ดีของลูกคือสิ่งที่ปรารถนาที่สุด ได้แต่ภาวนาว่า อย่าให้ลูกจขกทเป็นอย่างเด็กบางคนสมัยนี้ ที่คิดเอาแต่ตัวเอง ให้ตัวเองสบายโดยไม่สนใจพ่อแม่เลย ขอให้เค้าเข้าใจความรักความเสียสละของพ่อแม่ด้วย

เดาว่า จขกท ถามในฐานะลูกนะ เราคิดว่า คนเป็นพ่อแม่ถ้าถาม คงไม่พูดแค่เรื่องผิวเผิน มันต้องมีกระบวนการคิด คนเราผ่านชีวิตมาจนลูกเติบใหญ่ เรื่องจะใชัเงินอะไรมันต้องมีแพลน มีทางหนีทีไล่ เห็นบอกแต่สมบัติ จะเอาไปจำนอง ไม่บอกสถานะของครอบครัวเลยว่า ทำงาน มีรายได้ แต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายอะไรยังไง มีแผนยังไงบ้าง คิดแต่จะขาย สร้างหนี้ แล้วเงินผ่อนเอาจากไหน ไม่บอกเลย

ถ้าคุณเป็นลูก ก็คิดถึงพ่อแม่เยอะๆค่ะ คนที่รักเราที่สุดในโลกนะ การจำนองบ้าน เพราะไม่มีเงินเก็บ จะเอารายได้จากไหนไปจ่าย ดอกนี่ตัวกินเงินเลย คุณรู้มั้ย หนี้จำนองนี่นะ ผ่อนไปต้นไม่ลดอ่ะ ดอกล้วนๆเลย พ่อแม่จะนอนไม่หลับเอา ช่วงนี้เศรษฐกิจเริ่มจะแย่ลงเรื่อยๆ เก็บเงินเพิ่มอีกสองปี มหาวิทยาลัยมันไม่ไปไหนหรอก การที่คุณได้ offer มันไม่ใช่การถูกหวย มันคือ reward ของความพยายามของตัวตนคุณ ในเมื่อคุณไม่พร้อมในเวลานี้ เราเชื่อว่า หากคุณชี้แจงกลับไปว่า ขอบคุณที่ตอบรับ แต่ขณะนี้มีปัญหาเรื่องการเงิน ขอโอกาสกลับมาเมื่อพร้อมทั้งปัจจัย และยิ่งมากด้วยประสบการณ์ ไม่มียูไหนปฏิเสธคุณหรอก การยืนหยัดด้วยขาสองขาของตัวเอง มันเป็นเรื่องน่าภูมิใจมากกว่าเรื่องเปลือกนอกแค่ว่าเราจบจากยูแรงค์ไหนอีกนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่