พระผู้มีพระภาคทรงตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว สงครามระหว่างพวกเทวดาและอสูรได้ประชิดกัน
แล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ในสงครามคราวนั้น พวกอสูรเป็นฝ่ายมีชัย พวกเทวดาเป็นฝ่าย
ปราชัย ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเทวดาผู้พ่ายแพ้ต่างพากันหนีไปทางทิศอุดร พวกอสูรได้ชวนกัน
ไล่พวกเทวดาเหล่านั้นไปแล้วทีแล้ว ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทวดาได้ตรัสกะ มาตลีสังคาหก
เทพบุตรด้วยคาถาว่าดูกรมาตลี เธอจงหลีกเลี่ยงรังนกในป่าไม้งิ้ว โดยบ่ายหน้างอนรถ
กลับ ถึงเราจะต้องเสียสละชีวิตในพวกอสูรก็ตามทีนกเหล่านี้อย่าได้ปราศจากรังเสียเลย ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย มาตลีสังคาหกเทพบุตรรับพระดำรัสของท้าวสักกะจอมเทวดาว่า
ขอความเจริญจงมีแด่พระองค์ ดั่งนี้แล้ว ให้รถซึ่งเทียมด้วยม้าอาชาไนยพันตัวหันหลังกลับ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พวกอสูรคิดว่า บัดนี้รถ ซึ่งเทียมด้วยม้าอาชาไนยพันตัว
ของท้าวสักกะจอมเทวดาหันกลับมาแล้ว พวกเทวดาจักทำสงครามกับพวกอสูร
แม้เป็นครั้งที่สองแล พวกอสูรต่างตกใจกลับเข้าไปสู่อสูรบุรี
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ชัยชนะโดยธรรมแท้ๆ ได้เป็นของท้าวสักกะจอมเทวดาแล้ว ด้วยประการฉะนี้แล ฯ
สงครามระหว่างพวกเทวดาและอสูร.......ชัยชนะที่ได้มาโดย ธรรมแท้ๆ.....
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว สงครามระหว่างพวกเทวดาและอสูรได้ประชิดกัน
แล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ในสงครามคราวนั้น พวกอสูรเป็นฝ่ายมีชัย พวกเทวดาเป็นฝ่าย
ปราชัย ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเทวดาผู้พ่ายแพ้ต่างพากันหนีไปทางทิศอุดร พวกอสูรได้ชวนกัน
ไล่พวกเทวดาเหล่านั้นไปแล้วทีแล้ว ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทวดาได้ตรัสกะ มาตลีสังคาหก
เทพบุตรด้วยคาถาว่าดูกรมาตลี เธอจงหลีกเลี่ยงรังนกในป่าไม้งิ้ว โดยบ่ายหน้างอนรถ
กลับ ถึงเราจะต้องเสียสละชีวิตในพวกอสูรก็ตามทีนกเหล่านี้อย่าได้ปราศจากรังเสียเลย ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย มาตลีสังคาหกเทพบุตรรับพระดำรัสของท้าวสักกะจอมเทวดาว่า
ขอความเจริญจงมีแด่พระองค์ ดั่งนี้แล้ว ให้รถซึ่งเทียมด้วยม้าอาชาไนยพันตัวหันหลังกลับ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พวกอสูรคิดว่า บัดนี้รถ ซึ่งเทียมด้วยม้าอาชาไนยพันตัว
ของท้าวสักกะจอมเทวดาหันกลับมาแล้ว พวกเทวดาจักทำสงครามกับพวกอสูร
แม้เป็นครั้งที่สองแล พวกอสูรต่างตกใจกลับเข้าไปสู่อสูรบุรี
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ชัยชนะโดยธรรมแท้ๆ ได้เป็นของท้าวสักกะจอมเทวดาแล้ว ด้วยประการฉะนี้แล ฯ