[BERSERK] บทวิเคราะห์ก็อดแฮนด์


          หากพูดถึงตัวละครที่น่าสนใจในการ์ตูนเรื่อง BERSERK นอกจากกัทส์ (กัซ) แคสก้า และกริฟฟิธ (กรีฟิส) แล้ว ผมเชื่อว่าคงมีหลายคนนึกถึงเจ้าห้าตัวในรูปข้างบนนี้เป็นแน่ เพราะพวกมันถือเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญ แม้จะไม่ปรากฏตัวบ่อยเท่าตัวละครอื่นๆก็ตาม  ดังนั้นวันนี้ผมจึงขอหยิบยกเรื่องราวเกี่ยวกับพวกมันทั้งห้ามาเล่าสู่กันฟังกันครับ
          เจ้าตัวมืดๆดำๆทั้งห้าตัวในรูปข้างบนคือกลุ่มบุคคลที่ถูกเรียกว่า ก็อดแฮนด์ (God Hand) ซึ่งก็แปลไทยตรงๆว่า หัตถ์พระเจ้า  ก็อดแฮนด์เป็นกลุ่มบุคคลที่ทรงพลังอำนาจเหนือธรรมชาติ และเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังและมีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ด้านมืดของโลกมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล  โดยก็อดแฮนด์แต่ละองค์จะเป็นสัญลักษณ์แทนนิ้วมือแต่ละนิ้วของพระเจ้า  ดังนั้นจึงถือได้ว่าก็อดแฮนด์เป็น ‘เทวทูต’ ที่เป็นตัวแทนของพระเจ้า หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ‘มือ’ ที่พระเจ้าใช้ในการควบคุมโลก!
          ก็อดแฮนด์ไม่ใช่บุคคลที่มีอยู่มาแต่แรกเริ่มและหาได้ถูกสรรค์สร้างมาจากพระเจ้าโดยตรงไม่  เดิมทีนั้นก็อดแฮนด์เคยดำรงอยู่ในอัตภาพมนุษย์มาก่อน แต่สิ่งที่ต่างจากมนุษย์ทั่วไปก็คือ มนุษย์ ‘Pre-God Hand’ เหล่านี้เป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกโดยพระเจ้า (ซึ่งอาจมองว่าบุคคลเหล่านี้ถูกกำหนดโดยพระเจ้ามาแต่แรกแล้ว) ให้เป็นผู้ตอบสนองควาทุกข์ของมนุษยชาติหรือเป็นตัวแทนแห่งความทุกข์ทรมานและความสิ้นหวังของมวลมนุษย์  นอกจากนี้ แม่มด ฟลอร่า (Flora) แห่งคฤหาสน์พฤกษายังเคยกล่าวไว้อีกว่า เหตุผลที่ก็อดแฮนด์อุบัติขึ้นก็เพื่อกระทำตามความต้องการของใครบางคนที่อยู่ในห้วงลึก ซึ่งก็หมายถึง พระเจ้า หรือ มโนคติแห่งความชั่วร้าย (Idea of Evil) นั่นเอง
          คุณสมบัติประการหนึ่งของมนุษย์ ‘Pre-God Hand’ เหล่านี้คือพวกเขาล้วนเป็นผู้ครอบครองและใช้ เบเฮริท (Beherit) สีแดงหรือที่เรียกอีกอย่างว่า ไข่แห่งจอมจักรพรรดิ (The Egg of the Emperor) เป็นเครื่องมือในการก้าวข้ามความเป็นมนุษย์และเข้าสู่สภาวะแห่งเทพจ้า  ซึ่งก็ไม่เป็นที่ทราบกันว่าเบเฮริทสีแดงนี้มีทั้งหมดห้าอัน (สำหรับมนุษย์ที่จะเป็นก็อดแฮนด์แต่ละองค์) หรือว่ามีแค่อันเดียว แต่มาอยู่ในความครอบครองของมนุษย์ ‘Pre-God Hand’ แต่ละคนในแต่ละช่วงเวลากันแน่

          
          ก็อดแฮนด์พำนักอยู่ในมิติระดับสูงของ โลกวิญญาณ (Astral World) ซึ่งเรียกกันว่า วังวน (Vortex) ซึ่งเป็นเขตแดนของเทพเจ้า  โดยทั่วไปก็อดแฮนด์จะไม่สามารถปรากฏตัวอย่างเป็นรูปธรรมในโลกเบื้องล่างได้  นอกจากจะ ‘อวตาร’ หรือก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาโดยใช้วัตถุดิบในบริเวณที่จะปรากฏ (เหมือนอย่างที่ สลัน ปรากฏตัวขึ้นใน คลิฟอธ โดยใช้ซากโทรลล์เป็นวัตถุดิบ) นอกจากนี้ก็อดแฮนด์จะปรากฏตัวอย่างเต็มรูปแบบ (ไม่ใช่ร่างอวตาร) ได้ในพิธีสถาปนาปิศาจ (ซึ่งถือเป็น "พื้นที่รอยต่อ" ระหว่างโลกวิญญาณและโลกมนุษย์) เพื่อให้กำเนิดสาวกตนใหม่  ทว่าหลังจากเกิดปรากฏการณ์ ‘เปิดโลกใหม่’ ที่เฟมโตทำให้โลกวิญญาณกับโลกมนุษย์หลอมรวมกันแล้ว ก็ทำให้ก็อดแฮนด์สามารถปรากฏตัวได้อย่างเต็มรูปแบบบนโลกมนุษย์ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างร่างอวตารเหมือนเมื่อก่อนอีก
          แม้จะทรงพลังอำนาจมากล้นเพียงใด แต่ก็อดแฮนด์ก็ยังมิใช่สิ่งสัมบูรณ์อย่างพระเจ้า ดังนั้นก็อดแฮนด์จึงไม่สามารถคาดการณ์กระแสของชะตากรรมได้อย่างสมบูรณ์แบบ  พูดง่ายๆ ก็คือแม้ก็อดแฮนด์จะทราบความเป็นไปของสภาวการณ์ใดๆ แต่ก็สามารถมีเหตุการณ์ที่อยู่เหนือความคาดหมายของก็อดแฮนด์เกิดขึ้นได้ (แต่ก็ไม่บ่อยนัก) อย่างเช่น การรอดชีวิตของกัทส์และแคสก้าจากวันสุริยคราส เป็นต้น
          ในการตั้งชื่อก็อดแฮนด์ทั้งหมด (ยกเว้น เฟมโต) ผู้แต่งอิงมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์หลายๆเรื่อง  นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตด้วยว่าคาแรกเตอร์และธีมของก็อดแฮนด์มีความคล้ายคลึงกับพวก Cenobites จากภาพยนตร์ชุด Hellraiser ของ Clive Barker เป็นอย่างมาก (คาดว่าผู้แต่ง BERSERK คงเป็นแฟนภาพยนตร์ชุดนี้)

          
          จากนี้ผมจะกล่าวถึงรายละเอียด (ภาพรวม, รูปร่างหน้าตา, ประวัติโดยย่อ, ที่มาของชื่อ การตีความทางปรัชญาและสัญลักษณ์ทางจิตวิทยา) ของก็อดแฮนด์แต่ละองค์เป็นลำดับไป

          
          วอยด์ (Void)   มังงะไทยแปลว่า บอยด์
          วอยด์ ถือเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่มก็อดแฮนด์  นอกจาก เฟมโต แล้ว เขาก็ดูจะเป็นก็อดแฮนด์ที่สุขุมสมเป็นเทพเจ้ามากที่สุด   รูปร่างหน้าตาของวอยด์ก็งดงามชวนประทับใจอย่างที่เห็น  ใบหน้าของเขามีลักษณะเหมือนคนที่มีแต่หนังหุ้มกระดูก ตาก็ถูกเย็บปิด ส่วนริมฝีปากก็เปิดพลิกกลับด้าน และที่โดดเด่นที่สุดก็คือมันสมองขนาดใหญ่ที่เปิดให้เห็นอย่างชัดเจน  นอกจากนี้โปรดสังเกตด้วยว่าวอยด์มีนิ้วมืออยู่ข้างละหกนิ้ว
          ในบรรดาก็อดแฮนด์ทั้งหมด วอยด์ดูมีความเป็นปรัชญาสูงที่สุด เขาเกี่ยวข้องกับการควบคุมโชคชะตา เขากระทำการใดๆก็เพื่อให้ทุกสิ่งดำเนินไปตามกระแสแห่งชะตากรรม (ในมังงะไทยใช้คำว่า กฎแห่งกรรม ) ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือแปรผันได้  อัศวินกะโหลก (The Skull Knight) เคยกล่าวไว้ว่า วอยด์เป็นเหมือนการแสดงถึงความจริงที่ว่า ชะตากรรมเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
          ในพิธีสถาปนาปิศาจ วอยด์จะเป็นผู้ประทับตราให้กับ ‘เครื่องสังเวย’ เพื่อทำให้ผู้ที่ถูกเลือก (ให้เป็นสาวก) เปลี่ยนสภาพจิตใจและร่างกาย เกิดใหม่เป็นสาวกอสูร
          ความสามารถพิเศษของวอยด์คือการควบคุมมิติทางอวกาศ (spetial) ได้อย่างอิสระ และความสามารถในการมองเห็นอนาคต รวมทั้งสามารถควบคุมจัดการกับกระแสแห่งชะตากรรมได้
          ทีนี้ก็มีคำถามหนึ่งเกี่ยวกับวอยด์ นั่นคือ สมัยที่เป็นมนุษย์ วอยด์คือใคร?  ซึ่งคำตอบไม่ปรากฏอยู่ในเนื้อเรื่องของ BERSERK (จนถึงตอนนี้) แต่จากการที่เห็นว่าวอยด์ดูจะมีความเกี่ยวข้องกับอัศวินกะโหลกที่คาดว่าเป็น กษัตริย์ไกเซริก (Gaiseric) จึงทำให้แฟนๆหลายคนคาดเดาว่า วอยด์น่าจะเป็นนักพรตหรือนักปราชญ์ที่ชาญฉลาดและต้องโทษถูกจำคุกใน หอคอยแห่งการพิพากษา (Tower of Conviction) โดยกษัตริย์ไกเซริก ซึ่งบทบาทของคู่วอยด์กับอัศวินกะโหลกนี้ดูจะคล้ายคลึงกับบทบาทของคู่เฟมโตกับกัทส์อย่างมาก
          ความหมายของชื่อวอยด์ (Void) ก็คือความว่างเปล่าหรือความไม่มี  แต่ที่มาจริงๆนั้นผู้แต่งเอามาจากชื่อนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องหนึ่งคือเรื่อง Destination: Void ของ แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert)
          หากวิเคราะห์ในแง่ของปรัชญา วอยด์เป็นตัวแทนของแนวคิดแบบกำหนดแน่หรือ นิยัตินิยม (Determinism) ที่มองว่าชีวิตอยู่ภายใต้ชะตากรรมที่ถูกควบคุมอยู่ (โดยปัจจัยบางอย่าง เช่น พระเจ้า) โดยที่ไม่อาจขัดขืนหรือบิดผันได้เลย หรือพูดง่ายๆวอยด์ก็คือตัวแทนของคำกล่าวที่ว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” หรือ “ทุกสิ่งถูกกำหนดเอาไว้แล้ว”  แนวคิดแบบวอยด์นี้มองว่าเหตุการณ์ต่างๆล้วนดำเนินไปตามวิถีทางที่มันควรจะเป็น ซึ่ง ‘ควร’ ในที่นี้ก็คือสิ่งที่พระเจ้าเห็นว่าเหมาะสมและมองว่ามนุษย์ล้วนเป็นทาสของชะตากรรมและไม่มีเจตจำนงเสรี (free will) หรือกรรมปัจจุบัน (Present Krama) ที่จะสามารถกระทำการใดๆได้เองอย่างอิสระ (ก็คือกำหนดชีวิตตัวเองไม่ได้)
          ส่วนในแง่จิตวิทยา วอยด์น่าจะเป็นตัวแทนของความศรัทธาในความคิดความเชื่อของตนเองอย่างแรงกล้า และแสดงถึงการยึดมั่นถือมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (อย่างพระเจ้าหรือกฎแห่งชะตากรรมที่วอยด์ชอบพูดเสมอๆ) และยึดสิ่งนั้นเป็นสรณะอย่างไม่ลืมหูลืมตา ซึ่งก็คือความงมงายนั่นเอง

          
          สลัน (Slan)   มังงะไทยแปลว่า สรัน
          สลัน เป็นก็อดแฮนด์เพียงพระองค์เดียวที่มีรูปลักษณ์เป็นเพศหญิง  เธอเป็นผู้ที่นิยมชมชอบความรุนแรงเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้ว่าเธอรู้สึกฟินจนน้ำหูน้ำตาไหลเมื่อเห็นเฟมโตกระทำชำเราแคสก้าต่อหน้ากัทส์  ส่วนรูปร่างหน้าตาของเธอก็ค่อนข้างงดงามสะคราญอยู่ หน้าก็สวย หุ่นก็เซ็กซี่ แถมอกก็ตู้มอีก แต่กระนั้นก็คงไม่น่าพิสมัยนัก เพราะเธอเล่นมีผมยั้วเยี้ยอย่างกับเมดูซ่า แถมยังมีปีกแบบค้างคาวสีดำทะมึนอยู่บนหลังอีกต่างหาก  แต่โดยภาพรวมแล้วคาแรกเตอร์ของเธอก็ส่อไปในทางยั่วยุอยู่ ซึ่งก็คงเป็นความจงใจของผู้แต่งที่จะสื่อถึงคอนเซ็ปต์แห่งราคะของเธอนั่นเอง
          สลันเป็นเทพเจ้าที่ครองกิเลสตัณหา กามารมณ์ และความโหดร้าย ชื่นชอบความป่าเถื่อนและความรุนแรง อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าเธอรู้สึกฟินมากเมื่อได้เห็นคนอื่นถูกทำร้ายทั้งกายและใจ และเมื่อเธอถูกทำร้ายเองก็เช่นเดียวกัน (ดังเช่นตอนที่กัทส์ยิงปืนใหญ่ระเบิดร่างอวตารของเธอจนกระจุย เธอก็กรีดร้องด้วยความสุข)
          ในเนื้อเรื่อง BERSERK ไม่ปรากฏที่มาของสลันว่าเคยเป็นมนุษย์ชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไรและมาเป็นก็อดแฮนด์ได้อย่างไร  แต่ก็คงพอจะเดานิสัยใจคอเธอสมัยเป็นคนได้ไม่ยากนัก  นอกจากนี้ในเรื่องยังได้แสดงให้เห็นด้วยว่าสลันมีความชื่นชอบในตัวกัทส์อยู่พอสมควร (เป็นคู่จิ้นสะท้านมิติเลยทีเดียว)
          ชื่อของสลันนั้นผู้แต่งหยิบมาจากชื่อของนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Slan ของ A. E. van Vogt
          ในทางปรัชญา สลันเป็นสัญลักษณ์ของ ลุกซุเรีย (Luxuria) ในบาปเจ็ดประการ คือความใคร่ ความกระสัน ความหลงใหลมัวเมา ความทะยานอยาก และการเสพติดในกามสุข  หรือก็คือเป็นตัวแทนของกามกิเลส (Desire หรือ Passion) ทั้งปวง  ซึ่งกามในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความต้องการทางเพศเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความต้องการที่จะตอบสนองความสุขทางโลกีย์ทั้งปวงด้วย เช่น การกินดื่มเพื่อความเอร็ดอร่อย การทำร้ายเพื่อความสนุกสะใจ หรือพฤติกรรมทางจิตแปลกๆที่กระทำเพื่อสนองนี้ดส่วนตัว เป็นต้น  ซึ่งความต้องการที่จะตอบสนองนี้เราอาจมองได้ในสองแง่  ในแง่หนึ่งมันเป็นเสมือนห้วงแห่งความมัวเมาที่พาให้จิตใจตกต่ำ  แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันก็เป็นเหมือนแรงขับที่สามารถก่อให้เกิดความเจริญงอกงามได้เช่นกัน (เช่น ความกระหายทางเพศที่เป็นมูลเหตุของการกำเนิดชีวิต)
          หากมองในแง่จิตวิทยา สลันเป็นตัวแทนของบุคคลที่มีอาการทางจิตประเภท Sado-masochism ซึ่งเป็นส่วนผสมของอาการแบบ ซาดิสม์ (Sadism) ที่ชอบ ‘มอบ’ ความเจ็บปวด และ มาโซคิสม์ (Masochism) ที่ชอบ ‘รับ’ ความเจ็บปวด ซึ่งผู้ที่มีอาการทางจิตประเภทนี้จะรู้สึกปีติอย่างมากเมื่อได้ทำร้ายหรือถูกทำร้ายโดยผู้อื่น หรือก็คือเป็นบุคคลที่เสพติดความรุนแรงนั่นเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่