1. วันที่  17  ธันวาคม  2557  
    พรรคเพื่อไทยได้ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายภักดี  โพธิศิริ  กรรมการ ป.ป.ช.
    ว่ามีคุณสมบัติขัดกฎหมาย ป.ป.ช. หรือไม่  
    กรณีนายภักดีไม่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทภายใน 15 วัน หลังได้รับแต่ตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช.

2. วันเดียวกัน  หลังจากรับหนังสือจากพรรคเพื่อไทย
    นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช  บอกว่า  
    ได้รับเรื่องแล้ว และจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 18 ธันวาคม พร้อเปิดโอกาสให้นายภักดี ชี้แจง
    ประธาน ป.ป.ช. ระบุด้วยว่า กรณีนี้ มีการฟ้องร้องเป็นคดีความในชั้นศาล มีการดำเนินการถอดถอน แต่ก็ได้จบไปหมดทุกอย่างแล้ว

    นายปานเทพ  ประธาน ป.ป.ช. ยังได้บอกอีกว่า  ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติ  เพราะกฎหมายไม่ได้ระบุไว้

3. ผ่านมาหนึ่งเดือน  ไม่มีอะไรคื่บหน้า  เงียบกริบ  

4. วันที่  20  มกราคม  2558   นายเรืองไกร  ลีกิจวัฒนะ  ยื่นฟ้องนายภักดี  โพธิศิริ  ต่อศาลอาญา
    ข้อหาความผิดฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น
    และฟ้องนายปานเทพ  กล้าณรงค์ราญ  ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.
    ฟ้องนายประสาท พงษ์ศิวาภัย   นายวิชา มหาคุณ   นายวิชัย วิวิตเสวี ซึ่งเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ช.
    ข้อหาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ โดยทุจริต

    นายเรืองไกร ระบุว่า การยื่นฟ้องคดีนี้สืบเนื่องจากนายภักดี มีคุณสมบัติความเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ไม่ถูกต้อง
    ตามที่กฎหมายกำหนดเนื่องจากไม่ได้ลาออกจากบริษัท องค์กรเภสัชกรรม เมอร์ริเออร์ชีววัตถุ จำกัด ภายใน 15 วัน
    หลังจากเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ ป.ป.ช.
    
    และได้แจ้งเรื่องนี้ต่อคณะกรรมกรรมการป.ป.ช. ถึงคุณสมบัตินายภักดี
    แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กลับเพิกเฉย และอ้างว่าไม่มีอำนาจพิจารณาคุณสมบัติของกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยกันเอง
    และยังอ้างมติของวุฒิสภาว่าเคยพิจารณาเรื่องคุณสมบัติของนายภักดีมาแล้ว ทั้งที่วุฒิสภาไม่เคยพิจารณาเรื่องดังกล่าว

5. นายภักดี  โพธิศิริ  ได้รับแต่งตั้งเป็น ป.ป.ช. เมื่อวันที่  22  กันยายน  2549
    ตามกฎหมาย  นายภักดี  ต้องลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทภายในวันที่ 6 ต.ค. 2549 (ภายใน 15 วัน)
    แต่นายภักดีได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทในวันที่  15  ธันวาคม  2549 (เกิด 15 วัน  ผิดกฎหมาย ป.ป.ช.)

6. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 11 บังคับไว้ว่า
    ถ้าผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ไม่ได้ดำเนินการลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทภายในเวลาที่กำหนด
    ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. มาตั้งแต่แรก

    แต่นายภักดีกลับเป็น ป.ป.ช. มาจนถึงทุกวันนี้ !!!




ชัดนะครับ  ว่านายภักดี  โพธิศิริ   ขาดคุณสมบ้ติการเป็น ป.ป.ช. มาตั้งแต่แรก

เมื่อมีหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบ   กลับไม่มีการตรวจสอบ  แถมบอกว่า ส.ว. เคยมีมติไม่ถอดถอนในเรื่องนี้ไปแล้ว
ทั้งที่ ส.ว. ไม่เคยพิจารณาเรื่องนี้

การที่ประธาน ป.ป.ช. บอกว่า ไม่มีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติ ป.ป.ช. ด้วยกันเอง
ไม่ได้เป็นข้ออ้างที่จะเพิกเฉยได้
เมื่อได้รับคำร้อง  ควรตรวจสอบ  หากพบว่าขาดคุณสมบัติ  คุณสมบัติขัดกฎหมาย  ก็ควรดำเนินการในทางที่ควรต่อไป
ไม่ใช่ทำเพิกเฉย  อ้างว่ามีการพิจารณาเรื่องนี้ไปแล้ว  ทั้งที่ไม่เคยมีการพิจารณา

ได้รับหนังสือร้องตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 17  ธันวาคม  2557
บอกว่าจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมในวันที่  18  ธันวาคม  2557

ผ่านไปเป็นเดือน  ทุกอย่างเงียบกริบ  ทั้งที่ตรวจสอบไม่ยาก  หลักฐานชัดเจน

จึงเข้าข่ายความผิดตามคำฟ้องทุกประการ



ก็รอดูครับ  ว่าเรื่องนี้  จะสร้างปรากฎการณ์พิลึก ๆ ประหลาด ๆ ทางกฎหมายให้ได้เห็นกันอีกไหม