[ แ ส ง ]
ทุกวันนี้กล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์ต่างๆมันไปไกลมาก
... ย้อนกลับไปเทียบกับเมื่อ 10 ปีที่แล้วนี่ถือว่าแทบจะเป็นคนละเรื่องคนละโลกกันเลยทีเดียว
ไม่ว่าอุปกรณ์จะพัฒนาก้าวหน้าไปขนาดไหน
... แสงในภาพถ่ายก็ยังเป็นตัวแปรที่สำคัญ ที่จะทำให้ภาพนั้น "ดูดี" หรือเป็นภาพ "งั้นๆ"
แสงที่พี่หาวพูดถึงบ่อยๆ ไม่ได้หมายถึง "การวัดแสง" นะครับ
อันนั้นเรียนรู้ไว้เป็นพื้นฐานในการควบคุมกล้อง
ให้รู้ที่มาที่ไปว่าปริมาณแสงที่พอดีคือประมาณไหน
และกล้องมันมีวิธีการวัดแสงอย่างไร
เราจะควบคุมปริมาณแสงได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
ฟังดูยุ่งยากเนอะ ... แต่จริงๆแล้วอย่างที่บอก เรียนเพื่อให้รู้ที่มาเป็นพื้นฐาน
... เดี๋ยวนี้กล้องมันพัฒนาไปไกลมาก พี่หาวทุกวันนี้ยกกล้องขึ้นมา
เลือกรูรับแสงที่ต้องการ ตั้ง ISO เป็น Auto ..
(ไม่เกินจุดที่เรายอมรับคุณภาพไฟล์ของกล้องตัวนั้นๆได้)
ที่เหลือก็ปล่อยให้กล้องมันควบคุมให้เรา
ถ่ายมามืดไปก็ชดเชยแสงไปทางบวก แล้วถ่ายใหม่
ถ่ายมาสว่างไปก็ชดเชยแสงไปทางลบ แล้วถ่ายใหม่
จริงๆก็ถ่ายแบบนี้มานานแล้วนะ สำหรับงานทั่วๆไป
ที่ไม่ใช่งานเฉพาะด้าน อย่างพวกงานในสตูดิโอ หรืองานที่เฉพาะเจาะจงบางอย่าง
...
ที่พูดตรงนี้ก็เพราะอยากแสดงให้เห็นว่า มันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรกับตรงนั้น
สิ่งที่ยากคือ "การเลือกแสงให้เหมาะสมลงตัวกับภาพที่เราถ่าย"
ซึ่งตรงนี้ไม่มีสูตรสำเร็จเป็นตัวเลขใดๆ
ต้องอาศัยการมองอย่างพิจารณา
วิธีการฝึกที่น่าจะได้ผลที่สุดคือดูรูป แล้วดูทิศทางแสง และเงาที่ปรากฏในภาพ
ดูความเข้มจางของแสงเงาว่ามากน้อยแค่ไหน ...
ดูอย่างวิเคราะห์ ... และนำไปทดลองฝึกฝน
ดูตัวอย่างรูปแรกที่พี่หาวลงให้ดูก็ได้ครับ
สองรูปนี้เป็นกุ้งอบวุ้นเส้นหม้อเดียวกัน
แต่มีตำแหน่งการวางต่างกัน รูปแรกดูแห้งๆ แบนๆ ขาดแสง และเงา
ส่วนในรูปที่อยู่ข้างๆกัน อันนั้นเอาไปวางไว้บนโต๊ะริมระเบียง
ซึ่งแสงแดดตอนส่องมาถึง เกิดเป็นแสงเงาบนภาพอย่างชัดเจน
รวมถึงสีเหลืองส้มของแสงเย็นก็ช่วยทำให้โทนของภาพดูอุ่นขึ้น
กล้องตัวเดียวกัน (Fujifilm X100T) เลนส์ 35mm F/2 ตั้งค่าแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง
ต่างกันที่ตำแหน่งในการวาง ... เพื่อนำคุณลักษณะของแสงมาช่วยให้ดูลงตัวขึ้น
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าแค่แสงเปลี่ยน ภาพถ่ายของเราก็เปลี่ยน
และไม่จำเป็นว่าจะต้องมีแสงแบบนี้เท่านั้นที่ทำให้ภาพดูดี
จริงๆมีรูปแบบของแสงอีกมากมาย ที่เราสามารถเลือกใช้ได้
ขึ้นอยู่กับว่าแสงนั้นมันเหมาะสมลงตัวกับภาพมากแค่ไหนมากกว่า
... เวลาถ่ายรูปลองเริ่มต้นมองเรื่องแสง และเงาก่อน ...
เรื่องการปรับตั้งกล้องไม่ต้องกังวลมาก
ถ่ายผิดถ่ายใหม่ ลองมันเยอะๆ ...
ถ้ากล้องมีจอ LCD แบบ Liveview ก็เปิดแล้วดูที่ LCD ตอนถ่าย
จะช่วยให้เรามองเห็นสิ่งที่จะบันทึก
ลองขยับมุม หาแสงเงาที่ลงตัว แรกๆอาจจะงงๆหน่อยว่าแบบไหนถึงจะดี
แต่พอเราถ่ายได้ จับจุดได้แล้ว
ต่อไปถ่ายอะไรก็ง่ายครับ ...
แต่อย่าลืมนะ ว่าแสงที่พี่หาวพูดถึงคือเรื่อง "แสงเงา" ... ไม่ใช่เรื่องการวัดแสง
กล้องถ่ายรูปเดี๋ยวนี้เก่งมาก ... เราไม่ต้องไปกังวลกับการทำงานของมันมากมายเหมือนเมื่อก่อน
... พยายามลดตัวแปรที่จะต้องไปวุ่นวายกับกล้องให้น้อยที่สุด
แล้วกลับมาให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรากำลังจะบันทึกแทน - พี่หาว
[ แ ส ง ] ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ภาพถ่ายดูดี
ทุกวันนี้กล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์ต่างๆมันไปไกลมาก
... ย้อนกลับไปเทียบกับเมื่อ 10 ปีที่แล้วนี่ถือว่าแทบจะเป็นคนละเรื่องคนละโลกกันเลยทีเดียว
ไม่ว่าอุปกรณ์จะพัฒนาก้าวหน้าไปขนาดไหน
... แสงในภาพถ่ายก็ยังเป็นตัวแปรที่สำคัญ ที่จะทำให้ภาพนั้น "ดูดี" หรือเป็นภาพ "งั้นๆ"
แสงที่พี่หาวพูดถึงบ่อยๆ ไม่ได้หมายถึง "การวัดแสง" นะครับ
อันนั้นเรียนรู้ไว้เป็นพื้นฐานในการควบคุมกล้อง
ให้รู้ที่มาที่ไปว่าปริมาณแสงที่พอดีคือประมาณไหน
และกล้องมันมีวิธีการวัดแสงอย่างไร
เราจะควบคุมปริมาณแสงได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
ฟังดูยุ่งยากเนอะ ... แต่จริงๆแล้วอย่างที่บอก เรียนเพื่อให้รู้ที่มาเป็นพื้นฐาน
... เดี๋ยวนี้กล้องมันพัฒนาไปไกลมาก พี่หาวทุกวันนี้ยกกล้องขึ้นมา
เลือกรูรับแสงที่ต้องการ ตั้ง ISO เป็น Auto ..
(ไม่เกินจุดที่เรายอมรับคุณภาพไฟล์ของกล้องตัวนั้นๆได้)
ที่เหลือก็ปล่อยให้กล้องมันควบคุมให้เรา
ถ่ายมามืดไปก็ชดเชยแสงไปทางบวก แล้วถ่ายใหม่
ถ่ายมาสว่างไปก็ชดเชยแสงไปทางลบ แล้วถ่ายใหม่
จริงๆก็ถ่ายแบบนี้มานานแล้วนะ สำหรับงานทั่วๆไป
ที่ไม่ใช่งานเฉพาะด้าน อย่างพวกงานในสตูดิโอ หรืองานที่เฉพาะเจาะจงบางอย่าง
...
ที่พูดตรงนี้ก็เพราะอยากแสดงให้เห็นว่า มันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรกับตรงนั้น
สิ่งที่ยากคือ "การเลือกแสงให้เหมาะสมลงตัวกับภาพที่เราถ่าย"
ซึ่งตรงนี้ไม่มีสูตรสำเร็จเป็นตัวเลขใดๆ
ต้องอาศัยการมองอย่างพิจารณา
วิธีการฝึกที่น่าจะได้ผลที่สุดคือดูรูป แล้วดูทิศทางแสง และเงาที่ปรากฏในภาพ
ดูความเข้มจางของแสงเงาว่ามากน้อยแค่ไหน ...
ดูอย่างวิเคราะห์ ... และนำไปทดลองฝึกฝน
ดูตัวอย่างรูปแรกที่พี่หาวลงให้ดูก็ได้ครับ
สองรูปนี้เป็นกุ้งอบวุ้นเส้นหม้อเดียวกัน
แต่มีตำแหน่งการวางต่างกัน รูปแรกดูแห้งๆ แบนๆ ขาดแสง และเงา
ส่วนในรูปที่อยู่ข้างๆกัน อันนั้นเอาไปวางไว้บนโต๊ะริมระเบียง
ซึ่งแสงแดดตอนส่องมาถึง เกิดเป็นแสงเงาบนภาพอย่างชัดเจน
รวมถึงสีเหลืองส้มของแสงเย็นก็ช่วยทำให้โทนของภาพดูอุ่นขึ้น
กล้องตัวเดียวกัน (Fujifilm X100T) เลนส์ 35mm F/2 ตั้งค่าแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง
ต่างกันที่ตำแหน่งในการวาง ... เพื่อนำคุณลักษณะของแสงมาช่วยให้ดูลงตัวขึ้น
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าแค่แสงเปลี่ยน ภาพถ่ายของเราก็เปลี่ยน
และไม่จำเป็นว่าจะต้องมีแสงแบบนี้เท่านั้นที่ทำให้ภาพดูดี
จริงๆมีรูปแบบของแสงอีกมากมาย ที่เราสามารถเลือกใช้ได้
ขึ้นอยู่กับว่าแสงนั้นมันเหมาะสมลงตัวกับภาพมากแค่ไหนมากกว่า
... เวลาถ่ายรูปลองเริ่มต้นมองเรื่องแสง และเงาก่อน ...
เรื่องการปรับตั้งกล้องไม่ต้องกังวลมาก
ถ่ายผิดถ่ายใหม่ ลองมันเยอะๆ ...
ถ้ากล้องมีจอ LCD แบบ Liveview ก็เปิดแล้วดูที่ LCD ตอนถ่าย
จะช่วยให้เรามองเห็นสิ่งที่จะบันทึก
ลองขยับมุม หาแสงเงาที่ลงตัว แรกๆอาจจะงงๆหน่อยว่าแบบไหนถึงจะดี
แต่พอเราถ่ายได้ จับจุดได้แล้ว
ต่อไปถ่ายอะไรก็ง่ายครับ ...
แต่อย่าลืมนะ ว่าแสงที่พี่หาวพูดถึงคือเรื่อง "แสงเงา" ... ไม่ใช่เรื่องการวัดแสง
กล้องถ่ายรูปเดี๋ยวนี้เก่งมาก ... เราไม่ต้องไปกังวลกับการทำงานของมันมากมายเหมือนเมื่อก่อน
... พยายามลดตัวแปรที่จะต้องไปวุ่นวายกับกล้องให้น้อยที่สุด
แล้วกลับมาให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรากำลังจะบันทึกแทน - พี่หาว