ถ้าตามที่เข้าใจ หรือ เข้าใจไม่ผิด ชื่อของ "อภิวัฒน์ เล่าสกุล" ผู้เขียนบทโทรทัศน์เรื่อง คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ กับผู้เขียนโทรทัศน์เรื่อง "ลีลาวดีเพลิง" ที่ชื่อ ฉัตรชัย เล่าสกุล...น่าจะเป็นคนเดียวกัน เพราะจากการติดตามชมผลงานทั้งสองเรื่องนี้ เห็นได้ถึงทักษะการเล่าเรื่อง การตีความตัวละคร การผูกปมและคลายปมของเรื่อง การดำเนินเรื่อง มันพอจะทำให้อนุมานได้ว่า ผู้เขียนบทโทรทัศน์ทั้ง 2 เรื่องนี้น่าจะเป็นคนคนเดียวกัน ถึงแม้จะใช้นามที่แตกต่างกัน
จขกท. เคยเขียนชื่นชมผู้เขียนโทรทัศน์ เรื่อง คุณชายเลี้ยงหมูฯ มาแล้วในครั้งที่ละครลงจอ ด้วยความที่ละครเรื่องนั้นมีความน่าสนใจ มีชั้นเชิงในการดำเนินเรื่อง มีความตื่นเต้น ลุ้นระทึกในแง่ของการหักเหลี่ยมเฉือนคมของตัวละครแต่ละตัว อีกทั้งตัวละครทุกตัวมีปมมีเล่ห์เหลี่ยมมีมิติมีความสำคัญต่อการดำเนินเรื่องแทบทั้งสิ้น อารมณ์ในตอนนั้นมันไม่แตกต่างจากในครั้งที่ดู ลีลาวดีเพลิง ในตินนี้เลย ทั่งๆที่ละครทั้งสองเรื่อง มันเป็นคนละแนว เรื่องหนึ่งเป็นแนวแอคชั่นคอมิดี้ แต่อีกเรืรองหนึ่งเป็นแนวดราม่า สืบสวน คือ ย่างปมของเรื่อง คุณชายเลี้ยงหมู นั้น มันทำให้เราลุ้นว่า ใครคือตัวบงการเหล่าวายร้าย และใครคือผู้คอยให้ความช่วยเหลือพระเอกและนางเอกให้รอดพ้นจากสถานการณ์ต่างๆได้ ซึ่งอารมณลุ้นและตื่นเต้นมันพอๆกับที่เรานั่งลุ้นปมต่างๆของ ลีลาวดีเพลิง ว่า ใครเป็นฆาตกรที่ฆ่าแม่ต้อย ลุ้นว่าหนูลีจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันได้อย่างไร จุดนี้จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่ จขกท. เอะใจว่า คนเขียนทั้ง 2 เรื่อง แต่ต่างชื่อ มันกลับทำให้ จขกท. เกิดอารมณ์และอินเนอร์ของการดูละครแบบเดียวกัน เพียงแต่ต่างเรื่องต่างวาระ หรือที่เรียกว่า "เดจาวู" ก็น่าจะได้
มีความรู้สึกและรับรู้ถึงทักษะและความสันทัดของผู้เขียนบทละครทั้งสองนี้ ที่มักจะชอบเขียนบทละครในแนว หักเหลี่ยมเฉือนคม ตามสไตล์หนังฮ่องกงในยุคเมื่อประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยุคของหนังแนวหักเหลี่ยมเฉือนคม กำลังเฟื่องฟูก่อนที่ยุคหนังจีนกำลังภายใจจะเข้ายึดครองตลาดและความนิยมในลำดับถัดมา ซึ่งหนังสไตล์หักเหลี่ยมเฉือนคมที่โดดเด่นหลายๆเรื่องเช่น เหลี่ยมตัดเหลี่ยม เหลี่ยมเฉือนคม คนโค่นเซียน หักเหลี่ยมเจ้าพ่อ คนตัดคน คนตัดเซี่ยน ตีแสกตะวัน เป็นต้น จึงอนุมานว่า ฉัตรชัย เล่าสกุล น่าจะอยู่ในชาวงวัยเติบโตในยุคนั้น และซึมซับเอาทักษะการเขียน การเล่าเรื่อง การผูกปมคลายปมและใส่เลห์เหลี่ยมต่างๆลงไปในแต่ละตัวละคร และเขาอาจจะเป็นคอหนังจีนสไตล์นี้หรืออาจจะเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังแนวหักเหลี่ยมเฉือนคม ก็เป็นไปได้...มันจึงส่งอิทธิพลมาถึงงานเขียนบทละครทั้ง 2 เรื่องนี้ ได้ออกมามีชั้นเชิงและมีกลิ่นไอของหนังฮ่องกงแนวเหลี่ยมๆคมๆ อยู่ไม่น้อย (คือ จขกท. ก็พึ่งได้ติดตามผลงานของเขาจาก 2 เรื่องนี้ โดยไม่รู้ประวัติและตัวตนขิงเขามาก่อนเลย แต่ก็มาเอะใจที่บทละคร 2 เรื่องนี้มีกลิ่นไอบางอย่างที่เหมือนกัน จึงคิดว่าน่าจะเป็นคนๆเดียวกันนี่แหละที่เขียนบทละครได้สนุกแบบอารมณ์นี้)
ชื่นชมอีกจุดหนึ่งของผู้เขียนบทท่านนี้ ที่สร้างตัวละคร ไผ่พญา (จากคุณชายเลี้ยงหมูฯ) และ หนูลี (จากลีลาวดีเพลิง)...ให้มีความฉลาดเป็นกรด มีไหวพริบ มีเล่ห์เหลี่ยม ทันคน และเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันด้วยปัญญา (คือนางเอกไม่โง่) ถึงแม้ทั้ง 2 ตัวละครจะมีคาร์แรคเตอร์ที่แตกต่างกัน คือ ไผ่พญา จะเป็นโคโยตี้ที่เป๋อๆเปิ่นๆรั่วๆ (นั่นคือผลงานเรื่องแรกที่ทำให้ จขกท. ชื่นชมการแสดงของปู ไปรยา ในตอนนั้น เพราะนางเล่นได้เล่นถึง) ในขณะที่หนูลี นั้นเป็นนักร้อง ที่สุขุมลุ่มลึก เก็บอารมณ์ได้ดี คมในฝัก แต่เวลาเชือดเฉือนเธอก็ เชือดๆนิ่มๆ...อารมณ์ที่ได้ดูนางเอก 2 คนจาก 2 เรื่องนี้ มันหวนให้นึกถึงเจ้าฉายา จูกัดเหลียงหญิง-อึ้งย้ง อะไรประมาณนั้น นี่จึงเป็นทักษะและชั้นเชิงของผู้เขียนบทท่านนี้ มีความแปลกใหม่ มีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ ที่โดดเด่น แอบเสียดายที่ในครั่งเมื่อละคร คุณชายเลี้ยงหมูฯ ออนแอร์ แอบลุ้นว่าอย่างน้อยๆก็น่าจะมีชื่อของเขาโลดแล่นและเข้าชิงรางวัลบทโทรทัศน์ จากเวทีใดเวทีหนึ่งบ้าง แต่ปรากฎว่าไร้ชื่อผู้ทักษะยุทธในการเขียนท่านนี้แม้แต่เวทีเดียว...ไม่เป็นไร คราวนี้ จขกท. ขอเอาใจช่วยให้ชื่อของ "ฉัตรชัย เล่าสกุล" มีชื่อโลดแล่นได้เข้าชิงรางวัลบทโทรทัศน์นอดเยี่ยมบ้างสักเวที ก็คงจะดี จะได้เป็นเกียรติประวัติแก่ผู้ทักษะยุทธท่านนี้ และเพื่อให้ท่านมีกำลังใจเขียนบทโทรทัศน์ให้สนุกยิ่งๆขึ้น ให้น่าติดตาม และสะกดเอาคนดูอยู่คาจอแบบไม่ต้องลุกไปขี้ไปเยี่ยวเลยอะไรประมาณนั้น
จาก คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ --> ลีลาวดีเพลิง...ทำให้รู้ว่า "ฉัตรชัย เล่าสกุล" ชื่อนี้ไม่ธรรมดา
จขกท. เคยเขียนชื่นชมผู้เขียนโทรทัศน์ เรื่อง คุณชายเลี้ยงหมูฯ มาแล้วในครั้งที่ละครลงจอ ด้วยความที่ละครเรื่องนั้นมีความน่าสนใจ มีชั้นเชิงในการดำเนินเรื่อง มีความตื่นเต้น ลุ้นระทึกในแง่ของการหักเหลี่ยมเฉือนคมของตัวละครแต่ละตัว อีกทั้งตัวละครทุกตัวมีปมมีเล่ห์เหลี่ยมมีมิติมีความสำคัญต่อการดำเนินเรื่องแทบทั้งสิ้น อารมณ์ในตอนนั้นมันไม่แตกต่างจากในครั้งที่ดู ลีลาวดีเพลิง ในตินนี้เลย ทั่งๆที่ละครทั้งสองเรื่อง มันเป็นคนละแนว เรื่องหนึ่งเป็นแนวแอคชั่นคอมิดี้ แต่อีกเรืรองหนึ่งเป็นแนวดราม่า สืบสวน คือ ย่างปมของเรื่อง คุณชายเลี้ยงหมู นั้น มันทำให้เราลุ้นว่า ใครคือตัวบงการเหล่าวายร้าย และใครคือผู้คอยให้ความช่วยเหลือพระเอกและนางเอกให้รอดพ้นจากสถานการณ์ต่างๆได้ ซึ่งอารมณลุ้นและตื่นเต้นมันพอๆกับที่เรานั่งลุ้นปมต่างๆของ ลีลาวดีเพลิง ว่า ใครเป็นฆาตกรที่ฆ่าแม่ต้อย ลุ้นว่าหนูลีจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันได้อย่างไร จุดนี้จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่ จขกท. เอะใจว่า คนเขียนทั้ง 2 เรื่อง แต่ต่างชื่อ มันกลับทำให้ จขกท. เกิดอารมณ์และอินเนอร์ของการดูละครแบบเดียวกัน เพียงแต่ต่างเรื่องต่างวาระ หรือที่เรียกว่า "เดจาวู" ก็น่าจะได้
มีความรู้สึกและรับรู้ถึงทักษะและความสันทัดของผู้เขียนบทละครทั้งสองนี้ ที่มักจะชอบเขียนบทละครในแนว หักเหลี่ยมเฉือนคม ตามสไตล์หนังฮ่องกงในยุคเมื่อประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยุคของหนังแนวหักเหลี่ยมเฉือนคม กำลังเฟื่องฟูก่อนที่ยุคหนังจีนกำลังภายใจจะเข้ายึดครองตลาดและความนิยมในลำดับถัดมา ซึ่งหนังสไตล์หักเหลี่ยมเฉือนคมที่โดดเด่นหลายๆเรื่องเช่น เหลี่ยมตัดเหลี่ยม เหลี่ยมเฉือนคม คนโค่นเซียน หักเหลี่ยมเจ้าพ่อ คนตัดคน คนตัดเซี่ยน ตีแสกตะวัน เป็นต้น จึงอนุมานว่า ฉัตรชัย เล่าสกุล น่าจะอยู่ในชาวงวัยเติบโตในยุคนั้น และซึมซับเอาทักษะการเขียน การเล่าเรื่อง การผูกปมคลายปมและใส่เลห์เหลี่ยมต่างๆลงไปในแต่ละตัวละคร และเขาอาจจะเป็นคอหนังจีนสไตล์นี้หรืออาจจะเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังแนวหักเหลี่ยมเฉือนคม ก็เป็นไปได้...มันจึงส่งอิทธิพลมาถึงงานเขียนบทละครทั้ง 2 เรื่องนี้ ได้ออกมามีชั้นเชิงและมีกลิ่นไอของหนังฮ่องกงแนวเหลี่ยมๆคมๆ อยู่ไม่น้อย (คือ จขกท. ก็พึ่งได้ติดตามผลงานของเขาจาก 2 เรื่องนี้ โดยไม่รู้ประวัติและตัวตนขิงเขามาก่อนเลย แต่ก็มาเอะใจที่บทละคร 2 เรื่องนี้มีกลิ่นไอบางอย่างที่เหมือนกัน จึงคิดว่าน่าจะเป็นคนๆเดียวกันนี่แหละที่เขียนบทละครได้สนุกแบบอารมณ์นี้)
ชื่นชมอีกจุดหนึ่งของผู้เขียนบทท่านนี้ ที่สร้างตัวละคร ไผ่พญา (จากคุณชายเลี้ยงหมูฯ) และ หนูลี (จากลีลาวดีเพลิง)...ให้มีความฉลาดเป็นกรด มีไหวพริบ มีเล่ห์เหลี่ยม ทันคน และเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันด้วยปัญญา (คือนางเอกไม่โง่) ถึงแม้ทั้ง 2 ตัวละครจะมีคาร์แรคเตอร์ที่แตกต่างกัน คือ ไผ่พญา จะเป็นโคโยตี้ที่เป๋อๆเปิ่นๆรั่วๆ (นั่นคือผลงานเรื่องแรกที่ทำให้ จขกท. ชื่นชมการแสดงของปู ไปรยา ในตอนนั้น เพราะนางเล่นได้เล่นถึง) ในขณะที่หนูลี นั้นเป็นนักร้อง ที่สุขุมลุ่มลึก เก็บอารมณ์ได้ดี คมในฝัก แต่เวลาเชือดเฉือนเธอก็ เชือดๆนิ่มๆ...อารมณ์ที่ได้ดูนางเอก 2 คนจาก 2 เรื่องนี้ มันหวนให้นึกถึงเจ้าฉายา จูกัดเหลียงหญิง-อึ้งย้ง อะไรประมาณนั้น นี่จึงเป็นทักษะและชั้นเชิงของผู้เขียนบทท่านนี้ มีความแปลกใหม่ มีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ ที่โดดเด่น แอบเสียดายที่ในครั่งเมื่อละคร คุณชายเลี้ยงหมูฯ ออนแอร์ แอบลุ้นว่าอย่างน้อยๆก็น่าจะมีชื่อของเขาโลดแล่นและเข้าชิงรางวัลบทโทรทัศน์ จากเวทีใดเวทีหนึ่งบ้าง แต่ปรากฎว่าไร้ชื่อผู้ทักษะยุทธในการเขียนท่านนี้แม้แต่เวทีเดียว...ไม่เป็นไร คราวนี้ จขกท. ขอเอาใจช่วยให้ชื่อของ "ฉัตรชัย เล่าสกุล" มีชื่อโลดแล่นได้เข้าชิงรางวัลบทโทรทัศน์นอดเยี่ยมบ้างสักเวที ก็คงจะดี จะได้เป็นเกียรติประวัติแก่ผู้ทักษะยุทธท่านนี้ และเพื่อให้ท่านมีกำลังใจเขียนบทโทรทัศน์ให้สนุกยิ่งๆขึ้น ให้น่าติดตาม และสะกดเอาคนดูอยู่คาจอแบบไม่ต้องลุกไปขี้ไปเยี่ยวเลยอะไรประมาณนั้น