สวีดัด สวัสดีชาวโลกทั้งหลายยยยย วันนี้เพิ่งได้มีโอกาสรีวิวกับเค้าครั้งเเรกผิดพลาดยังไงก็ขออำภัยด้วยนะฮาฟฟฟฟ
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาเริ่มกันเลยดีกว่า เนื่องจากหยุดยาวมาหลายวันนั่งนอนจนตะคริวกินกันไปข้าง เราสองคนก็เลยปิ๊ง ไอเดียเที่ยวเเบบวันเดียวจบ เเถมไม่ใช้ตังค์เยอะ(เพราะช่วงนี้ก็จะสิ้นเดือนเเหล่มิเเหล่ 555555) ก็เลยนั่งคิดนอนคิดตีลังกาคิดสรุปมาว่า
จะไปกาญจนบุรีกันโลดดดดดด
เเละที่หมายของเราก็คือ
น้ำตกเอราวัณนี่เองงงงงงง ซึ่งคราวที่เเล้วสาวB1ก็เคยไปมาเเว้ว เเต่ด้วยสังขารเดี้ยงไปก่อนก็เลยไปไม่ถึงชั้นเจ็ด เศร้าหนักจนจะส่งเรื่องไปศาลาคนเศร้า
เลยชวนสาวB2ที่รับเออออห่อหมกไป ด้วยมันทุกที่อยู่เเล้ว (ประมาณมัดมือชก55555) ทริปเเบบคนกากๆจึงเริ่มขึ้นด้วยประการฉะนี้เเล
21/01/2015 05:30 เนื่องจากถิ่นพำนักอาศัยของเราอยู่เเถวจุฬาก็เลยนั่ง 29 ไปยังอนุสาวรีย์เพื่อไปขึ้นรถตู้ เพราะหลังจากคิดปวดตับกันมานานว่าจะนั่งรถไฟไปดีมั้ย เเต่สุดท้ายก็เลือกรถตู้ดีกว่าจะได้มีเวลาชมความงามเยอะๆ มาเที่ยวธรรมชาติทั้งทีเนอะ ^____^ เเล้วก็มาเจอขวัญชีวีทัวร์ ไปถึงก็บอกพี่เเกเลยว่าจะไปกาญฯ ค่ารถก็ 120 บาทไม่เเพงยังโออยู่ 55555 จากนั้นพี่เเกก็ถามว่าจะไปลงไหน สงสัยสองสาวจะยังไม่ตื่นเลยทำหน้าเอ๋อใส่
พี่เค้าเลยยิ้มบอกว่าลงสถานีบขส ที่กาญฯใช่มั้ย เลยพยักหน้าหงึกๆไป
จากนั้นรถก็ออกทันทีในบัดดล 55555 ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงซึ่งสาวB2บอกว่าง่วงเราก็เลยนอนเป็นเพื่อนเเต่สุดท้ายไหงหลับเเค่คนเดียว B2นอนไม่หลับซะงั้น
09:00 พอรถจอดก็ถามทางไปชานชาลาที่จะไปขึ้นรถประจำทางสายน้ำตกเอราวัณ-กาญฯ สองสาวไม่รอช้าวิ่งขึ้นรถทันที จำได้ว่ารถออกตอน 9 โมง 15 ค่ะ ระหว่างรอรถออกนิดหน่อยก็เลยไปคุยกับคนขับว่าจะพอมีทางกลับโดยรถไฟมั้ย เเกก็บอกว่ารถไฟกลับเที่ยวสุดท้ายคือ 2 โมงครึ่ง ดูเเล้วยังไงก็ไปบ่ทัน ก็เลยตกลงกันว่าคงกลับทางเดิม อดไปรถไฟเลย TT
ขึ้นมาปุ๊บพวกผมนี่งงเลยครัชเพราะมีเเต่ชาวต่างชาติทั้งคัน ดีๆจะได้ไม่เหงาเนอะ อ้อ ค่ารถประจำทางไปน้ำตกก็คนละห้าสิบบาทนะคะใช้เวลาเดินทางชั่วโมงครึ่งเป๊ะๆ
11:00 พอไปถึงทางเข้าอุทยานเเห่งชาติเขาก็เก็บเราเป็นค่าบำรุงอีกคนละ 40 บาทค่ะ ถ้าเป็นชาวต่างชาติเก็บ 200 เชียว สาวB2เกือบเสียสองร้อยเเล้ว่มั้ยล่ะเพราะเค้านึกว่าเป็นฝรั่ง 55555 (ทีหลังอย่านั่งเงียบหัดตอบเค้ามั่งซิยะ)
หลังจากนั้นก็มาถึงน้ำตกโดยสุขสวัสดิ์ดี ซึ่งข้างล่างมีของกินขายมากมายก่ายกอง เเต่ด้วยความที่ B1เคยไปมาเมื่อตอนสงกรานต์เเล้วเจอว่าที่น้ำตกชั้นหนึ่งมันมีร้านค้าขายส้มตำไก่ย่าง ร้านขายขนม น้ำ กาเเฟอยู่ก็เลยกะไปกินข้างบนกัน เเต่พอไปถึงกลับไม่มีซะงั้น เลยต้องกินมาม่าไม่ให้หมดเเรงไปก่อน 55555 ช่วงเวลาที่ไม่ใช่เทศกาลท่องเที่ยวจะหนักไปทางต่างชาติซะเยอะค่ะ ซึ่งก็ดีไปอีกเเบบนึง คนน้อยดีชอบ!!!! จำได้ว่าที่ไปสงกรานต์คราวก่อนน้ำขุ่นมาก ต้องไปถึงชั้น 4,5 ขึ้นไปน้ำถึงจะเป็นสีเขียวสวยเเหน่ะ เเต่คราวนี้ผิดคาดเพราะสวยตั้งเเต่ชั้น 1 เลย ฮุฮิ
จากนั้นก็เดินไปถ่ายน้ำไปเนอะ หนทางในการเดินก็โอเคอยู่ ใส่ผ้าใบไปน่าจะสบายกว่าเพราะทางค่อนข้างเป็นรากไม้บ้างเป็นหินบ้าง จะมีปัญหาก็ไอตรงชั้น 7 นี่ล่ะที่คราวที่เเล้วสังขารเดี้ยง คราวนี้ก็เลยทำใจฮึดว่าต้องพิชิตให้ได้ เลยถอดรองเท้าผ้าใบเเล้วเดินเท้าเปล่าข้ามลำธารกัน !!!! เเม่เจ้าขนาดฝรั่งยังไม่ทำเลย สองสาวนี่บ้าหรือต๊อง 55555 เเต่ข้อดีของเดินเท้าเปล่าก็คือมันยึดกับหินดีเวลาปีนหรือทรงตัวงี้ เเต่ใครชอบเเบบไหนก็เเบบนั้นเนอะ เดินไปสัก 200 เมตรก็ถึงสักกะที หลังจากเดินจนระบม (B2:ไม่ถึงขนาดน้านนน)
ตอนที่เรามาถึงน้ำตกชั้นเจ็ดมันอาจจะเเห้งเล็กน้อย เเต่ในความเห็นของเราสองคนมันดีมากเลยล่ะ เหมือนกับนี่เเหละรางวัลของชีวิต สวยเเละดี 5555 ไม่เชื่อเดี๋ยวไปดูรุปเองเนอะ เราจะตกลงกันว่าจะเล่นน้ำที่ชั้นนี้ดีกว่า เพราะอยู่บนสุด น่าจะสะอาดดี 5555 หลังจากเล่นน้ำอย่างเมามันส์เเละเอาชนะกับปลาพลวง (ปลาที่อาศัยที่น้ำตกเอราวัณ ไม่กินคนนะคะ เเต่ชอบตอดเฉยๆ เเถมตอดจริงจังด้วย 5555 เเต่ไม่ต้องกลัวนะคะ เล่นน้ำได้สะบายเลย) ก็ถึงเวลาอันสมควรกลับ
14:30 จากนั้นเราก็ลงมาล้างตัวกันที่ชั้นสอง เเล้วก็เลยไปนอนเล่นบนเเคร่ต่อสักพัก
15:45 หลังจากตื่นมาเเบบเฟรชฝุดๆ เราก็ลงไปรอรถประจำทางมารับกลับตามที่ลุงคนขับบอกไว้ว่ารอบสุดท้ายคือสี่โมง เเต่ปรากฎว่ามีคนเกือบเต็มรถเเว้วววว เเละส่วนมากเป็นชาวต่างชาติอีกเช่นเคย เราเลยรีบวิ่งไปหาที่นั่งเเทบไม่ทัน ส่วนคนที่มาทีหลังก็ต้องนั่งที่พิเศษกันไป -*-
17:30 มาถึงสถานีขนส่งกาญฯสมใจเเล้วก็นั่งรถตู้กลับกรุงเทพกันเสียที
20:00 ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพค่าาาาาา จากนั้นคึกกันก็เลยไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือต่อ อิอิ เป็นอันจบรีวิวเท่านี้ล่ะค่าาา หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่สนใจนะคะ ตอนนี้สองสาวผจญกรรม เอ้ย ! ผจญภัยต้องขอลาไปก่อนเจอกันภาคหน้ามาดูว่าเราจะไปโผล่ที่ไหนอีก (ซวยที่นั่น) กันนะค้า ลาก่อนชาวพันทิป บรัยส์นะกิกิ
คาดว่าทุกคนคงอยากดูรูปงามๆเเว้ว เชิญชมเลยค่าาา
สรุปค่าใช้จ่าย
-ค่ารถตู้คนละ 120 ไปกลับสองคนก็เป็น 480
-ค่ารถประจำทาง 50 ขากลับก็รวมของสองคนเป็น 200
-ค่าเข้าอุทยานเเห่งชาติ 40
-ค่ามาม่า 20
-ค่าข้าวโพดต้ม 20
-ค่าไก่จ๊อห้าดาว 22
สิริรวม 782 บาทค่าาาาา
[CR] สองสาวผจญภัย ภาค1 :) หนาวนี้(รึเปล่า =_=)ที่น้ำตกเอราวัณณณณ
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาเริ่มกันเลยดีกว่า เนื่องจากหยุดยาวมาหลายวันนั่งนอนจนตะคริวกินกันไปข้าง เราสองคนก็เลยปิ๊ง ไอเดียเที่ยวเเบบวันเดียวจบ เเถมไม่ใช้ตังค์เยอะ(เพราะช่วงนี้ก็จะสิ้นเดือนเเหล่มิเเหล่ 555555) ก็เลยนั่งคิดนอนคิดตีลังกาคิดสรุปมาว่าจะไปกาญจนบุรีกันโลดดดดดด
เเละที่หมายของเราก็คือน้ำตกเอราวัณนี่เองงงงงงง ซึ่งคราวที่เเล้วสาวB1ก็เคยไปมาเเว้ว เเต่ด้วยสังขารเดี้ยงไปก่อนก็เลยไปไม่ถึงชั้นเจ็ด เศร้าหนักจนจะส่งเรื่องไปศาลาคนเศร้า เลยชวนสาวB2ที่รับเออออห่อหมกไป ด้วยมันทุกที่อยู่เเล้ว (ประมาณมัดมือชก55555) ทริปเเบบคนกากๆจึงเริ่มขึ้นด้วยประการฉะนี้เเล
21/01/2015 05:30 เนื่องจากถิ่นพำนักอาศัยของเราอยู่เเถวจุฬาก็เลยนั่ง 29 ไปยังอนุสาวรีย์เพื่อไปขึ้นรถตู้ เพราะหลังจากคิดปวดตับกันมานานว่าจะนั่งรถไฟไปดีมั้ย เเต่สุดท้ายก็เลือกรถตู้ดีกว่าจะได้มีเวลาชมความงามเยอะๆ มาเที่ยวธรรมชาติทั้งทีเนอะ ^____^ เเล้วก็มาเจอขวัญชีวีทัวร์ ไปถึงก็บอกพี่เเกเลยว่าจะไปกาญฯ ค่ารถก็ 120 บาทไม่เเพงยังโออยู่ 55555 จากนั้นพี่เเกก็ถามว่าจะไปลงไหน สงสัยสองสาวจะยังไม่ตื่นเลยทำหน้าเอ๋อใส่
พี่เค้าเลยยิ้มบอกว่าลงสถานีบขส ที่กาญฯใช่มั้ย เลยพยักหน้าหงึกๆไป
จากนั้นรถก็ออกทันทีในบัดดล 55555 ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงซึ่งสาวB2บอกว่าง่วงเราก็เลยนอนเป็นเพื่อนเเต่สุดท้ายไหงหลับเเค่คนเดียว B2นอนไม่หลับซะงั้น
09:00 พอรถจอดก็ถามทางไปชานชาลาที่จะไปขึ้นรถประจำทางสายน้ำตกเอราวัณ-กาญฯ สองสาวไม่รอช้าวิ่งขึ้นรถทันที จำได้ว่ารถออกตอน 9 โมง 15 ค่ะ ระหว่างรอรถออกนิดหน่อยก็เลยไปคุยกับคนขับว่าจะพอมีทางกลับโดยรถไฟมั้ย เเกก็บอกว่ารถไฟกลับเที่ยวสุดท้ายคือ 2 โมงครึ่ง ดูเเล้วยังไงก็ไปบ่ทัน ก็เลยตกลงกันว่าคงกลับทางเดิม อดไปรถไฟเลย TT
ขึ้นมาปุ๊บพวกผมนี่งงเลยครัชเพราะมีเเต่ชาวต่างชาติทั้งคัน ดีๆจะได้ไม่เหงาเนอะ อ้อ ค่ารถประจำทางไปน้ำตกก็คนละห้าสิบบาทนะคะใช้เวลาเดินทางชั่วโมงครึ่งเป๊ะๆ
11:00 พอไปถึงทางเข้าอุทยานเเห่งชาติเขาก็เก็บเราเป็นค่าบำรุงอีกคนละ 40 บาทค่ะ ถ้าเป็นชาวต่างชาติเก็บ 200 เชียว สาวB2เกือบเสียสองร้อยเเล้ว่มั้ยล่ะเพราะเค้านึกว่าเป็นฝรั่ง 55555 (ทีหลังอย่านั่งเงียบหัดตอบเค้ามั่งซิยะ)
หลังจากนั้นก็มาถึงน้ำตกโดยสุขสวัสดิ์ดี ซึ่งข้างล่างมีของกินขายมากมายก่ายกอง เเต่ด้วยความที่ B1เคยไปมาเมื่อตอนสงกรานต์เเล้วเจอว่าที่น้ำตกชั้นหนึ่งมันมีร้านค้าขายส้มตำไก่ย่าง ร้านขายขนม น้ำ กาเเฟอยู่ก็เลยกะไปกินข้างบนกัน เเต่พอไปถึงกลับไม่มีซะงั้น เลยต้องกินมาม่าไม่ให้หมดเเรงไปก่อน 55555 ช่วงเวลาที่ไม่ใช่เทศกาลท่องเที่ยวจะหนักไปทางต่างชาติซะเยอะค่ะ ซึ่งก็ดีไปอีกเเบบนึง คนน้อยดีชอบ!!!! จำได้ว่าที่ไปสงกรานต์คราวก่อนน้ำขุ่นมาก ต้องไปถึงชั้น 4,5 ขึ้นไปน้ำถึงจะเป็นสีเขียวสวยเเหน่ะ เเต่คราวนี้ผิดคาดเพราะสวยตั้งเเต่ชั้น 1 เลย ฮุฮิ
จากนั้นก็เดินไปถ่ายน้ำไปเนอะ หนทางในการเดินก็โอเคอยู่ ใส่ผ้าใบไปน่าจะสบายกว่าเพราะทางค่อนข้างเป็นรากไม้บ้างเป็นหินบ้าง จะมีปัญหาก็ไอตรงชั้น 7 นี่ล่ะที่คราวที่เเล้วสังขารเดี้ยง คราวนี้ก็เลยทำใจฮึดว่าต้องพิชิตให้ได้ เลยถอดรองเท้าผ้าใบเเล้วเดินเท้าเปล่าข้ามลำธารกัน !!!! เเม่เจ้าขนาดฝรั่งยังไม่ทำเลย สองสาวนี่บ้าหรือต๊อง 55555 เเต่ข้อดีของเดินเท้าเปล่าก็คือมันยึดกับหินดีเวลาปีนหรือทรงตัวงี้ เเต่ใครชอบเเบบไหนก็เเบบนั้นเนอะ เดินไปสัก 200 เมตรก็ถึงสักกะที หลังจากเดินจนระบม (B2:ไม่ถึงขนาดน้านนน)
ตอนที่เรามาถึงน้ำตกชั้นเจ็ดมันอาจจะเเห้งเล็กน้อย เเต่ในความเห็นของเราสองคนมันดีมากเลยล่ะ เหมือนกับนี่เเหละรางวัลของชีวิต สวยเเละดี 5555 ไม่เชื่อเดี๋ยวไปดูรุปเองเนอะ เราจะตกลงกันว่าจะเล่นน้ำที่ชั้นนี้ดีกว่า เพราะอยู่บนสุด น่าจะสะอาดดี 5555 หลังจากเล่นน้ำอย่างเมามันส์เเละเอาชนะกับปลาพลวง (ปลาที่อาศัยที่น้ำตกเอราวัณ ไม่กินคนนะคะ เเต่ชอบตอดเฉยๆ เเถมตอดจริงจังด้วย 5555 เเต่ไม่ต้องกลัวนะคะ เล่นน้ำได้สะบายเลย) ก็ถึงเวลาอันสมควรกลับ
14:30 จากนั้นเราก็ลงมาล้างตัวกันที่ชั้นสอง เเล้วก็เลยไปนอนเล่นบนเเคร่ต่อสักพัก
15:45 หลังจากตื่นมาเเบบเฟรชฝุดๆ เราก็ลงไปรอรถประจำทางมารับกลับตามที่ลุงคนขับบอกไว้ว่ารอบสุดท้ายคือสี่โมง เเต่ปรากฎว่ามีคนเกือบเต็มรถเเว้วววว เเละส่วนมากเป็นชาวต่างชาติอีกเช่นเคย เราเลยรีบวิ่งไปหาที่นั่งเเทบไม่ทัน ส่วนคนที่มาทีหลังก็ต้องนั่งที่พิเศษกันไป -*-
17:30 มาถึงสถานีขนส่งกาญฯสมใจเเล้วก็นั่งรถตู้กลับกรุงเทพกันเสียที
20:00 ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพค่าาาาาา จากนั้นคึกกันก็เลยไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือต่อ อิอิ เป็นอันจบรีวิวเท่านี้ล่ะค่าาา หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่สนใจนะคะ ตอนนี้สองสาวผจญกรรม เอ้ย ! ผจญภัยต้องขอลาไปก่อนเจอกันภาคหน้ามาดูว่าเราจะไปโผล่ที่ไหนอีก (ซวยที่นั่น) กันนะค้า ลาก่อนชาวพันทิป บรัยส์นะกิกิ
คาดว่าทุกคนคงอยากดูรูปงามๆเเว้ว เชิญชมเลยค่าาา
สรุปค่าใช้จ่าย
-ค่ารถตู้คนละ 120 ไปกลับสองคนก็เป็น 480
-ค่ารถประจำทาง 50 ขากลับก็รวมของสองคนเป็น 200
-ค่าเข้าอุทยานเเห่งชาติ 40
-ค่ามาม่า 20
-ค่าข้าวโพดต้ม 20
-ค่าไก่จ๊อห้าดาว 22
สิริรวม 782 บาทค่าาาาา
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น