**************************************************************************************
มาพิมพ์กึ่งๆบ่น กึ่งๆระบาย กึ่งๆขอคำแนะนำด้านจิตใจครับ
เรื่องที่มาพิมพ์
จะออกแนวๆ ... ... เซ็งจิตต์ตนเอง+เบื่อใจตนเองที่ว่อกแว่ก+น้อยใจลูก
ยาที่ต้องการตอนนี้ด่วนๆ = วิธีปรับอารมณ์ตนเอง ระดับเบื้องต้น ระดับกลาง ระดับปลาย
ยาที่อยากให้แนะนำ = วิธีการถาวร เพื่อให้ลูกเป็นผู้ใหญ่ให้ทันก่อนตนเองจะตาย และขออนุญาต "ไม่เอาวิธีลัดครับ"
**************************************************************************************
บทสนทนา ของ.. พ่อม่าย/ลูกสาว
ลูกสาวเปิดประตูเข้ามาในห้อง(คอนโด)ของพ่อ
เพื่อมาเอากุญแจห้องของเธอ(ที่เธอฝากไว้)
"ว่าไงป๊า"
พ่อที่เพิ่งตื่นนอน จากการเผลองีบหลับ
ไปบนเก้าอี้หน้าจอคอมฯ(อาชีพเขียนเว็บฯ/รับดูแลเว็บฯ)
.... ได้ไม่ถึง ๕ นาที ... จึงตอบไปว่า
"ง า ย ..ยยยยย .. "
แล้วยิ้มตอบลูกโดยไม่เจรจาอะไรไปมากกว่าที่เคยทำ..
เพราะเขาดันนึกขึ้นได้ว่าครั้งสุดท้ายที่นอนดูหนังด้วยกัน
ลูกบอก(กึ่งเตือนๆ)กับพ่อว่า "พ่อพูดมาก"
และ "สายตา" ก็พอดีกับเหลือบมองไปเห็นข้อความ
ที่ตนเองเขียนเตือนไว้ข้างฝาว่า
"ถ้ายังไม่รู้ว่าลูกอารมณ์ดีหรือไม่ ก็จงอย่าล้อหรืออำลูก"
ลูก : ไอ้หยก(แมว)อยู่ไหน ?
พ่อ : ตะกี๊อยู่ตรงนี้นี่ ไปไหนซะแล้ว
ลูก : ป๊าว่า(ห้าง)เพลินนารี่ มี "ทรู"มั้ย ? หนูจะได้ไม่ต้องไป(ห้าง)แฟชั่นฯ
พ่อ : ไม่รู้อะลูก
พ่อ : นั่นไง ไอ้หยกอยู่หลังบ้าน ! (ลูกสาวมองแมวที่แอบเธออยู่หลังบ้าน)
ลูก : ได้ข่าวว่าไอ้หยกกลัวนังสามสีหรือ ?
พ่อ : (หัวเราะขำๆ) .. ฮ่าๆๆ ก็ตามคลิปที่ส่งให้ดูเลยลูก
พ่อ : สนใจชิมกับข้าวปัญญ่าอ่อนของป๊าอะป่าว ? ต้มไก่ใส่สารพัดผักของป๊าไง.. !!
ลูก : (จะเปิดหม้อต้มไก่เพื่อชิม)
พ่อหยิบช้อนให้ลูกสาว พอเห็นช้อน(ราคาถูก)ที่เคยบาดปากตนเองจนเลือดไหล..
... พ่อจึงเตือนลูกสาว
พ่อ : ระวังนะลูก อย่างับช้อนแรง ช้อนมันคม !!!
.. พร้อมทั้งทั้งเอามือชี้ที่ขอบช้อน เพื่อให้เห็นว่า ขอบของมัน "คมนิดๆ"
ลูกสาวตักต้มไก่ร้อนๆ จะไส่ปากชิม พ่อก็เกรงว่า
ลูกจะไม่เป่าก่อนชิม(เพราะอาการของลูก เหมือนจะไม่เป่าก่อน)
และพ่อเห็นว่าวันนี้เธอไม่ได้ใส่แว่น (และ/แต่.. น่าจะใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่น)
อาจมองไม่เห็นไอร้อน.. จึงเตือนออกไป
"เป่าก่อนชิมนะลูก เด๋ว... ลวกปาก"
ลูก : หนูไม่ใช่เบบี๋นะป๊า พูดเตือนอยู่ได้ !
เธอพูดเสียงเข้ม .. และหลังจากทำตาขวางใส่พ่อ แล้วเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ ...
... เธอก็พูดต่อ "หนูไม่ได้เมาค้างนะ !!"
พ่อ : (สะอึกเข้าไปในหัวใจ.. ฉันพูดอะไรผิดไปหว่า) .. เปล่านี่ลูก ทำไมคิดไปไกลซะขนาดนั้น ... ?
ลูกทำสีหน้าไม่พอใจ .. พ่อจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง ..
พ่อ : นี่ไง ป๊าเอาน้ำพริกปลาสลิดแห้ง ..ใส่เข้าผสม...
ลูกสาว ทำท่าอารมณ์เสีย.. บ่นอุบเรื่อง
พ่อเป็นห่วงเธอ จนน่ารำคาญ
ลูก : หนุไม่ได้เมาค้างซะนิด พูดห่วงอยู่นั่น...รำคาญ !
พ่อ : เอางี้ !! .. เอิ่ม... ถ้าหนูอารมณ์เสีย .. งั้นเดี๋ยวอารมณ์ดีค่อยคุยกันเน๊าะ.. !!
ลูกสาวเดินปั้นหน้าบึ้งออกจากห้องพ่อ ..
พ่อรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นครั้งที่สอง..
พ่อ : เอ้า จะไปแล้ว งั้นพ่อฝากทิ้งขยะถุงนี้หน่อย ...
ขณะที่รอพ่ออยู่หน้าห้อง เธอก็ตัดพ้อกึ่งบ่นต่อ
ลูก : หนูไม่ได้เป็นเด็ก หรือ เมาค้างนะ !!
พ่อ : (เห็นป้ายเตือน เป็นภาพเงาซ้อนอยู่ในหัวสมอง - จึงหุบปากครู่หนึ่ง .. และขอเลือกที่จะคิดก่อนตอบ)
ลูก : วันนี้ป๊าเป็นไร ไม่ช่างพูด .. อ้อ !!! และหนุไม่ได้เมาค้างนะ !
พ่อ : (คิดก่อนตอบ-แบบเท่าที่คิดออกได้) .. การคิดแทนพ่อทั้งๆที่พ่อไม่ได้พูด ไอ้แบบที่หนู่เป็นอยู่นี่ มันเข้าข่ายพารานอยด์
หวาดระแวงนะลูก หนุคิดไปเองนะครับ.. พ่อไม่ได้คิดอะไรไกลขนาดนั้น.. ทำไม ? หนุคิดไปไกลจังล่ะลูก !!
ลูก :
ป๊าไม่ได้พูด !! แต่ป๊าคิดไง !! ตกลงป๊าเป็นอะไร ? วันนี้ ..ไม่ค่อยพูด.. !!
พ่อ : ไม่เป็นอะไรเลย ... พ่อไม่ได้เป็นอะไรเลยลูก .... และ พ่อก็ไม่ได้คิดเรื่องเมาด้วยล่ะ.. เฮ้อ !!
ลูก : (ยังทำตาขวางๆ ก่อนเดินกลับ+เอาขยะไปทิ้ง) .. โดยไม่ลาอะไรพ่อ(เช่นที่เคยทำเวลามาหา)
พ่อ : ยืนงงๆอยู่ครู่หนึ่งในกริยาอาการของลูกสาว .. และเขาได้ยินเสียงแมวเดินชนถุงขยะหลังบ้านจนหล่น
จากที่ๆมันแขวนอยู่ จึงเดินไปที่ขยะ(หน้าห้องน้ำ)
(เพราะเขาทำมันโดยใช้เชือกคล้องเศษถุงหิ้วก็อบแก๊บ+หนีบเชือกด้วยไม้หนีบอีกที)
ลูกสาวเดินกลับมา..
ลูก : ทำไม่ เปิดประตูอ้าไว้ .. และไม่ปิด !!
พ่อ : เก็บขยะอีกถุงอยู่จ้า !!
ลูกสาวปิดประตูให้พ่อแล้วเดินกลับไปที่ตึก(ของเธอ)
พ่อ : ยัง "งงๆๆๆ" ... ว่า ... อะไรกันวะ ... เ นี่ ย ยยยยยย.... !!!!
*********************************************************************************************
ป.ล. ๑ ( เล่าเรื่องอ้างอิง )
ประมาณ ๑ เดือนก่อน ..
พ่อ+ลูก .. คุยกัน ทางโทรฯ
ลูก : (พูดอ้อนพ่อ).. ปีา !! หนูเพลียๆ ง่ะ
พ่อ : เป็นอะไร มากมั้ยลูก .. เออจริงด้วย......รึหนูเมาค้างป่าว ?!!!
ลูก : (เสียงโกรธ) .. ป๊า !!! หนุไม่สบายมา ๒ วันแล้ว !! และไม่ได้เมาค้าง !!
พ่อ : อ้าว เหรอ .. เป็นอะไรมากมั้ยลูก
ลูก : (โวยวาย/สะอื้นๆ) .. หนูไม่สบายไม่มีแรง จะให้ซื้อข้าวกล่องมาให้หน่อย .. ยังมาว่าหนูเมาอะไรอีก.. ไม่ต้องแล้ว !!!
พ่อ : .ใจเย็นๆลูกใจเย็นๆ ... ก็เมื่อคืนหนุก็ไปเที่ยวๆดื่มๆมานี่นา พ่อเลยเกรงว่าจะเมาค้าง
อย่าลืมว่าพ่อไม่รู้นะลูก... ว่าไม่สบายมาสองวัน ...เมื่อคืนตีสองหนุยังโทรฯบอกพ่ออยู่เลย ว่าอยู่กับเพื่อนๆแถวๆเลียบด่วนอยู่นี่ !!
ลูก : หนูไม่ได้แฮงค์เหล้า(เมาค้าง) !!!!
แล้วลูก... ก็ ... วาง/ตัด..สายทิ้ง !!!
พ่อจึงโทรฯกลับไป "เคลียร์" ...
คุยกันสักพัก เธอก็แจ้งรายการอาหารที่เธออยากจะกินให้กับพ่อ(สะอื้นไปด้วย)
******************************************************************************************
ป.ล. ๒ ( เล่าให้ฟังเฉยๆครับ เผื่อว่าจะเป็นข้อมูลได้ครับ )
ตัวพ่อ... เป็นพ่อม่าย มีลูกสาวคนเดียวที่กำลังเรียนอยู่ ปีสี่
ตัวพ่อ... ชอบกินอาหารมันๆ(เลิกแล้ว) ตอนนี้กำลังป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ, โรคเบาหวาน, โรคความดัน
ขณะนี้ ได้ใส่บอลลูนถ่างหลอดเลือดหัวใจไปแล้วสองเส้น
กำลังอยุ่ในช่วงดูแล+กินยา+รอใส่บอลลูนอีกเส้น
และเลื่อนนัดคุณหมอฯ มาเกือบจะเดือนแล้ว เพราะยังหาเงินได้ไม่พอ(หลายหมื่น)
***************************************************
ขออภัยที่เน้นอีกรอบครับ
ยาที่ต้องการตอนนี้ด่วนๆ = วิธีปรับอารมณ์ตนเอง ระดับเบื้องต้น ระดับกลาง ระดับปลาย
ยาที่อยากให้แนะนำ = วิธีการถาวร เพื่อให้ลูกเป็นผู้ใหญ่ให้ทันก่อนตนเองจะตาย และขออนุญาตไม่เอาวิธีลัดครับ
ขอบคุณล่วงหน้า ในทุกๆคำแนะนำครับ
และ.. ยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ
จาก..
พ่อม่ายลุกสาวคนเดียว
ขอวิธีรับมือกับสมองตนเอง .. "เมื่อลูก" .. ทำให้เรารู้สึกน้อยใจครับ
มาพิมพ์กึ่งๆบ่น กึ่งๆระบาย กึ่งๆขอคำแนะนำด้านจิตใจครับ
เรื่องที่มาพิมพ์
จะออกแนวๆ ... ... เซ็งจิตต์ตนเอง+เบื่อใจตนเองที่ว่อกแว่ก+น้อยใจลูก
ยาที่ต้องการตอนนี้ด่วนๆ = วิธีปรับอารมณ์ตนเอง ระดับเบื้องต้น ระดับกลาง ระดับปลาย
ยาที่อยากให้แนะนำ = วิธีการถาวร เพื่อให้ลูกเป็นผู้ใหญ่ให้ทันก่อนตนเองจะตาย และขออนุญาต "ไม่เอาวิธีลัดครับ"
**************************************************************************************
บทสนทนา ของ.. พ่อม่าย/ลูกสาว
ลูกสาวเปิดประตูเข้ามาในห้อง(คอนโด)ของพ่อ
เพื่อมาเอากุญแจห้องของเธอ(ที่เธอฝากไว้)
"ว่าไงป๊า"
พ่อที่เพิ่งตื่นนอน จากการเผลองีบหลับ
ไปบนเก้าอี้หน้าจอคอมฯ(อาชีพเขียนเว็บฯ/รับดูแลเว็บฯ)
.... ได้ไม่ถึง ๕ นาที ... จึงตอบไปว่า
"ง า ย ..ยยยยย .. "
แล้วยิ้มตอบลูกโดยไม่เจรจาอะไรไปมากกว่าที่เคยทำ..
เพราะเขาดันนึกขึ้นได้ว่าครั้งสุดท้ายที่นอนดูหนังด้วยกัน
ลูกบอก(กึ่งเตือนๆ)กับพ่อว่า "พ่อพูดมาก"
และ "สายตา" ก็พอดีกับเหลือบมองไปเห็นข้อความ
ที่ตนเองเขียนเตือนไว้ข้างฝาว่า
"ถ้ายังไม่รู้ว่าลูกอารมณ์ดีหรือไม่ ก็จงอย่าล้อหรืออำลูก"
ลูก : ไอ้หยก(แมว)อยู่ไหน ?
พ่อ : ตะกี๊อยู่ตรงนี้นี่ ไปไหนซะแล้ว
ลูก : ป๊าว่า(ห้าง)เพลินนารี่ มี "ทรู"มั้ย ? หนูจะได้ไม่ต้องไป(ห้าง)แฟชั่นฯ
พ่อ : ไม่รู้อะลูก
พ่อ : นั่นไง ไอ้หยกอยู่หลังบ้าน ! (ลูกสาวมองแมวที่แอบเธออยู่หลังบ้าน)
ลูก : ได้ข่าวว่าไอ้หยกกลัวนังสามสีหรือ ?
พ่อ : (หัวเราะขำๆ) .. ฮ่าๆๆ ก็ตามคลิปที่ส่งให้ดูเลยลูก
พ่อ : สนใจชิมกับข้าวปัญญ่าอ่อนของป๊าอะป่าว ? ต้มไก่ใส่สารพัดผักของป๊าไง.. !!
ลูก : (จะเปิดหม้อต้มไก่เพื่อชิม)
พ่อหยิบช้อนให้ลูกสาว พอเห็นช้อน(ราคาถูก)ที่เคยบาดปากตนเองจนเลือดไหล..
... พ่อจึงเตือนลูกสาว
พ่อ : ระวังนะลูก อย่างับช้อนแรง ช้อนมันคม !!!
.. พร้อมทั้งทั้งเอามือชี้ที่ขอบช้อน เพื่อให้เห็นว่า ขอบของมัน "คมนิดๆ"
ลูกสาวตักต้มไก่ร้อนๆ จะไส่ปากชิม พ่อก็เกรงว่า
ลูกจะไม่เป่าก่อนชิม(เพราะอาการของลูก เหมือนจะไม่เป่าก่อน)
และพ่อเห็นว่าวันนี้เธอไม่ได้ใส่แว่น (และ/แต่.. น่าจะใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่น)
อาจมองไม่เห็นไอร้อน.. จึงเตือนออกไป
"เป่าก่อนชิมนะลูก เด๋ว... ลวกปาก"
ลูก : หนูไม่ใช่เบบี๋นะป๊า พูดเตือนอยู่ได้ !
เธอพูดเสียงเข้ม .. และหลังจากทำตาขวางใส่พ่อ แล้วเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ ...
... เธอก็พูดต่อ "หนูไม่ได้เมาค้างนะ !!"
พ่อ : (สะอึกเข้าไปในหัวใจ.. ฉันพูดอะไรผิดไปหว่า) .. เปล่านี่ลูก ทำไมคิดไปไกลซะขนาดนั้น ... ?
ลูกทำสีหน้าไม่พอใจ .. พ่อจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง ..
พ่อ : นี่ไง ป๊าเอาน้ำพริกปลาสลิดแห้ง ..ใส่เข้าผสม...
ลูกสาว ทำท่าอารมณ์เสีย.. บ่นอุบเรื่อง
พ่อเป็นห่วงเธอ จนน่ารำคาญ
ลูก : หนุไม่ได้เมาค้างซะนิด พูดห่วงอยู่นั่น...รำคาญ !
พ่อ : เอางี้ !! .. เอิ่ม... ถ้าหนูอารมณ์เสีย .. งั้นเดี๋ยวอารมณ์ดีค่อยคุยกันเน๊าะ.. !!
ลูกสาวเดินปั้นหน้าบึ้งออกจากห้องพ่อ ..
พ่อรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นครั้งที่สอง..
พ่อ : เอ้า จะไปแล้ว งั้นพ่อฝากทิ้งขยะถุงนี้หน่อย ...
ขณะที่รอพ่ออยู่หน้าห้อง เธอก็ตัดพ้อกึ่งบ่นต่อ
ลูก : หนูไม่ได้เป็นเด็ก หรือ เมาค้างนะ !!
พ่อ : (เห็นป้ายเตือน เป็นภาพเงาซ้อนอยู่ในหัวสมอง - จึงหุบปากครู่หนึ่ง .. และขอเลือกที่จะคิดก่อนตอบ)
ลูก : วันนี้ป๊าเป็นไร ไม่ช่างพูด .. อ้อ !!! และหนุไม่ได้เมาค้างนะ !
พ่อ : (คิดก่อนตอบ-แบบเท่าที่คิดออกได้) .. การคิดแทนพ่อทั้งๆที่พ่อไม่ได้พูด ไอ้แบบที่หนู่เป็นอยู่นี่ มันเข้าข่ายพารานอยด์
หวาดระแวงนะลูก หนุคิดไปเองนะครับ.. พ่อไม่ได้คิดอะไรไกลขนาดนั้น.. ทำไม ? หนุคิดไปไกลจังล่ะลูก !!
ลูก : ป๊าไม่ได้พูด !! แต่ป๊าคิดไง !! ตกลงป๊าเป็นอะไร ? วันนี้ ..ไม่ค่อยพูด.. !!
พ่อ : ไม่เป็นอะไรเลย ... พ่อไม่ได้เป็นอะไรเลยลูก .... และ พ่อก็ไม่ได้คิดเรื่องเมาด้วยล่ะ.. เฮ้อ !!
ลูก : (ยังทำตาขวางๆ ก่อนเดินกลับ+เอาขยะไปทิ้ง) .. โดยไม่ลาอะไรพ่อ(เช่นที่เคยทำเวลามาหา)
พ่อ : ยืนงงๆอยู่ครู่หนึ่งในกริยาอาการของลูกสาว .. และเขาได้ยินเสียงแมวเดินชนถุงขยะหลังบ้านจนหล่น
จากที่ๆมันแขวนอยู่ จึงเดินไปที่ขยะ(หน้าห้องน้ำ)
(เพราะเขาทำมันโดยใช้เชือกคล้องเศษถุงหิ้วก็อบแก๊บ+หนีบเชือกด้วยไม้หนีบอีกที)
ลูกสาวเดินกลับมา..
ลูก : ทำไม่ เปิดประตูอ้าไว้ .. และไม่ปิด !!
พ่อ : เก็บขยะอีกถุงอยู่จ้า !!
ลูกสาวปิดประตูให้พ่อแล้วเดินกลับไปที่ตึก(ของเธอ)
พ่อ : ยัง "งงๆๆๆ" ... ว่า ... อะไรกันวะ ... เ นี่ ย ยยยยยย.... !!!!
*********************************************************************************************
ป.ล. ๑ ( เล่าเรื่องอ้างอิง )
ประมาณ ๑ เดือนก่อน ..
พ่อ+ลูก .. คุยกัน ทางโทรฯ
ลูก : (พูดอ้อนพ่อ).. ปีา !! หนูเพลียๆ ง่ะ
พ่อ : เป็นอะไร มากมั้ยลูก .. เออจริงด้วย......รึหนูเมาค้างป่าว ?!!!
ลูก : (เสียงโกรธ) .. ป๊า !!! หนุไม่สบายมา ๒ วันแล้ว !! และไม่ได้เมาค้าง !!
พ่อ : อ้าว เหรอ .. เป็นอะไรมากมั้ยลูก
ลูก : (โวยวาย/สะอื้นๆ) .. หนูไม่สบายไม่มีแรง จะให้ซื้อข้าวกล่องมาให้หน่อย .. ยังมาว่าหนูเมาอะไรอีก.. ไม่ต้องแล้ว !!!
พ่อ : .ใจเย็นๆลูกใจเย็นๆ ... ก็เมื่อคืนหนุก็ไปเที่ยวๆดื่มๆมานี่นา พ่อเลยเกรงว่าจะเมาค้าง
อย่าลืมว่าพ่อไม่รู้นะลูก... ว่าไม่สบายมาสองวัน ...เมื่อคืนตีสองหนุยังโทรฯบอกพ่ออยู่เลย ว่าอยู่กับเพื่อนๆแถวๆเลียบด่วนอยู่นี่ !!
ลูก : หนูไม่ได้แฮงค์เหล้า(เมาค้าง) !!!!
แล้วลูก... ก็ ... วาง/ตัด..สายทิ้ง !!!
พ่อจึงโทรฯกลับไป "เคลียร์" ...
คุยกันสักพัก เธอก็แจ้งรายการอาหารที่เธออยากจะกินให้กับพ่อ(สะอื้นไปด้วย)
******************************************************************************************
ป.ล. ๒ ( เล่าให้ฟังเฉยๆครับ เผื่อว่าจะเป็นข้อมูลได้ครับ )
ตัวพ่อ... เป็นพ่อม่าย มีลูกสาวคนเดียวที่กำลังเรียนอยู่ ปีสี่
ตัวพ่อ... ชอบกินอาหารมันๆ(เลิกแล้ว) ตอนนี้กำลังป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ, โรคเบาหวาน, โรคความดัน
ขณะนี้ ได้ใส่บอลลูนถ่างหลอดเลือดหัวใจไปแล้วสองเส้น
กำลังอยุ่ในช่วงดูแล+กินยา+รอใส่บอลลูนอีกเส้น
และเลื่อนนัดคุณหมอฯ มาเกือบจะเดือนแล้ว เพราะยังหาเงินได้ไม่พอ(หลายหมื่น)
***************************************************
ขออภัยที่เน้นอีกรอบครับ
ยาที่ต้องการตอนนี้ด่วนๆ = วิธีปรับอารมณ์ตนเอง ระดับเบื้องต้น ระดับกลาง ระดับปลาย
ยาที่อยากให้แนะนำ = วิธีการถาวร เพื่อให้ลูกเป็นผู้ใหญ่ให้ทันก่อนตนเองจะตาย และขออนุญาตไม่เอาวิธีลัดครับ
ขอบคุณล่วงหน้า ในทุกๆคำแนะนำครับ
และ.. ยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ
จาก..
พ่อม่ายลุกสาวคนเดียว