นี่เป็นการตั้งกระทู้แรกในชีวิตของฉันนะ...ฉันมีเรื่องราวมาเล่าและอยากให้เพื่อนช่วยให้คำปรึกษากับฉันทีว่าฉันต้องทำยังไงต่อไปดี!!!
ฉันคบกับผู้ชายคนหนึ่งมาได้เกือบสองปีแล้วคะ
ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นด้วยความสงสาร หรือความเห็นใจ หรือความรัก ฉันก้อไม่รู้
เพราะเราสองคนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันคะ ฉันอายุมากกว่าเขา 2 ปี เราเรียนม.ปลายโรงเรียนชายประจำจังหวัด ทางภาคเหนือตอนล่าง กลางตอนบนด้วยกัน
เจอกันผ่านๆในดรงเรียน มาได้เจอกันจังๆที่ค่ายๆหนึ่งเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เราทั้งคู่ถูกแกล้งคู่กัน เพราะฉันตอบคำถามประจำค่ายถูก
ส่วนวันนั้นตรงกับวันเกิดของเขา ทำให้เขาเข้ามาอยู่ในสายตา (แต่ยังไม่ได้เข้ามาอยู่ในหัวใจนะ^^)
ตอนนั้นฉันมองว่าเด็กคนนี้น่ารักดีนะ ขาว สูง ค่อนข้างจะตรงสเปคฉัน
แต่เพราะว่าตอนนั้นตัวฉันเองมีแฟนอยู่แล้ว และด้วยนิสัยที่ค่อนข้างจะรักเดียวใจเดียว
ฉันเลยไม่ได้สานความสัมพันธ์ใดๆต่อ นอกจากพี่น้องร่วมค่ายและรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมโรงเรียน
เวลาผ่านไป...ฉันเรียนจบม.ปลาย เราสองคนก้อยังได้คุยกันผ่านสื่อโซเชียลต่างๆเป็นครั้งคราว
และกลับมาเจอกันอีกครั้งที่ค่ายเดิม...ตอนนั้นฉันก้อยังไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปรึยัง
แต่ไม่ว่าฉันจะเดินไปไหน ทำอะไร ฉันมักจะมองหาเขาก่อนเป็นคนแรก
ด้วยความที่การไปค่ายครั้งนั้น มีเพื่อนรุ่นเดียวกับฉันไปน้อยและเพื่อนของฉันก้อไม่ได้สนใจในการทำกิจกรรมของค่ายเท่าไหร่
ฉันเลยเคว้งนิดหน่อย แต่ก้อมีเขาเนี้ยแหละที่ค่อยเรียกฉันให้ไปนั่งด้วย ชวนคุยบ้าง ทำให้ฉันไม่รู้สึกว่าอยู่คนเดียวเพราะอย่างน้อยก้อมีเขา
จนตอนกลับค่ายเพื่อนๆหนีฉันไปเที่ยวต่อ...ฉันเลยต้องกลับกับรถที่ทางค่ายจัดหาไว้
โดยที่เขาก้อกลับไปกับรถคันนั้นด้วย ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นหน่อย
ตอนกลับฉันนั่งข้างๆเขา (จริงๆแล้วเขาเลือกมานั่งข้างฉันรึป่าวก้อไม่รู้นะ เพราะว่าฉันขึ้นรถก่อน...เข้าข้างตัวเองไปมั้ยนะ^^)
ช่วงนี้แหละที่ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ฉันเขินนะเวลาที่เขาชวนคุยเรื่องต่าง
สอบถามว่าฉันเรียนต่อที่ไหน ถ้าผ่านไปเที่ยวแวะหาได้มั้ย มีที่พักฟรีรึป่าว
ฉันก้อว่าตอบรับไปทุกอย่าง ก่อนที่จะแลกเบอร์กัน...ตอนนั้นฉันก้อไม่ได้คิดว่าเขาจะมาหาจริงหรอก ให้ไปงั้นๆแหละ ตามมารยาท^^
ก่อนที่เราจะแยกย้ายกันกลับบ้าน เขาได้ชวนฉันไปถ่ายรูปด้วย รูปนั้นค่อนข้างจะใกล้ชิดนิสนึง แบบว่าเขินแต่ต้องเก็บอาการ
เวลาผ่านไปประมาณ 2-3 เดือนหลังจากวันนั้น
ฉันได้รับโทรศัพท์จากเขาที่บอกว่ากำลังจะมาหา...ฉันยังคิดว่าเขาแกล้งเลย แต่ก้อไปรับนะ ^^
เขาเดินทางเที่ยวไปทางเหนือของประเทศมา และกำลังจะกลับเลยแวะเที่ยวจังหวัดที่ฉันอยู่เพราะว่ามีที่พักฟรี
ไม่คิดว่าเขาจะมาตามที่พูดไว้เลยจริงๆ เอาจริงๆแล้วเราสองคนไม่ได้สนิทอะไรกันมากนัก
แต่วันนั้นฉันกลับพาเขาไปพักที่ห้องของฉันอย่างง่ายดาย...หรือว่าความรู้สึกของฉันจะเปลี่ยนไปแล้ว!
ก่อนหน้าที่เขาจะมาเที่ยวหาฉันเพิ่งเลิกกับเพื่อนที่คบกันมานาน 7 ปี มันอาจทำให้ฉันรู้สึกเหงาจนอยากมีใครมาแทนที่
แต่มันก้อไม่ได้รวดเร็วพอที่จะเป็นใครก้อได้ ระหว่างนั้นฉันได้ลองคุยกับผู้ชายหลายคนแล้ว
แต่พอผู้ชายเหล่านั้นเริ่มจะคิดว่าตัวเองเป็นมากกว่าคนที่ฉันคุยด้วย ฉันก้อจะพาตัวเองเดินออกมาเสมอ
แต่กับเขาคนนี้ทุกอย่างมันไม่เป็นแบบนั้น
ฉันต้องใช้ความพยายามเพื่อที่จะทำทุกอย่างให้เป็นปกติ ชวนคุย ชวนเล่น ให้เหมือนที่ทำกับคนอื่นๆ
แต่มันไม่เหมือนเลย ฉันรู้สึกว่าฉันมีอาการเขินจนไม่การสบตาเขา ทำให้เขาชอบแกล้งมาเล่นจ้องตา
จนกระทั่งเวลาที่ฉันแน่ใจว่าความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปแล้ว คือเวลาที่จะนอน
ปกติแล้วเวลาที่มีคนมานอนที่ห้องถ้าไม่ใช่แฟนที่เพิ่งเลิกไป ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นครอบครัว
ฉันมักจะเนรเทศตัวเองลงมาปูผ้านอนข้างล่าง และยกพื้นที่บนเตียงให้กับแขกบ้านแขกเรือน
แต่วันนั้น...ฉันดันไปถามเขาว่า "จะนอนตรงไหน?"
เขายังไม่ทันจะตอน...ฉันก้อพูดต่อว่า "นอนบนเตียงก้อได้นะ ถ้าไม่กลัวพี่ปล้ำ เตียงกว้าง"
ด้วยความที่คิดว่าเขาคงจะปฏิเสธ...แต่ไม่คะ...เขาตอบตกลงอย่างไม่มีอาการเขินอาย!!!
กลับเป็นฝ่ายเองที่อึ้งและก้ออายแทน...ก้อดันพูดเองก้อต้องทำตามคำพูดไปอ่ะนะ
เมื่อถึงเวลานอน...ฉันเลือกนอนติดฝาผนัง และนอนหันหลังให้กับเขา
เวลาผ่านไปนานพอสมควร...ฉันลองหันกลับมาดูปรากฏว่าเขาอยู่ใกล้ฉันมากกว่าตอนแรก
และก้อเข้าใกล้มาเรื่อยๆ...สาบานเลยว่าไม่ได้คิดเอง!!!
ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูกเพราะนอกจากพ่อและแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกไปก้อไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมากขนาดนี้
เลยต้องเล่นมือถือแก้เขิน...ที่น่าแปลกคือฉันไม่รู้สึกรังเกียจหรือไม่ชอบการกระทำของเขาเลยซักนิด
พอเขาเห็นฉันเล่นมือถือ การสนทนาก้อเลยเริ่มขึ้น
เขาถามฉันว่า นอนไม่หลับหรอ? ... ซึ่ง ใช่ ฉันนอนไม่หลับเพราะมีเขาอยู่ข้างๆเนี้ยแหละ
ฉันก้อตอบเขาไปด้วยคำถามเดียวกันว่า นอนไม่หลับเหมือนกันหรอ? เขาตอบว่าไม่ชินที่...โอเคเข้าใจ
แล้วต่อด้วยประโยคที่ทำให้ฉันใจเต้นแรง...ขอกอดหน่อยดิ จะได้นอนหลับ!
ฉันหรอ...ไม่ปฏิเสธเลยจร้า แต่พูดจริงแกมหยอกว่าคิดอะไรกับพี่ป่าวเนี้ย...
บอกเลยว่าเป็นอ้อมกอดที่แปลกมากนะ...ทั้งๆที่ไม่สนิทกัน แต่เหมือนกับว่าฉันเชื่อใจเขามานาน
แทนที่มันจะทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาคิดไม่ซื่อ แต่กลับกัน มันทำให้ฉันอบอุ่น
ฉันตาสว่างอยู่ได้ไม่นอน...ฉันก้อเผลอหลับไปในอ้อมกอดของเขาจนเช้า...
นอกจากกอดแล้ว...เราไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่านั้น
ระหว่างวันต่อมา เราเล่นหยอกล้อกันเหมือนเป็นแฟนกันมากขึ้น
พอตกกลางคืนฉันก้ออยากให้เขานอนกอดฉันอีกครั้ง
จนกระทั่งวันที่เขาต้องจากไป...ฉันรู้สึกว่าอะไรซักอย่างจากฉันไปเหมือนกัน
หลังจากนั้นฉันเริ่มเขียนไดอารี่เพราะเห็นว่าเขาเขียน
และฉันก้อมักจะเขียนถึงเขา...ที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาพบกันอีกมั้ย?
เมื่อคนที่รักบอกว่าอยู่คนเดียวแล้วทำงานที่เขารักมีความสุข...กว่า!
ฉันคบกับผู้ชายคนหนึ่งมาได้เกือบสองปีแล้วคะ
ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นด้วยความสงสาร หรือความเห็นใจ หรือความรัก ฉันก้อไม่รู้
เพราะเราสองคนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันคะ ฉันอายุมากกว่าเขา 2 ปี เราเรียนม.ปลายโรงเรียนชายประจำจังหวัด ทางภาคเหนือตอนล่าง กลางตอนบนด้วยกัน
เจอกันผ่านๆในดรงเรียน มาได้เจอกันจังๆที่ค่ายๆหนึ่งเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เราทั้งคู่ถูกแกล้งคู่กัน เพราะฉันตอบคำถามประจำค่ายถูก
ส่วนวันนั้นตรงกับวันเกิดของเขา ทำให้เขาเข้ามาอยู่ในสายตา (แต่ยังไม่ได้เข้ามาอยู่ในหัวใจนะ^^)
ตอนนั้นฉันมองว่าเด็กคนนี้น่ารักดีนะ ขาว สูง ค่อนข้างจะตรงสเปคฉัน
แต่เพราะว่าตอนนั้นตัวฉันเองมีแฟนอยู่แล้ว และด้วยนิสัยที่ค่อนข้างจะรักเดียวใจเดียว
ฉันเลยไม่ได้สานความสัมพันธ์ใดๆต่อ นอกจากพี่น้องร่วมค่ายและรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมโรงเรียน
เวลาผ่านไป...ฉันเรียนจบม.ปลาย เราสองคนก้อยังได้คุยกันผ่านสื่อโซเชียลต่างๆเป็นครั้งคราว
และกลับมาเจอกันอีกครั้งที่ค่ายเดิม...ตอนนั้นฉันก้อยังไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปรึยัง
แต่ไม่ว่าฉันจะเดินไปไหน ทำอะไร ฉันมักจะมองหาเขาก่อนเป็นคนแรก
ด้วยความที่การไปค่ายครั้งนั้น มีเพื่อนรุ่นเดียวกับฉันไปน้อยและเพื่อนของฉันก้อไม่ได้สนใจในการทำกิจกรรมของค่ายเท่าไหร่
ฉันเลยเคว้งนิดหน่อย แต่ก้อมีเขาเนี้ยแหละที่ค่อยเรียกฉันให้ไปนั่งด้วย ชวนคุยบ้าง ทำให้ฉันไม่รู้สึกว่าอยู่คนเดียวเพราะอย่างน้อยก้อมีเขา
จนตอนกลับค่ายเพื่อนๆหนีฉันไปเที่ยวต่อ...ฉันเลยต้องกลับกับรถที่ทางค่ายจัดหาไว้
โดยที่เขาก้อกลับไปกับรถคันนั้นด้วย ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นหน่อย
ตอนกลับฉันนั่งข้างๆเขา (จริงๆแล้วเขาเลือกมานั่งข้างฉันรึป่าวก้อไม่รู้นะ เพราะว่าฉันขึ้นรถก่อน...เข้าข้างตัวเองไปมั้ยนะ^^)
ช่วงนี้แหละที่ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ฉันเขินนะเวลาที่เขาชวนคุยเรื่องต่าง
สอบถามว่าฉันเรียนต่อที่ไหน ถ้าผ่านไปเที่ยวแวะหาได้มั้ย มีที่พักฟรีรึป่าว
ฉันก้อว่าตอบรับไปทุกอย่าง ก่อนที่จะแลกเบอร์กัน...ตอนนั้นฉันก้อไม่ได้คิดว่าเขาจะมาหาจริงหรอก ให้ไปงั้นๆแหละ ตามมารยาท^^
ก่อนที่เราจะแยกย้ายกันกลับบ้าน เขาได้ชวนฉันไปถ่ายรูปด้วย รูปนั้นค่อนข้างจะใกล้ชิดนิสนึง แบบว่าเขินแต่ต้องเก็บอาการ
เวลาผ่านไปประมาณ 2-3 เดือนหลังจากวันนั้น
ฉันได้รับโทรศัพท์จากเขาที่บอกว่ากำลังจะมาหา...ฉันยังคิดว่าเขาแกล้งเลย แต่ก้อไปรับนะ ^^
เขาเดินทางเที่ยวไปทางเหนือของประเทศมา และกำลังจะกลับเลยแวะเที่ยวจังหวัดที่ฉันอยู่เพราะว่ามีที่พักฟรี
ไม่คิดว่าเขาจะมาตามที่พูดไว้เลยจริงๆ เอาจริงๆแล้วเราสองคนไม่ได้สนิทอะไรกันมากนัก
แต่วันนั้นฉันกลับพาเขาไปพักที่ห้องของฉันอย่างง่ายดาย...หรือว่าความรู้สึกของฉันจะเปลี่ยนไปแล้ว!
ก่อนหน้าที่เขาจะมาเที่ยวหาฉันเพิ่งเลิกกับเพื่อนที่คบกันมานาน 7 ปี มันอาจทำให้ฉันรู้สึกเหงาจนอยากมีใครมาแทนที่
แต่มันก้อไม่ได้รวดเร็วพอที่จะเป็นใครก้อได้ ระหว่างนั้นฉันได้ลองคุยกับผู้ชายหลายคนแล้ว
แต่พอผู้ชายเหล่านั้นเริ่มจะคิดว่าตัวเองเป็นมากกว่าคนที่ฉันคุยด้วย ฉันก้อจะพาตัวเองเดินออกมาเสมอ
แต่กับเขาคนนี้ทุกอย่างมันไม่เป็นแบบนั้น
ฉันต้องใช้ความพยายามเพื่อที่จะทำทุกอย่างให้เป็นปกติ ชวนคุย ชวนเล่น ให้เหมือนที่ทำกับคนอื่นๆ
แต่มันไม่เหมือนเลย ฉันรู้สึกว่าฉันมีอาการเขินจนไม่การสบตาเขา ทำให้เขาชอบแกล้งมาเล่นจ้องตา
จนกระทั่งเวลาที่ฉันแน่ใจว่าความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปแล้ว คือเวลาที่จะนอน
ปกติแล้วเวลาที่มีคนมานอนที่ห้องถ้าไม่ใช่แฟนที่เพิ่งเลิกไป ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นครอบครัว
ฉันมักจะเนรเทศตัวเองลงมาปูผ้านอนข้างล่าง และยกพื้นที่บนเตียงให้กับแขกบ้านแขกเรือน
แต่วันนั้น...ฉันดันไปถามเขาว่า "จะนอนตรงไหน?"
เขายังไม่ทันจะตอน...ฉันก้อพูดต่อว่า "นอนบนเตียงก้อได้นะ ถ้าไม่กลัวพี่ปล้ำ เตียงกว้าง"
ด้วยความที่คิดว่าเขาคงจะปฏิเสธ...แต่ไม่คะ...เขาตอบตกลงอย่างไม่มีอาการเขินอาย!!!
กลับเป็นฝ่ายเองที่อึ้งและก้ออายแทน...ก้อดันพูดเองก้อต้องทำตามคำพูดไปอ่ะนะ
เมื่อถึงเวลานอน...ฉันเลือกนอนติดฝาผนัง และนอนหันหลังให้กับเขา
เวลาผ่านไปนานพอสมควร...ฉันลองหันกลับมาดูปรากฏว่าเขาอยู่ใกล้ฉันมากกว่าตอนแรก
และก้อเข้าใกล้มาเรื่อยๆ...สาบานเลยว่าไม่ได้คิดเอง!!!
ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูกเพราะนอกจากพ่อและแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกไปก้อไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมากขนาดนี้
เลยต้องเล่นมือถือแก้เขิน...ที่น่าแปลกคือฉันไม่รู้สึกรังเกียจหรือไม่ชอบการกระทำของเขาเลยซักนิด
พอเขาเห็นฉันเล่นมือถือ การสนทนาก้อเลยเริ่มขึ้น
เขาถามฉันว่า นอนไม่หลับหรอ? ... ซึ่ง ใช่ ฉันนอนไม่หลับเพราะมีเขาอยู่ข้างๆเนี้ยแหละ
ฉันก้อตอบเขาไปด้วยคำถามเดียวกันว่า นอนไม่หลับเหมือนกันหรอ? เขาตอบว่าไม่ชินที่...โอเคเข้าใจ
แล้วต่อด้วยประโยคที่ทำให้ฉันใจเต้นแรง...ขอกอดหน่อยดิ จะได้นอนหลับ!
ฉันหรอ...ไม่ปฏิเสธเลยจร้า แต่พูดจริงแกมหยอกว่าคิดอะไรกับพี่ป่าวเนี้ย...
บอกเลยว่าเป็นอ้อมกอดที่แปลกมากนะ...ทั้งๆที่ไม่สนิทกัน แต่เหมือนกับว่าฉันเชื่อใจเขามานาน
แทนที่มันจะทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาคิดไม่ซื่อ แต่กลับกัน มันทำให้ฉันอบอุ่น
ฉันตาสว่างอยู่ได้ไม่นอน...ฉันก้อเผลอหลับไปในอ้อมกอดของเขาจนเช้า...
นอกจากกอดแล้ว...เราไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่านั้น
ระหว่างวันต่อมา เราเล่นหยอกล้อกันเหมือนเป็นแฟนกันมากขึ้น
พอตกกลางคืนฉันก้ออยากให้เขานอนกอดฉันอีกครั้ง
จนกระทั่งวันที่เขาต้องจากไป...ฉันรู้สึกว่าอะไรซักอย่างจากฉันไปเหมือนกัน
หลังจากนั้นฉันเริ่มเขียนไดอารี่เพราะเห็นว่าเขาเขียน
และฉันก้อมักจะเขียนถึงเขา...ที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาพบกันอีกมั้ย?