กระผม นายเจน ปิยะทัต ใคร่ขอใช้โอกาสนี้ ชี้แจงความไม่สบายใจเกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติและจริยธรรมของวงการกีฬาแบดมินตันในปัจจุบันนี้ครับ
เมื่อวานนี้ (วันที่ 20 มกราคม) ซึ่งเป็นกำหนดวันสุดท้ายในการส่งรายชื่อนักกีฬาเพื่อเข้าแข่งขันรายการ เยอรมันโอเพ่น ออลอิงแลนด์ และสวิสโอเพ่น เพื่อเป็นการส่งเสริมและรักษาสิทธินักกีฬา ทางผมจึงได้ส่งชื่อนักกีฬาที่มีสิทธิเข้าร่วมการแข่งขัน โดยมีชื่อของ บดินทร์ อิสสระ(อาร์ท)รวมอยู่ด้วย แต่ทางเลขาสมาคม ได้แจ้งกลับมาว่า ผมไม่สามารถส่งรายชื่ออาร์ทได้ เนื่องจากทางพี่พลได้ส่งชื่อของ เอและอาร์ทในนามสมาคมไปก่อนแล้ว ซึ่งผมพยายามที่จะสอบถามไปทางไลน์ของพี่พล แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ
การที่นักกีฬาสักคนจะทำหน้าที่เพื่อชื่อเสียงของชาติ ในส่วนตัวผมเอง ผมคิดว่า ไม่ว่านักกีฬาคนนั้นจะสังกัดไหน ต้นสังกัดก็ควรเสียสละให้โอกาสนักกีฬาของตนเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศของเราและเพื่อวงการแบดมินตันเสมอมา เช่นเดียวกับตัวอย่างของนักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่มีสังกัดและสปอนเซอร์ที่ต่างกัน ต้นสังกัดทุกแห่ง แม้จะต้องเสียสละนักกีฬาของตนในบางช่วงบางเวลา เพื่อเข้าร่วมทีมชาติแม้อาจจะต้องเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือทำให้พลาดแมทซ์ที่แข่งในนามสังกัด แต่ก็เป็นธรรมเนียมปฎิบัติกันมาตลอด เพราะคงไม่มีการแข่งขันใดเท่ากับการทำหน้าที่เพื่อชาติ "เพียงแต่ธรรมเนียมปฏิบัติ จรรยาบรรณ และจริยธรรมที่ถูกต้องนั้น ทางสมาคมต้องทำการบอกกล่าว หรือหนังสือขอยืมตัวต่อต้นสังกัดอย่างเป็นทางการ" แต่นี่ไม่ใช่การยืมตัวนักกีฬาเท่านั้น แต่ทางสมาคมยังได้ให้นักกีฬาในสังกัดผม ลงนามหนังสือสัญญาเพื่อเล่นให้กับทางสมาคมโดยเสนอค่าตอบแทนจำนวนสูงแก่นักกีฬา โดยที่ผมไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ เกี่ยวกับการย้ายสังกัดเลย ทั้ง ๆ ที่ทางสมาคมประกาศเรื่องจริยธรรมการย้ายทีมของนักกีฬามาตลอด แต่ทางสมาคมกลับสร้างตัวอย่างที่ไม่เหมาะสม เป็นบรรทัดฐานที่ต่ำและสร้างผลเสียให้กับวงการแบดมินตันในวันนี้และในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน ผมได้พยายามติดต่อทางไลน์ส่วนตัวไปยังท่านนายก คุณหญิงปัทมา เพื่อสอบถามและขอคำชี้แจงในเรื่องนี้ แต่ทางคุณหญิงเลี่ยงที่จะไม่ตอบผม ทั้ง ๆ ที่ในเวลาเดียวกัน คุณหญิงใช้ไลน์ส่วนตัวเดียวกันนี้ สนทนาโต้ตอบกับอีกห้องไลน์ แต่ท่านเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของผมเลยแม้แต่น้อย
ตั้งแต่วันแรกที่ผมสร้างสโมสรแกรนนูลาร์ ผมมีความฝันที่ต้องการจะเห็นการพัฒนาของวงการกีฬาแบดมินตันซึ่งเป็นกีฬาที่ผมรัก ผมอยากมอบโอกาสให้กับนักกีฬาเยาวชนไทย ได้พัฒนาฝีมือเพื่อสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศตลอดเสมอมา ถึงแม้จะต้องเสียสละเวลาส่วนตัว ลงทุนจ้างโค้ชจากต่างประเทศ เพื่อประสิทธิประสาทวิชาให้กับนักกีฬาได้มีเทคนิคใหม่ ๆ มีการฝึกซ้อมที่ทัดเทียมกับคู่แข่งได้ เสียกำลังทรัพย์ไปมาก แต่ผมเองก็มิได้ย่อท้อ เมื่อได้เห็นแววตาของนักกีฬาที่ตั้งใจฝึกซ้อม กับเพราะมีความศรัทธาในวงการแบดมินตันไทยมาโดยตลอด ไม่เคยนึกถึงความสุข ประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ทางอ้อมต่อธุรกิจส่วนตัวที่ผมทำอยู่เลยแม้แต่น้อย แต่วันนี้ จากการที่ได้สัมผัสวงการแบดมินตันในวงลึก ดูเหมือนศรัทธานั้นจะสั่นคลอนลงไปทุกขณะ
การประชุมครั้งสุดท้ายกับคุณหญิง ท่านยังเรียกผมและพี่โอ๊คไปเพื่อปรึกษา2เรื่องคือ
1.เลื่อนเวลาการเลือกตั้งออกไป เพื่อจะได้สอดคล้องกับการที่ทาง กกท. จะประกาศยืดเวลาวาระการเป็นนายกจาก 2 ปีเป็น 4 ปี ซึ่ง ณ วินาทีนั้น ผมเองได้แสดงความเห็นด้วยกับท่านนายก เพื่อที่ท่านจะได้มีโอกาสทำงานอย่างต่อเนื่องมากขึ้น
2.เรื่องการที่จะนำอารท์กับเอ กลับมาคู่กันเพื่อรับใช้ชาติ โดยอาทติดแกรนนูลาร์ ส่วนเอใช่SCG ผมก็มีความเห็นด้วยตามนั้น .... แต่พิจารณาจากสิ่งที่ผมประสบอยู่ในขณะนี้ ผมจึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกสโมสรร่วมพัฒนาและสมาชิกสมาคมแบดโค้ช ทั้ง ๆ ที่เป็นผู้ร่วมกับครูแสงในการจัดตั้งขึ้นก็ตาม เพราะความคิดเห็นที่แตกต่างกันในการทำงาน ทั้งภาคปฏิบัติและจริยธรรม
อาร์ทถูกสงชื่อในนามสมาคมเฉยเลย
เมื่อวานนี้ (วันที่ 20 มกราคม) ซึ่งเป็นกำหนดวันสุดท้ายในการส่งรายชื่อนักกีฬาเพื่อเข้าแข่งขันรายการ เยอรมันโอเพ่น ออลอิงแลนด์ และสวิสโอเพ่น เพื่อเป็นการส่งเสริมและรักษาสิทธินักกีฬา ทางผมจึงได้ส่งชื่อนักกีฬาที่มีสิทธิเข้าร่วมการแข่งขัน โดยมีชื่อของ บดินทร์ อิสสระ(อาร์ท)รวมอยู่ด้วย แต่ทางเลขาสมาคม ได้แจ้งกลับมาว่า ผมไม่สามารถส่งรายชื่ออาร์ทได้ เนื่องจากทางพี่พลได้ส่งชื่อของ เอและอาร์ทในนามสมาคมไปก่อนแล้ว ซึ่งผมพยายามที่จะสอบถามไปทางไลน์ของพี่พล แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ
การที่นักกีฬาสักคนจะทำหน้าที่เพื่อชื่อเสียงของชาติ ในส่วนตัวผมเอง ผมคิดว่า ไม่ว่านักกีฬาคนนั้นจะสังกัดไหน ต้นสังกัดก็ควรเสียสละให้โอกาสนักกีฬาของตนเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศของเราและเพื่อวงการแบดมินตันเสมอมา เช่นเดียวกับตัวอย่างของนักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่มีสังกัดและสปอนเซอร์ที่ต่างกัน ต้นสังกัดทุกแห่ง แม้จะต้องเสียสละนักกีฬาของตนในบางช่วงบางเวลา เพื่อเข้าร่วมทีมชาติแม้อาจจะต้องเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือทำให้พลาดแมทซ์ที่แข่งในนามสังกัด แต่ก็เป็นธรรมเนียมปฎิบัติกันมาตลอด เพราะคงไม่มีการแข่งขันใดเท่ากับการทำหน้าที่เพื่อชาติ "เพียงแต่ธรรมเนียมปฏิบัติ จรรยาบรรณ และจริยธรรมที่ถูกต้องนั้น ทางสมาคมต้องทำการบอกกล่าว หรือหนังสือขอยืมตัวต่อต้นสังกัดอย่างเป็นทางการ" แต่นี่ไม่ใช่การยืมตัวนักกีฬาเท่านั้น แต่ทางสมาคมยังได้ให้นักกีฬาในสังกัดผม ลงนามหนังสือสัญญาเพื่อเล่นให้กับทางสมาคมโดยเสนอค่าตอบแทนจำนวนสูงแก่นักกีฬา โดยที่ผมไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ เกี่ยวกับการย้ายสังกัดเลย ทั้ง ๆ ที่ทางสมาคมประกาศเรื่องจริยธรรมการย้ายทีมของนักกีฬามาตลอด แต่ทางสมาคมกลับสร้างตัวอย่างที่ไม่เหมาะสม เป็นบรรทัดฐานที่ต่ำและสร้างผลเสียให้กับวงการแบดมินตันในวันนี้และในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน ผมได้พยายามติดต่อทางไลน์ส่วนตัวไปยังท่านนายก คุณหญิงปัทมา เพื่อสอบถามและขอคำชี้แจงในเรื่องนี้ แต่ทางคุณหญิงเลี่ยงที่จะไม่ตอบผม ทั้ง ๆ ที่ในเวลาเดียวกัน คุณหญิงใช้ไลน์ส่วนตัวเดียวกันนี้ สนทนาโต้ตอบกับอีกห้องไลน์ แต่ท่านเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของผมเลยแม้แต่น้อย
ตั้งแต่วันแรกที่ผมสร้างสโมสรแกรนนูลาร์ ผมมีความฝันที่ต้องการจะเห็นการพัฒนาของวงการกีฬาแบดมินตันซึ่งเป็นกีฬาที่ผมรัก ผมอยากมอบโอกาสให้กับนักกีฬาเยาวชนไทย ได้พัฒนาฝีมือเพื่อสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศตลอดเสมอมา ถึงแม้จะต้องเสียสละเวลาส่วนตัว ลงทุนจ้างโค้ชจากต่างประเทศ เพื่อประสิทธิประสาทวิชาให้กับนักกีฬาได้มีเทคนิคใหม่ ๆ มีการฝึกซ้อมที่ทัดเทียมกับคู่แข่งได้ เสียกำลังทรัพย์ไปมาก แต่ผมเองก็มิได้ย่อท้อ เมื่อได้เห็นแววตาของนักกีฬาที่ตั้งใจฝึกซ้อม กับเพราะมีความศรัทธาในวงการแบดมินตันไทยมาโดยตลอด ไม่เคยนึกถึงความสุข ประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ทางอ้อมต่อธุรกิจส่วนตัวที่ผมทำอยู่เลยแม้แต่น้อย แต่วันนี้ จากการที่ได้สัมผัสวงการแบดมินตันในวงลึก ดูเหมือนศรัทธานั้นจะสั่นคลอนลงไปทุกขณะ
การประชุมครั้งสุดท้ายกับคุณหญิง ท่านยังเรียกผมและพี่โอ๊คไปเพื่อปรึกษา2เรื่องคือ
1.เลื่อนเวลาการเลือกตั้งออกไป เพื่อจะได้สอดคล้องกับการที่ทาง กกท. จะประกาศยืดเวลาวาระการเป็นนายกจาก 2 ปีเป็น 4 ปี ซึ่ง ณ วินาทีนั้น ผมเองได้แสดงความเห็นด้วยกับท่านนายก เพื่อที่ท่านจะได้มีโอกาสทำงานอย่างต่อเนื่องมากขึ้น
2.เรื่องการที่จะนำอารท์กับเอ กลับมาคู่กันเพื่อรับใช้ชาติ โดยอาทติดแกรนนูลาร์ ส่วนเอใช่SCG ผมก็มีความเห็นด้วยตามนั้น .... แต่พิจารณาจากสิ่งที่ผมประสบอยู่ในขณะนี้ ผมจึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกสโมสรร่วมพัฒนาและสมาชิกสมาคมแบดโค้ช ทั้ง ๆ ที่เป็นผู้ร่วมกับครูแสงในการจัดตั้งขึ้นก็ตาม เพราะความคิดเห็นที่แตกต่างกันในการทำงาน ทั้งภาคปฏิบัติและจริยธรรม