สวัสดีค่ะ กระทู้แรกของ จขกท. เลย พอดีเราเพิ่งได้ดูแล้วประทับใจมากๆค่ะ
ทั้งที่ตอนแรกเราคิดว่าจะเป็นหนังตลกธรรมดา แต่เมื่อดูเสร็จเรากลับได้อะไรมากกว่าที่คิด
เราเองไม่มีความรู้โดยเฉพาะทางด้านนี้ แต่ยังไง จขกท.ก็อยากจะลองแสดงความคิดเห็นดูสักครั้ง
คงไม่เรียกว่ากระทู้รีวิวเพราะ จขกท.ไม่ได้มีความรู้ขนาดนั้นน ผิดพลาดตรงไหนขออภัย มาแชร์กันนะคะ ฝากด้วยค่ะ
อาจมีสปอยบ้าง ถ้าสปอยหนักๆเราจะซ่อนไว้นะคะ
ถ้าจุดประสงค์ของหนังคือต้องการให้ผู้ชมได้ฉุกคิด เราว่าหนังเรื่องนี้ได้คะแนนเต็มค่ะ
เนื้อเรื่อง : เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แทบไม่มีฉากที่น่าเบื่อเลยค่ะ
หนังเล่นประเด็นศาสนา ความเชื่อ อคติและความขัดแย้งของประเทศอินเดียกับปากีสถานได้อย่างแยบคาย
แล้วยังพูดถึงการสื่อสารและความรักได้อย่างน่าสนใจค่ะ จนเราอดคิดไม่ได้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีปัญหาถูกแบนจากประเทศนู้นหรือเปล่าเลย
แต่แฟนเพื่อนบอกมาว่าเป็นหนังที่ได้รับความสนใจและเสียงชื่นชมจากอินเดียมากเลยค่ะ
อย่างแรกเลยก็คือ หนังสอดแทรกวัฒนธรรม การทำพิธีต่างๆเยอะทีเดียวแต่ไม่น่าเบื่อเลย
ประเด็นเรื่องศาสนา หนังพูดถึงทุกศาสนา ทั้งการกราบไหว้บูชา และเรื่องพระเจ้าค่ะ
ทุกคำถามที่พระเอกมนุษย์ต่างดาวถามออกมานี่ทำให้คิดได้หมด
จนทำให้เราเกิดคำถามกับตัวเองบ้างเลยค่ะว่าสิ่งที่เรากำลังเชื่อหรือทำอะไรอยู่
ยิ่งตอนที่พระเอกสับสนเรื่องพระเจ้ายิ่งทำให้ได้คิด การแสดงความกดดันที่สุดยอดของนักแสดงบวกกับเนื้อหาเพลงทำให้เราซึ่งจนร้องไห้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ และในตอนที่พระเอกไปพูดกับร่างทรงประมาณว่า
การที่เอาแต่จะสื่อสาร บูชา กราบไหว้พระเจ้า
แต่เราเองไม่ได้เห็นใจในเพื่อนมนุษย์ด้วยกันหรือพยายามช่วยเหลือกันมันจะมีประโยชน์อะไรนี่ทำให้เราได้คิดเลยค่ะ
ประเด็นเรื่อง 'Wrong Number' นี่เจ๋งมากค่ะ
อันนี้นอกจากประเด็นเรื่องพระเจ้าแล้วก็พูดถึงการสื่อสารที่ผิดพลาดของนางเอกกับแฟนนางเอกด้วยค่ะ
โดยส่วนตัว จขกท. คิดว่าหนังต้องการสื่อถึงความเชื่อใจและไว้ใจกันค่ะ
ในระยะเวลาสั้นๆ แฟนนางเอกไว้ใจและเชื่อใจในตัวนางเอกมาก
ผิดกับนางเอกที่เลือกจะเชื่อในกระดาษแผ่นเล็กๆและหนีไป แทนที่จะถามเอาความจริงจากคนที่ตัวเองรัก
ประเด็นนี้มันทำให้ได้คิดไม่น้อยเลยค่ะ
คำพูดดีๆจากหนังเรื่องนี้มีเยอะมากค่ะ
ตอนที่พระเอกตั้งคำถามเกี่ยวกับถุงยางอนามัยนี่นอกจากจะฮามากแล้วยังทำให้ได้คิดอีกค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่เราชอบฉากเรื่องถุงยางอนามัยเป็นพระเอก ที่พระเอกถามว่า ทำไมพกถุงยางต้องอายแล้วเจ้านายนางเอกก็ตอบว่า การที่คนอื่นรู้ว่าเราพกก็เหมือนบอกคนอื่นว่าเฮ้ เราจะมี sex วันนี้มันน่าเกลียด แล้วพระเอกก็ถามกลับไปว่าแล้วการแต่งงานละมันต่างกันตรงไหน
ฉากและระบบเสียง : ฉากสวยมากกกค่ะ ตั้งแต่ฉากปรากฏตัวของนางเอกเลย
แต่ภาพบางอย่าง โดยส่วนตัวแล้วจขกท.ว่ายังไม่เนียนเท่ากับหนังของอีกฝั่งนะคะ
พวกก้อนเมฆหรือเลือดก็ยังดูออกว่าทำ แต่ไม่ได้น่าเกลียดถึงขนาดว่าทำให้ภาพไม่น่าดูนะคะ
ระบบเสียงเราว่าไม่ได้น้อยหน้าหนังฮอลลีวูดเลยค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะตัวโรงหนังด้วยหรือเปล่า
แถมเพลงยังเพราะเอามากๆด้วยค่ะ เราเองยอมรับว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่พระเอกร้องนานๆหน่อยก็เริ่มคิดว่าเอ๊ะ เราตัดสินใจมาดูผิดไหมเนี่ย
แต่เปล่าเลยค่ะ พอเนื้อหาของเพลงประกอบกับภาพแล้วยิ่งเพิ่มความลึกซึ้งของเนื้อหาได้มากเลยมีเดียว
โดยส่วนตัวเราคิดว่าเพลงที่ร้องมาตลอดตั้งเรื่องไม่ได้ทำให้เนื้อเรื่องของหนังติดขัดแต่อย่างใดค่ะ
เพลง : เพลงเพราะทั้งเรื่องค่ะ เนื้อหาดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จขกท.ชอบเป็นพิเศษเพลงที่พูดถึงความรักว่าความรักทำให้เสียเวลา แต่เราก็ยังคิดว่าคุ้มที่จะเสียของพระเอกนี่มันน่ารักมากๆ เขินแทนนางเอกเลยค่ะ 55555
นางเอก : อย่างแรกเลยคือสวยค่ะ Character ความเป็นสาวมั่นชัดเจน
หากแต่มีความอ่อนโยนและอ่อนไหวอย่างผู้หญิงธรรมดา แล้วตั้งแต่ต้นๆก็เปิดมาเรื่องศาสนาเลยค่ะ
ความลังเลในแววตาของนางเอกตอนเธอตัดสินใจเปิดใจให้พระเอกทำให้เราเชื่อได้
บุคลิกความกระตือรือร้นอย่างคนทำข่าวของนางเอกนี่น่ารักมากจริงๆค่ะ แล้วแฟนนางเอกเองก็คาริสม่าแรงมากค่ะ
พระเอก : นอกจากหุ่นที่ดูดีเอามากๆอย่างที่เห็นแล้ว การแสดงจากที่เคยได้ยินชื่อเสียงแล้ว แน่นอนว่าสุดยอดค่ะ
ท่าทางซื่อๆก็ทำให้เราหัวเราะได้ตลอดเลย แววตา บุคลิก ไม่มีหลุดที่ทำให้ไม่เชื่อว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวเลยแม้แต่นิดเดียว
PK เป็นหนังที่มีทั้งสาระ ตลก ดราม่า และเสียดสีสังคมได้อย่างน่าขบคิด
เราเองคิดว่าใครหลายๆคนคงตั้งคำถามกับตัวเองเยอะขึ้นหลังจากได้รับชมค่ะ
เรื่องของเรื่องเลยคือเราเองบังเอิญได้อ่านคำวิจารณ์เล็กๆน้อยๆจาก Social Network ต่างๆ
ประกอบกับเพื่อน จขกท. เองมีเพื่อนเป็นชาวอินเดีย จขกท.กับเพื่อนก็เลยตัดสินใจไปดูด้วยกัน
โดยที่ จขกท.เองก็ไม่เคยอ่านเรื่องย่อหรืออะไรนะคะ รู้แต่พระเอกมาจากต่างดาวตามที่เพื่อนบอก แหะๆ
เราประทับใจกับหนังเรื่องนี้มากค่ะ มากจนโกรธหลายๆคนที่มีอคติกับ 'หนังอินเดีย' เลย
ทุกครั้งที่เราพูดว่าซีรี่ย์อินเดียในช่องฟรีทีวีที่เราดูทุกวันสนุกมาก ดีมาก คนที่เราเล่าให้ฟังก็มักจะหัวเราะ
แล้วเอาแต่คิดว่าหนังอินเดียเป็นหนังตลก ต้องเอาแต่ร้องเพลง วิ่งไปมาหลบหลังต้นไม้
เรากับเพื่อนนี่อดหงุดหงิดไม่ได้เลยค่ะ ทั้งที่สเน่ห์ที่เด่นเอามากๆในหนังอินเดียคือวัฒนธรรมที่เราไม่เคยได้รู้ด้วยซ้ำ
เราอยากให้ทุกคนที่ยังมีความคิดว่าหนังอินเดียเป็นหนังไม่น่าดู ตลก ไร้สาระ ล้าสมัย มีแต่คนตัวดำๆ ไม่หล่อ ลองเปิดใจ
เลิกหัวเราะเยาะหนังของเขาแล้วลองดูหนังอิoเดียสักครั้งค่ะ
วันนี้นี่เราไปแบบไม่รู้อะไรเลยค่ะ เจอค่าตั๋วที่พนักงานกดให้แล้ว (250) ก็ผงะเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ไหนๆก็มาแล้วเลยซื้อ
หนังสองชั่วโมงครึ่งมีพักเบรคกลางเรื่อง 10 นาที เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกคุ้มค่านะคะ
แต่ถ้า จขกท. รู้ก่อนจะเดินทางไปก็อาจจะมีเบรคหยุดคิดก่อนบ้างเหมือนกัน 5555
เราไปดูที่ เมเจอร์ สุขุมวิท โรง 1 ทั้งโรงมีประมาณ 7 คน เรากับเพื่อนเหมือนจะเป็นคนไทยแค่สองคนเลยค่ะ 555
หนังใกล้จะออกจากโรงเต็มที ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีพรุ่งนี้อีกวัน ไปดูยังทันนะคะ
ขอบคุณค่ะ
PK หนังอินเดียที่อยากให้ลองเปิดใจดูค่ะ
ทั้งที่ตอนแรกเราคิดว่าจะเป็นหนังตลกธรรมดา แต่เมื่อดูเสร็จเรากลับได้อะไรมากกว่าที่คิด
เราเองไม่มีความรู้โดยเฉพาะทางด้านนี้ แต่ยังไง จขกท.ก็อยากจะลองแสดงความคิดเห็นดูสักครั้ง
คงไม่เรียกว่ากระทู้รีวิวเพราะ จขกท.ไม่ได้มีความรู้ขนาดนั้นน ผิดพลาดตรงไหนขออภัย มาแชร์กันนะคะ ฝากด้วยค่ะ
อาจมีสปอยบ้าง ถ้าสปอยหนักๆเราจะซ่อนไว้นะคะ
ถ้าจุดประสงค์ของหนังคือต้องการให้ผู้ชมได้ฉุกคิด เราว่าหนังเรื่องนี้ได้คะแนนเต็มค่ะ
เนื้อเรื่อง : เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แทบไม่มีฉากที่น่าเบื่อเลยค่ะ
หนังเล่นประเด็นศาสนา ความเชื่อ อคติและความขัดแย้งของประเทศอินเดียกับปากีสถานได้อย่างแยบคาย
แล้วยังพูดถึงการสื่อสารและความรักได้อย่างน่าสนใจค่ะ จนเราอดคิดไม่ได้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีปัญหาถูกแบนจากประเทศนู้นหรือเปล่าเลย
แต่แฟนเพื่อนบอกมาว่าเป็นหนังที่ได้รับความสนใจและเสียงชื่นชมจากอินเดียมากเลยค่ะ
อย่างแรกเลยก็คือ หนังสอดแทรกวัฒนธรรม การทำพิธีต่างๆเยอะทีเดียวแต่ไม่น่าเบื่อเลย
ประเด็นเรื่องศาสนา หนังพูดถึงทุกศาสนา ทั้งการกราบไหว้บูชา และเรื่องพระเจ้าค่ะ
ทุกคำถามที่พระเอกมนุษย์ต่างดาวถามออกมานี่ทำให้คิดได้หมด
จนทำให้เราเกิดคำถามกับตัวเองบ้างเลยค่ะว่าสิ่งที่เรากำลังเชื่อหรือทำอะไรอยู่
ยิ่งตอนที่พระเอกสับสนเรื่องพระเจ้ายิ่งทำให้ได้คิด การแสดงความกดดันที่สุดยอดของนักแสดงบวกกับเนื้อหาเพลงทำให้เราซึ่งจนร้องไห้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประเด็นเรื่อง 'Wrong Number' นี่เจ๋งมากค่ะ
อันนี้นอกจากประเด็นเรื่องพระเจ้าแล้วก็พูดถึงการสื่อสารที่ผิดพลาดของนางเอกกับแฟนนางเอกด้วยค่ะ
โดยส่วนตัว จขกท. คิดว่าหนังต้องการสื่อถึงความเชื่อใจและไว้ใจกันค่ะ
ในระยะเวลาสั้นๆ แฟนนางเอกไว้ใจและเชื่อใจในตัวนางเอกมาก
ผิดกับนางเอกที่เลือกจะเชื่อในกระดาษแผ่นเล็กๆและหนีไป แทนที่จะถามเอาความจริงจากคนที่ตัวเองรัก
ประเด็นนี้มันทำให้ได้คิดไม่น้อยเลยค่ะ
คำพูดดีๆจากหนังเรื่องนี้มีเยอะมากค่ะ
ตอนที่พระเอกตั้งคำถามเกี่ยวกับถุงยางอนามัยนี่นอกจากจะฮามากแล้วยังทำให้ได้คิดอีกค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฉากและระบบเสียง : ฉากสวยมากกกค่ะ ตั้งแต่ฉากปรากฏตัวของนางเอกเลย
แต่ภาพบางอย่าง โดยส่วนตัวแล้วจขกท.ว่ายังไม่เนียนเท่ากับหนังของอีกฝั่งนะคะ
พวกก้อนเมฆหรือเลือดก็ยังดูออกว่าทำ แต่ไม่ได้น่าเกลียดถึงขนาดว่าทำให้ภาพไม่น่าดูนะคะ
ระบบเสียงเราว่าไม่ได้น้อยหน้าหนังฮอลลีวูดเลยค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะตัวโรงหนังด้วยหรือเปล่า
แถมเพลงยังเพราะเอามากๆด้วยค่ะ เราเองยอมรับว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่พระเอกร้องนานๆหน่อยก็เริ่มคิดว่าเอ๊ะ เราตัดสินใจมาดูผิดไหมเนี่ย
แต่เปล่าเลยค่ะ พอเนื้อหาของเพลงประกอบกับภาพแล้วยิ่งเพิ่มความลึกซึ้งของเนื้อหาได้มากเลยมีเดียว
โดยส่วนตัวเราคิดว่าเพลงที่ร้องมาตลอดตั้งเรื่องไม่ได้ทำให้เนื้อเรื่องของหนังติดขัดแต่อย่างใดค่ะ
เพลง : เพลงเพราะทั้งเรื่องค่ะ เนื้อหาดี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นางเอก : อย่างแรกเลยคือสวยค่ะ Character ความเป็นสาวมั่นชัดเจน
หากแต่มีความอ่อนโยนและอ่อนไหวอย่างผู้หญิงธรรมดา แล้วตั้งแต่ต้นๆก็เปิดมาเรื่องศาสนาเลยค่ะ
ความลังเลในแววตาของนางเอกตอนเธอตัดสินใจเปิดใจให้พระเอกทำให้เราเชื่อได้
บุคลิกความกระตือรือร้นอย่างคนทำข่าวของนางเอกนี่น่ารักมากจริงๆค่ะ แล้วแฟนนางเอกเองก็คาริสม่าแรงมากค่ะ
พระเอก : นอกจากหุ่นที่ดูดีเอามากๆอย่างที่เห็นแล้ว การแสดงจากที่เคยได้ยินชื่อเสียงแล้ว แน่นอนว่าสุดยอดค่ะ
ท่าทางซื่อๆก็ทำให้เราหัวเราะได้ตลอดเลย แววตา บุคลิก ไม่มีหลุดที่ทำให้ไม่เชื่อว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวเลยแม้แต่นิดเดียว
PK เป็นหนังที่มีทั้งสาระ ตลก ดราม่า และเสียดสีสังคมได้อย่างน่าขบคิด
เราเองคิดว่าใครหลายๆคนคงตั้งคำถามกับตัวเองเยอะขึ้นหลังจากได้รับชมค่ะ
เรื่องของเรื่องเลยคือเราเองบังเอิญได้อ่านคำวิจารณ์เล็กๆน้อยๆจาก Social Network ต่างๆ
ประกอบกับเพื่อน จขกท. เองมีเพื่อนเป็นชาวอินเดีย จขกท.กับเพื่อนก็เลยตัดสินใจไปดูด้วยกัน
โดยที่ จขกท.เองก็ไม่เคยอ่านเรื่องย่อหรืออะไรนะคะ รู้แต่พระเอกมาจากต่างดาวตามที่เพื่อนบอก แหะๆ
เราประทับใจกับหนังเรื่องนี้มากค่ะ มากจนโกรธหลายๆคนที่มีอคติกับ 'หนังอินเดีย' เลย
ทุกครั้งที่เราพูดว่าซีรี่ย์อินเดียในช่องฟรีทีวีที่เราดูทุกวันสนุกมาก ดีมาก คนที่เราเล่าให้ฟังก็มักจะหัวเราะ
แล้วเอาแต่คิดว่าหนังอินเดียเป็นหนังตลก ต้องเอาแต่ร้องเพลง วิ่งไปมาหลบหลังต้นไม้
เรากับเพื่อนนี่อดหงุดหงิดไม่ได้เลยค่ะ ทั้งที่สเน่ห์ที่เด่นเอามากๆในหนังอินเดียคือวัฒนธรรมที่เราไม่เคยได้รู้ด้วยซ้ำ
เราอยากให้ทุกคนที่ยังมีความคิดว่าหนังอินเดียเป็นหนังไม่น่าดู ตลก ไร้สาระ ล้าสมัย มีแต่คนตัวดำๆ ไม่หล่อ ลองเปิดใจ
เลิกหัวเราะเยาะหนังของเขาแล้วลองดูหนังอิoเดียสักครั้งค่ะ
วันนี้นี่เราไปแบบไม่รู้อะไรเลยค่ะ เจอค่าตั๋วที่พนักงานกดให้แล้ว (250) ก็ผงะเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ไหนๆก็มาแล้วเลยซื้อ
หนังสองชั่วโมงครึ่งมีพักเบรคกลางเรื่อง 10 นาที เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกคุ้มค่านะคะ
แต่ถ้า จขกท. รู้ก่อนจะเดินทางไปก็อาจจะมีเบรคหยุดคิดก่อนบ้างเหมือนกัน 5555
เราไปดูที่ เมเจอร์ สุขุมวิท โรง 1 ทั้งโรงมีประมาณ 7 คน เรากับเพื่อนเหมือนจะเป็นคนไทยแค่สองคนเลยค่ะ 555
หนังใกล้จะออกจากโรงเต็มที ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีพรุ่งนี้อีกวัน ไปดูยังทันนะคะ
ขอบคุณค่ะ