แชร์สำหรับคนอายุเกิน 35 ที่คิดมาเรียนภาษาที่อเมริกาตอนที่ 4 ..เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ตั้งใจให้ครบ 10 ตอน)

สวัสดีทุกท่านครับ ผู้ที่ติดตามกระทู้ของพี่ทุกท่าน  ช่วงนี้หนาวครับเลยออกอาการป่วยนิดหน่อย ก๋ไม่ป่วยได้อย่างไร เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอากาศแปรปวน
ติดลบ 19 อ่านไม่ผิดครับ ติดลบ 19 พี่เลยเดี้ยงอยู่หลายวัน และประกอบกับไปเที่ยวช่วงปีใหม่ด้วย
เลยทำให้ไม่ได้โพส ตอนที่ 4 เสียที... เอาละครับแลัววันนี้หลังทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง พี่เลยมานั่งสตาร์บัค เพื่อโพสตอนที่ 4เรื่องค่าใช้จ่าย
ก่อนอื่นเรามาย้อนบนความของตอนต่างๆ กันก่อนถ้าใครไม่ได้อ่าน อ่านตามลิ้งค์ด้านล่างได้เลย

Link ตอนที่ 1 ครับ เกี่ยวกับวันแรกการเดินทาง การเข้าบ้านพัก รายละเอียดของบ้านพักที่มีกฏระเบียบแปลกๆ
http://ppantip.com/topic/33020372

Link ตอนที่ 2 ครับ เกี่ยวกับการเดินทาง ,ประเภทของสถาบันสอนภาษา และการสอบเพื่อเข้าเรียน และรายละเอียดระดับความรู้ที่ทางโรงเรียนใช้แบ่งระดับ
http://ppantip.com/topic/33023907

Link ตอนที่ 2.1 ครับ เกี่ยวกับบรรยากาศภายในที่เรียนและห้องเรียน,พาทัวร์โรงอาหารของที่เรียน
http://ppantip.com/topic/33038866

ตอนที่ 3 เรื่อง ความแตกต่างหน้าร้อน หน้าหนาว และตัวอย่างบนเรียนในวันแรกและผลลัพท์ในการเรียนวันแรก
http://ppantip.com/topic/33062097

ตอนที่ 4 วันนี้ พี่จะสรุปเรื่องค่าใช้จ่ายให้ทุกคนได้ทราบแบบไม่มีหมกเม็ดเพื่อที่ทุกคนจะได้เตรียมตัว เตรียมเงิน
ให้เพียงพอกับการใช้ชีวิต โดยจะมีรายละเอียดแยกเป็นข้อ ๆ ดังนี้
1.ตารางสรุปค่าใช้จ่าย
2.เหตุผลว่าทำไม ควรจ่ายเงินในข้อนั้นๆ
3.แนวทางการประหยัด (ขอเป็นตอนที่5)
4.แถวด้วยบรรยากาศเที่ยวเมืองข้างๆ และกินกุ้งสด
5.คิดถึงเอเซียพาไปลุยไชน่าทาวน์

เอาละครับหลังจากพี่รวบรวมมาได้เลยสรุปเป็นตารางให้ได้ดังนี้



จากตารางจะเห็นได้ว่ามีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 14 ข้อ จะอธิบายเป็นข้อๆ ดังนี้
1. ค่าเรียนภาษา 6 เดือน = 209,880 บาท ในข้อนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญเพราะเรามาที่นี่เพื่อมาเรียน
ฉะนั้นการเลือกสถานที่เรียนเป็นเรื่องสำคัญอันนี้เลือกตามสะดวกของผู้เรียนเลยว่าชอบแบบไหน สำหรับพี่ เลือกแบบที่
เป็นที่สอนภาษาในมหาวิทยาลัย เพราะเราต้องจ่ายเงินอยู่แล้วขอใช้ ห้องสมุด โรงยิม คอมพิวเตอร์แลบ ของมหาวิทยาลัยซะหน่อย
เพราะถ้าเราเลือกแบบที่เป็นที่สอบแบบอบู่ในอาคารพานิชย์เราจะไม่ได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกพวกนี้ครับ ไหนๆ จ่ายแพงแล้วใช้ให้คุ้มครับ

2.ค่าโฮมสเตย์เดือนแรก = 40,000 กว่าบาท เห็นแล้วตกใจใช่ไหมครับ ราคาแพงครับ แพงจริง ถ้าอยู่ที่ไทย 4 หมื่นกว่าบาทได้ห้องเช่าแบบคอนโดหรู
กลางใจเมืองแต่ที่นี่เป็นบ้านชาวบ้านครับต้องทำใจ โดยปกติการอยู่โฮมสเดย์ทางเจ้าของบ้านจะต้องทำอาหารเช้า และเย็นให้เราครับ ซึ่งเขารวมกับค่าเช่าไปแล้ว อันนี้ขึ้นกับดวงครับว่าเราจะได้อยู่บ้านดี หรือ ไม่ดี อาหารดีหรือแย่แค่ไหน แต่อันนี้ของพี่โชคดีครับถึงบ้านจะเก่าหน่อย แต่เจ้าของบ้านเป็นเชฟ ครับ อาหารเลยอร่อยทุกวัน ซึงในรายละเอียดหรือกฏระเบียบแปลกๆ ให้ย้อยกลับไปอ่านตอนแรกๆ ครับ สำหรับอาหารกลางวัน เราต้องหาทานเองครับ
มันจึงปรากฏรายละเอียดอยู่ในตารางประมาณ มื้อละ 8 USD

3.ค่าที่พักเดือนที่ 2 ถึง 6 รวมทั้งสิ้น 5 เดือน อันนี้แนะนำเลยครับ การมาเรียนที่อเมริกา เดือนแรกแนะนำให้อยู่กับโฮมสเตย์ เพราะว่าเราต้องมีพี่เลี้ยง
และคนดูแลครับ เพราะเราต้องปรับตัวอีกมากไม่ว่า เรื่อง สภาพอากาศ อาหารการกิน และการเดินทาง ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวส่วนมากเจ้าของบ้านจะพาไปเที่ยวหนึ่งถึงสองครั้งครับ  เมือเริ่มเข้าเรียนแล้วแนะนำให้หาเพื่อนต่างชาติ ในห้องเรียนมาเป็นเพื่อนสนิทครับ ไม่แนะนำนักเรียนไทยครับเพราะจะไม่ได้ภาษา และเราก็ลองหาข้อมูลว่าพักที่ไหน อย่างไร และหาโอกาสไปแชร์ห้องกับเขาครับ ในอเมริกา มี เว็บบริการมากมาย สำหรับ ประกาศหาที่พัก แชร์ห้องพัก หรือ อ่านประกาศที่บอร์ด ของโรงเรียนได้ครับจะมีประกาศมากมาย

ประเภทห้องพักที่สามารถหาได้
1.แชร์ห้องกับเพื่อนที่สถาบัน
2.หาในอินเตอร์เน็ตพวกนักเรียนประกาศหาคนแชร์ห้อง
3.หากลุ่มคนไทยที่ทำงาน(ไม่ใช่นักเรียนไทย) และเขามีห้องในบ้านให้เราเช่า
4.หาบ้านพักผ่านนายหน้า และอยู่รวมกับนักเรียนต่างชาติ

รายละเอียดในการเช่าบ้านพักจะแตกต่างกันไปข้อแนะนำ
1.หาห้องพักใกล้ที่เรียน
2.ห้องพักต้องพร้อมด้วย อินเตอร์เน็ต เครื่องทำความร้อน และเครื่องทำน้ำอุ่น
3.ถ้าโชคดีจะได้บ้านพักแบบมีเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานให้แล้ว อันนี้ถือว่าประหยัดเยอะ
4.มีห้องครับให้ประกอบอาหาร
5.อยู่ในย่านที่ปลอดภัย
6.ระยะทางจากที่ ขึ้น และลงรถ ไม่ควรไกลบ้านเกิน 10 นาที เพราะการเดินตอนกลางคืนบางครั้งอันตรายครับ

4.ค่ากาแฟ Starbucks อันนี้อย่าตกใจครับ ค่าใช้จ่ายข้อนี้ขึ้นอยู่กับเราว่าเราดื่มมาแฟไหม แต่พี่ดื่มครับ
สาเหตุที่คิดว่าจำเป็นคือ
4.1.สตาร์บัค ที่อเมริกา มีอินเตอร์เน็ตให้เล่นฟรีไม่เสียเงินเหมือนที่ไทย ขอบอกเร็วด้วยครับ
4.2.ในฤดูหนาว เป็นที่สำหรับหลบหนาวครับ บางวัน ต้องรอรถนานมากเพราะรถจะมาไม่ตรงเวลาในวันที่หิมะตกหนัก
4.3.เมื่ออยู่ไปนาน จะรู้ว่า บอสตัน นั้นเล็กมาก เที่ยวครบแล้ว ก็ร้านกาแฟนี่แหละครับที่เป็นที่คลายเหงาได้

5.ค่าทานอาหารกับเพื่อนอาทิตย์ละครั้ง  อันนี้จำเป็นครับ เพราะเราจะฝึกภาษาได้จากการคุย การคุยเกิดจากการมีเพื่อน ฉะนั้น
ออกสังคมบ่อยๆ ทานข้าวกับเพื่อนบ่อยๆครับ แล้วภาษาจะมาเอง

6.ค่าโทรศัพท์ AT&T ที่อเมริกา มีผู้ให้บริการมากมาย แต่แนะนำ AT&T ครับ เพราะครอบคลุมและสะดวกในการเติมเงิน สันญาณ เร็วใช้ได้
เอาเครื่องจากไทยมาใช้ได้เลย ของ T-Mobile ก็พอใช้ได้ครับ เอาเครื่องจากไทยมาใช้ได้เลยเช่นกัน
ค่าบริการเดือนละ 45 USD  เราใช้บริการได้ดังนี้
1.ค่ารับสายและโทรออกได้ 500 นาที ที่อเมริกาการรับสายคิดเงินครับ
2.SMS ฟรีไม่จำกัด
3.Internet DATA ได้ 500 MB
แต่ถ้าเราใช้เยอะใช้แบบเดือนละ 60 USD เป็นแบบ Unlimited ครับใช้เลยแต่ใช้ 3 G ได้แค่ 1 GB แรกเท่านั้นครับ นี่แหละครับที่เป็นสาเหตุให้พี่ใช้แบบ 45 USD ต่อเดือน เพราะ เราอยู่บ้าน อยู่โรงเรียนและสตาร์บัค เขามีเนตให้เราต่อฟรีครับ

7.ค่าบัตรโดยสารแบบรายเดือน อันนี้เป็นแบบ Unlimited ครับ ไปไหนก็ได้ ขึ้นรถบัส รถไฟ วันละกี่เที่ยว กี่รอบได้หมดครับ อันนี้คุ้ม แต่รถสายที่วิ่งข้ามเมืองไม่รวมนะครับ เติมเงินสะดวก ที่บอสตันเรียกว่า ชาลีการ์ด ครับ

8.ค่าซักผ้า ที่บอสตัน การซักผ้าเราหาร้านซักผ้าหยอดเหรียญได้ทั่วเมืองครับ การซักผ้า ใช้เวลาประมาณ 40 นาที และอบผ้าประมาณ 1 ชั่วโมงครับ
ค้าใช้จ่ายประมาณสองอย่างทั้งซักและอบ ประมาณ 6 USD สะอาดใช้ได้ ราคานี้ไม่รวมน้ำยาซักผ้า และปรับผ้านุ่มนะครับ อันนี้ต้องนำมาเอง

9.ค่าของใช้ส่วนตัว ประมาณเดือนละ 120 USD อันนี้ประกอบด้วย แฟบ สบู่ ยาสีฟัน สมุด หนังสือ ปากกา ดินสอ เครื่องสำอางต่างๆ อันนี้แล้วแต่สไตล์
แต่ละคนครับแต่พื้นฐานเดือนละ 120 พอครับ อันนี้ประหยัดได้ถ้าเราเอามาจากไทยครับ ขอบอกว่าที่นี่แพงครับ เช่น ยาสีฟันร้อยกว่าบาทครับ เอามาจากไทยเถอะครับ

10.ค่าใช้จ่ายสำรองเดือนละ 100 USD อันนี้เป็นเงินสำรองเพื่อฉุกเฉินครับไม่ใช่ก็เก็บไว้แต่ควรมีสำรองไว้ เพื่อทางสถาบันจัดกิจกรรมอะไรเราจะได้ร่วมครับ

11.ค่าดูหนังที่โรงภาพยนตร์เดือนละ 2 เรื่อง อันนี้แนะนำให้ไปลองวิชาที่เราเรียนมาครับ ว่าเราฟังออกไหม เลยแนะนำให้ไปดูหนังครับ
เราจะได้ฝึกภาษา ทักษะการฟัง จากประสบการณ์ของพี่ สามเดือนแรกฟังไม่ทันครับ แต่เข้าเดือนที่ 4 เริ่ม จับประโยคได้ครับ และเริ่มเข้าใจ
อันนี้แลัวทุกคนจะรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงเลยครับ เราคงฟังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็จงพอใจที่เรามีพัฒนาการครับ ตื่นเต้นครับวันที่เราฟังได้

12.ค่าสมาชิกดูหนัง NETFLIX online Unlimited เนื่องจากเราอยู่อเมริกาเวลาว่างจะเยอะ แนะนำให้เป็นสมาชิก Netflix ครับ อันนี้เป็นเว็บดูหนังแบบ
ถูกกฏหมายครับ มีหนังให้เลือกมากมาย สารคดี และการตูน อันนี้ไม่แพงเลยเดือนละ 10 USD เราได้ฝึกการฟังครับ

13.ค่าประกันสุขภาพกับ AIG ระยะคุ้มครอง 6 เดือน อันนี้ต้องทำครับเพราะค่ารักษาพยาบาลที่นี่แพงและโหดมาก เราทำประกันมาด้วย และที่สำคัญบางโรงเรียนเขาบังคับครับ เราต้องส่งกรมธรรม์ ในวันที่เรามารายงานตัวครับ

14.ค่าตั๋วไปกลับ โปรโมชั่น 39,000 บาท อันนี้แล้วแต่ดวงครับ ว่าเราจะหาราคาตั๋วได้ถูกเท่าไร สำหรับพี่โชคดีครับ ได้โปรโมชั่นของ Turkish Airlines ดีมากครับ รูทบินเริ่มจาก กรุงเทพมาตรุกี 10 ชั่วโมง และพักที่สนามบิน 6 ชั่วโมง และบินต่อ ตรุกีมาบอสตัน อีก 10 ชั่วโมง ถือว่าคุ้มครับ เพราะสายการบินที่ดีมาก เครื่องใหม่ บริการดี แต่ปัจจุบันมีให้เลือกเยอะครับ แต่ราคา ต้องแล้วแต่ดวงจริงๆ เพราะของ Turkish Airlines พี่เช็คตอนนี้ 58,000 บาทครับ

เอาละครับตอนนี้ออกจะเครียดซักหน่อยเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินเกี่ยวกับทอง ไม่ใช่ให้อ่านแล้วหมดกำลังใจว่า มันใช้เงินเยอะแล้วล้มเลิกความตั้งใจนะครับ
มีข่าวดีจะบอก ในตอนที่ 5 จะบอกถึงการประหยัด ว่าใน 14 ข้อมีแนวทางประหยัดอย่างไร บอกได้เลยครับ ประหยัดเป็นแสนครับ ย้ำครับเป็นแสนครับ
แล้วจะบอกถึงการใช้ชีวิตว่าอยู่อย่างไรให้ประหยัดและ หาของฟรีเรียนที่อเมริกาทำอย่างไรครับ รับรองชีวิตประหยัดและมีความรู้เพิ่มแบบฟรีๆ เจอกันตอนที่ 5 ครับ

ก่อนจากกันในตอนนี้เอาที่เที่ยวที่บอสตันให้ดูเพื่อคลายเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายและจะได้ไม่ล้มเลิกความตั้งใจครับในการมาครับ

รูปนี้เป็นสถานที่เที่ยวที่เสาร์อาทิคย์ คนที่นี่ จะออกไปเมืองข้างๆ เพื่อกินกุ้งล็อปเตอร์ของบอสตัน


ร้านคนเยอะทั้งวัน


แซนวิสล็อปเตอร์อร่อยมาก


กินกุ้งต้มสด อร่อยมาก


หรือบางวันนั่งรถไฟไปนอกเมืองชนบรรยากาศ (สายนี้ไม่รวมในบัตรเหมาจ่ายรายเดือนนะครับ)


บรรยากาศสวย


รถไฟวิ่งระหว่างเมืองสะอาดมาก


หรือบางครั้งไปนั่งรถบัสไปช็อปปิ้งเมืองข้างๆ


เสือผ้า Tommy ถูกมากเกินครึ่งเทียบกับไทย


ห้างใหญ่เดินเมื่อยครับ


ชอบ ไอที มี BestBuy ให้เดิน


สตาบัคพร้อมไวไฟ ฟรี ของชอบนั่งแก้เมื่อยครับ


วันไหนเหงานั่งรถไปไชน่าทาวท์ครับ

อันนี้ประตูจีน บอกว่าถึงแล้วครับ






บรรยากาศเหมือนจีนครับ ย่านนี้คนจีน คนเวียดนาม  คนไต้หวันและคนไทย เยอะครับ


ขนมหวานแบบจีนมีให้เลือกกินเยอะครับ


บะจ่างก็มีอร่อยครับ รสชาติเหมือนมาก เพราะคนจีนเป็นเจ้าของร้าน


ย่านนี้อยู่ใจกลางเมืองบอสตันครับ

เอาไว้เจอกันตอน 5 นะครับ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่