สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ ผู้ที่ติดตามกระทู้ของพี่ทุกท่าน ช่วงปีใหม่พี่ก็ไม่ได้ไปไหนครับ อยู่แต่ที่บอสตันก็สนุกไปอีกแบบ อากาศ - 7 หนาวเอาการ เมื่อคืนมีหิมะตกสูง2 นิ้ว ก็ถือว่าไม่ลำบากเท่าไร ยังสู้ความหนาวได้ครับ
Link ตอนที่ 1 ครับ เกี่ยวกับวันแรกการเดินทาง การเข้าบ้านพัก รายละเอียดของบ้านพักที่มีกฏระเบียบแปลกๆ
http://ppantip.com/topic/33020372
Link ตอนที่ 2 ครับ เกี่ยวกับการเดินทาง ,ประเภทของสถาบันสอนภาษา และการสอบเพื่อเข้าเรียน และรายละเอียดระดับความรู้ที่ทางโรงเรียนใช้แบ่งระดับ
http://ppantip.com/topic/33023907
Link ตอนที่ 2.1 ครับ เกี่ยวกับบรรยากาศภายในที่เรียนและห้องเรียน,พาทัวร์โรงอาหารของที่เรียน
http://ppantip.com/topic/33038866
วันนี้เรามาเข้าตอนที่ 3 กันนะครับ
ก่อนอื่นช่วงนี้บอสตันเป็นหน้าหนาวครับ พี่จะแชร์ให้ดูว่า
1.ที่นี่หน้าร้อน กะ หน้าหนาวต่างกันสุดขั้วครับ จะให้ดูรูป ใครที่คิดจะมาเรียนต้องถามตัวเอง
ก่อนนะครับว่าทนหนาวได้ไหม
2.จะโชว์ตัวอย่างบนเรียนในวันแรกและผลลัพท์ในการเรียนวันแรก
3.จะบอกเคล็ดลับว่าทำอย่างใรให้ได้ภาษาเร็วครับ
รูปด่านล่างจะเป็นช่วงซัมเมอร์ครับ ลองสังเกตดีๆ ว่า ทุกคนจะใส่ขาสั้น สบายๆ และออกมานอนตากแดดตามสวนสาธารณะครับ
ดูแดดครับ ร้อนใช้ได้ (เวลาพี่ไปไหนพี่จะพกเสื้อยืดมาเปลี่ยนครับเพราะเหงื่อออกง่าย) ความร้อนที่นี่ ไม่แสบผิวเหมือนบ้านเราครับ
บางคนจะมาปิคนิกกับเพื่อนและครอบครัว
บรรยากาศตามตลาด
ตามสวนก็มีการแสดงให้ดูเพลินๆ ไม่น่าเบื่อครับ
ร้อนแค่ไหนตามทางข้างทางมีไอศครีม ขายครับ หวานมากๆๆๆๆ ไม่แพงครับ
บางสวนสาธารณะ มีน้ำพุให้เล่นแก้ร้อนครับ
อาหารเครื่องดื่มมีขายทุกสวนสาธารณะครับ
แต่พอเข้าหน้าหนาวคนละเรื่องครับ เหมือนหนังคนละม้วน เสื้อผ้าต้องซื้อใหม่หมด
รูปพวกนี้พึ่งเรื่มต้นหนาวนะครับ
การเดินทางก็ยังไม่ลำบากครับ แต่อีกหน่อยไม่แน่ครับ
ดูไปก็สวยดีครับ
ที่ให้ดูเพราะว่าการมาเรียนที่อเมริกามีค่าใช้จ่ายสูง ฉะนั้นควรเรื่องช่วงเวลาที่มาให้เหมาะสมกับตัวเองครับ
อีกประการหนึ่งคือให้ทำประกันสุขภาพมาด้วยครับ เพราะค่ารักษาพยาบาลที่นี่แพงมาก
ตอนพี่มา 6 เดือนแรก พี่ทำประกันสำหรับนักเรียนที่เรียนต่างประเทศระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือน
ราคา 9800 บาท ถือว่าไม่แพงครับเป็นของ AIG ซึ่งน่าเชื่อถือครับ
เอาละครับ วันแรกที่มาเรียนพี่เรียนระดับ 3 ครับ (ถ้าใครจำไม่ได้ว่าเขาแบ่งขั้นนักเรียนอย่างไรย้อนกลับไปอ่านตอนก่อนครับ)
บทเรียนวันแรกที่มาเป็นแบบนี้ครับ
สังเกตครับ นักเรียนทุกคน ช่วงพักกลางวันก็ยังอ่านหนังสือ เขาเคร่งกับการเรียนกันมาก
ผลจากการมาเรียนมาเรียนของพี่วันแรกมีผลดังนี้
1.ฟังไม่รู้เรื่องครับ งง แต่อาจารย์ ก็ให้ใจเย็น ค่อยๆ ฟัง ตอนนี้เรียนมา 6 เดือน ไม่น่าเชื่อครับ ฟังได้ครับ แอบภูมิใจตัวเอง
2.หนังสือแกรมม่า จะคล้ายบ้านเราที่สอน แต่ ทางฝรั่งจะไม่เน้นมากครับ เขาต้องการให้เราฟังรู้เรื่องและอ่านได้ก่อน ซึ่งพัฒนาการของพี่ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ
3.นักเรียนที่นี่ไม่ว่าอายุเท่าไรที่มาเรียน ทุกคน จะเต็มที่กับการเรียน และถือว่าเป็นเพื่อนกัน เพื่อนพี่วันแรกอายุ 16 ครับ สนุกดีเหมือนเป็นเด็กอีกครั้ง
4.พี่ยอมรับเลยครับ ว่าอายมากที่เราเรียนไม่รู้เรื่อง ใน ช่วงแรก แต่เราท่องในใจเสมอว่า
"ถ้าเรารู้เรื่อง เราจะมาเรียนที่นี่ทำไม เรามาเรียน เพราะเราไม่รู้ภาษา อย่าอายพูดไป ไม่ใช่ภาษาประเทศเราไม่ต้องอาย"
ัอันนี้ต้องจำไว้นะครับ อย่าอาย ถ้าเราอาย เราจะไม่ได้วิชา
เคล็ดลับการได้ภาษา อย่ารวดเร็วคือ
1.ในห้องเรียนเป็นเพียงการเรียนทฤษฏี อย่าอาย ถ้าเราไม่ได้ตรงไหนให้ถามเลยครับ
2.ต้องทำการบ้านทุกครั้ง
3.นอกห้องเรียนให้ไปเที่ยวบ่อยๆครับ ย้ำครับเที่ยวบ่อยๆ เพราะภาษาเราพัฒนาจากสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ในห้องเรียน
อันนี้เราจะจำศัพท์ได้เร็ว พี่จะบอกว่าคนไทยโอกาสดีกว่าทุกประเทศ
เพราะเวลานักเรียนคนอื่นรู้ว่าเรามาจากไทย เขาจะอยากคุยกับเรา และ จะคุยเรื่องอาหารไทยกับเราเป็นหลักครับ
อันนี้เขาทางพี่ครับ พี่เลยชวนเพื่อนต่างชาติ ไปกินอาหารกันบ่อยๆ อันนี้เราจะได้คุยกันครับ
จะบอกว่าสนุกมาก เพราะต่างคนต่างไม่รู้ภาษาอังกฤษ แต่คุยกันรู้เรื่องครับ เราช่วยกันแปล ช่วยกันถาม
อันนี้บอกเลยสำคัญมาก ต้องเที่ยวบ่อยๆ อาหารญี่ปุ่นก็เป็นที่นิยมไม่แพ้อาหารไทยครับ ในบอสตัน มีร้านอาหารไทย และญี่ปุ่นเยอะมาก
รูปนี้ไปกินอาหารไทยครับ บอกได้เลยว่า ชาไทยเย็น ที่นี่นิยมมาก ที่เห็นในรูป แก้วละ 2.50 USD เงินไทยประมาณ 90 บาท
บางครั้งเราก็ไปกินอาหารญี่ปุ่นครับ บุพเฟ์ หัวละ 20 USD เงินไทยประมาณ 660 บาท
อันนี้เดินเที่ยวเล่นครับหลังเลิกเรียน สนุกมากครับ
เป็นอย่างไรครับ การเรียนที่นี่ไม่ได้เกิดในห้องเรียน อย่างเดียวครับ เราต้องเที่ยว และมีเพื่อนมากๆ ครับ ที่สำคัญทำการบ้านด้วยครับ
เอาละครับตอนนี้ จบไว้เท่านี่ก่อน และในตอนที่ 4 พี่จะเล่าเรื่อง ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ว่าแต่ละเดือนใช้อะไรบ้าง
เพื่อที่จะได้เตรียมเงินกันถูก และจะบอกวิธีประหยัดให้ด้วยครับ อันนี้ บอกเลย ได้ผลจริง ประหยัดมาก
แล้วจะบอกถึงว่า กิจกรรมยามว่าง นอกห้องเรียน ที่บอสตันมีอะไรน่าสนใจบ้าง
สวัสดีครับ...มีความสุขปีใหม่ ทุกคนครับ
แชร์สำหรับคนอายุเกิน 35 ที่คิดมาเรียนภาษาที่อเมริกาตอนที่ 3 (ตั้งใจให้ครบ 10 ตอน)
Link ตอนที่ 1 ครับ เกี่ยวกับวันแรกการเดินทาง การเข้าบ้านพัก รายละเอียดของบ้านพักที่มีกฏระเบียบแปลกๆ
http://ppantip.com/topic/33020372
Link ตอนที่ 2 ครับ เกี่ยวกับการเดินทาง ,ประเภทของสถาบันสอนภาษา และการสอบเพื่อเข้าเรียน และรายละเอียดระดับความรู้ที่ทางโรงเรียนใช้แบ่งระดับ
http://ppantip.com/topic/33023907
Link ตอนที่ 2.1 ครับ เกี่ยวกับบรรยากาศภายในที่เรียนและห้องเรียน,พาทัวร์โรงอาหารของที่เรียน
http://ppantip.com/topic/33038866
วันนี้เรามาเข้าตอนที่ 3 กันนะครับ
ก่อนอื่นช่วงนี้บอสตันเป็นหน้าหนาวครับ พี่จะแชร์ให้ดูว่า
1.ที่นี่หน้าร้อน กะ หน้าหนาวต่างกันสุดขั้วครับ จะให้ดูรูป ใครที่คิดจะมาเรียนต้องถามตัวเอง
ก่อนนะครับว่าทนหนาวได้ไหม
2.จะโชว์ตัวอย่างบนเรียนในวันแรกและผลลัพท์ในการเรียนวันแรก
3.จะบอกเคล็ดลับว่าทำอย่างใรให้ได้ภาษาเร็วครับ
รูปด่านล่างจะเป็นช่วงซัมเมอร์ครับ ลองสังเกตดีๆ ว่า ทุกคนจะใส่ขาสั้น สบายๆ และออกมานอนตากแดดตามสวนสาธารณะครับ
ดูแดดครับ ร้อนใช้ได้ (เวลาพี่ไปไหนพี่จะพกเสื้อยืดมาเปลี่ยนครับเพราะเหงื่อออกง่าย) ความร้อนที่นี่ ไม่แสบผิวเหมือนบ้านเราครับ
บางคนจะมาปิคนิกกับเพื่อนและครอบครัว
บรรยากาศตามตลาด
ตามสวนก็มีการแสดงให้ดูเพลินๆ ไม่น่าเบื่อครับ
ร้อนแค่ไหนตามทางข้างทางมีไอศครีม ขายครับ หวานมากๆๆๆๆ ไม่แพงครับ
บางสวนสาธารณะ มีน้ำพุให้เล่นแก้ร้อนครับ
อาหารเครื่องดื่มมีขายทุกสวนสาธารณะครับ
แต่พอเข้าหน้าหนาวคนละเรื่องครับ เหมือนหนังคนละม้วน เสื้อผ้าต้องซื้อใหม่หมด
รูปพวกนี้พึ่งเรื่มต้นหนาวนะครับ
การเดินทางก็ยังไม่ลำบากครับ แต่อีกหน่อยไม่แน่ครับ
ดูไปก็สวยดีครับ
ที่ให้ดูเพราะว่าการมาเรียนที่อเมริกามีค่าใช้จ่ายสูง ฉะนั้นควรเรื่องช่วงเวลาที่มาให้เหมาะสมกับตัวเองครับ
อีกประการหนึ่งคือให้ทำประกันสุขภาพมาด้วยครับ เพราะค่ารักษาพยาบาลที่นี่แพงมาก
ตอนพี่มา 6 เดือนแรก พี่ทำประกันสำหรับนักเรียนที่เรียนต่างประเทศระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือน
ราคา 9800 บาท ถือว่าไม่แพงครับเป็นของ AIG ซึ่งน่าเชื่อถือครับ
เอาละครับ วันแรกที่มาเรียนพี่เรียนระดับ 3 ครับ (ถ้าใครจำไม่ได้ว่าเขาแบ่งขั้นนักเรียนอย่างไรย้อนกลับไปอ่านตอนก่อนครับ)
บทเรียนวันแรกที่มาเป็นแบบนี้ครับ
สังเกตครับ นักเรียนทุกคน ช่วงพักกลางวันก็ยังอ่านหนังสือ เขาเคร่งกับการเรียนกันมาก
ผลจากการมาเรียนมาเรียนของพี่วันแรกมีผลดังนี้
1.ฟังไม่รู้เรื่องครับ งง แต่อาจารย์ ก็ให้ใจเย็น ค่อยๆ ฟัง ตอนนี้เรียนมา 6 เดือน ไม่น่าเชื่อครับ ฟังได้ครับ แอบภูมิใจตัวเอง
2.หนังสือแกรมม่า จะคล้ายบ้านเราที่สอน แต่ ทางฝรั่งจะไม่เน้นมากครับ เขาต้องการให้เราฟังรู้เรื่องและอ่านได้ก่อน ซึ่งพัฒนาการของพี่ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ
3.นักเรียนที่นี่ไม่ว่าอายุเท่าไรที่มาเรียน ทุกคน จะเต็มที่กับการเรียน และถือว่าเป็นเพื่อนกัน เพื่อนพี่วันแรกอายุ 16 ครับ สนุกดีเหมือนเป็นเด็กอีกครั้ง
4.พี่ยอมรับเลยครับ ว่าอายมากที่เราเรียนไม่รู้เรื่อง ใน ช่วงแรก แต่เราท่องในใจเสมอว่า
"ถ้าเรารู้เรื่อง เราจะมาเรียนที่นี่ทำไม เรามาเรียน เพราะเราไม่รู้ภาษา อย่าอายพูดไป ไม่ใช่ภาษาประเทศเราไม่ต้องอาย"
ัอันนี้ต้องจำไว้นะครับ อย่าอาย ถ้าเราอาย เราจะไม่ได้วิชา
เคล็ดลับการได้ภาษา อย่ารวดเร็วคือ
1.ในห้องเรียนเป็นเพียงการเรียนทฤษฏี อย่าอาย ถ้าเราไม่ได้ตรงไหนให้ถามเลยครับ
2.ต้องทำการบ้านทุกครั้ง
3.นอกห้องเรียนให้ไปเที่ยวบ่อยๆครับ ย้ำครับเที่ยวบ่อยๆ เพราะภาษาเราพัฒนาจากสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ในห้องเรียน
อันนี้เราจะจำศัพท์ได้เร็ว พี่จะบอกว่าคนไทยโอกาสดีกว่าทุกประเทศ
เพราะเวลานักเรียนคนอื่นรู้ว่าเรามาจากไทย เขาจะอยากคุยกับเรา และ จะคุยเรื่องอาหารไทยกับเราเป็นหลักครับ
อันนี้เขาทางพี่ครับ พี่เลยชวนเพื่อนต่างชาติ ไปกินอาหารกันบ่อยๆ อันนี้เราจะได้คุยกันครับ
จะบอกว่าสนุกมาก เพราะต่างคนต่างไม่รู้ภาษาอังกฤษ แต่คุยกันรู้เรื่องครับ เราช่วยกันแปล ช่วยกันถาม
อันนี้บอกเลยสำคัญมาก ต้องเที่ยวบ่อยๆ อาหารญี่ปุ่นก็เป็นที่นิยมไม่แพ้อาหารไทยครับ ในบอสตัน มีร้านอาหารไทย และญี่ปุ่นเยอะมาก
รูปนี้ไปกินอาหารไทยครับ บอกได้เลยว่า ชาไทยเย็น ที่นี่นิยมมาก ที่เห็นในรูป แก้วละ 2.50 USD เงินไทยประมาณ 90 บาท
บางครั้งเราก็ไปกินอาหารญี่ปุ่นครับ บุพเฟ์ หัวละ 20 USD เงินไทยประมาณ 660 บาท
อันนี้เดินเที่ยวเล่นครับหลังเลิกเรียน สนุกมากครับ
เป็นอย่างไรครับ การเรียนที่นี่ไม่ได้เกิดในห้องเรียน อย่างเดียวครับ เราต้องเที่ยว และมีเพื่อนมากๆ ครับ ที่สำคัญทำการบ้านด้วยครับ
เอาละครับตอนนี้ จบไว้เท่านี่ก่อน และในตอนที่ 4 พี่จะเล่าเรื่อง ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ว่าแต่ละเดือนใช้อะไรบ้าง
เพื่อที่จะได้เตรียมเงินกันถูก และจะบอกวิธีประหยัดให้ด้วยครับ อันนี้ บอกเลย ได้ผลจริง ประหยัดมาก
แล้วจะบอกถึงว่า กิจกรรมยามว่าง นอกห้องเรียน ที่บอสตันมีอะไรน่าสนใจบ้าง
สวัสดีครับ...มีความสุขปีใหม่ ทุกคนครับ