ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนเลยว่าผมเองไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายและความรู้ด้านพุทธศาสนา
สักเท่าไร แต่ด้วยความที่รู้สึกว่าทุกวันนี้ทำไมวงการพระมีเรื่อง เสื่อมเสียกันมากมายขนาดนี้ ก็เลยลองคิดเล่น ๆ ว่า
ถ้าสมมติให้พระที่ปาราชิกนั้น ควรมีการรับโทษทางอาญาด้วย อย่างน้อยผู้ที่ครองเพศบรรพชิตรู้สึกตระหนักในบทบาทและหน้าที่ของตน
แต่ในส่วนของข้อลักทรัพย์ และ การฆ่ามนุษย์นั้น ผมเข้าใจว่ามันน่าจะมีกฎหมายอาญารองรับไว้แล้ว
แต่การเสพเมถุนนั้นถึงในทางพุทธจะเป็นโทษที่ร้ายแรงที่สุดข้อหนึ่ง แต่พอถูกจับได้ ก็แค่ถอดผ้าเหลือง
ออก(บางทีก็ไปห่มขาว ห่มเขียว แทน) แล้วแถมยังลอยหน้าลอยตาในสังคม ราวกับว่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บางรูปถึงขนาดตกดึกเสพสังวาสกับสีกา ลูกศิษย์ แต่พอตื่นเช้าก็หยิบบาตรพระมาเดินบิณฑบาตต่อ
โดยไม่ได้ให้เกียรติในผ้าเหลือง ที่คนทั่วไปถือว่าเป็นของสูงและเอาไว้กราบไหว้บูชา ขนาดจะเดินข้ามยังไม่กล้าข้าม
ส่วนในเรื่องการอวดอ้างคุณวิเศษที่ไม่มีนั้น ไม่รู้ว่าเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนด้วยหรือเปล่าครับ
เป็นไปได้ไหมถ้าจะให้พระที่กระทำผิดพระธรรมวินัยร้ายแรงถึงขั้นปาราชิก ควรมีการรับโทษทางอาญาด้วย
สักเท่าไร แต่ด้วยความที่รู้สึกว่าทุกวันนี้ทำไมวงการพระมีเรื่อง เสื่อมเสียกันมากมายขนาดนี้ ก็เลยลองคิดเล่น ๆ ว่า
ถ้าสมมติให้พระที่ปาราชิกนั้น ควรมีการรับโทษทางอาญาด้วย อย่างน้อยผู้ที่ครองเพศบรรพชิตรู้สึกตระหนักในบทบาทและหน้าที่ของตน
แต่ในส่วนของข้อลักทรัพย์ และ การฆ่ามนุษย์นั้น ผมเข้าใจว่ามันน่าจะมีกฎหมายอาญารองรับไว้แล้ว
แต่การเสพเมถุนนั้นถึงในทางพุทธจะเป็นโทษที่ร้ายแรงที่สุดข้อหนึ่ง แต่พอถูกจับได้ ก็แค่ถอดผ้าเหลือง
ออก(บางทีก็ไปห่มขาว ห่มเขียว แทน) แล้วแถมยังลอยหน้าลอยตาในสังคม ราวกับว่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บางรูปถึงขนาดตกดึกเสพสังวาสกับสีกา ลูกศิษย์ แต่พอตื่นเช้าก็หยิบบาตรพระมาเดินบิณฑบาตต่อ
โดยไม่ได้ให้เกียรติในผ้าเหลือง ที่คนทั่วไปถือว่าเป็นของสูงและเอาไว้กราบไหว้บูชา ขนาดจะเดินข้ามยังไม่กล้าข้าม
ส่วนในเรื่องการอวดอ้างคุณวิเศษที่ไม่มีนั้น ไม่รู้ว่าเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนด้วยหรือเปล่าครับ