ปาราชิกแล้วกลับมาบวชอีก

หมายเหตุ เรื่องด้านล่างนี้ไม่ใช่เรื่องราวของผมนะครับ เป็นเพียงเรื่องที่ผมเอามาแชร์ต่อเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่กำลังจะบวชพระ จะได้ไม่ต้องทำผิดพระธรรมวินัย เพราะถ้าผิดแล้ว โทษมันร้ายแรงมากๆครับ

เครดิต http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81.535704/

เรื่องมีอยู่ว่า ผมเคยบวชพระอยู่ 1 พรรษา แต่ต้องสึกออกมา เพราะทำปาราชิก คือ อมองคชาตของตัวเอง โดยไม่รู้มาก่อนว่าเป็นปาราชิก และยังข้องใจคิดอยู่ในใจว่าบางทีอาจจะไม่ปาราชิก ดังนั้น ไม่นานนักจึงตัดสินใจบวชพระอีก 2 พรรษาก็สึกออกมา

มาถึงตอนนี้ เข้าใจธรรมวินัยมากขึ้นจึงรู้ว่า บวชพระครั้งแรกต้องปาราชิกแน่นอน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ดังนั้นการบวชใหม่ครั้งที่ 2 จึงเป็นโมฆะคือ ไม่ถือว่าเป็นพระภิกษุ เป็นแค่ฆารวาสห่มผ้าเหลืองอยู่ 2 ปี ซึ่งตรงนี้ทำให้เกิดกรรมดำ กรรมชั่ว มากมายเหลือประมาณ ผิดต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ผิดต่อ พุทธบริษัท 4 ทำให้สังฆกรรมทุกๆอย่างเป็นโมฆะ เป็นหนี้ในพระพุทธศาสนาอย่างประมาณมิได้

ขอท่านผู้รู้ ที่อ่านเรื่องของผม เมตตาชี้แนะทางสว่างให้ผมด้วย ผมรู้สึกสำนึกในสิ่งที่ผมทำลงไป ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ผมเกรงกลัวบาปกรรมที่ทำไว้นี้ กลัวต้องตกไปใช้หนี้กรรมในอบายภูมิ 4 มี นรก เปรต อสุรกาย เดรัชฉาน ขอท่านผู้รู้เมตตาชี้แนะด้วยเทอญ...

ทุกวันนี้ ผมป่วยด้วยโรค "จิตเภท" (โรคทางจิตประสาทชนิดหนึ่ง) ต้องกินยาทุกวันไปตลอดชีวิต ต้องพบหมอทุก 6 สัปดาห์ พอทนทุกข์ได้ไปวันๆครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่