หายไปเดือนเต็มๆกลับมาตอนนี้ขอบอกเลย อึ้ง!!! มีอึ้งจริงๆ เล่นแบบนี้เลยเหรอท่านมิด คืออะไรมาดูกันเลย อ้อ ตอนนี้ผมจะเอารูปลงระหว่างเนื้อหาเป็นพิเศษด้วยความอึ้งนี้เลย อ้อ ตั้งแต่ฉบับนี้มีนิยาย EXE เพิ่มมา ใครอยากอ่านซื้อมาอ่านกันแล้วกันนะ หรือไม่ก็รอรวมเล่มนิยายอีกที(จะทำไหมหว่า)
ต่อจากตอนที่แล้ว การต่อสู้ระหว่างอัษฎากับแดนริค สถานการณ์ตอนนี้แดนริคสร้างเสาผลึกขนาดใหญ่ขึ้นมา 3 เสาจนอัษฎาทำลายไม่ได้ง่ายๆ แถมอดนริคยังท้าให้ทำลายเลยด้วยซ้ำถ้าทำได้เพราะ HP ของแต่ละเสาคือราวๆ 6-7 ล้าน และด้วยเสาผลึกยักษ์นี้ก็ทำให้อัษฎาใช้ไม้ตายของอาวุธไม่ได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นอดนริคเองก็คิดเลยว่าเมื่อเขาสร้างเสายักษ์พวกนี้ได้สำเร็จก็ชนะแล้ว แต่ทางเกษมที่ดูการต่อสู้อยู่ก็พูดด้วยเหมือนกันว่าแบบนี้อัษฎาก็ชนะแล้ว
การโจมตีของแดนริคเริ่มต้นอีกครั้ง แดนริคใช้พลังระเบิดส่วนเล็กๆของเสาจนเกิดเป็นสเก็ดผลึกกระเด็นใส่อัษฎา พร้อมกันนั้นแดนริคยังโจมตีด้วยคำสาปจากไม้เท้าเข้าไปอีก เป็นการโจมตีเพื่อดักทางอัษฎาอย่างแน่นอน หากอัษฎาป้องกันสเก็ดผลึกก็จะต้องโดนคำสาปอย่างแน่นอน แต่ถ้าหลบคำสาปก็ต้องเจ็บหนักจากผลึก ยังไงอัษฎาก็ต้องโดนไม่ทางใดทางหนึ่งแน่นอน
การโจมตีทั้งสองอย่างของแดนริคเริ่มเข้าถึงตัวอัษฎา หนทางที่อัษฎาเลือกจะรับมือนั้นคือ... วิ่งฝ่ารับการโจมตีทั้งสองอย่างไปเลย ทางที่อัษฎาเลือกนั้นทำให้แดนริคแปลกใจเพราะนอกจากจะเจ็บหนักจากสเก็ดผลึกแล้วยังโดนคำสาปเข้าไปอีก ทางแดนริคไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่อัษฎาทำแบบนี้ แต่สำหรับอัษฎาแล้วถือว่าเป็นหนทางที่คุ้มค่าที่สุดจากสถานการณ์ในตอนนี้ที่อัษฎารอมานานแล้ว สิ่งนั้นคือ.... แดนริคกำลังหลังพิงกำแพง!!!
ด้วยฟิลล์ที่โล่งทำให้ไม่มีกำแพงมาตลอด แต่ตอนนี้ด้วยเสาผลึกของแดนริคเอง จึงเกิดกำแพงขึ้น อัษฎาที่กำลังต้องการสถานการณ์แบบนี้อยู่จึงยอมลุงทุนเจ็บตัวเพื่อลุยเข้าประชิดตัวแดนริคที่กำลังหลังพิงกำแพงอยู่ให้ได้ ทั้งหมดนั้นก็เพื่อสิ่งๆเดียว ท่าไม้ตาย "ไทเกอร์แรมเพจ"
ไทเกอร์แรมเพจ - ท่าไม้ตายขั้นสูงของดาบใหญ่ โจมตีด้วยการแทง เมื่อใช้จะไถศัตรูไปอีก 10 วินาที ถ้าศัตรูติดผนังหรือมุมฉากจะเพิ่มความแรงกระแทกเป็นสองเท่า
อัษฎาไปขอเรียนท่านี้มาจากชาวดาวเวอร์เท็กซ์เป็นขึ้นชื่อด้านการใช้ดาบแบบนี้ เกษมที่เห็นสถานการณ์นี้จึงพูดแทนได้เลยว่าเป็นโชคดีจริงๆที่แดนริคสร้างเสายักษ์ขึ้นมาจนเหมือนกำแพงพอดี
แต่ไม่เพียงแค่นั้น ไทเกอร์แรมเพจเป็นเพียงกรุหนทางสู่ชัยชนะของอัษฎาเท่านั้น อัษฎาไม่คิดจะหยุดเพียงแค่ไม้ตายท่าเดียวอยู่แล้ว หลังจากไทเกอร์แรมเพจจบลง อัษฎาก็โจมตีต่อทันทีชนิดไม่ยอมให้แดนริคได้ขาติดพื้นเลย ตัวแดนริคจึงเปรียบเหมือนกลายเป็นกระสอบทรายให้อัษฎายำไปเรื่อยๆ ถึงตัวแดนริคจะแตะพื้นได้แต่ก็โดนอัษฎาใช้ท่าดาบลากซ้ำเข้าไปอีก กลายเป็นการโจมตีฝ่ายเดียวอย่างสมบูรณ์จน HP แดนริคหมดลง ทำให้การต่อสู้นี้ชัยชนะเป็นของอัษฎาไป ถือเป็นคู่ที่สองที่ตัดสินผลจากทั้งหมด 4 คู่
อีกด้าน กานดายังคงสู้กับเกียร์ แต่จากรูปการณ์บอกได้เต็มปากเลยว่ากานดากำลังเสียเปรียบ ถึงจะดูสูสี่ขึ้นมานิดหน่อยแต่ HP ของเกียร์ยังคงมากกว่ากานดาโข ซ้ำร้ายพรของกอบลินตอนนี้ก็เริ่มสร้างความรำคาญให้กานดามากกว่าให้กำลังใจซะแล้ว
ตอนนี้กานดาพยายามอยู่ห่างเกียร์ไว้เพื่อไม่ให้โดนท่า eye of god ของเกียร์ รูปแบบการโจมตีของกานดาตอนนี้เกือบทั้งหมดจึงเป็นดาร์คเนสโนว่าเพื่อจะได้ไม่เข้าใกล้เกียร์ แต่นั้นก็อยู่ในการคำนวณของเกียร์แล้ว จากการต่อสู้ทำให้เกียร์รู้ถึงระยะการโจมตีในแต่ละอย่างของทั้งตัวเองและกานดา โดยระยะของจัสติสเรย์จะยาวสุดแต่กานดาใช้มากไม่ได้ รองลงมาคือ eye of god ส่วนท่าดาร์คเนสของกานดากับท่าเคียวโยโยระยะพอๆกัน และเกียร์ยังคิดด้วยว่าอย่างกานดาคงคิดคำนวณซับซ้อนแบบนี้ไม่ได้แน่ ทำให้เกียร์คิดว่าเขาคุมสถานการณ์ได้อยู่ ในตอนนั้นก็มีคนๆหนึ่งที่ดูการต่อสู้ของเกียร์ก็ไม่สบอารมณ์ที่เกียร์ที่ถนัดดาบแท้ๆแต่มาใช้เคียวเหมือนตัวเองใช้อะไรก็คล่องไปหมด ก็เลยคิดว่าให้รอบหน้าไปเจอพัมพ์กิ้นและแพ้ๆไปเลย
ด้านการดาที่โจมตีระยะไกลอยู๋เรื่อยๆ แต่ก็ค้องคอยหลบเคียวโยโยที่เร็วเอาเรื่องอย่างยากลำบาก ยิ่งตัวกานดาเองเป็นประเภทถนักโจมตีระยะประชิดเลยยิ่งหงุดหงิดเล็กน้อย พอเผลอนิดเดียวก็โดนโจมตีเข้าเต็มๆ พอโดนเข้าทีนึงกานดาก็เริ่มล้นขึ้นมา ทางเกียร์เห็นปุ๊บก็รู้เลยว่ากานดาเริ่มจะล้าแล้วแน่ๆจึงยิ่งโจมตีต่อ พอเคียวต่อไปกำลังถึงตัวกานดา กานดาก็เริ่มสับสนจนกลายเป็นยืนขาตายโดนเคียวเข้าไปเต็มๆอีกครั้ง ขนาดคนดูยังคิดเลยว่ากานดาจะฟมดท่าแล้ว
ขณะที่กานดาเริ่มจะอ่อนล้าอย่างถึงที่สุดนั้นเอง เสียงการอวยพรก็พูดกับกานดาอีกครั้ง บอกให้กานดานึกให้ออก แต่เสียงคราวนี้ไม่ใช่เสียงของกอบลินอย่างเคย กานดาที่กำลังอ่อนล้าเลยนึกไม่ออกว่าเป็นเสียงใคร แต่เสียงอวยพรนี้ก็บอกกับกานดาว่าตอนที่เอาจริงไม่ใช่แค่นี้ในตอนนั้นกานดายังไม่ออมมือให้เลยสักนิด กานดาที่เจอทั้งเสียงของใครก็ไม่รู้เหมือนกรอกหูตลอดเวลาแถมยังต้องพยายามหลบการโจมตี ก็เลยเริ่มมึนและลนลานจนในที่สุดก็ทนไม่ไหวตะคอกเลยว่า.....
เท่านั้นแหละ กานดาถึงกับตกใจจนตาถลนอ้าปากค้างไปเลย แต่ขณะที่กำลังตกใจสุดขีดนั้น ปิ่ยก็พูดอะไรบางอย่างกับกานดาและก็หายจากไปอย่างรวดเร็ว กานดาที่อึ้งแดรกก็เลยไม่ทันแม้แต่จะได้พูดให้รอก่อนเลยด้วยซ้ำ จากนั้นก็กลายเป็นยืนงง ทำเอาทั้งเกียร์กับคนดูต่างก็งงไปด้วยว่าไหงจู่ๆกานดาก็ยืนนิ่งไปเลยซะงั้น
ถึงเกียร์จะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆกานดาถึงนิ่งไปเฉยๆ แต่ก็คิดแค่ว่าคงยอมแพ้แล้วเลยโจมตีต่อแบบไม่ให้เวลานอกเลย คราวนี้โจมตีจากด้านหลังกานดาแบบที่ว่ายังไงก็โดนแน่ แต่ความเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น กานดาที่กำลังอึ้งจนตาโตไม่หายกลับก้มหลบได้แบบชิวๆโดยไม่ต้องมองเลย พอโจมตีมาอีกกานดาก็หลบแบบโคตรชิวได้อีก หลบได้เรื่อยๆเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจนพวกมัจฉายังตกใจตาถลนซะเอง แต่ไม่นานกานดาก็ตั้งสติได้พร้อมกับรอยยิ้มที่ดีใจเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นคนละอย่างกับก่อนหน้านี้เลยทีเดียว
เมื่อตั้งสติได้แล้วกานดาก็เริ่มบุกบ้าง แต่แทนที่จะโจมตีระยะไกลอย่างเคยคราวนี้กานดากลับโดดเข้าไปหาเกียร์ซะงั้น เกียร์เห็นกานดาโดดมาแต่ไกลแบบนี้ก็คิดอยู่ว่าน่าจะรู้ว่าเข้ามาแบบนี้ก็ต้องเจอ eye of god แน่ เกียร์เลยจัดให้ ใช้ไม้ตาย eye of god กางรอไว้เลย ด้านกานดาที่โดดเกือบถึงระยะของ eye of god จู่ๆก็หยุดกลางอากาศจากนั้นกานดาก็เรียกใช้จัสติสเรย์แทงใส่เกียร์จากกลางอากาศนั้นเลย เกียร์ที่ใช้ eye of god ทำให้ขยับไม่ได้จึงโดนไปเต็มๆด้วยระยะโจมตีของจัสติสเรย์ที่เหนือกว่า eye of god แถมมัจฉาดูแล้วรู้เลยว่าเป็นการเรียกใช้จัสติสเรย์ช่วงสั้นๆทำให้ไม่เสียพลังมาก และที่หยุดกลางอากาศได้ก็เพราะสกิลลอยตัวของกานดาที่ยังไม่สูงมาก
เมื่อท่า eye of god หายไป กานดาก็ทิ้งตัวลงมาหาเกียร์ต่อ แต่เกียร์ก็รออยู่แล้วจึงง้างเคียวเตรียมโจมตีรอไว้ พอเริ่มโจมตีกานดาก็ทำสิ่งเหนือจากที่คาดอีกด้วยการจับด้ามเคียวซะเลย พอเกียร์จะใช้เคียวอีกอันโจมตี กานดาก็ใช้มืออีกข้างจับด้ามเคียวไว้ได้อีก อาวุธของเกียร์ถูกกานดาผนึกไว้ทั้งสองมือแล้ว กานดาเองก็ใช้สองมือไม่ได้ แต่กานดายังมีสิ่งที่เปรียบเสมืองมือข้างที่สามกับสี่อยู่ สิ่งนั้นคือ... ดาร์คเนสโนว่า ดาบภูตทั้งสองของดาร์คเนสโนว่าปรากฎขึ้นที่หลังของกานดา
จบตอน
เอากันแบบนี้เลยท่านมิด เอาปิ่นกลับมาให้เห็นกันอีกรอบในแบบนี้เลย ทำเอากานดาตาถลนไปถึง 2 หน้าเต็มๆเลยทีเดียว 555+ ตอนหน้าอีกสองอาทิตย์เจอกันเช่นเดิม
[Spoil] EXEcutional - 249 # Voice from Lunar
ต่อจากตอนที่แล้ว การต่อสู้ระหว่างอัษฎากับแดนริค สถานการณ์ตอนนี้แดนริคสร้างเสาผลึกขนาดใหญ่ขึ้นมา 3 เสาจนอัษฎาทำลายไม่ได้ง่ายๆ แถมอดนริคยังท้าให้ทำลายเลยด้วยซ้ำถ้าทำได้เพราะ HP ของแต่ละเสาคือราวๆ 6-7 ล้าน และด้วยเสาผลึกยักษ์นี้ก็ทำให้อัษฎาใช้ไม้ตายของอาวุธไม่ได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นอดนริคเองก็คิดเลยว่าเมื่อเขาสร้างเสายักษ์พวกนี้ได้สำเร็จก็ชนะแล้ว แต่ทางเกษมที่ดูการต่อสู้อยู่ก็พูดด้วยเหมือนกันว่าแบบนี้อัษฎาก็ชนะแล้ว
การโจมตีของแดนริคเริ่มต้นอีกครั้ง แดนริคใช้พลังระเบิดส่วนเล็กๆของเสาจนเกิดเป็นสเก็ดผลึกกระเด็นใส่อัษฎา พร้อมกันนั้นแดนริคยังโจมตีด้วยคำสาปจากไม้เท้าเข้าไปอีก เป็นการโจมตีเพื่อดักทางอัษฎาอย่างแน่นอน หากอัษฎาป้องกันสเก็ดผลึกก็จะต้องโดนคำสาปอย่างแน่นอน แต่ถ้าหลบคำสาปก็ต้องเจ็บหนักจากผลึก ยังไงอัษฎาก็ต้องโดนไม่ทางใดทางหนึ่งแน่นอน
การโจมตีทั้งสองอย่างของแดนริคเริ่มเข้าถึงตัวอัษฎา หนทางที่อัษฎาเลือกจะรับมือนั้นคือ... วิ่งฝ่ารับการโจมตีทั้งสองอย่างไปเลย ทางที่อัษฎาเลือกนั้นทำให้แดนริคแปลกใจเพราะนอกจากจะเจ็บหนักจากสเก็ดผลึกแล้วยังโดนคำสาปเข้าไปอีก ทางแดนริคไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่อัษฎาทำแบบนี้ แต่สำหรับอัษฎาแล้วถือว่าเป็นหนทางที่คุ้มค่าที่สุดจากสถานการณ์ในตอนนี้ที่อัษฎารอมานานแล้ว สิ่งนั้นคือ.... แดนริคกำลังหลังพิงกำแพง!!!
ด้วยฟิลล์ที่โล่งทำให้ไม่มีกำแพงมาตลอด แต่ตอนนี้ด้วยเสาผลึกของแดนริคเอง จึงเกิดกำแพงขึ้น อัษฎาที่กำลังต้องการสถานการณ์แบบนี้อยู่จึงยอมลุงทุนเจ็บตัวเพื่อลุยเข้าประชิดตัวแดนริคที่กำลังหลังพิงกำแพงอยู่ให้ได้ ทั้งหมดนั้นก็เพื่อสิ่งๆเดียว ท่าไม้ตาย "ไทเกอร์แรมเพจ"
ไทเกอร์แรมเพจ - ท่าไม้ตายขั้นสูงของดาบใหญ่ โจมตีด้วยการแทง เมื่อใช้จะไถศัตรูไปอีก 10 วินาที ถ้าศัตรูติดผนังหรือมุมฉากจะเพิ่มความแรงกระแทกเป็นสองเท่า
อัษฎาไปขอเรียนท่านี้มาจากชาวดาวเวอร์เท็กซ์เป็นขึ้นชื่อด้านการใช้ดาบแบบนี้ เกษมที่เห็นสถานการณ์นี้จึงพูดแทนได้เลยว่าเป็นโชคดีจริงๆที่แดนริคสร้างเสายักษ์ขึ้นมาจนเหมือนกำแพงพอดี
แต่ไม่เพียงแค่นั้น ไทเกอร์แรมเพจเป็นเพียงกรุหนทางสู่ชัยชนะของอัษฎาเท่านั้น อัษฎาไม่คิดจะหยุดเพียงแค่ไม้ตายท่าเดียวอยู่แล้ว หลังจากไทเกอร์แรมเพจจบลง อัษฎาก็โจมตีต่อทันทีชนิดไม่ยอมให้แดนริคได้ขาติดพื้นเลย ตัวแดนริคจึงเปรียบเหมือนกลายเป็นกระสอบทรายให้อัษฎายำไปเรื่อยๆ ถึงตัวแดนริคจะแตะพื้นได้แต่ก็โดนอัษฎาใช้ท่าดาบลากซ้ำเข้าไปอีก กลายเป็นการโจมตีฝ่ายเดียวอย่างสมบูรณ์จน HP แดนริคหมดลง ทำให้การต่อสู้นี้ชัยชนะเป็นของอัษฎาไป ถือเป็นคู่ที่สองที่ตัดสินผลจากทั้งหมด 4 คู่
อีกด้าน กานดายังคงสู้กับเกียร์ แต่จากรูปการณ์บอกได้เต็มปากเลยว่ากานดากำลังเสียเปรียบ ถึงจะดูสูสี่ขึ้นมานิดหน่อยแต่ HP ของเกียร์ยังคงมากกว่ากานดาโข ซ้ำร้ายพรของกอบลินตอนนี้ก็เริ่มสร้างความรำคาญให้กานดามากกว่าให้กำลังใจซะแล้ว
ตอนนี้กานดาพยายามอยู่ห่างเกียร์ไว้เพื่อไม่ให้โดนท่า eye of god ของเกียร์ รูปแบบการโจมตีของกานดาตอนนี้เกือบทั้งหมดจึงเป็นดาร์คเนสโนว่าเพื่อจะได้ไม่เข้าใกล้เกียร์ แต่นั้นก็อยู่ในการคำนวณของเกียร์แล้ว จากการต่อสู้ทำให้เกียร์รู้ถึงระยะการโจมตีในแต่ละอย่างของทั้งตัวเองและกานดา โดยระยะของจัสติสเรย์จะยาวสุดแต่กานดาใช้มากไม่ได้ รองลงมาคือ eye of god ส่วนท่าดาร์คเนสของกานดากับท่าเคียวโยโยระยะพอๆกัน และเกียร์ยังคิดด้วยว่าอย่างกานดาคงคิดคำนวณซับซ้อนแบบนี้ไม่ได้แน่ ทำให้เกียร์คิดว่าเขาคุมสถานการณ์ได้อยู่ ในตอนนั้นก็มีคนๆหนึ่งที่ดูการต่อสู้ของเกียร์ก็ไม่สบอารมณ์ที่เกียร์ที่ถนัดดาบแท้ๆแต่มาใช้เคียวเหมือนตัวเองใช้อะไรก็คล่องไปหมด ก็เลยคิดว่าให้รอบหน้าไปเจอพัมพ์กิ้นและแพ้ๆไปเลย
ด้านการดาที่โจมตีระยะไกลอยู๋เรื่อยๆ แต่ก็ค้องคอยหลบเคียวโยโยที่เร็วเอาเรื่องอย่างยากลำบาก ยิ่งตัวกานดาเองเป็นประเภทถนักโจมตีระยะประชิดเลยยิ่งหงุดหงิดเล็กน้อย พอเผลอนิดเดียวก็โดนโจมตีเข้าเต็มๆ พอโดนเข้าทีนึงกานดาก็เริ่มล้นขึ้นมา ทางเกียร์เห็นปุ๊บก็รู้เลยว่ากานดาเริ่มจะล้าแล้วแน่ๆจึงยิ่งโจมตีต่อ พอเคียวต่อไปกำลังถึงตัวกานดา กานดาก็เริ่มสับสนจนกลายเป็นยืนขาตายโดนเคียวเข้าไปเต็มๆอีกครั้ง ขนาดคนดูยังคิดเลยว่ากานดาจะฟมดท่าแล้ว
ขณะที่กานดาเริ่มจะอ่อนล้าอย่างถึงที่สุดนั้นเอง เสียงการอวยพรก็พูดกับกานดาอีกครั้ง บอกให้กานดานึกให้ออก แต่เสียงคราวนี้ไม่ใช่เสียงของกอบลินอย่างเคย กานดาที่กำลังอ่อนล้าเลยนึกไม่ออกว่าเป็นเสียงใคร แต่เสียงอวยพรนี้ก็บอกกับกานดาว่าตอนที่เอาจริงไม่ใช่แค่นี้ในตอนนั้นกานดายังไม่ออมมือให้เลยสักนิด กานดาที่เจอทั้งเสียงของใครก็ไม่รู้เหมือนกรอกหูตลอดเวลาแถมยังต้องพยายามหลบการโจมตี ก็เลยเริ่มมึนและลนลานจนในที่สุดก็ทนไม่ไหวตะคอกเลยว่า.....
เท่านั้นแหละ กานดาถึงกับตกใจจนตาถลนอ้าปากค้างไปเลย แต่ขณะที่กำลังตกใจสุดขีดนั้น ปิ่ยก็พูดอะไรบางอย่างกับกานดาและก็หายจากไปอย่างรวดเร็ว กานดาที่อึ้งแดรกก็เลยไม่ทันแม้แต่จะได้พูดให้รอก่อนเลยด้วยซ้ำ จากนั้นก็กลายเป็นยืนงง ทำเอาทั้งเกียร์กับคนดูต่างก็งงไปด้วยว่าไหงจู่ๆกานดาก็ยืนนิ่งไปเลยซะงั้น
ถึงเกียร์จะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆกานดาถึงนิ่งไปเฉยๆ แต่ก็คิดแค่ว่าคงยอมแพ้แล้วเลยโจมตีต่อแบบไม่ให้เวลานอกเลย คราวนี้โจมตีจากด้านหลังกานดาแบบที่ว่ายังไงก็โดนแน่ แต่ความเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น กานดาที่กำลังอึ้งจนตาโตไม่หายกลับก้มหลบได้แบบชิวๆโดยไม่ต้องมองเลย พอโจมตีมาอีกกานดาก็หลบแบบโคตรชิวได้อีก หลบได้เรื่อยๆเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจนพวกมัจฉายังตกใจตาถลนซะเอง แต่ไม่นานกานดาก็ตั้งสติได้พร้อมกับรอยยิ้มที่ดีใจเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นคนละอย่างกับก่อนหน้านี้เลยทีเดียว
เมื่อตั้งสติได้แล้วกานดาก็เริ่มบุกบ้าง แต่แทนที่จะโจมตีระยะไกลอย่างเคยคราวนี้กานดากลับโดดเข้าไปหาเกียร์ซะงั้น เกียร์เห็นกานดาโดดมาแต่ไกลแบบนี้ก็คิดอยู่ว่าน่าจะรู้ว่าเข้ามาแบบนี้ก็ต้องเจอ eye of god แน่ เกียร์เลยจัดให้ ใช้ไม้ตาย eye of god กางรอไว้เลย ด้านกานดาที่โดดเกือบถึงระยะของ eye of god จู่ๆก็หยุดกลางอากาศจากนั้นกานดาก็เรียกใช้จัสติสเรย์แทงใส่เกียร์จากกลางอากาศนั้นเลย เกียร์ที่ใช้ eye of god ทำให้ขยับไม่ได้จึงโดนไปเต็มๆด้วยระยะโจมตีของจัสติสเรย์ที่เหนือกว่า eye of god แถมมัจฉาดูแล้วรู้เลยว่าเป็นการเรียกใช้จัสติสเรย์ช่วงสั้นๆทำให้ไม่เสียพลังมาก และที่หยุดกลางอากาศได้ก็เพราะสกิลลอยตัวของกานดาที่ยังไม่สูงมาก
เมื่อท่า eye of god หายไป กานดาก็ทิ้งตัวลงมาหาเกียร์ต่อ แต่เกียร์ก็รออยู่แล้วจึงง้างเคียวเตรียมโจมตีรอไว้ พอเริ่มโจมตีกานดาก็ทำสิ่งเหนือจากที่คาดอีกด้วยการจับด้ามเคียวซะเลย พอเกียร์จะใช้เคียวอีกอันโจมตี กานดาก็ใช้มืออีกข้างจับด้ามเคียวไว้ได้อีก อาวุธของเกียร์ถูกกานดาผนึกไว้ทั้งสองมือแล้ว กานดาเองก็ใช้สองมือไม่ได้ แต่กานดายังมีสิ่งที่เปรียบเสมืองมือข้างที่สามกับสี่อยู่ สิ่งนั้นคือ... ดาร์คเนสโนว่า ดาบภูตทั้งสองของดาร์คเนสโนว่าปรากฎขึ้นที่หลังของกานดา
จบตอน
เอากันแบบนี้เลยท่านมิด เอาปิ่นกลับมาให้เห็นกันอีกรอบในแบบนี้เลย ทำเอากานดาตาถลนไปถึง 2 หน้าเต็มๆเลยทีเดียว 555+ ตอนหน้าอีกสองอาทิตย์เจอกันเช่นเดิม