สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
เราแนะนำให้ จขกท เข้าไปที่เวปไซด์นี้เลยค่ะ http://www.cic.gc.ca/english/immigrate/skilled/profile.asp
ข้อมูลละเอียดครบถ้วนที่สุดสำหรับผู้สมัครที่ไม่ได้อยู่ในแคนาดา และไม่มีcanadian work experience มาก่อน ค่อยๆอ่าน ทำความเข้าใจ ถ้าพร้อมก็ทำตามขั้นตอนได้เลย รายละเอียดของโปรแกรมEE ค่อนข้างเยอะค่ะ หากติดขัดตรงไหนหลังไมล์มาถามเราก็ได้นะคะ
ถ้าคุณ จขกท เช็คแล้วว่าคุณ eligible สำหรับโปรแกรมEE เราแนะนำให้สมัครเลยค่ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องหางานเพราะตามโปรแกรมเค้าบังคับให้คุณต้องโพสต์ประวัติตัวเองใน Job Bank อยู่แล้วค่ะ เพื่อให้นายจ้างที่นี่เข้ามาดูแล้วเค้าอาจเสนองานให้คุณก็ได้
แคนาดาน่าอยู่ค่ะ มาเถอะ อย่ากลัวกับการต้องเรื่มต้นใหม่ถึงแม้ช่วงแรกจะขลุกขลัก และมีอะไรไม่สะดวกหลายเรื่องแต่เชื่อว่า Life finds a way. เรื่องอากาศอย่าได้กังวล อยู่ๆไปร่างกายปรับตัวได้แล้วก็จะชินไปเองค่ะ ถ้าชอบหนาวๆ หิมะเยอะๆก็เลือกไปฝั่งตะวันออกเช่นออนตาริโอเมืองใหญ่เช่นโตรอนโต้ ส่วนถ้าอยากได้แบบไม่หนาวมากก็มาทางฝั่งตะวันตกค่ะเช่นบริติชโคลัมเบีย เมืองใหญ่ๆก็เช่นแวนคูเวอร์ ไม่หนาวมากแต่อาจมีฝนเยอะกว่าที่อื่นหน่อยเท่านั้นเองค่ะ ส่วนเราอยู่เมืองเล็กๆในAlberta เหมือนคุณ คห7บอกคือหนาวมากๆๆๆ แต่ชินแล้วและกลับชอบอากาศแบบนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ เมืองที่เราอยู่เงียบไปหน่อยแต่ธรรมชาติสวยสุดๆ (สวยขนาดที่วันดีคืนดีเราแหงนหน้ามองเห็นแสงเหนืออยู่บนหลังคาบ้านได้เลย)
ข้อมูลละเอียดครบถ้วนที่สุดสำหรับผู้สมัครที่ไม่ได้อยู่ในแคนาดา และไม่มีcanadian work experience มาก่อน ค่อยๆอ่าน ทำความเข้าใจ ถ้าพร้อมก็ทำตามขั้นตอนได้เลย รายละเอียดของโปรแกรมEE ค่อนข้างเยอะค่ะ หากติดขัดตรงไหนหลังไมล์มาถามเราก็ได้นะคะ
ถ้าคุณ จขกท เช็คแล้วว่าคุณ eligible สำหรับโปรแกรมEE เราแนะนำให้สมัครเลยค่ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องหางานเพราะตามโปรแกรมเค้าบังคับให้คุณต้องโพสต์ประวัติตัวเองใน Job Bank อยู่แล้วค่ะ เพื่อให้นายจ้างที่นี่เข้ามาดูแล้วเค้าอาจเสนองานให้คุณก็ได้
แคนาดาน่าอยู่ค่ะ มาเถอะ อย่ากลัวกับการต้องเรื่มต้นใหม่ถึงแม้ช่วงแรกจะขลุกขลัก และมีอะไรไม่สะดวกหลายเรื่องแต่เชื่อว่า Life finds a way. เรื่องอากาศอย่าได้กังวล อยู่ๆไปร่างกายปรับตัวได้แล้วก็จะชินไปเองค่ะ ถ้าชอบหนาวๆ หิมะเยอะๆก็เลือกไปฝั่งตะวันออกเช่นออนตาริโอเมืองใหญ่เช่นโตรอนโต้ ส่วนถ้าอยากได้แบบไม่หนาวมากก็มาทางฝั่งตะวันตกค่ะเช่นบริติชโคลัมเบีย เมืองใหญ่ๆก็เช่นแวนคูเวอร์ ไม่หนาวมากแต่อาจมีฝนเยอะกว่าที่อื่นหน่อยเท่านั้นเองค่ะ ส่วนเราอยู่เมืองเล็กๆในAlberta เหมือนคุณ คห7บอกคือหนาวมากๆๆๆ แต่ชินแล้วและกลับชอบอากาศแบบนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ เมืองที่เราอยู่เงียบไปหน่อยแต่ธรรมชาติสวยสุดๆ (สวยขนาดที่วันดีคืนดีเราแหงนหน้ามองเห็นแสงเหนืออยู่บนหลังคาบ้านได้เลย)
ความคิดเห็นที่ 7
ตอนนี้อยู่แคนาดาค่ะ ระบบตัวใหม่ยังไม่ได้ศึกษาแต่เข้าใจว่าไม่น่าต่างจาก federal skill worker คือเห็นว่าเร็วกว่า แต่ของเดิมรอปีหนึ่งค่ะ เคยไปแวนมา ตอนแฟนไป land ก็อยู่แวนมาเดือนนึงค่าครองชีพแพงมากกกกกกก เพราะมัน tax 2 ตัว สิบกว่าเปอร์เซ็นต์ ค่าที่พักเท่าที่เคยหาเรทปีที่แล้ว one bed แถว south เฉียดพันเหรียญค่ะ ราคาบ้านคือ 30 ล้าน เพราะเจอปั่นราคาที่ดินไป เมืองสวย อุ่น ฝนตกบ่อย ถ้าชอบพวกธรรมชาติก็เหมาะมาก ห้างนี่แบบร้างมาก งานหายากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แฟนเก่าของแฟนอยู่แวนกว่าจะได้งานคือ ครึ่งปีค่ะ แค่งาน survivor job นะ แล้วค่าแรงแบบขั้นต่ำเลยนะ ยังแย่งกันกับฟิลิปปินส์เลยค่ะ แฟนเก่าแฟนคือมีวุฒิ Dip จากเมกานะคะ ประเทศนี้ canadian experience สำคัญสุดค่ะ มีพี่ของเพื่อนก็อยู่แวนนะ แต่เค้ากลับไปเรียน VCC ก็เข้าออฟฟิศไป
ส่วนถ้าไม่ได้จะมาเรียนป.เอก หรือโท ตอนแรกเราก็คิดแบบนั้นแหละค่ะ แต่ถ้าลองหาที่ native เค้าคุยกันจะรู้เลยว่ามัน overqualified จบมาทำงานเท่าพวกเรียน Dip อ่ะค่ะ ถ้าจะหาตำแหน่งอาจารย์สอนต่อ คือฝันเลย เราเข้าไปดูแล้วสะอึกเลย แล้วเข้าป.เอกที่นี่คือมีทุนให้เรียนฟรี cover ทุกอย่างค่ะ แต่เข้ายากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก เราลองมาแหละ บางยูจะบอกเลยว่าถ้ามีทุนมาจะได้รับพิจารณาง่ายกว่า กฎของ PR คือห้ามติดทุน กฎใหม่ลดเหลือ 500 คนต่อปี เจ้าหน้าที่บอกเลยว่า Canada does not allow self-funding. อย่างเราคือมาเรียน Dip เลยค่ะ ทั้งที่เรามีป.โท และได้ accepted PhD จากอังกฤษแล้ว เรียน Dip หางานง่ายกว่าค่ะ โดยเฉพาะพวกงานสายก่อสร้าง Cad technician อยู่ในกลุ่มที่ขอ PR ได้ค่ะ เพราะถ้าอยู่ครบสามปี มีอาชีพตาม NOC สามารถขอ PR เองได้ค่ะ กฎคือมาเรียนกี่ปีก็อยู่ต่อได้เท่านั้น ถ้ามาเรียน 2 ปี คืออยู่ต่อได้ 3 ปี ค่ะ
วันนี้เพิ่งเรียนมาที่นี่หางานผ่าน network ค่ะ โอกาสได้งานเองจากการส่ง CV แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ เค้าแนะนำให้ไปหางานผ่านศูนย์ช่วยเหลือ new commer ค่ะ แต่แฟนเราได้งานจากการส่ง resume แหละค่ะ ไม่ใช่ survivor job จ่ายค่อนข้างดี งานแรกคือ survivor job แต่มาแค่ครึ่งเดือนก็ได้เลย อีกเดือนนึงให้หลังก็เปลี่ยนงานค่ะ แต่เราไม่ได้อยู่ BC หรือ ออนทาริโอ้ นะ เราอยู่ AB งานหาง่ายมากกกกกกกกกกกกกก retail คือ hire กันทุกร้าน tax ก็จ่ายแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ new commer หลายคนที่ๆทำงานแฟนซื้อบ้าน ซื้อรถกันแล้ว แต่ที่นี่หนาวมากปีที่แล้ว -45 ค่ะ ปีนี้ต่ำสุด -30 เมืองใหญ่ๆของ AB คือ edmonton กับ calgary ค่ะ ที่เหลือเล็กไป ที่นี่มีแต่ห้าง และห้าง และห้าง เพราะมันหนาว ไม่งั้นอีกทีก็ไปสกี หรือจะไป Bnaff jasper อะไรพวกนี้อ่ะค่ะ
เรากับแฟนมาจากสายวิชาการทั้งคู่ค่ะ แต่เราทั้งคู่เลือกที่จะทิ้งค่ะ ที่นี่น้อยมากที่สายวิชาการจะเป็นคนจากสัญชาติอื่น ถ้ามีต้อง Profile เทพมาก (มี Prof.คนนึงเป็นอินเดีย แต่โปรไฟล์แบบทำงานให้ US Army มาก่อน) ถ้าจะคิดอยู่ต่อด้วยสายวิชาการบอกเลยว่ายากค่ะ ต้องหาสายใกล้เคียงทำ อย่างถ้าเคยสอนบัญชีมาก็คงต้องมาทำบัญชี หรือไปเรียนแล้วทำข้ามสายไปเลย มิวเซียมที่นี่ห่วยมากจากใจ หรือเพราะเราเคยไปสุดยอดมิวเซียมทั้งหลายในโลกมาแล้วเจอที่นี่เฟลสุด
ปล.เมืองที่เราอยู่เจอจีน เวียดนามครอง ไม่เจอคนไทยเลย แล้วชาติอื่นอายุ อาชีพอะไรมาเค้าก็มาเรียน Dip กัน มี job fair มารับสมัครงานถึงที่ รายได้เยอะกว่าใช้วุฒิป.โทในไทยอีก หรือจะเรียนต่อให้จบปริญญาตรีก็ได้ ถ้าคิดจะอยู่ยาวต้องถอดหัวโขนบนบ่าออกค่ะ อย่ายึดมั่นถือมั่นแล้วเริ่มนับ 1 ใหม่ ก่อนมาชีวิตเราขึ้นถึงขีดสุด งานสอน งานวิจัยเยอะมาก รายได้เยอะ แต่เราก็ทิ้ง ทิ้งกระทั้งป.เอกที่กว่าจะได้มา คนอื่นเค้าทำกันเลือดตาแทบกระเด็น แค่ได้ offer ก็เหนื่อยแล้ว
ส่วนถ้าไม่ได้จะมาเรียนป.เอก หรือโท ตอนแรกเราก็คิดแบบนั้นแหละค่ะ แต่ถ้าลองหาที่ native เค้าคุยกันจะรู้เลยว่ามัน overqualified จบมาทำงานเท่าพวกเรียน Dip อ่ะค่ะ ถ้าจะหาตำแหน่งอาจารย์สอนต่อ คือฝันเลย เราเข้าไปดูแล้วสะอึกเลย แล้วเข้าป.เอกที่นี่คือมีทุนให้เรียนฟรี cover ทุกอย่างค่ะ แต่เข้ายากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก เราลองมาแหละ บางยูจะบอกเลยว่าถ้ามีทุนมาจะได้รับพิจารณาง่ายกว่า กฎของ PR คือห้ามติดทุน กฎใหม่ลดเหลือ 500 คนต่อปี เจ้าหน้าที่บอกเลยว่า Canada does not allow self-funding. อย่างเราคือมาเรียน Dip เลยค่ะ ทั้งที่เรามีป.โท และได้ accepted PhD จากอังกฤษแล้ว เรียน Dip หางานง่ายกว่าค่ะ โดยเฉพาะพวกงานสายก่อสร้าง Cad technician อยู่ในกลุ่มที่ขอ PR ได้ค่ะ เพราะถ้าอยู่ครบสามปี มีอาชีพตาม NOC สามารถขอ PR เองได้ค่ะ กฎคือมาเรียนกี่ปีก็อยู่ต่อได้เท่านั้น ถ้ามาเรียน 2 ปี คืออยู่ต่อได้ 3 ปี ค่ะ
วันนี้เพิ่งเรียนมาที่นี่หางานผ่าน network ค่ะ โอกาสได้งานเองจากการส่ง CV แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ เค้าแนะนำให้ไปหางานผ่านศูนย์ช่วยเหลือ new commer ค่ะ แต่แฟนเราได้งานจากการส่ง resume แหละค่ะ ไม่ใช่ survivor job จ่ายค่อนข้างดี งานแรกคือ survivor job แต่มาแค่ครึ่งเดือนก็ได้เลย อีกเดือนนึงให้หลังก็เปลี่ยนงานค่ะ แต่เราไม่ได้อยู่ BC หรือ ออนทาริโอ้ นะ เราอยู่ AB งานหาง่ายมากกกกกกกกกกกกกก retail คือ hire กันทุกร้าน tax ก็จ่ายแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ new commer หลายคนที่ๆทำงานแฟนซื้อบ้าน ซื้อรถกันแล้ว แต่ที่นี่หนาวมากปีที่แล้ว -45 ค่ะ ปีนี้ต่ำสุด -30 เมืองใหญ่ๆของ AB คือ edmonton กับ calgary ค่ะ ที่เหลือเล็กไป ที่นี่มีแต่ห้าง และห้าง และห้าง เพราะมันหนาว ไม่งั้นอีกทีก็ไปสกี หรือจะไป Bnaff jasper อะไรพวกนี้อ่ะค่ะ
เรากับแฟนมาจากสายวิชาการทั้งคู่ค่ะ แต่เราทั้งคู่เลือกที่จะทิ้งค่ะ ที่นี่น้อยมากที่สายวิชาการจะเป็นคนจากสัญชาติอื่น ถ้ามีต้อง Profile เทพมาก (มี Prof.คนนึงเป็นอินเดีย แต่โปรไฟล์แบบทำงานให้ US Army มาก่อน) ถ้าจะคิดอยู่ต่อด้วยสายวิชาการบอกเลยว่ายากค่ะ ต้องหาสายใกล้เคียงทำ อย่างถ้าเคยสอนบัญชีมาก็คงต้องมาทำบัญชี หรือไปเรียนแล้วทำข้ามสายไปเลย มิวเซียมที่นี่ห่วยมากจากใจ หรือเพราะเราเคยไปสุดยอดมิวเซียมทั้งหลายในโลกมาแล้วเจอที่นี่เฟลสุด
ปล.เมืองที่เราอยู่เจอจีน เวียดนามครอง ไม่เจอคนไทยเลย แล้วชาติอื่นอายุ อาชีพอะไรมาเค้าก็มาเรียน Dip กัน มี job fair มารับสมัครงานถึงที่ รายได้เยอะกว่าใช้วุฒิป.โทในไทยอีก หรือจะเรียนต่อให้จบปริญญาตรีก็ได้ ถ้าคิดจะอยู่ยาวต้องถอดหัวโขนบนบ่าออกค่ะ อย่ายึดมั่นถือมั่นแล้วเริ่มนับ 1 ใหม่ ก่อนมาชีวิตเราขึ้นถึงขีดสุด งานสอน งานวิจัยเยอะมาก รายได้เยอะ แต่เราก็ทิ้ง ทิ้งกระทั้งป.เอกที่กว่าจะได้มา คนอื่นเค้าทำกันเลือดตาแทบกระเด็น แค่ได้ offer ก็เหนื่อยแล้ว
แสดงความคิดเห็น
สนใจอยาก migrate ไปประเทศแคนาดา รบกวนคนไทยในแคนาดามาแชร์ประสบการณ์ด้วยค่ะ
ขอเริ่มด้วยการบอกว่า อยากย้ายไปทำงานที่ประเทศแคนาดาค่ะ ด้วยเหตุผลส่วนตัว ไปคนเดียวค่ะ ไม่ได้มีครอบครัว แฟน หรือคนรู้จักที่นั่นแต่อย่างใด ไม่เคยไปแคนาดามาก่อนด้วย พื้นฐานการทำงานคืองานวิจัย สายวิชาการค่ะ อายุ 20 ปลายๆ ตอนนี้สนใจอยากสมัครผ่านโครงการ express entry ที่เพิ่งประกาศใช้ไป ลองไปทำ questionnaire ดูก็มีสิทธิ์สมัครได้ค่ะ เลยคิดๆ ไว้ว่าจะลองดูในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เรามีคำถามดังนี้ค่ะ
1. เรื่องเมืองต่างๆ คือเราไม่ค่อยมีความรู้เรื่องประเทศแคนาดาเลย ไม่แน่ใจว่าเมืองไหนจะเหมาะกับเรา เกณฑ์ก็ประมาณนี้ค่ะ
- จำนวนคนไทย - ถ้ามีชุมชนคนไทยหน่อยก็จะอุ่นใจมากเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าไปคนเดียว กลัวเหงาค่ะ
- อากาศ - ถ้าอุ่นๆ หน่อยเข้าใจว่าต้องเป็นทางใต้อย่าง Vancouver ใช่ไหมคะ
- การเดินทาง - อยากอยู่เมืองที่ไม่จำเป็นต้องขับรถค่ะ มี public transportation ดีๆ
- ค่าครองชีพ - แน่นอนว่าก็อยากอยู่เมืองที่ค่าครองชีพไม่สูงมากอะค่ะ ถ้าลักษณะเป็นเมืองใหญ่จะสูงกว่าเมืองเล็กๆ ไหมคะ (แอบสงสัยเพราะอย่าง UK เมืองใหญ่บางเมืองก็ค่าครองชีพถูกกว่าเมืองเล็กๆ มากเลย)
- ความปลอดภัย/ความเป็นมิตรของคน - เป็นผญ.ตัวคนเดียวก็อยากจะอยู่แบบที่มันปลอดภัยมากๆ อะค่ะ ทราบว่าโดยรวมที่แคนาดาค่อนข้างปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ก็ยังมีส่วนไหนที่ต้องระวังมากๆ ไหม
- สิ่งบันเทิงใจต่างๆ - อยู่คนเดียวก็กลัวจะเบื่อค่ะ อยากอยู่เมืองที่มีอะไรให้เที่ยวเยอะหน่อย (ไม่ใช่ที่เที่ยวกลางคืนนะคะ เที่ยวอย่างอื่น เช่น ธรรมชาติ มิวเซียม โรงละคร ทำนองนี้ค่ะ)
2. เมื่อสมัครแล้ว จะต้องรอนานแค่ไหนคะ เราเข้าใจว่าโครงการ express entry มันยังใหม่ ไม่น่าจะเคยมีคนเข้าประเทศด้วยวิธีนี้หรือเปล่า? หรือว่ามันแค่เปลี่ยนชื่อเฉยๆ เราก็ไม่รู้อะค่ะ ไม่ทราบมีใครได้เข้าประเทศมาด้วยการสมัคร PR โดยไม่ได้มีนายจ้างก่อนไหม ยังงงๆ กับระบบอยู่เลยอะค่ะ
3. คิดว่าถ้าต้องรอนานๆๆ เป็นหลายๆ ปี อาจจะไม่รอ เปลี่ยนเป็นสมัครเรียนที่แคนาดาแล้วหาทางอยู่ต่อค่ะ อาจจะปอโทซ้ำอีกใบหรือ PhD - โดยคงต้องขอทุนที่นั่น ถ้าจบแล้วจะมีโอกาสอยู่ต่อได้มากน้อยแค่ไหนอะคะ (เข้าใจว่าอันนี้ก็คงบอกยากในระดับนึง ขึ้นอยู่กับสายอาชีพด้วย ของเราเป็นสายวิชาการอะค่ะ)
คำถามก็ประมาณนี้แหละค่ะ อยากฟังประสบการณ์ตรงจากทุกคนเลยค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆ ชาวพันทิปมากนะคะที่ช่วยสละเวลามาตอบ