สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
1. ตามหลักแล้ว คนไข้เป็นคนเดียวที่มีสิทธิทราบ และเป็นคนตัดสินใจ ว่าจะบอกญาติหรือไม่ครับ
2. เอามาปรับใช้กับสังคมไทย ควรจะมีวิธีการคุยกันเอาไว้ก่อน ที่จะตรวจเลือดดูเรื่องมะเร็ง หรือ HIV จะถามคนไข้ก่อนเลย ว่าเราจะตรวจหามะเร็งนะครับ ถ้าผลออกมา คนไข้อยากทราบเอง หรืออยากให้บอกญาติ ถ้าอันนี้ คนไข้บอกว่า ให้บอกญาติก่อน เราก็ทำตามความประสงค์คนไข้ครับ
(ซึ่งถ้าไม่คุยเอาไว้ก่อนตรวจ ตอนผลออกมา เป็นมะเร็งจริง อาจคุยกันยากหน่อยครับ แต่ยังงัย ก็ต้องบอกคนไข้ก่อนเสมอ)
3. ญาติมีสิทธิกลัวว่าคนไข้ จะอาการแย่ลง จากที่รู้ความจริง แต่การบอกญาติ ไม่บอกคนไข้ ไม่ใช่ทางออกครับ ที่สำคัญ กลับไปดูข้อ 1
4. ผมเจอหลายครั้ง ที่คนไข้ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นอะไร จนอาการแย่ลงเรื่อยๆ ถามญาติหน่อย คุณคิดว่าทุกครั้งที่เค้ามาโรงพยาบาล ทุกครั้งที่เค้าเห็นญาติคุยกับหมอลับๆ เค้าไม่สงสัยเหรอครับ เค้าไม่ทุกข์เหรอครับ หรือในวาระสุดท้าย เค้าไม่ควรรู้ก่อนตายหรือครับ ว่าเค้าเป็นอะไร
5. ญาติส่วนมาก จะคิดว่าตัวเอง จิตใจเข้มแข็งกว่าคนไข้ ซึ่งจริงหรือ ... สถานะการณ์แบบนี้ส่วนมาก ผู้ป่วยเป็นคนที่อายุเยอะกว่า ผ่านโลกมาเยอะกว่า ไม่แน่ คนที่ทุกข์ใจมากกว่าเมื่อทราบความจริง อาจเป็นญาติเองก็ได้ครับ
สรุป ยืนยันว่ายังงัยควรบอกคนไข้ก่อนครับ นอกจากคนไข้เองยืนยัน ว่าตัวเองไม่อยากรับรู้ ให้บอกญาติ อันนั้นทำได้
ส่วนวิธีในการบอก มีหลายวิธีครับ แล้วแต่ศิลปะ อันนี้คงขึ้นกับตัวบุลคล
และวิธีการคิดของคนไข้ เพื่อจัดการกับเรื่องร้ายๆ ก็มีหลายแบบหลายขึ้น ครับ สุดท้าย เค้าจะค่อยๆทำใจยอมรับ และพร้อมที่จะต่อสู้ครับ
ปล. เป็นกำลังใจให้ จขกท, ผู้ป่วย, ญาติ, หมอ พยาบาล ให้ผ่านเรื่องร้ายๆไปได้ครับ
1. ตามหลักแล้ว คนไข้เป็นคนเดียวที่มีสิทธิทราบ และเป็นคนตัดสินใจ ว่าจะบอกญาติหรือไม่ครับ
2. เอามาปรับใช้กับสังคมไทย ควรจะมีวิธีการคุยกันเอาไว้ก่อน ที่จะตรวจเลือดดูเรื่องมะเร็ง หรือ HIV จะถามคนไข้ก่อนเลย ว่าเราจะตรวจหามะเร็งนะครับ ถ้าผลออกมา คนไข้อยากทราบเอง หรืออยากให้บอกญาติ ถ้าอันนี้ คนไข้บอกว่า ให้บอกญาติก่อน เราก็ทำตามความประสงค์คนไข้ครับ
(ซึ่งถ้าไม่คุยเอาไว้ก่อนตรวจ ตอนผลออกมา เป็นมะเร็งจริง อาจคุยกันยากหน่อยครับ แต่ยังงัย ก็ต้องบอกคนไข้ก่อนเสมอ)
3. ญาติมีสิทธิกลัวว่าคนไข้ จะอาการแย่ลง จากที่รู้ความจริง แต่การบอกญาติ ไม่บอกคนไข้ ไม่ใช่ทางออกครับ ที่สำคัญ กลับไปดูข้อ 1
4. ผมเจอหลายครั้ง ที่คนไข้ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นอะไร จนอาการแย่ลงเรื่อยๆ ถามญาติหน่อย คุณคิดว่าทุกครั้งที่เค้ามาโรงพยาบาล ทุกครั้งที่เค้าเห็นญาติคุยกับหมอลับๆ เค้าไม่สงสัยเหรอครับ เค้าไม่ทุกข์เหรอครับ หรือในวาระสุดท้าย เค้าไม่ควรรู้ก่อนตายหรือครับ ว่าเค้าเป็นอะไร
5. ญาติส่วนมาก จะคิดว่าตัวเอง จิตใจเข้มแข็งกว่าคนไข้ ซึ่งจริงหรือ ... สถานะการณ์แบบนี้ส่วนมาก ผู้ป่วยเป็นคนที่อายุเยอะกว่า ผ่านโลกมาเยอะกว่า ไม่แน่ คนที่ทุกข์ใจมากกว่าเมื่อทราบความจริง อาจเป็นญาติเองก็ได้ครับ
สรุป ยืนยันว่ายังงัยควรบอกคนไข้ก่อนครับ นอกจากคนไข้เองยืนยัน ว่าตัวเองไม่อยากรับรู้ ให้บอกญาติ อันนั้นทำได้
ส่วนวิธีในการบอก มีหลายวิธีครับ แล้วแต่ศิลปะ อันนี้คงขึ้นกับตัวบุลคล
และวิธีการคิดของคนไข้ เพื่อจัดการกับเรื่องร้ายๆ ก็มีหลายแบบหลายขึ้น ครับ สุดท้าย เค้าจะค่อยๆทำใจยอมรับ และพร้อมที่จะต่อสู้ครับ
ปล. เป็นกำลังใจให้ จขกท, ผู้ป่วย, ญาติ, หมอ พยาบาล ให้ผ่านเรื่องร้ายๆไปได้ครับ
ความคิดเห็นที่ 22
เข้าใจความรู้สึก จขกท นะคะ แต่ จะมาขอ ปรับทัศนคติความคิด จขกท สักหน่อย
ดิฉันบอกเลย เบื่อกับเรื่องอะไรแบบนี้มากๆเลย
พอเถอะค่ะ กับการปิดบังไม่ให้คนไข้รู้ ..... ทุกวันต้องมีเรื่องแบบนี้ ..... เราควรจะบอกเค้า ให้รับรู้ความจริง แล้วหาทางในการโอบอุ้มความรู้สึกของคนไข้ ช่วยให้คนไข้เปลี่ยนทัศนคติในความคิด ให้มีกำลังใจมากขึ้น คนไข้มองในแง่บวกมากขึ้น (โรคมีแต่แง่ลบ แต่สามารถใช้ชีวิตให้บวกได้ค่ะ)
***ดิฉันคิดมาตลอดว่า การไม่บอกคนไข้ เป็นการเห็นแก่ตัวอย่างนึงของ ญาติ ... ทำไมถึงคิดแบบนั้นรู้ไหมคะ ... เพราะว่า ญาติบางคนคิดแค่ว่า บอกแล้ว เค้าทรุดลง จะทำยังไงหล่ะ ...............นี่หล่ะค่ะ คือ คิดแค่กลัวเค้าทรุดลง ......... ไม่มีการช่วยกันคิด ช่วยกันหาวิธีว่า ถ้าเค้ารู้แล้วทำไงให้เค้าดีขึ้น รู้สึกดี ไม่ทรุดลง ........ ทุกคนดูจะขี้เกียดคิด ขี้เกียดหาวิธีในการโอบอุ้มคนไข้กันไปซะหมด กลัวจะไม่มีความสามารถพอในการโอบอุ้มความรู้สึก ...............เลยเลือกวิธี ปิดบังไปแบบนี้ ไปเรื่อยๆ (อย่าบอกๆๆๆเลย เด๋ยวรู้แล้วจะทรุดลง .... คำนี้ ถือว่าแย่มากในความรู้สึกดิฉัน).............. อย่างเคส จขกท รู้แล้ว ก็ทรุด ทุกคน ก็ดูจะพยายามโทษว่า "เนี่ยไม่น่าไปรู้เลย รู้แล้วก็ทรุด" โทษคนนั้น โทษคนนี้ผิดที่มาบอก..........มีใครบ้างไหมที่จะหาวิธีมาโอบอุ้มจิตใจคนไข้ หาธรรมมะ มาช่วย หรือ หา นั่นนี่ พูดคุยต่างๆนานาๆ เล่าเรื่องต่างๆ ... วิธี นึงไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีอื่น หาไปเรื่อยๆค่ะ ใช้หลายๆวิธี คนไข้ต้องดีขึ้นสักวิธี..........มัวมานั่งด่า นั่งโทษพยาบาล โทษนั่นนี่ อารมณ์เสียใส่คนนั้นคนนี้ คนไข้ มัน แย่มากค่ะ
ความลับคนไข้ ... คือสิ่งที่คนไข้ควรจะรู้ ... แต่บางทีไปแจ้งลูกแทน ห้ามไม่ให้บอกคนไข้ ...............บอกตรงๆรู้สึกผิด รู้สึกไม่ดี แต่ก็เห็นใจลูก เวลาแจ้งให้ลูกรู้ โดยไม่บอกตัวคนไข้เองว่าเป็นอะไร .......... เราอึดอัดใจมากค่ะ กับการไม่รักษาความลับคนไข้ เนื่องจากความเห็นใจลูก บอกลูกไม่บอกคนไข้ จริงๆก็ถือว่าผิดนะ
คนไข้ก็จะถามว่าเป็นอะไร............... เรา "ห้ามโกหก" ......... เราก็จะบอกว่า "ถามลูกเอาเอง"
คนไข้ถาามว่า สรุปเป็นแค่ ตับอักเสบไม่มาก ใช่ไหมหมอ เห็นลูกบอกมา.......... เราก็จะพูดซ้ำว่า "ถามลูกเอาเอง" ........ คนไข้ก็จะถามเราซ้ำๆอีก เราก็จะใช้มุก เงียบ ไม่ตอบ .........บางคนก็ด่าเราแทนว่า ทำไมไม่ตอบ นิสัยไม่ดี (เราผิดอะไรหรอ ถึงมาด่าเรา ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด)
เราเบื่อกับการต้องมาตอบคำถามอะไรแบบนี้
คนไข้ มักต้องการ ได้ยิน จาก "ปากหมอ" ว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ..............จาก "ปากลูก" เค้าไม่ได้เชื่อมากหรอกค่ะ .........ทุกเคสของดิฉัน ถึงลูกจะโกหกบอกโรคที่ไม่ร้ายแรงแล้ว แต่คนไข้ก็ต้องมาถามดิฉัน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า .............. ดิฉัน "ห้ามโกหก" มัน "ห้ามทำ" ได้แต่ นิ่ง เงียบ....... คนไข้ก็จะไม่สบายใจไปตลอด ว่า "ตัวเอง เป็นโรคอะไรกันแน่" เพราะ "เค้าไม่เชื่อปากลูก " ต้องการคำพูดจาก "ปากหมอ"
พอ คนไข้ถามเซ้าซี้บ่อยๆๆๆๆๆ ---ลูกหลายๆคน ก็จะมาขอให้หมอ "หลอก"คนไข้หน่อย ว่าเป็นนั่นนี่ ที่ไม่ร้ายแรง ----- ขอเถอะค่ะ ใครที่เคยทำ หยุดทำได้แล้วนะคะ .... พูดโกหก "ห้ามทำค่ะ"
ตามที่เรียนมา คือ การแจ้งข่าวร้ายกับคนไข้ ........... แต่เด๋ยวนี้จะให้แจ้งข่าวร้ายกับ ญาติคนไข้
การที่รู้ความจริง ประเมินระยะเวลาในชีวิตที่เหลือได้ จะได้รุ้ว่าทำอะไรดี มีอะไรที่อยากทำอีกไหม
ตัวอย่างของบุคคลที่ ดิฉัน ปลื้มที่สุด คือ ดาราฮ่องกงที่ชื่อ anita mui เธอ รู้ว่า เป็น มะเร็ง รู้ว่าอยู่ได้อีกกี่เดือน เธอรีบจัดคอนเสิรต ครั้งสุดท้ายเพื่ออำลาแฟนเพลง ว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย จะไปจริงๆแล้ว พูดความในใจ ทำในสิ่งที่อยากทำทั้งหมด ใส่ชุดแต่งงานที่ไม่เคยจะได้ใส่ เธอก็จากไปหลังคอนเสิรต ครั้งสุดท้ายใน อีก ไม่กี่เดือน
ดิฉันบอกเลย เบื่อกับเรื่องอะไรแบบนี้มากๆเลย
พอเถอะค่ะ กับการปิดบังไม่ให้คนไข้รู้ ..... ทุกวันต้องมีเรื่องแบบนี้ ..... เราควรจะบอกเค้า ให้รับรู้ความจริง แล้วหาทางในการโอบอุ้มความรู้สึกของคนไข้ ช่วยให้คนไข้เปลี่ยนทัศนคติในความคิด ให้มีกำลังใจมากขึ้น คนไข้มองในแง่บวกมากขึ้น (โรคมีแต่แง่ลบ แต่สามารถใช้ชีวิตให้บวกได้ค่ะ)
***ดิฉันคิดมาตลอดว่า การไม่บอกคนไข้ เป็นการเห็นแก่ตัวอย่างนึงของ ญาติ ... ทำไมถึงคิดแบบนั้นรู้ไหมคะ ... เพราะว่า ญาติบางคนคิดแค่ว่า บอกแล้ว เค้าทรุดลง จะทำยังไงหล่ะ ...............นี่หล่ะค่ะ คือ คิดแค่กลัวเค้าทรุดลง ......... ไม่มีการช่วยกันคิด ช่วยกันหาวิธีว่า ถ้าเค้ารู้แล้วทำไงให้เค้าดีขึ้น รู้สึกดี ไม่ทรุดลง ........ ทุกคนดูจะขี้เกียดคิด ขี้เกียดหาวิธีในการโอบอุ้มคนไข้กันไปซะหมด กลัวจะไม่มีความสามารถพอในการโอบอุ้มความรู้สึก ...............เลยเลือกวิธี ปิดบังไปแบบนี้ ไปเรื่อยๆ (อย่าบอกๆๆๆเลย เด๋ยวรู้แล้วจะทรุดลง .... คำนี้ ถือว่าแย่มากในความรู้สึกดิฉัน).............. อย่างเคส จขกท รู้แล้ว ก็ทรุด ทุกคน ก็ดูจะพยายามโทษว่า "เนี่ยไม่น่าไปรู้เลย รู้แล้วก็ทรุด" โทษคนนั้น โทษคนนี้ผิดที่มาบอก..........มีใครบ้างไหมที่จะหาวิธีมาโอบอุ้มจิตใจคนไข้ หาธรรมมะ มาช่วย หรือ หา นั่นนี่ พูดคุยต่างๆนานาๆ เล่าเรื่องต่างๆ ... วิธี นึงไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีอื่น หาไปเรื่อยๆค่ะ ใช้หลายๆวิธี คนไข้ต้องดีขึ้นสักวิธี..........มัวมานั่งด่า นั่งโทษพยาบาล โทษนั่นนี่ อารมณ์เสียใส่คนนั้นคนนี้ คนไข้ มัน แย่มากค่ะ
ความลับคนไข้ ... คือสิ่งที่คนไข้ควรจะรู้ ... แต่บางทีไปแจ้งลูกแทน ห้ามไม่ให้บอกคนไข้ ...............บอกตรงๆรู้สึกผิด รู้สึกไม่ดี แต่ก็เห็นใจลูก เวลาแจ้งให้ลูกรู้ โดยไม่บอกตัวคนไข้เองว่าเป็นอะไร .......... เราอึดอัดใจมากค่ะ กับการไม่รักษาความลับคนไข้ เนื่องจากความเห็นใจลูก บอกลูกไม่บอกคนไข้ จริงๆก็ถือว่าผิดนะ
คนไข้ก็จะถามว่าเป็นอะไร............... เรา "ห้ามโกหก" ......... เราก็จะบอกว่า "ถามลูกเอาเอง"
คนไข้ถาามว่า สรุปเป็นแค่ ตับอักเสบไม่มาก ใช่ไหมหมอ เห็นลูกบอกมา.......... เราก็จะพูดซ้ำว่า "ถามลูกเอาเอง" ........ คนไข้ก็จะถามเราซ้ำๆอีก เราก็จะใช้มุก เงียบ ไม่ตอบ .........บางคนก็ด่าเราแทนว่า ทำไมไม่ตอบ นิสัยไม่ดี (เราผิดอะไรหรอ ถึงมาด่าเรา ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด)
เราเบื่อกับการต้องมาตอบคำถามอะไรแบบนี้
คนไข้ มักต้องการ ได้ยิน จาก "ปากหมอ" ว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ..............จาก "ปากลูก" เค้าไม่ได้เชื่อมากหรอกค่ะ .........ทุกเคสของดิฉัน ถึงลูกจะโกหกบอกโรคที่ไม่ร้ายแรงแล้ว แต่คนไข้ก็ต้องมาถามดิฉัน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า .............. ดิฉัน "ห้ามโกหก" มัน "ห้ามทำ" ได้แต่ นิ่ง เงียบ....... คนไข้ก็จะไม่สบายใจไปตลอด ว่า "ตัวเอง เป็นโรคอะไรกันแน่" เพราะ "เค้าไม่เชื่อปากลูก " ต้องการคำพูดจาก "ปากหมอ"
พอ คนไข้ถามเซ้าซี้บ่อยๆๆๆๆๆ ---ลูกหลายๆคน ก็จะมาขอให้หมอ "หลอก"คนไข้หน่อย ว่าเป็นนั่นนี่ ที่ไม่ร้ายแรง ----- ขอเถอะค่ะ ใครที่เคยทำ หยุดทำได้แล้วนะคะ .... พูดโกหก "ห้ามทำค่ะ"
ตามที่เรียนมา คือ การแจ้งข่าวร้ายกับคนไข้ ........... แต่เด๋ยวนี้จะให้แจ้งข่าวร้ายกับ ญาติคนไข้
การที่รู้ความจริง ประเมินระยะเวลาในชีวิตที่เหลือได้ จะได้รุ้ว่าทำอะไรดี มีอะไรที่อยากทำอีกไหม
ตัวอย่างของบุคคลที่ ดิฉัน ปลื้มที่สุด คือ ดาราฮ่องกงที่ชื่อ anita mui เธอ รู้ว่า เป็น มะเร็ง รู้ว่าอยู่ได้อีกกี่เดือน เธอรีบจัดคอนเสิรต ครั้งสุดท้ายเพื่ออำลาแฟนเพลง ว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย จะไปจริงๆแล้ว พูดความในใจ ทำในสิ่งที่อยากทำทั้งหมด ใส่ชุดแต่งงานที่ไม่เคยจะได้ใส่ เธอก็จากไปหลังคอนเสิรต ครั้งสุดท้ายใน อีก ไม่กี่เดือน
ความคิดเห็นที่ 20
พวกที่บอกแต่ญาติ แต่ไม่บอกคนไข้น่ะ ผิดกฎหมาย
ข้อมูลผู้ป่วย ผู้ป่วยมีสิทธิรู้แต่เพียงผู้เดียว
การจะบอกญาติต้องขออนุญาตผู้ป่วยก่อนเท่านั้น
มิฉะนั้นถือว่าผิดฐานเปิดเผยความลับผู้ป่วย
ยกเว้น เด็ก ศาลสั่ง หรือไม่บอกจะเป็นอันตราย
แต่การบอกข้อมูลกับผู้ป่วยเอง โดยเฉพาะข่าวร้าย
ก้มีเทคนิควิธีการอยู่ แต่การเศร้าเสียใจโกรธผิดหวัง
เป็นเรื่องธรรมดา
ข้อมูลผู้ป่วย ผู้ป่วยมีสิทธิรู้แต่เพียงผู้เดียว
การจะบอกญาติต้องขออนุญาตผู้ป่วยก่อนเท่านั้น
มิฉะนั้นถือว่าผิดฐานเปิดเผยความลับผู้ป่วย
ยกเว้น เด็ก ศาลสั่ง หรือไม่บอกจะเป็นอันตราย
แต่การบอกข้อมูลกับผู้ป่วยเอง โดยเฉพาะข่าวร้าย
ก้มีเทคนิควิธีการอยู่ แต่การเศร้าเสียใจโกรธผิดหวัง
เป็นเรื่องธรรมดา
ความคิดเห็นที่ 3
แน่ใจนะครับว่าคนที่คุยเป็นพยาบาล เห็นอยู่เรื่อยๆว่าญาติไม่รู้ว่าคนที่มาคุยด้วยคือหมอ
กรณีแรก คนที่บอกเป็นหมอ ไม่มีความผิดอะไรครับ และ ญาติควรเป็นคนที่ควรไปรอข้างนอกครับ ความลับผู้ป่วย ผู้ป่วยเป็นคนตัดสินใจไม่ใช่ญาติ
กรณีที่สอง คนที่บอกเป็นพยาบาลจริงๆ อาจจะไม่ถูกต้องซึ่งคงต้องไปดูอีกว่ามีความผิดในเรื่องใดหรือไม่ ซึงการแจ้งเรื่องมะเร็งนั้นไม่ใช่ความผิดแต่การแจ้งผลการตรวจนั้นอาจเป็นการทำเกินหน้าที่
ดังนั้นแล้วหลายๆคนที่อาจเข้ามาอ่านคงพอเข้าใจนะครับเวลาถามพยาบาลอะไรเขาถึงไม่อยากบอกเพราะมันเป็นสิ่งที่ควรบอกโดยหมอครับ
กรณีแรก คนที่บอกเป็นหมอ ไม่มีความผิดอะไรครับ และ ญาติควรเป็นคนที่ควรไปรอข้างนอกครับ ความลับผู้ป่วย ผู้ป่วยเป็นคนตัดสินใจไม่ใช่ญาติ
กรณีที่สอง คนที่บอกเป็นพยาบาลจริงๆ อาจจะไม่ถูกต้องซึ่งคงต้องไปดูอีกว่ามีความผิดในเรื่องใดหรือไม่ ซึงการแจ้งเรื่องมะเร็งนั้นไม่ใช่ความผิดแต่การแจ้งผลการตรวจนั้นอาจเป็นการทำเกินหน้าที่
ดังนั้นแล้วหลายๆคนที่อาจเข้ามาอ่านคงพอเข้าใจนะครับเวลาถามพยาบาลอะไรเขาถึงไม่อยากบอกเพราะมันเป็นสิ่งที่ควรบอกโดยหมอครับ
ความคิดเห็นที่ 1
ที่พยาบาลทำไม่ผิดกฏหมาย แต่ผิดจริยธรรมในการแจ้งข้อมูลผู้ป่วย
ร้องเรียนได้ค่ะ เพื่อเกิดการปรับปรุง แต่เพื่อให้ถูกลงโทษ คงไม่มี
เรื่องการบอกข้อมูล ได้แก่การวินิจฉัยโรค การแจ้งผลการตรวจต่างๆ
โดยทั่วไป โรงพยาบาลกำหนดให้แพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยเป็นผู้แจ้ง
โรงพยาบาลนี้อาจจะอนุญาตให้พยาบาลแจ้งได้ หรืออย่างไร
แต่วิธีการแจ้งข้อมูลของพยาบาลผู้นี้ ไม่ถูกต้องแน่นอน
สมควรที่ผู้บริหารรพ.แห่งนั้น จะได้รับทราบ เพื่อการทบทวน และปรับปรุงวิธีการ
ร้องเรียนได้ค่ะ เพื่อเกิดการปรับปรุง แต่เพื่อให้ถูกลงโทษ คงไม่มี
เรื่องการบอกข้อมูล ได้แก่การวินิจฉัยโรค การแจ้งผลการตรวจต่างๆ
โดยทั่วไป โรงพยาบาลกำหนดให้แพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยเป็นผู้แจ้ง
โรงพยาบาลนี้อาจจะอนุญาตให้พยาบาลแจ้งได้ หรืออย่างไร
แต่วิธีการแจ้งข้อมูลของพยาบาลผู้นี้ ไม่ถูกต้องแน่นอน
สมควรที่ผู้บริหารรพ.แห่งนั้น จะได้รับทราบ เพื่อการทบทวน และปรับปรุงวิธีการ
แสดงความคิดเห็น
พ่อตรวจพบเชื้อมะเร็งพยาบาลบอกผลตรวจต่อหน้าพ่อว่าเป็นมะเร็งร้องเรียนได้ไหมคะ?
ท้องเสีย มีมูกเลือดปน และมีอาการอ่อนเพลีย และมีโรคประจำตัวด้วยคือโรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดสมอง แพทย์ได้ทำการบล็อกหลังเพื่อทำการส่องกล้องดูที่ทวารหนัก และทางปาก พบเนื้องอกในลำไส้ใหญ่ จึงได้ทำการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจและให้รอฟังผล เมื่อตอนช่วงสายๆที่ผ่านมาพยาบาลได้มาแจ้งผลการตรวจชิ้นเนื้อที่เตียงผู้ป่วยว่าเป็นมะเร็งนะซึ่งทางคุณแม่ของเพื่อนบอกว่าขอไปคุยกันข้างนอกได้ไหมเพราะไม่อยากให้พ่อได้รู้แต่พยาบาลได้ปฎิเสธบอกว่าคนไข้หูหนวกไม่ได้ยินที่บอกหรอก หลังจากได้ทราบผลคุณพ่อของเพื่อน
ท่านเสียใจมากร้องไห้ตลอดเวลา ไม่กินข้าว ไม่พูดกับใคร และท่านก็ขยับตัวไม่ได้ช่วงล่าง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้พูดไม่เป็นคำต้องให้ญาติป้อนข้าวให้ เช็ดตัวให้ เนื่องจากท่านเป็น
อัมพฤกษ์ด้วย พยาบาลได้มาคุยกับญาติให้ทำการผ่าตัดเอาเนื้องอก โดยเร็ว แต่ทางญาติขอเลื่อนไปก่อนเนื่องจากพ่อยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นอนติดเตียง พยาบาลจึงแจ้งว่าถ้ายัง
ไม่ผ่าให้กลับไปนอนพักฟื้นที่บ้าน ถ้าจะผ่าแล้วค่อยกลับมาใหม่ ในกรณีอยากรบกวนถามเพื่อนๆพี่ในพันทิปว่าในกรณีนี้ที่ พยาบาลเอาความลับผู้ป่วยมาเปิดเผยต่อหน้าผู้ป่วยทำให้
ผู้ป่วยเสียใจ และมีแนวโน้มอาการทรุดลงเราสามารถที่จะร้องเรียนพยาบาลคนนี้ได้ไหมคะ.ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบค่ะ