เรื่องนี้เป็นปัญหา ของการเพิกถอนความเป็นทาสพุทธศาสน์ของมนุษย์ ... ดำเนินการไม่ได้ผล ... เรียนพุทธศาสตร์ล้มเหลว ... เลิกล้มพุทธศาสน์ ... ประกาศปัจเจกพุทธะ ทิ้งพุทธภาระแห่งภัทรบรรพ์กัปป์ไว้เท่านี้ ... สร้างความเท่าเทียมกันสู่ผลอันไพบูลย์ อาศัยมรรคาในช่วงว่างระหว่างพุทธันดร ไว้เป็นแหล่งพำนักภูมิปฏิภาณบำเพ็ญ ไม่ขอเลี้ยวกลับสู่ศาสนาที่ต้องการศาสดาอีกต่อไป ไม่ขอเป็นทาส ไม่ขอเป็นศาสดา ไม่ขอเป็นสาวก .

...........................
19 มกราคม 2558 

ทิ้งไป ! รัตนะใดรัตนะหนึ่ง ให้คงเหลือไว้เพียง 2 รัตนะ ตามความเป็นจริง.


ใน " ภัทรกัปป์ " กำหนดช่วงเวลาพุทธบรรพ์ ที่พระโคตมะ 5,000 ปีปัจจุบัน นั่นแหละ ตปุสสะและภัลลิกะ เป็นพี่น้องที่ร่วมกันเดินทางค้าขายผ่านมาน้อมความเลื่อมใสด้วยข้าวสัตตุก้อนแก่องค์ภควาผู้เสด็จบรรหารบรรพกิจ แล้วขอปฎิญาณตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนะ ทั้ง 2 คือพระพุทธ และพระธรรม (ขยายความดังพรรณนา ดังนี้.)

การน้อมนับรับเอา ที่เมื่อเข้าใจแล้ว เราควรจะต้องทิ้ง ด้วยสมมุติแห่ง รัตนะ

1.) หาก ทิ้งชาติ  ไทยก็ควรสละกองทัพ ให้แก่ สหประชาชาติ หรือภูมิภาคระดับอาเซียนเป็นผู้ดูแลแก้ไข
2.) หาก ทิ้งศาสนา  ประชาชนควรล้มเลิกการสนับสนุน การบวชเป็นนักบวชด้วยกรณีอันเนื่องมาจากการยอมตนเป็นสาวก
3.) หาก ทิ้งพระมหากษัตริย์  ประเทศไทย จะต้องยอมให้พระกษัตริยราชของแผ่นดิน อยู่ในฝ่ายบรรเทิงคดีและคงความเป็นเพียงมงกุฏแห่งสัญลักษณ์เท่านั้น

^{หมายเหตุ *} หากตัดใจทิ้งรัตนะส่วนเกินไปมิได้ ก็อย่าเผลอหลงไปในรัตนะที่ผิดในข้อใดข้อหนึ่ง ใน 3 รัตนะนั้น

_{สำคัญว่า ถึงรัตนะทั้ง 2 ถึงจุดหมาย , ประกอบด้วยรัตนะทั้ง 3 เป็นความเนิ่นช้า . ดังพรรณนามาแล้วแต่ต้น.(..)}


นอกจาก นิรุติปถบท ส่วนที่แสดงนี้ คือ ส่วนของความเข้าใจ ที่ไม่แอบแฝงความคิดเรื่องการเป็นสาวก และเป็นส่วนของความที่จะไม่ต้องระทมทุกข์พร้อมคำเว้าวอนขอให้มีศาสนา เพราะเป็นเรื่อง พุทธนิยม ให้เป็นเรื่องพุทธศาสตร์การศึกษาทั่วๆไป ย่อมจะดีกว่า แต่ส่วนมากนักศาสนาทั้งสิ้น รวมถึงนักบวชปัจจุบัน มักไม่ส่งเสริมในจุดนี้ เหตุที่นักศาสนาไม่นิยมนั้น เพราะเข้าใจผิดไปในทำนองว่า ความจริงเรื่องพุทธบรรพ์ในกาล 5,000 ปี จะไม่เป็นไปตามพุทธะกำหนด เนกขัมมะธรรมที่ไม่ต้องดำเนินการว่าด้วยการศาสนา จริงๆ พาไปสู่ภูมิพระปัจเจกได้ ส่วนนี้มักไม่ถูกสนับสนุนให้สาธยาย ทั้งที่สติปัญญาผู้คนในยุคปัจจุบันว่างพอที่จะใช้ชีวิตแบบไม่ต้องเป็นเจ้านาย และไม่ต้องมีข้ารับใช้ ทุกอย่างเป็นพุทธภาระกิจ พระโคตมเอง ในตลอดอนันตกาล พระองค์ทรงกำหนดเพียง 5 พันปี เป็นพุทธพยากรณ์ พุทธะพระองค์อื่นๆ อาจกำหนดมากกว่านี้ เท่านี้ก็รู้แล้ว ไม่ต้องเชิญชวน ข้าพเจ้าก็ต้องสมัครไปสู่ปัจเจกพุทธภูมิ สถานเดียวเท่านั้น ไม่หวังอย่างอื่น


" ก็เรื่องรัตนะนั้น โลกย่อมคงความเป็น รัตนะทั้ง 7 ไว้โดยความเป็นสังสารวัฏฏ์อยู่แล้ว มิได้แนะไว้ ว่า ต้องเลือก  เอกรัตนะ คือโพธิปัญญารู้แจ้ง ณ โพธิบัลลังก์ รัตนะเดียวเท่านั้น แต่คงหมายถึงกรณีย์ของการปฏิบัติตน ว่ามีอยู่เพียง 2 อย่าง ตามธรรมดาของการบำเพ็ญความประพฤติ "


ดังนี้. การพรรณนา เรื่อง รัตนะ 2 รัตนะ ก็เช่นเดียวกัน


Credit : http://kwunk-log-cabin1.blogspot.com