[CR] ฝรั่งเศสแดนกว้างขวาง จะขอเดินบนทางแห่งรัก [Paris,Normandiè],France Part 3.

และแล้ว ก็ต้องกราบสวัสดีทุกท่าน นานาสวัสดี วันนี้ก็เป็น ตอนที่ 3 แล้วครับ
เรายังคงอยู่ นอร์มันดี ( Normandië ) กันครับ
วันนี้เราจะพามาชมของกิน บะหมี่เค้ก
เห้ย ผิดหมวด ยิ้ม เราจะพาชมสมบัติ 1 ใน ยูเนสโก้กันครับ เยี่ยม แอบบอกให้ สิ่งนี้คือโบสถ์ นั่นเอง

มากันเลยครับ เริ่มจาก
ต้องเอาน้อง หมา สุนัข เค้าเรียก ( Tutu ) คิดว่าแปลว่าสุนัขมั้ง  ไปฝากไว้ที่ห้อง พ่อ-แม่เค้า เพราะเราจะขอเที่ยว แต่เดี๋ยวกลับมาเล่นด้วยนะ น้องหมาแสนน่ารัก

น่ารักใช่ไหม ?  เราไปครั้งแรก ไม่ดุ แถมเราลูบหัวจนมันติดเราเลย แบบเดินไปไหนเดินตาม ส่วนตัวเรารักน้องหมาอยู่แล้ว

ทีนี้ ก่อนอีกต้องบอกว่า เวลาที่ ฝรั่งเศส ต่างกับไทย 6 ชม. โดยประมาณ คือ บ้านเค้า + 6 = บ้านเรา หรือ บ้านเรา - 6 = บ้านเค้า
เหตุใดเหตุนั้น จึงเกิดเหตุการณ์ดีดีขึ้นมา ด้วยความไม่ชินเวลานั้นเอง  ผมตื่น ตี 4-6 โมงเช้า ของเวลาบ้านเค้า เกือบทุกวัน และวันนี้ก็เป็นวันที่

มืดมาก เพราะ ตื่นเช้าเกิน แต่ มองให้ลึกลงไปครับ

คือวันที่ผมได้เห็นหิมะกับตา นั่นเองครับ ถามว่าดีใจไหมดีใจมาก แต่ ออกไปข้างนอก เดินต้องระวังมากๆ

และต้องบอกว่า ยังคงตุน คิทแคท เพราะเวลาตื่นเช้า หาไรกินไม่ได้ เพราะเช้าเกิน ก็มีแต่คิทแคท ที่ช่วยรองท้อง

ยังซื้อน้ำกลับมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ตอนนั้น อันนี้คือน้ำ ลิปตัน เหมือนบ้านเรา สิ่งที่ต่างคือ อัดแก๊ส ( ผมอยากลอง )
แล้วก็พบว่า ไม่ชอบ เพราะปกติ กินน้ำไม่มีแก๊ส  555 ซื้อมาทำไมนะ?
และเมื่อสายๆ ก็ได้พบว่า

แดดส่องมาและหิมะกำลังละลายเป็นน้ำแล้ว
หลังจากนั้น เราก็อาบน้ำแปรงฟันสระผมล้างหน้าตัดเล็บทำผมทำสปา เห้ย ไม่ใช่
เราก็ออกไปเที่ยวกัน โดยมี รถ เป็นพาหนะ นั่นเอง



อันนี้เราสามารถมองเห็น ส่วนนึงของมหาสมุทร แอตแลนติก นั่นเอง สวยงามมากๆ แม้จะมีแดดส่อง แต่ก็ยังคงความหนาวไว้กับน้ำทะเล

หลังจากนั้น ก็ได้เวลาที่ต้องทานข้าว ไม่งั้นผมคงตาย หิวมากๆแถมเป็นโรคกะเพาะด้วย
เราเลยแวะมาที่ร้าน

บัฟฟาโล่ กิล  หรือ ควายย่าง เห้ย ไม่ใช่
ร้านแบบนี้ในฝรั่งเศสมีค่อนข้างมากเลยครับ ดึกๆหลังคาจะเปิดไฟ แล้วเป็นรูป เขาควาย ไฟสีแดงๆ
เมื่อเข้ามาเราก็พบกับ

คาวบอย อันนี้น่าจะเป็นร้านผสมแบบ อเมริกัน กับ ฝรั่งเศส หรือเปล่า มั่วนะ???
และเมื่อสั่งอาหารไป สิ่งแรกที่มาต้องเป็น

สลัด จำได้ว่าอันนี้ ฟรี ไม่คิดตังค์นั่นเอง เมื่อทานเสร็จ เราก็ออกจากร้าน เห้ย เราต้องต่อด้วยอาหารหลักๆ

ข้าวพร้อม แซลมอนย่างรมควัน คู่กับซอสครีม อร่อยเหาะ เกาะพื้นไม่อยู่เลยครับ
เมื่อทานเสร็จ ทั้งคู่ก็ต่อด้วยขนมหวาน มาดูขนมหวานที่ฝรั่งสั่งก่อนครับ ( ผมไม่รู้ชื่อขนมนะ )

เขาตักให้ผมชิมด้วยครับ ก็อร่อยดีนะ แล้วก็ถึงตาขนมหวานผมมั้งละครับ

นั่นก็คือ แพนเค้ก สามแผ่น + ไอติมวานิลา อร่อยดีครับ แต่ผมทาน แพนเค้ก 1 + ไอติม ก็เพียงพอแล้ว
แล้วก็ได้เวลาเที่ยวต่อ  อ่อ หน้าร้านนี้มีที่ให้ถ่ายรูปคู่กับเสา โตเต็ม ( Totem ) ด้วยนะครับ

เราก็ถ่ายสิ แคร์อะไร แดดส่องหรือหนาว อย่าไปกลัว เก็บภาพรัวๆดีกว่า
หลังจากนั้น ก็คือเวลาที่จะพาไปชม หนึ่งในสมบัติยูเนสโก้ละครับ
เอ้ โบสถ์อะไรกันนะ???  ให้ดูภาพไกลๆก่อน ใกล้ถึงแล้ว อีกนิดๆ

บางคนน่าจะร้อง อ่อ แต่บางคนน่าจะไม่รู้จัก  นั่นคือ Mont Saint Michel เองครับ ที่นี่มีความพิเศษมากๆ
เพราะตอนเช้า น้ำทะเลจะหาย ตอนเย็นตกค่ำน้ำทะเลจะมาล้อมโบสถ์ แต่เค้าทำสะพานให้เราเดินได้ครับ คิดว่ามาสร้างตอนหลังๆ เพื่อการเข้าชมที่ง่าย

เมื่อมาถึง อ่อ เดินไปไม่แน่ใจได้ป่าว แต่ระหว่างที่จอดรถไป นี่ค่อนข้างไกล เรียกว่าเดินขาลากเลยครับ เพี้ยนเพลีย แต่ เค้ามี Shuttle Bus ฟรีนั่นเองครับ
เราก็มาขึ้นชัตเตอร์ลบัสครับ

ใกล้ถึงแล้วครับ

ในที่สุดก็ ถึงแล้ววว เย้ๆ

สวยงามมากๆเลยมีแดดนิดในช่วงกลางวัน

อยู่ข้างหน้าเลย จะพาทุกท่านไปชมแล้วนะ มาครับ เดินตามมาเลย

นี่ไง ลองอ่านดู เห็นคำนั้นไหม  L'U.N.E.S.C.O เดานะครับ L' = The เดาจริงๆ หากใครพอจะอ่านออกหรือรู้ ก็บอกด้วยครับ
เดินเข้ามาเจอป้าย เดินต่อมาอีก นิดครับ แล้วเลี้ยวซ้ายมานะครับ

มีประตูเข้า เข้าไปจะเป็นยังไงน้าาา
มาชมข้างในกันเลยค้าบบ


เห็นแล้วมีความรู้สึกเจ็บปวดเลยครับ


อันนี้เค้ามาวางเทียนกันครับ สวยงามมากๆ

อีกมุมมองนะครับ

แล้วก็พบ แล้วครับ แต่สามารถถ่ายได้ใกล้สุดแค่นี้ เค้ากั้นเชือกไว้ครับ

แล้วผมก็เดินไปวางเทียนด้วย อ่อใส่เงินในกล่องก่อนหยิบเทียนนะครับ ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าบริจาคได้ไหม? เพราะฝรั่งเค้าใส่แล้วหยิบมาให้ผม

นี่อีกภาพจากบานกระจก แต่ผมชอบสีสันของบานแรกมากกว่าสวยกว่าในความคิดผมนะ ลืมบอกครับ PAIX = Peace ครับ
แล้วก็เดินออกมา ไปต่อกันเลยครับ

เจอแบบนี้ ตั้งอยู่ ไม่สามารถเข้าไปได้ครับ อยู่ซ้ายมือจากคนขึ้นบันไดครับ เค้าจัดสวยดี

แล้วก็หันหลังกลับไปจากบันไดที่ขึ้นมา โฮ สวยไรขนาดนี้ ยังกับฝันเลย
ต่อไป จะเข้าข้างในต้องซื้อตั๋วก่อนนะครับ มีคล้ายๆกับ รีโมทแปลภาษาด้วย แต่จ่ายเพิ่มมั้ง ภาษาที่มีก็ตามภาพเลยนะครับ แน่นอนไม่มีไทย


แล้วก็เดินขึ้นไปเรื่อยๆครับ แหม สวยงามจริงๆ ยิ่งสูงยิ่งหนาวนะครับ



อะถึงจุดนี้ ขอพักถ่ายรูปคู่กันก่อน แชะ แชะ แชะ
พาเดินต่อไปข้างในอีกครับ มากันเลย



เดินต่อมาห้องถัดไปครับ

ตรงนี้เป็นเหมือนที่ทำพิธีหรือเปล่านะครับ ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าใช่

ห้องถัดไปอีกครับ

ในภาพนี้คือมาบน เกือบสุดแล้วมั้ง ตรงหญ้าสีขาวเพราะหิมะปกคลุมนะครับ

ภาพนี้ถ้าจำไม่ผิดเหมือนเป็นโรงอาหารนะครับ

เดินลงไปถัดไปพบกับ ผนังครับ แต่สวยดี

เดินไปห้องถัดไปจะเจอรูปปั้น พระแม่ครับ
แล้วก็ไปไหนต่อจำไม่ได้ แต่เริ่มเย็นแล้ว ก็เตรียมตัวกลับ ที่นี้เดินออกมาก็พบว่า มืดแล้วครับ เอาเป็นว่าไปชมภาพเลยดีกว่า


ตอนดึกๆจะเริ่มมีเปิดไฟ แสงต่างๆ จะสวยงามมากครับ

อ่อซื้อคุกกี้มาด้วยครับ จำราคาไม่ได้น่าจะตกกล่องละ 400 บาทไทย โดยประมาณ แต่ชิมดูแล้ว อร่อยครับ
ที่นี้ก็จบ Mont Saint Michel แล้ว  แถมภาพสวยๆจากวิวบนนั้นครับ พอดีชอบมากๆครับ


ทีนี้ก็จบไปอีกพาร์ทแล้วนะครับ ตอนนี้ก็ได้เห็น Mont Saint Michel กันแล้ว ไว้พบกันต่อ พาร์ท 4 ครับ
อ่อ มีแอบหนีไปโรม มา 3 วันด้วย ไว้จะมารีวิวนะครับ

ติดตามย้อนได้นะครับ
Part 1 : http://ppantip.com/topic/33051524
Part 2 : http://ppantip.com/topic/33096928
ชื่อสินค้า:   France, Normandie
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่