เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรง เล่าสู่กันฟัง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เมื่อต้นปีที่แล้ว เราได้รู้จักกับ ผช คนหนึ่ง ทางอินเตอร์เนต ในเว็บ okcupid.com ซึ่งเป็นเว็บหาคู่
ต่อไปนี้จะเรียกแทน ผช คนนี้ว่า บ
ใน profile บ มีรูปเค้าขี่จักรยาน mountain bike ไม่เห็นหน้า
บ แนะนำตัวว่า เค้าแต่งงาน มีลูกแล้ว ต้องการหาเพื่อนหญิงคุยด้วย
ส่วนตัวภรรยาของ บ ก็ทำอย่างเดียวกัน คือลงประกาศ หาเพื่อนชาย คุยแก้เหงา (ต่อไปจะเรียกภรรยาว่า ย)
ย ก็มี profile ในเว็บนี้เช่นกัน และเช่นเดียวกับ บ ย ไม่เปิดเผยหน้าตาของตัวเอง และเขียนแนะนำตัวเองว่า แต่งงานแล้ว ต้องการหาเพื่อนคุย
เราอ่านเจอเข้า เห็นว่าเป็นเคสที่น่าสนใจ เลยเขียนไปทัก บ สั้นๆว่า
สวัสดี บ เป็นอย่างไรบ้าง
มี ผญ มาคุยด้วยเยอะมั้ย
ผญ ส่วนใหญ่เค้าคิดยังไง ที่เธอแต่งงานแล้ว แต่มาประกาศหาคู่เนี่ย
บ เขียนตอบมาว่าถ้าเราอยากรู้รายละเอียด เค้าจะเล่าให้ฟัง
ปล. คุณสวยจัง (ข้อความที่เราส่งไป มีรูปจาก profile เราติดไปด้วย)
เราตอบไปว่า ถ้าไม่เสียเวลาเธอเกินไป เล่าให้ฟังหน่อย ปกติคนที่เราคุยด้วยคือหนุ่มโสดที่ต้องการหาคู่ เราไม่เคยคุยกับคนที่แต่งงานแล้วมาก่อน
บ ตอบกลับมา เล่าให้เราฟังว่า
ย กับ บ แต่งงานกันมานาน ชีวิตรักมันเริ่มไม่มีรสชาด
ย เลยอยากลองคุย ลองคบกับ ผช คนอื่นดูบ้าง
ย เสนอว่า เราสองคนน่าจะประกาศหาเพื่อนคุยด้วยในอินเตอร์เนต ชีวิตเราจะได้มีสีสันมากขึ้น เธอทำงานกลับดึกๆดื่นๆทุกวัน หัวค่ำลูกก็นอนแล้ว เวลาชั้นเหงา ชั้นจะได้มีเพื่อนคุย บ เห็นว่าก็ดีเหมือนกัน เวลาอยู่เวรดึกๆ ไม่มีอะไรทำ จะได้มีคนคุยด้วย ดังนั้น ทั้ง ย และ บ จึงประกาศหาคู่ หาเพื่อนคุยแก้เหงา ในเว็บไซท์ดังกล่าว
เราตอบไปว่า น่าสนใจดีเนอะ เธอชื่ออะไรล่ะ ทำงานอะไร เราชื่อ ว นะ ยินดีที่ได้รู้จัก ขอบคุณที่เล่าเรื่องให้ฟัง ส่งรูปเธอให้ดูหน่อยได้ป่ะ ชั้นอยากเห็นหน้าเธอ
เราเลยถือโอกาสเล่าเรื่องของเราให้ฟังบ้าง ย่อๆคือ เราเลิกกับสามี หย่ากันแล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน เพราะช่วยกันเลี้ยงลูก เราทำธุรกิจส่วนตัว มีบ้านให้เช่าและธุรกิจนำเข้าส่งออกเล็กๆแห่งหนึ่ง
บ ส่งรูปมา หน้าตาดีใช้ได้ เราให้ 8 เต็ม 10
บ เป็นฝรั่ง สูง 178 ผอมแต่มีกล้ามเนื้อ ดูแข็งแรงแบบนักกีฬา สุขภาพดี ฟันสะอาด แต่งตัวเนี้ยบมาก สะอาดสะอ้านตั้งแต่หัวจรดเท้า อายุ 35 หัวล้านนิดๆ (เราเป็นคนชอบสังเกตคนนะ เราดูหน้าตารูปลักษณ์ภายนอกก่อน นิสัยดูทีหลัง 555)
บ ส่งรูป ย มาด้วย เราแอบตกใจนิดนึง ย ตัวสูงใหญ่พอๆกับ บ สูงเกือบเท่า บ ผิวคล้ำ ผมหยิกขอด (พ่อแม่ของ ย มาจากประเทศปานามา) ย เป็น ผญ ผิวเข้ม หน้าตาธรรมดาๆ พอไปวัดไปวาได้
บ แต่งงานกับ ย ตั้งแต่อายุ 21 ทั้งคู่ ตอนนี้ 35 ทั้งคู่
ทั้งสองเรียนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นแฟนกันตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน ช่วยกันเรียน ช่วยกันติวจนจบพร้อมกัน
บ้าน บ และ ย เคร่งศาสนามาก พ่อ บ เป็นบาทหลวง (มิน่า บ เรียบร้อยมาก)
บ เป็นคนแรกและคนเดียวของ ย เช่นเดียวกับที่ ย เป็นคนเดียวของ บ
บ และ ย มีลูกด้วยกันสองคน คนนึงเป็นลูกแท้ๆ อีกคนนึงเป็นเด็กที่รับมาเลี้ยงจากแอฟริกา
เรื่องฐานะทางการเงินไม่ต้องพูดถึง ทั้ง บ และ ย ขยันทำงาน มีบ้านหลังใหญ่ รถหรู หมาแพง ครบสูตรคนรวย ฟังดู perfect เนอะ สำหรับเค้าสองคน แต่โลกนี้ ไม่มีอะไร perfect หรอก ขนาดคนที่มีเพียบพร้อมขนาดนี้ทั้งการงาน การเงิน ครอบครัวที่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก เค้ายังคิดว่าชีวิตเค้าขาดเลย
บ บอกว่า ต้องขอโทษด้วย ที่บอกชื่อจริงนามสกุลจริงไม่ได้ เพราะทั้งเค้าและภรรยา มีหน้าที่การงานที่คนรู้จักกว้างขวาง บ เป็นแพทย์และเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล (กรี๊ดดด ยังหนุ่มมาก) ส่วน ย เป็นหมอเด็ก อยู่โรงพยาบาลเดียวกัน
เราเกิดหมั่นไส้ บ ขึ้นมา เราเลยตอบ บ ไปว่า
อะไรเนี่ย แค่ถามชื่อก็ไม่บอก
หวาดระแวงขนาดนี้ ไม่ต้องมาคุยกันดีกว่า
ทีเรายังบอกชื่อจริง นามสกุลจริง บ เลย ไม่เคยคิดจะปิดบัง
ทำแบบนี้มันเหมือนไม่จริงใจอ่ะ
(จริงๆแล้วที่เราถามชื่อจริง เราจะเอาไป google ดูต่างหากล่ะ ว่าเค้าเป็นหมอจริงๆอย่างที่พูดไหม มิชฉาชีพสมัยนี้ มันมีเยอะ จะคุยกับใคร ต้องสืบประวัติก่อน)
บ ยอมจำนน บอกชื่อ นามสกุล ทั้งของตัวเองและของ ย ด้วย
เราเช็คประวัติเรียบร้อย เป็นจริงทุกอย่างตามที่บอก
โอเค คุยต่อได้ 555 (เรา google เช็คประวัติคนที่เราคุยด้วยเสมอนะ เพื่อความปลอดภัย กันไว้ดีกว่าแก้)
เรากับ บ คุยกันไปมาทางอีเมลได้เกือบเดือน เราค่อยๆเริ่มชอบ บ แบบไม่รู้ตัว บ ค่อยๆเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา เป็นคนที่เราคิดถึงก่อนนอน เป็นคนที่เราคิดถึงตอนตื่นลืมตาขึ้นมาตอนเช้า เป็นคนที่คุยกันถูกคอในหลายๆเรื่อง บ เป็นคนสุภาพ อ่อนโยน ปนขี้อาย เรารู้สึกดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคุณหมอ คอยป้อนคำหวาน เป็นห่วงเป็นใย ชีวิตช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่เรามีความสุขมาก
บ บอกเราว่า บ ไม่ได้คุยกับเราคนเดียว ยังมี ผญ เอเชียอีก 2-3 ที่ บ คุยด้วย แต่ บ บอกว่า ไม่ได้คุยสนิทด้วยเท่าเรา บ บอกว่า บ ชอบ ผญ เอเชียเป็นพิเศษ เพราะสมัย บ เด็กๆ บ เคยมีคนข้างบ้านเป็นครอบครัวคนญี่ปุ่น ตอนนั้นลูกสาวเค้าอายุ 14 บ อายุ 11 บ จำได้ว่า เด็ก ผญ ญี่ปุ่นคนนั้น เป็นเด็กผู้หญิงที่สวยน่ารักที่สุดเท่าที่ บ เคยเห็นมา หลังจากนั้น บ ก็หลงไหลในความงามของชาวเอเชียมาตลอด เราฟังแล้วเราแอบขำนะ เพราะเราเจอมาเยอะแล้ว ผช ฝรั่งที่ชอบผญ เอเชียมากๆเนี่ย มีให้เห็นอยู่ทั่วไปเลย
น่าแปลกตรงที่การที่ บ ไปคุยกับ ผญ คนอื่น มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกน้อยใจหรืออิจฉาอะไรเลย เรากลับรู้สึกว่าเราเป็นคนพิเศษคนเดียวของ บ เพราะทุกคำพูดของ บ มันฟังดูจริงใจมากๆ
บ เล่าให้ฟังว่า ในขณะเดียวกัน ย ก็มีเพื่อนชายที่คุยด้วยอยู่ 3-4 คน ตั้งแต่มีเพื่อนใหม่ ย ดูมีความสุขขึ้น อารมณ์ดีขึ้น เครียดน้อยลง ทั้ง บ และ ย คิดว่า การได้คุยกับคนอื่น ทำให้ชีวิตคู่ของ บ และ ย ดีขึ้น เราได้ยิน บ เล่าให้ฟังแบบนี้ เราก็ดีใจกับทั้งคู่ด้วย
เวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน บ ขอนัดเจอเรา บอกว่าจะขับรถมาหา เมืองที่เราอยู่ห่างจากเมืองที่ บ อยู่ 3 ชั่วโมง เราแอบตื่นเต้นที่จะได้เจอ บ เพราะตั้งแต่คุยกันมา เหมือนเรากับ บ ถูกชะตากัน ผูกพันธ์กันมาเนิ่นนาน ใจนึงก็คิดว่า ไม่ดีมั้ง เค้ามีภรรยาแล้ว คบกันยังไงก็ไม่มีอนาคตร่วมกันแน่นอน เราบอก บ ไปแบบนี้ บ บอกว่าขอแค่ได้เจอหน้า นั่งทานข้าวกับเราสักมื้อ เค้าก็มีความสุขแล้ว เค้าไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่านี้ เราไม่ตอบตกลง บ เลยเงียบไป
สองวันต่อมา บ ให้ ย โทรศัพท์มาหาเราแบบที่เราไม่ตั้งตัว ย พูดจาสุภาพ เป็นการเป็นงาน ย บอกว่า บ มีความสุขมากตั้งแต่มีเราเข้ามาในชีวิต ตอนนี้ บ อยากเจอเรามาก แค่อยากเห็นหน้าเรา ได้เจอตัวจริง ได้ทานข้าวด้วย แค่นี้จริงๆ ด้วยความที่ปฏิเสธคนไม่ค่อยเก่งแถมโดนทาบทามแบบไม่ตั้งตัวทางโทรศัพท์ เราเลยตอบตกลง
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
รักสามเส้า จากประสบการณ์จริง ไม่อิงนิยาย
เมื่อต้นปีที่แล้ว เราได้รู้จักกับ ผช คนหนึ่ง ทางอินเตอร์เนต ในเว็บ okcupid.com ซึ่งเป็นเว็บหาคู่
ต่อไปนี้จะเรียกแทน ผช คนนี้ว่า บ
ใน profile บ มีรูปเค้าขี่จักรยาน mountain bike ไม่เห็นหน้า
บ แนะนำตัวว่า เค้าแต่งงาน มีลูกแล้ว ต้องการหาเพื่อนหญิงคุยด้วย
ส่วนตัวภรรยาของ บ ก็ทำอย่างเดียวกัน คือลงประกาศ หาเพื่อนชาย คุยแก้เหงา (ต่อไปจะเรียกภรรยาว่า ย)
ย ก็มี profile ในเว็บนี้เช่นกัน และเช่นเดียวกับ บ ย ไม่เปิดเผยหน้าตาของตัวเอง และเขียนแนะนำตัวเองว่า แต่งงานแล้ว ต้องการหาเพื่อนคุย
เราอ่านเจอเข้า เห็นว่าเป็นเคสที่น่าสนใจ เลยเขียนไปทัก บ สั้นๆว่า
สวัสดี บ เป็นอย่างไรบ้าง
มี ผญ มาคุยด้วยเยอะมั้ย
ผญ ส่วนใหญ่เค้าคิดยังไง ที่เธอแต่งงานแล้ว แต่มาประกาศหาคู่เนี่ย
บ เขียนตอบมาว่าถ้าเราอยากรู้รายละเอียด เค้าจะเล่าให้ฟัง
ปล. คุณสวยจัง (ข้อความที่เราส่งไป มีรูปจาก profile เราติดไปด้วย)
เราตอบไปว่า ถ้าไม่เสียเวลาเธอเกินไป เล่าให้ฟังหน่อย ปกติคนที่เราคุยด้วยคือหนุ่มโสดที่ต้องการหาคู่ เราไม่เคยคุยกับคนที่แต่งงานแล้วมาก่อน
บ ตอบกลับมา เล่าให้เราฟังว่า
ย กับ บ แต่งงานกันมานาน ชีวิตรักมันเริ่มไม่มีรสชาด
ย เลยอยากลองคุย ลองคบกับ ผช คนอื่นดูบ้าง
ย เสนอว่า เราสองคนน่าจะประกาศหาเพื่อนคุยด้วยในอินเตอร์เนต ชีวิตเราจะได้มีสีสันมากขึ้น เธอทำงานกลับดึกๆดื่นๆทุกวัน หัวค่ำลูกก็นอนแล้ว เวลาชั้นเหงา ชั้นจะได้มีเพื่อนคุย บ เห็นว่าก็ดีเหมือนกัน เวลาอยู่เวรดึกๆ ไม่มีอะไรทำ จะได้มีคนคุยด้วย ดังนั้น ทั้ง ย และ บ จึงประกาศหาคู่ หาเพื่อนคุยแก้เหงา ในเว็บไซท์ดังกล่าว
เราตอบไปว่า น่าสนใจดีเนอะ เธอชื่ออะไรล่ะ ทำงานอะไร เราชื่อ ว นะ ยินดีที่ได้รู้จัก ขอบคุณที่เล่าเรื่องให้ฟัง ส่งรูปเธอให้ดูหน่อยได้ป่ะ ชั้นอยากเห็นหน้าเธอ
เราเลยถือโอกาสเล่าเรื่องของเราให้ฟังบ้าง ย่อๆคือ เราเลิกกับสามี หย่ากันแล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน เพราะช่วยกันเลี้ยงลูก เราทำธุรกิจส่วนตัว มีบ้านให้เช่าและธุรกิจนำเข้าส่งออกเล็กๆแห่งหนึ่ง
บ ส่งรูปมา หน้าตาดีใช้ได้ เราให้ 8 เต็ม 10
บ เป็นฝรั่ง สูง 178 ผอมแต่มีกล้ามเนื้อ ดูแข็งแรงแบบนักกีฬา สุขภาพดี ฟันสะอาด แต่งตัวเนี้ยบมาก สะอาดสะอ้านตั้งแต่หัวจรดเท้า อายุ 35 หัวล้านนิดๆ (เราเป็นคนชอบสังเกตคนนะ เราดูหน้าตารูปลักษณ์ภายนอกก่อน นิสัยดูทีหลัง 555)
บ ส่งรูป ย มาด้วย เราแอบตกใจนิดนึง ย ตัวสูงใหญ่พอๆกับ บ สูงเกือบเท่า บ ผิวคล้ำ ผมหยิกขอด (พ่อแม่ของ ย มาจากประเทศปานามา) ย เป็น ผญ ผิวเข้ม หน้าตาธรรมดาๆ พอไปวัดไปวาได้
บ แต่งงานกับ ย ตั้งแต่อายุ 21 ทั้งคู่ ตอนนี้ 35 ทั้งคู่
ทั้งสองเรียนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นแฟนกันตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน ช่วยกันเรียน ช่วยกันติวจนจบพร้อมกัน
บ้าน บ และ ย เคร่งศาสนามาก พ่อ บ เป็นบาทหลวง (มิน่า บ เรียบร้อยมาก)
บ เป็นคนแรกและคนเดียวของ ย เช่นเดียวกับที่ ย เป็นคนเดียวของ บ
บ และ ย มีลูกด้วยกันสองคน คนนึงเป็นลูกแท้ๆ อีกคนนึงเป็นเด็กที่รับมาเลี้ยงจากแอฟริกา
เรื่องฐานะทางการเงินไม่ต้องพูดถึง ทั้ง บ และ ย ขยันทำงาน มีบ้านหลังใหญ่ รถหรู หมาแพง ครบสูตรคนรวย ฟังดู perfect เนอะ สำหรับเค้าสองคน แต่โลกนี้ ไม่มีอะไร perfect หรอก ขนาดคนที่มีเพียบพร้อมขนาดนี้ทั้งการงาน การเงิน ครอบครัวที่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก เค้ายังคิดว่าชีวิตเค้าขาดเลย
บ บอกว่า ต้องขอโทษด้วย ที่บอกชื่อจริงนามสกุลจริงไม่ได้ เพราะทั้งเค้าและภรรยา มีหน้าที่การงานที่คนรู้จักกว้างขวาง บ เป็นแพทย์และเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล (กรี๊ดดด ยังหนุ่มมาก) ส่วน ย เป็นหมอเด็ก อยู่โรงพยาบาลเดียวกัน
เราเกิดหมั่นไส้ บ ขึ้นมา เราเลยตอบ บ ไปว่า
อะไรเนี่ย แค่ถามชื่อก็ไม่บอก
หวาดระแวงขนาดนี้ ไม่ต้องมาคุยกันดีกว่า
ทีเรายังบอกชื่อจริง นามสกุลจริง บ เลย ไม่เคยคิดจะปิดบัง
ทำแบบนี้มันเหมือนไม่จริงใจอ่ะ
(จริงๆแล้วที่เราถามชื่อจริง เราจะเอาไป google ดูต่างหากล่ะ ว่าเค้าเป็นหมอจริงๆอย่างที่พูดไหม มิชฉาชีพสมัยนี้ มันมีเยอะ จะคุยกับใคร ต้องสืบประวัติก่อน)
บ ยอมจำนน บอกชื่อ นามสกุล ทั้งของตัวเองและของ ย ด้วย
เราเช็คประวัติเรียบร้อย เป็นจริงทุกอย่างตามที่บอก
โอเค คุยต่อได้ 555 (เรา google เช็คประวัติคนที่เราคุยด้วยเสมอนะ เพื่อความปลอดภัย กันไว้ดีกว่าแก้)
เรากับ บ คุยกันไปมาทางอีเมลได้เกือบเดือน เราค่อยๆเริ่มชอบ บ แบบไม่รู้ตัว บ ค่อยๆเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา เป็นคนที่เราคิดถึงก่อนนอน เป็นคนที่เราคิดถึงตอนตื่นลืมตาขึ้นมาตอนเช้า เป็นคนที่คุยกันถูกคอในหลายๆเรื่อง บ เป็นคนสุภาพ อ่อนโยน ปนขี้อาย เรารู้สึกดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคุณหมอ คอยป้อนคำหวาน เป็นห่วงเป็นใย ชีวิตช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่เรามีความสุขมาก
บ บอกเราว่า บ ไม่ได้คุยกับเราคนเดียว ยังมี ผญ เอเชียอีก 2-3 ที่ บ คุยด้วย แต่ บ บอกว่า ไม่ได้คุยสนิทด้วยเท่าเรา บ บอกว่า บ ชอบ ผญ เอเชียเป็นพิเศษ เพราะสมัย บ เด็กๆ บ เคยมีคนข้างบ้านเป็นครอบครัวคนญี่ปุ่น ตอนนั้นลูกสาวเค้าอายุ 14 บ อายุ 11 บ จำได้ว่า เด็ก ผญ ญี่ปุ่นคนนั้น เป็นเด็กผู้หญิงที่สวยน่ารักที่สุดเท่าที่ บ เคยเห็นมา หลังจากนั้น บ ก็หลงไหลในความงามของชาวเอเชียมาตลอด เราฟังแล้วเราแอบขำนะ เพราะเราเจอมาเยอะแล้ว ผช ฝรั่งที่ชอบผญ เอเชียมากๆเนี่ย มีให้เห็นอยู่ทั่วไปเลย
น่าแปลกตรงที่การที่ บ ไปคุยกับ ผญ คนอื่น มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกน้อยใจหรืออิจฉาอะไรเลย เรากลับรู้สึกว่าเราเป็นคนพิเศษคนเดียวของ บ เพราะทุกคำพูดของ บ มันฟังดูจริงใจมากๆ
บ เล่าให้ฟังว่า ในขณะเดียวกัน ย ก็มีเพื่อนชายที่คุยด้วยอยู่ 3-4 คน ตั้งแต่มีเพื่อนใหม่ ย ดูมีความสุขขึ้น อารมณ์ดีขึ้น เครียดน้อยลง ทั้ง บ และ ย คิดว่า การได้คุยกับคนอื่น ทำให้ชีวิตคู่ของ บ และ ย ดีขึ้น เราได้ยิน บ เล่าให้ฟังแบบนี้ เราก็ดีใจกับทั้งคู่ด้วย
เวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน บ ขอนัดเจอเรา บอกว่าจะขับรถมาหา เมืองที่เราอยู่ห่างจากเมืองที่ บ อยู่ 3 ชั่วโมง เราแอบตื่นเต้นที่จะได้เจอ บ เพราะตั้งแต่คุยกันมา เหมือนเรากับ บ ถูกชะตากัน ผูกพันธ์กันมาเนิ่นนาน ใจนึงก็คิดว่า ไม่ดีมั้ง เค้ามีภรรยาแล้ว คบกันยังไงก็ไม่มีอนาคตร่วมกันแน่นอน เราบอก บ ไปแบบนี้ บ บอกว่าขอแค่ได้เจอหน้า นั่งทานข้าวกับเราสักมื้อ เค้าก็มีความสุขแล้ว เค้าไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่านี้ เราไม่ตอบตกลง บ เลยเงียบไป
สองวันต่อมา บ ให้ ย โทรศัพท์มาหาเราแบบที่เราไม่ตั้งตัว ย พูดจาสุภาพ เป็นการเป็นงาน ย บอกว่า บ มีความสุขมากตั้งแต่มีเราเข้ามาในชีวิต ตอนนี้ บ อยากเจอเรามาก แค่อยากเห็นหน้าเรา ได้เจอตัวจริง ได้ทานข้าวด้วย แค่นี้จริงๆ ด้วยความที่ปฏิเสธคนไม่ค่อยเก่งแถมโดนทาบทามแบบไม่ตั้งตัวทางโทรศัพท์ เราเลยตอบตกลง
(โปรดติดตามตอนต่อไป)