จากมติชนออนไลน์
เลขานุการรองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมญาติพี่น้องของนายชำนาญ สุจนะ ผู้ต้องหาในคดีใช้อาวุธปืนยิง จนท.องค์การคลังสินค้า(อคส.)ประจำอำเภอเเม่สอดเมื่อปี2553 มารอรับตัว หลังศาลฎีกา ได้อนุญาตปล่อยตัวสู้คดี ท่ามกลางดีใจของญาติพี่น้อง หลังออกจากเรือนจำ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 12 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก นายธิตินัย พาติกบุตร เลขานุการ ของ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้นำคำสั่งศาลของจังหวัดแม่สอด มาเพื่อขอปล่อยตัว นายชำนาญ สุจนะ ผู้ต้องหาในคดีใช้อาวุธปืนยิง จนท.องค์การคลังสินค้า(อคส).ประจำอำเภอเเม่สอดเมื่อปี2553 แล้วตำรวจแม่สอดจับกุมนายชำนาญ สุจนะ ว่าเป็นคนร้ายในคดีนี้ และถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิต จึงถูกจำคุกที่เรือนจำกลางพิษณุโลก ตั้งเเต่ต้นปี 2557 เเละอยู่ระหว่างสู้คดีในชั้นฎีกา
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2557 นางอุบล แก้วกันยา พี่สาวของนายชำนาญฯ ได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ช่วยเหลือ และตั้งชุดสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดีนี้ จนพบว่านายชำนาญฯ ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด เนื่องจากได้นำตัวนายชำนาญฯไปตรวจร่างกายจึงพบว่ามือนายชำนาญฯ พิการทั้ง 2 ข้าง เนื่องจากถูกเครื่องบดการเกษตรตัดตั้งเเต่ ปี 2542 เเพทย์ก็ยืนยันว่ามือของนายชำนาญอ่อนเเรง ไม่สามารถใช้การได้ตามปกติ อีกทั้งสายตาก็สั้นมากต้องสวมใส่เเว่นตาตลอดเวลา
จากนั้นได้ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์จำลองเหตุการณ์วิถีกระสุนที่ยิงผู้ตายโดยให้นายชำนาญฯ ทดลองยิง และผลก็ออกมาว่า นายชำนาญฯ ไม่สามารถจะยิงตามวิถีกระสุนดังกล่าวได้ เนื่องจากวิถีกระสุนถูกยิงกดลงมาจากความสูงจากคนสูงประมาณ 180 ซม.แต่นายชำนาญมีความสูงเพียง 156 ซม. ประกอบกับยังมีพยานที่เป็นเจ้าของร้านอาหารที่นายชำนาญฯไปรับประทานอาหารในคืนเกิดเหตุในช่วงเวลาเกิดเหตุ ยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุยิงกัน นายชำนาญฯยังรับประทานอาหารอยู่ที่ร้าน จากนั้นได้ส่งมอบผลการสืบสวนให้ญาติของนายชำนาญฯ และทนายความได้นำพยานหลักฐานใหม่นี้เสนอขอยื่นประกันตัวและขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานในชั้นฎีกา เมื่อปลายปี2557 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2558 ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ประกันตัวนายชำนาญฯ ตามหลักฐานที่กระทรวงยุติธรรมเสนอมา
ด้านนางอุบล แก้วกัลยา อายุ 41 ปี พี่สาวผู้ต้องหา กล่าวว่า หลังจากตนและครอบครัวได้เข้าร้องเรียนต่อท่านรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เรื่องคดีของน้องชาย ทางกระทรวงยุติธรรมได้ส่งทีมงามลงมาดูแลเรื่องคดีจนมาสามารถหาหลักฐานยืนยันว่าน้องชายไม่สามารถก่อเหตุฆ่ากรรมได้เนื่องจากมือทั้งสองข้างเคนเกิดประสบอุบัติเหตุคงไม่สามารถใช้อาวุธปืนได้โดยในวันนี้ได้ขอยืนหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นศาลฎีกาในวงเงิน5ล้านบาท หลังจากออกจากเรือนจำจะพาน้องชายไปทำบุญลดน้ำมนต์ที่วัดดอยโตน บ้านน้ำดิบ ต.แม่กาสา อ.แม่สอด ทันที
ทางด้านนายคมหาญ ไปสุวรรณ์ ทนายความจำเลย เปิดเผยวา วันนี้ ตนเองพร้อมกับญาติของนายชำนาญ ได้ไปขอยื่นประกันตัวกับศาลฎีกา โดยนำหลักฐานจากการตรวจร่างกายและผลนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันว่านายชำนาญ ไม่ได้เป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวโดยศาลรับคำร้องและอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 5 ล้านบาท เพื่อปล่อยตัวชั่วคราว
นายชำนาญ หลังจากถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำกลางพิษณุโลกแล้ว ได้โผล่เข้ากอดลูกๆ พ่อและแม่ และภรรยา ที่เข้ามารอรับอยู่หน้าเรือนจำ พร้อมกับกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองต้องขอขอบคุณทางรองปลัดกระทรวงเป็นอย่างมาก และดีใจที่ได้รับการปล่อยตัวออกพบกับพ่อแม่พี่น้องภรรยาและลูก ก่อนจะเดินทางกลับ อ.แม่สอด จ.ตาก ทันที
ร่ำไห้! ศาลฎีกาให้ประกันสู้คดี หนุ่มมือพิการ หลักฐานใหม่ชี้ไม่ใช่มือยิงอคส.ดับ!
เลขานุการรองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมญาติพี่น้องของนายชำนาญ สุจนะ ผู้ต้องหาในคดีใช้อาวุธปืนยิง จนท.องค์การคลังสินค้า(อคส.)ประจำอำเภอเเม่สอดเมื่อปี2553 มารอรับตัว หลังศาลฎีกา ได้อนุญาตปล่อยตัวสู้คดี ท่ามกลางดีใจของญาติพี่น้อง หลังออกจากเรือนจำ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 12 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก นายธิตินัย พาติกบุตร เลขานุการ ของ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้นำคำสั่งศาลของจังหวัดแม่สอด มาเพื่อขอปล่อยตัว นายชำนาญ สุจนะ ผู้ต้องหาในคดีใช้อาวุธปืนยิง จนท.องค์การคลังสินค้า(อคส).ประจำอำเภอเเม่สอดเมื่อปี2553 แล้วตำรวจแม่สอดจับกุมนายชำนาญ สุจนะ ว่าเป็นคนร้ายในคดีนี้ และถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิต จึงถูกจำคุกที่เรือนจำกลางพิษณุโลก ตั้งเเต่ต้นปี 2557 เเละอยู่ระหว่างสู้คดีในชั้นฎีกา
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2557 นางอุบล แก้วกันยา พี่สาวของนายชำนาญฯ ได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ช่วยเหลือ และตั้งชุดสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดีนี้ จนพบว่านายชำนาญฯ ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด เนื่องจากได้นำตัวนายชำนาญฯไปตรวจร่างกายจึงพบว่ามือนายชำนาญฯ พิการทั้ง 2 ข้าง เนื่องจากถูกเครื่องบดการเกษตรตัดตั้งเเต่ ปี 2542 เเพทย์ก็ยืนยันว่ามือของนายชำนาญอ่อนเเรง ไม่สามารถใช้การได้ตามปกติ อีกทั้งสายตาก็สั้นมากต้องสวมใส่เเว่นตาตลอดเวลา
จากนั้นได้ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์จำลองเหตุการณ์วิถีกระสุนที่ยิงผู้ตายโดยให้นายชำนาญฯ ทดลองยิง และผลก็ออกมาว่า นายชำนาญฯ ไม่สามารถจะยิงตามวิถีกระสุนดังกล่าวได้ เนื่องจากวิถีกระสุนถูกยิงกดลงมาจากความสูงจากคนสูงประมาณ 180 ซม.แต่นายชำนาญมีความสูงเพียง 156 ซม. ประกอบกับยังมีพยานที่เป็นเจ้าของร้านอาหารที่นายชำนาญฯไปรับประทานอาหารในคืนเกิดเหตุในช่วงเวลาเกิดเหตุ ยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุยิงกัน นายชำนาญฯยังรับประทานอาหารอยู่ที่ร้าน จากนั้นได้ส่งมอบผลการสืบสวนให้ญาติของนายชำนาญฯ และทนายความได้นำพยานหลักฐานใหม่นี้เสนอขอยื่นประกันตัวและขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานในชั้นฎีกา เมื่อปลายปี2557 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2558 ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ประกันตัวนายชำนาญฯ ตามหลักฐานที่กระทรวงยุติธรรมเสนอมา
ด้านนางอุบล แก้วกัลยา อายุ 41 ปี พี่สาวผู้ต้องหา กล่าวว่า หลังจากตนและครอบครัวได้เข้าร้องเรียนต่อท่านรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เรื่องคดีของน้องชาย ทางกระทรวงยุติธรรมได้ส่งทีมงามลงมาดูแลเรื่องคดีจนมาสามารถหาหลักฐานยืนยันว่าน้องชายไม่สามารถก่อเหตุฆ่ากรรมได้เนื่องจากมือทั้งสองข้างเคนเกิดประสบอุบัติเหตุคงไม่สามารถใช้อาวุธปืนได้โดยในวันนี้ได้ขอยืนหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นศาลฎีกาในวงเงิน5ล้านบาท หลังจากออกจากเรือนจำจะพาน้องชายไปทำบุญลดน้ำมนต์ที่วัดดอยโตน บ้านน้ำดิบ ต.แม่กาสา อ.แม่สอด ทันที
ทางด้านนายคมหาญ ไปสุวรรณ์ ทนายความจำเลย เปิดเผยวา วันนี้ ตนเองพร้อมกับญาติของนายชำนาญ ได้ไปขอยื่นประกันตัวกับศาลฎีกา โดยนำหลักฐานจากการตรวจร่างกายและผลนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันว่านายชำนาญ ไม่ได้เป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวโดยศาลรับคำร้องและอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 5 ล้านบาท เพื่อปล่อยตัวชั่วคราว
นายชำนาญ หลังจากถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำกลางพิษณุโลกแล้ว ได้โผล่เข้ากอดลูกๆ พ่อและแม่ และภรรยา ที่เข้ามารอรับอยู่หน้าเรือนจำ พร้อมกับกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองต้องขอขอบคุณทางรองปลัดกระทรวงเป็นอย่างมาก และดีใจที่ได้รับการปล่อยตัวออกพบกับพ่อแม่พี่น้องภรรยาและลูก ก่อนจะเดินทางกลับ อ.แม่สอด จ.ตาก ทันที