เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 11 มกราคม ร.ต.อ.หญิง จีรนันท์ ทองช่างเหล็ก พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สทล.1กก.8 บก.ทล.) รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันและชนที่กั้นขอบถนนมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาเข้า กทม. ช่วง กม.ที่ 1+900 จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์หรู ยี่ห้อเฟอร์รารี่ รุ่น 360 สีแดง ทะเบียน สฬ 7 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับเยินหงายท้องพาดกับขอบปูนกั้นถนนมอเตอร์เวย์ ทำให้แผงเหล็กที่กั้นบนขอบปูนดังกล่าวพังเสียหาย 2 ช่อง ใกล้กันพบรถยนต์เก๋งโตโยต้ายาริส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ฌฎ 4943 กรุงเทพมหานคร เป็นรอยขูดฝั่งขวา ด้านหน้าพังยับ กันชนหน้าหลุดออก ยางหน้าแตกทั้งสองเส้น ที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยซึ่งเป็นคนขับรถเฟอร์รารี่ คือนายจิรภัทร ตั้งอภิวัฒนา อายุ 25 ปี ทายาทนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีอาการเจ็บที่หน้าอก เพื่อนช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลปิยะเวท แพทย์ตรวจรักษาไม่ได้รับบาดเจ็บอันตรายจึงอนุญาตให้กลับ จากนั้นก็เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ที่ สทล.1 กก.8 บก.ทล.
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุรถหรูเฟอร์รารี่ขับไล่หลังกันมากับรถยนต์หรูปอร์เช่ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน โดยวิ่งมาด้วยความเร็วสูง แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถคันหน้าได้เบรคกระทันหัน ทำให้ทั้งรถปอร์เช่และรถเฟอร์รารี่ที่ไล่หลังมาต้องเบรคและหักหลบอย่างกระทันหัน โดยรถเฟอร์รารี่ไม่สามารถบังคับรถได้พยายามหักหลบแต่ไม่พ้น ทำให้เฉี่ยวชนรถปอร์เช่เล็กน้อย แล้วไปเบียดชนกับรถยนต์เก๋งโตโยต้ายาริส ก่อนรถจะเสียหลักหมุนฟาดเข้ากับที่กั้นขอบทาง
ด้านร.ต.อ.หญิง จีรนันท์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ขับขี่รถยนต์เฟอร์รารี่ยอมรับว่าขับรถมาด้วยความเร็ว ซึ่งจะเดินทางกลับบ้านแต่รถคันข้างหน้าเกิดเบรคกระทันหัน ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ จึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว โดยจะให้ทางประกันมาชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคู่กรณีทุกคัน รวมถึงความเสียหายของทรัพย์สินทางราชการ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบแล้วว่ารถหรูคันดังกล่าวซื้อมาอย่างถูกต้อง ไม่ใช่รถจดประกอบหรือรถสวมทะเบียน ขณะเดียวกันอุบัติเหตุดังกล่าวคู่กรณีไม่ได้รับบาดเจ็บ และมีการตกลงจะชดให้ค่าเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นและทรัพย์สินทางราชการเสียหาย ปรับเป็นเงิน 1 พันบาท แล้วปล่อยตัวกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติของนายจิรภัทรซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถเฟอร์รารี่พยายามขอร้องสื่อมวลชนไม่ให้นำเสนอภาพหรือทำข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากกลัวว่าทางบ้านจะรับรู้ เพราะไม่ต้องการให้พ่อกับแม่รู้เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าไม่ใช่คนดังอะไร แค่อุบัติเหตุธรรมดา ไม่มีคนเจ็บหรือเป็นอันตราย มีเพียงรถกับทรัพย์สินทางราชการเสียหาย ซึ่งยินดีชดใช้ให้ทั้งหมด ขณะเดียวกันได้กันไม่ให้คู่กรณีให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว โดยจะบริการพาไปส่งที่บ้าน ส่วนรถที่พังจะดำเนินการให้ประกันซ่อมให้ โดยจะให้รถมายกไปซ่อมในตอนเช้า ซึ่งระหว่างที่รถซ่อมอยู่นั้นจะนำรถที่บ้านมาให้คู่กรณีใช้งานไปก่อน
http://bit.ly/1B7WlDl
หนุ่มทายาทนักธุรกิจ อสังหาฯ ซิ่งเฟอร์รารี่เสียหลัก ชนแนวกั้นบนมอเตอร์เวย์
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุรถหรูเฟอร์รารี่ขับไล่หลังกันมากับรถยนต์หรูปอร์เช่ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน โดยวิ่งมาด้วยความเร็วสูง แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถคันหน้าได้เบรคกระทันหัน ทำให้ทั้งรถปอร์เช่และรถเฟอร์รารี่ที่ไล่หลังมาต้องเบรคและหักหลบอย่างกระทันหัน โดยรถเฟอร์รารี่ไม่สามารถบังคับรถได้พยายามหักหลบแต่ไม่พ้น ทำให้เฉี่ยวชนรถปอร์เช่เล็กน้อย แล้วไปเบียดชนกับรถยนต์เก๋งโตโยต้ายาริส ก่อนรถจะเสียหลักหมุนฟาดเข้ากับที่กั้นขอบทาง
ด้านร.ต.อ.หญิง จีรนันท์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ขับขี่รถยนต์เฟอร์รารี่ยอมรับว่าขับรถมาด้วยความเร็ว ซึ่งจะเดินทางกลับบ้านแต่รถคันข้างหน้าเกิดเบรคกระทันหัน ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ จึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว โดยจะให้ทางประกันมาชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคู่กรณีทุกคัน รวมถึงความเสียหายของทรัพย์สินทางราชการ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบแล้วว่ารถหรูคันดังกล่าวซื้อมาอย่างถูกต้อง ไม่ใช่รถจดประกอบหรือรถสวมทะเบียน ขณะเดียวกันอุบัติเหตุดังกล่าวคู่กรณีไม่ได้รับบาดเจ็บ และมีการตกลงจะชดให้ค่าเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นและทรัพย์สินทางราชการเสียหาย ปรับเป็นเงิน 1 พันบาท แล้วปล่อยตัวกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติของนายจิรภัทรซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถเฟอร์รารี่พยายามขอร้องสื่อมวลชนไม่ให้นำเสนอภาพหรือทำข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากกลัวว่าทางบ้านจะรับรู้ เพราะไม่ต้องการให้พ่อกับแม่รู้เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าไม่ใช่คนดังอะไร แค่อุบัติเหตุธรรมดา ไม่มีคนเจ็บหรือเป็นอันตราย มีเพียงรถกับทรัพย์สินทางราชการเสียหาย ซึ่งยินดีชดใช้ให้ทั้งหมด ขณะเดียวกันได้กันไม่ให้คู่กรณีให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว โดยจะบริการพาไปส่งที่บ้าน ส่วนรถที่พังจะดำเนินการให้ประกันซ่อมให้ โดยจะให้รถมายกไปซ่อมในตอนเช้า ซึ่งระหว่างที่รถซ่อมอยู่นั้นจะนำรถที่บ้านมาให้คู่กรณีใช้งานไปก่อน http://bit.ly/1B7WlDl