ผมอยู่หอพักแห่งหนึ่งย่านพระราม ๗ ครับ ก็เป็นหอพักขนาดปานกลาง มีที่จอดรถ ๓ คัน โดยเป็นที่จอดรถแบบเช่ารายเดือนครับ เสียเดือนละ ๔๐๐ บาท
เพื่อความสะดวกส่วนบุคคล ผมจึงทำการเช่าที่จอด โดยผู้จัดการหอพักในขณะนั้น ได้จัดให้ผมจอดในที่จอดแบบในร่ม (ซึ่งมีที่เดียว อีกสองที่เป็นแบบตากแดด) และหลังจากนั้นไม่นานก็มีคนมาเช่าที่จอดตากแดด (รถฮอนด้า) โดยจะมีป้ายบอกเลขทะเบียนรถที่จอด ณ บริเวณจอดรถนั้นๆ บอกเลยว่าใครเป็นคนเช่าที่จอดรถนี้ ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี สงบสุข
.
.
.
ช่วงหลังๆมาก็จะมี เด็ก นศ.ป.โท คนนึง เอารถมาแอบเข้ามาจอดบ้าง ซึ่งก็เจอบ่อยๆ แต่ว่า ณ ตอนนั้น ผู้จัดการหอพักทำงานได้ดีมาก ไม่ยอมให้มีการแอบจอดได้เลย คือ จอดได้ไม่เกิน ๑๐ นาที เค้าก็จะมาเชิญให้ไปจอดที่อื่น เพราะเค้ารู้ว่าผมทำงานไม่เป็นเวลา มีเข้าๆออกๆตลอด ซึ่งจุดนี้ผมรู้สึกขอบคุณผู้จัดการมากที่คอยจัดการเรื่อง แอบจอด ได้ดีมาก ไม่รวมเรื่องเสียงดังรบกวน วางรองเท้าหน้าห้อง ฯลฯ เค้าจัดการได้ดีทุกอย่าง หอพักสงบสุข มีระเบียบมากครับ
.
.
ต่อมา ผู้จัดการหอพักคนนี้ ได้ลาออกไปเพราะเห็นว่ามีปัญหากับเจ้าของหอพัก เจ้าของหอฯจึงได้เข้ามาบริหารจัดการเอง ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาต่างๆนานา ที่ผมจะสาธยายครับ
.
หลังจากไม่มีผู้จัดการหอฯเจ้าระเบียบคนนั้น ไอ้เจ้าเด็ก ป.โท คนเดิม มันก็เอารถเข้ามาจอดที่จอดรถผมบ่อยขึ้น ซึ่งผมก็แนะนำเค้าไปว่าให้เอารถไปจอดที่ลานจอดปากซอย ห่างออกไป ๓๐ เมตร เสียเดือนละ ๔๐๐ บาท เท่ากัน แล้วอธิบายกับมันว่าผมเข้าออกไม่เป็นเวลา จะมาจอดตรงนี้ไม่ได้ ซึ่งมันก็รับปากว่า "ครับ" แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะทำตามหรือไม่
,
รถฮอนด้าที่เค้ามาเช่าจอดในที่จอดรถหอก็มีการขับออกไปบ้าง จอดสองสามวันบ้าง สลับกันไป แต่ปัญหามันเริ่มเกิด เมื่อไอ้เด็ก ป.โท มันเริ่มมาบ่น บางครั้งโวยวายกับป้าแม่บ้าน ว่า "ไอ้รถฮอนด้าเนี่ย ทำไมมันไม่ออกไปข้างนอกบ้าง จอดแช่มาเป็นเดือนละ ผมเอารถผมมาจอดไม่ได้เลย" ซึ่งป้าแม่บ้านก็บอกมันว่า ที่จอดเนี่ยเค้าเช่าไว้ เค้าจะจอดทั้งปีทั้งชาติก็จอดได้ ตราบใดที่เค้าจ่ายค่าเช่า ซึ่งหลังจากป้าอธิบายมันไป เด็ก ป.โท ก็เหมือนกับมีท่าทีไม่พอใจ
.
จากนั้น ถ้าวันไหนรถฮอนด้าออกไปข้างนอก ไอ้เด็ก ป.โท คนนี้ก็จะเข้ามาจอดเสียบ จากนาที เป็นชั่วโมง และเป็นข้ามคืน ซึ่งบางครั้งเจ้าของฮอนด้าเค้าก็ต้องคอยมาบอกให้ไอ้เด็ก ป.โท มาย้ายรถเป็นประจำ ซึ่งผมก็ไม่สนใจอะไร เพราะตราบใดที่มันไม่มาจอดที่ผม ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะไม่อยากมีเรื่อง คนอยู่ร่วมกันครับ
.
มาพักหลังเจ้าของรถฮอนด้าคงย้ายออกไปอยู่ที่อื่น (ไม่รู้เพราะว่าทนไอ้เด็กนี่ไม่ไหวรึเปล่า) ก็เลยเป็นเวลาทองของไอ้เด็ก ป.โท มันก็เข้ามาทำการจับจอง จอดรถข้ามวันข้ามคืน อย่างออกหน้าออกตา ซึ่งผมก็สงสัยและถามป้าแม่บ้าน ว่าน้องเค้าเช่าแล้วหรือไง แต่คำตอบคือ ไม่ได้เช่า ป้าบอกมันแล้ว แต่มันไม่ยอมไปติดต่อเช่า มันบอกว่า มันไม่ได้มาจอดทุกวัน เลยไม่เช่า
แต่ที่ผมเห็นทุกวัน (เพราะผมออกจากที่พักไปทำงานเช้า) คือ ไอ้เด็กคนนี้มันมาจอด "ทุกวัน" เป็นเวลาสองเดือนแล้ว อาจจะมีบ้างวันที่มันดีงเกมส์ ไปจอดข้างนอกซอย ขวางชาวบ้าน เพื่อทำให้ดูเหมือนว่า มันไม่ได้มาจอดทุกวัน แต่นับคร่าวๆ คือ ต้องมีการจอดอย่างน้อย ๑๕ วันต่อเดือน โดยมีหลักฐานคือ กล้องวงจรปิดหน้าที่จอดรถ
.
ช่วงนั้น ผมมีลูกค้าแวะเข้ามาหาถึงหอพัก ตกวันละคัน ซึ่งทำให้มีใครบางคน complained ว่ามีรถเข้าออกมากเสียงดัง เค้าไม่ชอบเลยไปแจ้งเจ้าของหอพัก ซึ่งเค้าก็เข้ามาทำนองต่อว่าผม ว่าเห็นแก่ตัว เอาที่จอดรถมาทำธุรกิจบ้างล่ะ เสียงดังบ้างล่ะ ผมก็ไม่ได้เถียงอะไร เพราะป้าแม่บ้านมาพูดแก้ต่างให้ว่า ผมไม่ได้ทำเสียงดัง แต่เสียงดังมาจากห้องเด็กที่มันชอบเปิดเพลงดังๆต่างหาก แต่เจ้าของหอก็มาพูดว่าถ้ามีคนเข้ามาจอดอีกก็ต้องเสียค่าเช่าเพิ่มอีก ผมก็เลยถามกลับว่า แล้วทีไอ้เด็ก ป.โท นั่นมาจอดฟรีๆเป็นเดือนๆ ไม่เห็นไปเอาค่าเช่ากับมันบ้างล่ะ เจ้าของหอถึงกับไปไม่เป็น เดินหนีไปฟอร์มทำทีสั่งงานลุงช่างประจำหอฯ ซะงั้น
.
จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังต้องจ่ายค่าเช่าที่จอดรถ (แม้ว่าผมจะจอดรถประมาณ ๒๐ วันต่อเดือน เพราะผมมีห้องคอนโดฯอีกห้องแถวบางกระปิ) ทั้งๆที่ไอ้เด็ก ป.โท นั่นมันก็ยังมาแอบจอดมาเกือบ ๔ เดือนแล้ว แถมตอนนี้ยังมีคนห้องอื่น ที่ซื้อรถแล้วเอามาจอดแบบเดียวกับไอ้เด็ก ป.โท นี่ อารมณ์คือซื้อรถแต่ไม่มีตังค์จ่ายค่าที่จอดว่างั้น! ซึ่งมันก็แปลกดีที่ว่า พอมีคนมาถามกับเจ้าของเพื่อจะจอด ก็จะโดนบังคับให้จ่ายค่าเช่า (ซึ่งค่าเช่าจะขึ้นมาในบิลค่าเช่าห้อง) แต่เจ้าของหอฯกลับทำเป็นตาบอด เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ เวลาพวกแอบจอด (เป็นเดือน)(ข้ามวันข้ามคืน) เอารถมาจอด ก็กลายเป็นว่าพวกมันมาจอดฟรี แถมบางวันยังจอดได้เลวมาก คือ จอดปิดทางออกรถผม ซึ่งคนที่ต้องออกจากที่พักแต่เช้าเพื่อไปทำงานไกลๆคงเข้าใจดีว่า เวลาที่คุณต้องรีบออกตัวล้อหมุน ๖.๐๐ น. แล้วมีรถจอดขวาง แล้วต้องรอเกือบๆ ๑๐ นาที มันเป็นยังไง กว่าจะย้ายรถกันได้ ผมออกมารถก็ติดกันพอดี จากที่จะใช้เวลาแค่ ๑ ชั่วโมงในการเดินทาง กลับกลายต้องใช้เวลาเพิ่มอีกอย่างน้อย ๓๐ นาที คิดเวลาและเชื้อเพลิงที่เสียแต่ละครั้ง มันน่าอึดอัดใจ
,
ถามว่า ทำไมต้องทนอยู่ห้องนี้ คำตอบ ณ ตอนนี้คือ เป็นจุดที่สะดวกในการเดินทางไปทำงานกว่าคอนโดฯที่บางกระปิ ครับ และราคาห้องก็ถูก หลักๆคือเรื่องการเดินทางไปทำงานครับ
,
หลักๆคือ ผมติดใจในการบริหารจัดการที่พักของเจ้าของหอครับ คือ แทนที่จะเข้ามาทำให้ดีขึ้น แต่ผมบอกได้ครับ ว่าทุกอย่างมันแย่ลง นี่ไม่รวมเรื่อง คนชอบเอารองเท้าเหม็นๆมาวางหน้าห้อง, พูด/ทะเลาะ/ร้องเพลง ทำอะไรเสียงดังกลางดึก, ตำน้ำพริกด้วยครกหินบนชั้น ๔ ตอนห้าทุ่ม เป็นต้น
.
เลยอยากถามความเห็นว่า ถ้าเป็นท่านผู้อ่าน ท่านจะมีแนวทางอย่างไรในการแก้ไข ปัญหานี้ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้มาจนถึง ณ บัดนี้ครับ
ด้วยความอึดอัดเล็กน้อยถึงปานกลาง
หอพักที่มีการจัดการแปลกๆ การเช่าที่จอดรถที่ไม่เป็นธรรม
เพื่อความสะดวกส่วนบุคคล ผมจึงทำการเช่าที่จอด โดยผู้จัดการหอพักในขณะนั้น ได้จัดให้ผมจอดในที่จอดแบบในร่ม (ซึ่งมีที่เดียว อีกสองที่เป็นแบบตากแดด) และหลังจากนั้นไม่นานก็มีคนมาเช่าที่จอดตากแดด (รถฮอนด้า) โดยจะมีป้ายบอกเลขทะเบียนรถที่จอด ณ บริเวณจอดรถนั้นๆ บอกเลยว่าใครเป็นคนเช่าที่จอดรถนี้ ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี สงบสุข
.
.
.
ช่วงหลังๆมาก็จะมี เด็ก นศ.ป.โท คนนึง เอารถมาแอบเข้ามาจอดบ้าง ซึ่งก็เจอบ่อยๆ แต่ว่า ณ ตอนนั้น ผู้จัดการหอพักทำงานได้ดีมาก ไม่ยอมให้มีการแอบจอดได้เลย คือ จอดได้ไม่เกิน ๑๐ นาที เค้าก็จะมาเชิญให้ไปจอดที่อื่น เพราะเค้ารู้ว่าผมทำงานไม่เป็นเวลา มีเข้าๆออกๆตลอด ซึ่งจุดนี้ผมรู้สึกขอบคุณผู้จัดการมากที่คอยจัดการเรื่อง แอบจอด ได้ดีมาก ไม่รวมเรื่องเสียงดังรบกวน วางรองเท้าหน้าห้อง ฯลฯ เค้าจัดการได้ดีทุกอย่าง หอพักสงบสุข มีระเบียบมากครับ
.
.
ต่อมา ผู้จัดการหอพักคนนี้ ได้ลาออกไปเพราะเห็นว่ามีปัญหากับเจ้าของหอพัก เจ้าของหอฯจึงได้เข้ามาบริหารจัดการเอง ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาต่างๆนานา ที่ผมจะสาธยายครับ
.
หลังจากไม่มีผู้จัดการหอฯเจ้าระเบียบคนนั้น ไอ้เจ้าเด็ก ป.โท คนเดิม มันก็เอารถเข้ามาจอดที่จอดรถผมบ่อยขึ้น ซึ่งผมก็แนะนำเค้าไปว่าให้เอารถไปจอดที่ลานจอดปากซอย ห่างออกไป ๓๐ เมตร เสียเดือนละ ๔๐๐ บาท เท่ากัน แล้วอธิบายกับมันว่าผมเข้าออกไม่เป็นเวลา จะมาจอดตรงนี้ไม่ได้ ซึ่งมันก็รับปากว่า "ครับ" แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะทำตามหรือไม่
,
รถฮอนด้าที่เค้ามาเช่าจอดในที่จอดรถหอก็มีการขับออกไปบ้าง จอดสองสามวันบ้าง สลับกันไป แต่ปัญหามันเริ่มเกิด เมื่อไอ้เด็ก ป.โท มันเริ่มมาบ่น บางครั้งโวยวายกับป้าแม่บ้าน ว่า "ไอ้รถฮอนด้าเนี่ย ทำไมมันไม่ออกไปข้างนอกบ้าง จอดแช่มาเป็นเดือนละ ผมเอารถผมมาจอดไม่ได้เลย" ซึ่งป้าแม่บ้านก็บอกมันว่า ที่จอดเนี่ยเค้าเช่าไว้ เค้าจะจอดทั้งปีทั้งชาติก็จอดได้ ตราบใดที่เค้าจ่ายค่าเช่า ซึ่งหลังจากป้าอธิบายมันไป เด็ก ป.โท ก็เหมือนกับมีท่าทีไม่พอใจ
.
จากนั้น ถ้าวันไหนรถฮอนด้าออกไปข้างนอก ไอ้เด็ก ป.โท คนนี้ก็จะเข้ามาจอดเสียบ จากนาที เป็นชั่วโมง และเป็นข้ามคืน ซึ่งบางครั้งเจ้าของฮอนด้าเค้าก็ต้องคอยมาบอกให้ไอ้เด็ก ป.โท มาย้ายรถเป็นประจำ ซึ่งผมก็ไม่สนใจอะไร เพราะตราบใดที่มันไม่มาจอดที่ผม ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะไม่อยากมีเรื่อง คนอยู่ร่วมกันครับ
.
มาพักหลังเจ้าของรถฮอนด้าคงย้ายออกไปอยู่ที่อื่น (ไม่รู้เพราะว่าทนไอ้เด็กนี่ไม่ไหวรึเปล่า) ก็เลยเป็นเวลาทองของไอ้เด็ก ป.โท มันก็เข้ามาทำการจับจอง จอดรถข้ามวันข้ามคืน อย่างออกหน้าออกตา ซึ่งผมก็สงสัยและถามป้าแม่บ้าน ว่าน้องเค้าเช่าแล้วหรือไง แต่คำตอบคือ ไม่ได้เช่า ป้าบอกมันแล้ว แต่มันไม่ยอมไปติดต่อเช่า มันบอกว่า มันไม่ได้มาจอดทุกวัน เลยไม่เช่า
แต่ที่ผมเห็นทุกวัน (เพราะผมออกจากที่พักไปทำงานเช้า) คือ ไอ้เด็กคนนี้มันมาจอด "ทุกวัน" เป็นเวลาสองเดือนแล้ว อาจจะมีบ้างวันที่มันดีงเกมส์ ไปจอดข้างนอกซอย ขวางชาวบ้าน เพื่อทำให้ดูเหมือนว่า มันไม่ได้มาจอดทุกวัน แต่นับคร่าวๆ คือ ต้องมีการจอดอย่างน้อย ๑๕ วันต่อเดือน โดยมีหลักฐานคือ กล้องวงจรปิดหน้าที่จอดรถ
.
ช่วงนั้น ผมมีลูกค้าแวะเข้ามาหาถึงหอพัก ตกวันละคัน ซึ่งทำให้มีใครบางคน complained ว่ามีรถเข้าออกมากเสียงดัง เค้าไม่ชอบเลยไปแจ้งเจ้าของหอพัก ซึ่งเค้าก็เข้ามาทำนองต่อว่าผม ว่าเห็นแก่ตัว เอาที่จอดรถมาทำธุรกิจบ้างล่ะ เสียงดังบ้างล่ะ ผมก็ไม่ได้เถียงอะไร เพราะป้าแม่บ้านมาพูดแก้ต่างให้ว่า ผมไม่ได้ทำเสียงดัง แต่เสียงดังมาจากห้องเด็กที่มันชอบเปิดเพลงดังๆต่างหาก แต่เจ้าของหอก็มาพูดว่าถ้ามีคนเข้ามาจอดอีกก็ต้องเสียค่าเช่าเพิ่มอีก ผมก็เลยถามกลับว่า แล้วทีไอ้เด็ก ป.โท นั่นมาจอดฟรีๆเป็นเดือนๆ ไม่เห็นไปเอาค่าเช่ากับมันบ้างล่ะ เจ้าของหอถึงกับไปไม่เป็น เดินหนีไปฟอร์มทำทีสั่งงานลุงช่างประจำหอฯ ซะงั้น
.
จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังต้องจ่ายค่าเช่าที่จอดรถ (แม้ว่าผมจะจอดรถประมาณ ๒๐ วันต่อเดือน เพราะผมมีห้องคอนโดฯอีกห้องแถวบางกระปิ) ทั้งๆที่ไอ้เด็ก ป.โท นั่นมันก็ยังมาแอบจอดมาเกือบ ๔ เดือนแล้ว แถมตอนนี้ยังมีคนห้องอื่น ที่ซื้อรถแล้วเอามาจอดแบบเดียวกับไอ้เด็ก ป.โท นี่ อารมณ์คือซื้อรถแต่ไม่มีตังค์จ่ายค่าที่จอดว่างั้น! ซึ่งมันก็แปลกดีที่ว่า พอมีคนมาถามกับเจ้าของเพื่อจะจอด ก็จะโดนบังคับให้จ่ายค่าเช่า (ซึ่งค่าเช่าจะขึ้นมาในบิลค่าเช่าห้อง) แต่เจ้าของหอฯกลับทำเป็นตาบอด เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ เวลาพวกแอบจอด (เป็นเดือน)(ข้ามวันข้ามคืน) เอารถมาจอด ก็กลายเป็นว่าพวกมันมาจอดฟรี แถมบางวันยังจอดได้เลวมาก คือ จอดปิดทางออกรถผม ซึ่งคนที่ต้องออกจากที่พักแต่เช้าเพื่อไปทำงานไกลๆคงเข้าใจดีว่า เวลาที่คุณต้องรีบออกตัวล้อหมุน ๖.๐๐ น. แล้วมีรถจอดขวาง แล้วต้องรอเกือบๆ ๑๐ นาที มันเป็นยังไง กว่าจะย้ายรถกันได้ ผมออกมารถก็ติดกันพอดี จากที่จะใช้เวลาแค่ ๑ ชั่วโมงในการเดินทาง กลับกลายต้องใช้เวลาเพิ่มอีกอย่างน้อย ๓๐ นาที คิดเวลาและเชื้อเพลิงที่เสียแต่ละครั้ง มันน่าอึดอัดใจ
,
ถามว่า ทำไมต้องทนอยู่ห้องนี้ คำตอบ ณ ตอนนี้คือ เป็นจุดที่สะดวกในการเดินทางไปทำงานกว่าคอนโดฯที่บางกระปิ ครับ และราคาห้องก็ถูก หลักๆคือเรื่องการเดินทางไปทำงานครับ
,
หลักๆคือ ผมติดใจในการบริหารจัดการที่พักของเจ้าของหอครับ คือ แทนที่จะเข้ามาทำให้ดีขึ้น แต่ผมบอกได้ครับ ว่าทุกอย่างมันแย่ลง นี่ไม่รวมเรื่อง คนชอบเอารองเท้าเหม็นๆมาวางหน้าห้อง, พูด/ทะเลาะ/ร้องเพลง ทำอะไรเสียงดังกลางดึก, ตำน้ำพริกด้วยครกหินบนชั้น ๔ ตอนห้าทุ่ม เป็นต้น
.
เลยอยากถามความเห็นว่า ถ้าเป็นท่านผู้อ่าน ท่านจะมีแนวทางอย่างไรในการแก้ไข ปัญหานี้ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้มาจนถึง ณ บัดนี้ครับ
ด้วยความอึดอัดเล็กน้อยถึงปานกลาง