อจินไตย ตอนที่ 2

"ฟืด... ฟืด..."

ท่ามกลาง ความมืดมิดและเงียบสงัดจน ได้ยินแค่เสียงหายใจของตัวเอง ร่างกายที่ถูกพันธนาการเอาไว้
ในท่านอนยกแขน พร้อมกับตาและปาก แม้จะพยายามดิ้นรนหรือส่งเสียงร้องเรียกให้ใครช่วยก็ไม่เป็นผล
และเมื่อเวลาผ่านไป จนทำใจให้สงบได้ จึงได้พยายามพยายามรวบรวมสติคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อคืน เราเห็นเพื่อนสนิททั้งสองคนถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา โดยสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์

"ยัยบี... อาจารย์..."

ใช่แล้ว หลังจากที่เราถูกจบใส่ท้ายรถเราก็กรี๊ดจนสลบไป แต่ทำไม่เราถึงยังไม่ตายล่ะ... แล้วที่นี่มันคือที่ไหน...

ระหว่างที่คิดอยู่แบบนั้นเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งก็ดังใกล้เข้ามา เราพยายามด้นรนให้พ้นพันธนาการอีกครั้ง แต่ก็ไร้ผล
เสียงกุญแจถูกไข ก่อนที่จะมีเสียงลูกปิดประตูดังตามมา เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ สัมผัสเบาหนึ่งได้ค่อยๆเลื่อนสิ่งที่ปิดตาเราออก
เผยให้เห็นตัวการ หญิงสาวผิวขาวผู้ปราศจากอารมณ์บนใบหน้าตลอดเวลา...

"ปาร์ม... เราซื้อข้าวมาให้..."

บีเอ่ยเสียงเรียบ ขณะที่ ตัวเราสังเกตุเห็นแล้วว่า ตัวเราตอนนี้ ถูกมัดไว้กับเตียงพร้อมกับปิดปาก ภายในห้องของบีที่เราเคยมาค้างด้วยนั่นเอง

"ปาร์ม... เราจะแก้มัดให้เธอ... ถ้าเธอสัญญาว่าจะไม่ร้อง หรือพยายามหนี เธอสัญญาได้ไหม..."

โดยไร้ทางเลือก เราจำเป็นต้องพยักหน้าไปก่อน ขณะที่ บี ยังไร้สีหน้าเหมือนเดิม ถ้าเป็นปกติเราคงต้อง
แหกปกร้องเรียกคนช่วย ทันทีที่พ้นพันธนาการ แต่กับ สิ่งที่สามารถฆ่าเราได้ในครึ่งกระพริบตา แบบนี้เรา
คงไม่อาจแข็งขืนได้

"รักษาสัญญาด้วยนะ... เพราะเราไม่อยากฆ่าเธอจริงๆ..."

คำพูดของบีช่วยยืนยันความคิดของเรา ก่อนจะปีนขึ้นมาบนเตียง ผ้าที่มัดปากกับเชือกที่มัดตัวเราติดไว้กับเตียงค่อยๆคลายออก
โดยไม่มีการด้นรนขัดขืน "สิ่ง" ที่คร่อมตัวเราอยู่ตรงหน้าเราทำตัวเป็นปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อวาน

"วิว กับ ทิพย์ ตายแล้วใช่ไหม..."

เราถามเสียงเบา เพื่อที่จะไม่ให้บี คิดว่าเราจะตะโกนเรียกคนให้มาช่วย ก่อนที่จะกระชากหัวเราขาด
ก่อนที่ "สิ่ง" ตรงหน้าเราจะพยักหน้าเบาๆ แทนคำตอบ

"บี... ทำไมเธอต้องฆ่าพวกเราด้วย... ทำไมเธอต้องฆ่าพวกเรา... เธอเป็นอะไรกันแน่..."

เสียงสะอื้นปนขนมาในน้ำเสียง โดยพยายามข่มใม่ให้ฟูมฟายมากเกินไป เมื่อรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ไม่ใช่ความฝัน วิว กับ ทิพย์ตายแล้วจริงๆ และอีกไม่นานเราเองก็คงต้อง...

"เราจำเป็น... ปาร์ม... เราขอโทษ..." บี พูดเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด ท่าทางเธอดูเสียใจจริงๆ แม้ไม่แสดงออกทางสีหน้าเลยซักนิดก็ตาม

"เธอเป็นอะไรกันแน่... ?" เราถามย้ำอีกครั้ง

"เรา... เป็นอสูร..."

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

"ว่าไงนะ... ?"

"ในภพภูมินี้ไม่ได้มีแต่มนุษย์กับเดรัจฉาน แต่ยังมีวินิปาติกอสุรากับเทวดาในชั้นจาตุมหาราชิกา อยู่ด้วย"

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

คำพูดสั้นๆของ บี นำความสับสนมากมายถาโถมเข้ามาไม่หยุด จนไม่อยากจะไปเข้าใจ
เหมือนได้รู้ความลับว่าโลกที่เคยอยู่ จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น และไม่เคยเป็น
มีสิ่งที่นอกเหนือความเข้าใจ อาศัษอยู่ท่ามกลางพวกเรา แฝงตัวอยู่ อย่างแนบเนียน
และใครที่รู้ความลับนี้เข้าจะต้องตายอย่างนั้นเหรอ... ?

"แล้วทำไมเธอถึงยังไม่ฆ่าฉัน..."

คำถามสุดท้ายที่อาจจะจบชีวิตตัวเราเอง ถ้ามองจากมุมบุคลภายนอก เห็น เด็กผู้หญิงสองคน
คนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงนุ่มถูกเชือกมัดขึง น้ำตาไหลซึมอาบแก้ม ขณะที่อีกคนกำลังคร่อมร่างอยู่
คงคิดเป็นอย่างอื่นแน่ๆ

"เพราะเธอทำให้ฉันรู้สึก..." บีตอบพร้อมกับก้มมองจ้องเข้ามาที่นัยน์ตาเรา

"ว่าไงนะ ?"

"ปกติอสูรอย่างพวกเราจะไม่มีความรู้สึก... ยกเว้นจะเสแสร้งแกล้งทำ เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์"
อสูรสาวพยายามอธิบาย
"แต่กับเธอแล้ว ฉันว่าฉันเกิดความรู้สึกขึ้นมาจริงๆ..."

ในที่สุดเชือกที่มัดขา ลำตัว และมือ ก็หลุดออกเราค่อยๆดันตัวขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง โดยยังจ้องอีกฝ่ายไม่
คลาดสายตา

"เธอรู้สึกอะไรอย่างงั้นเหรอ ?"

บีเองก็นั่งข้างๆเราก่อนจะพยายามพูดอธิบายสิ่งที่ตัวเธอเองก็ยังไม่เข้าใจ

ตอนที่เราแกล้งเอาผมมาละหัวเธอในห้องดนตรี ตรงกลางหน้าอกเธอเริ่มรู้สึกบางอย่าง
ตอนที่เราเอื้อมมือมาสัมผัสเธอวันที่มาค้าง ตรงกลางหน้าอกเธอรู้สึกสั่นไหว
ตอนที่เราทำท่าเหมือนจะเอาขนะลงไปทิ้งเป็นเพื่อน ตรงกลางหน้าอกเธอพองโตขึ้นมา
ตอนที่เราฝากขยะไปทิ้งและไม่ไปด้วย ตรงกลางหน้าอกของเธอรู้สึกหายวับไป
ตอนที่เธอรู้ว่าเราถูกผีหุ่นไล่ตามไป ตรงกลางหน้าอกของเธอรู้สึกร้อนรนขึ้นมา
และตอนที่เธอแอบมองเรารำในชุดไทย ตรงกลางหน้าอกของเธอรู้สึกเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้

และบียังบอกอีกว่า ทั้งหมดนี้ไม่เคยเกิดกับใครมาก่อน มีเพียงเราเท่านั้นที่ทำให้ตรงกลางหน้าอก
ของเธอรู้สึกแปลกไป และมันเป็นสิ่งที่เธอยังไม่เข้าใจและหาคำตอบไม่ได้ ดังนั้น
จนกว่าจะเข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้มันคืออะไร เกิดขึ้นได้ยังไง บี จะปล่อยให้เราตายไม่ได้

หลังจากฟังจบรอยยิ้มเล็กๆ ก็เกิดขึ้นบนใบหน้าของเรา แม้จะอยู่ลำพังกับอสูรสาวที่สามารถฆ่าเราได้โดยใช้เพียงนิ้วเดียว
แต่เรากลับรู้สึกเป็นฝ่ายเหนือกว่าด้วยซ้ำ จนอดเผลอคิดไม่ได้ว่า "ยัยนี่มันเด็กน้อยไร้เดียงสาชัดๆ"

"ฉันหิว..."

เราเปลี่ยนเรื่องพูด ทำให้บีรีบลุกขึ้นไป เทกระเพราเป็ดย่าง ร้านที่เราชอบกินประจำใส่จานมาให้

"มือฉันชา เพราะเธอนั่นแหละที่มัดฉันไว้"

เราลองพูดเสียงตำหนิใส่ อสูรที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่กลัว ซึ่งพอสังเกตุดีๆ มีแววตาสลดนิดๆ ตอนที่เราว่าเธอจริงๆด้วย

"ป้อนให้กินหน่อยสิ..."

บีทำตามที่เราบอกอย่างว่าง่าย ระหว่างที่กำลังกินข้าว แม้ทุกอย่างจะดูแย่ไปหมด แต่อย่างน้อยก็ยังมั่นใจได้ว่า
เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเรา ไม่ว่าเธอจะเป็นอะไรก็ช่าง แต่เธอคนนี้ ไม่มีทางทำร้ายเราได้อย่างแน่นอน...

อีกด้านหนึ่ง

ภายในห้องดนตรียามค่ำคืน ได้ปรากฏร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง ยืนอยู่ต่อหน้าหุ่นนางรำสี่ตัว ด้วยความรู้สึกผิดปกติบางอย่าง
ก่อนที่เธอจำทุบทำลายหุ่นเหล่านั้น และพบว่า ในหุ่นทั้งสี่ตัว มีเศษกระดูกของคนเพียงสามคน กระจัดกระจายแยกกันอยู่
ให้เหมือนเป็นของคนสี่คน

"ยัยบี..."

อาจารย์สาว รำพึงชื่อของอสูรน้อยที่เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในสังคมมนุษย์และละเมิดกฏของเผ่าพันธุ์ที่มีมาแต่โบราณ




โปรดติดตามตอนต่อไป...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่