ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นนำก่อนนะคะว่านี่เป็นกระทู้แรกของ จขกท
คือแบบเป็นคนที่ชอบอ่านเรื่องราวความรักของเพื่อนๆในพันทิบ
แล้วเรารู้สึก เออนะ ทั้งฟิน ทั้งเขินกระจายอย่างกับเป็นตัวเองอย่างนั้นแระ
ติดขนาดที่ว่าตื่นนอนมาขอเปิดกะทู้ที่ติดตามสักหน่อย เผื่อเขาเข้ามาต่อ 5555
เลยเกิดความคิดแวบขึ้นมาว่า อยากแชร์เรื่องราวของตัวเองบ้างจัง
เผื่อมีสาวติสที่ยัง งง หลงทาง อยู่กับความเหงา
เอาหน่าา ต้องมีใครสักคนเกิดมาเพื่อเราบ้างแหละะ > <
ต้องบอกก่อนนะคะว่า คือเราก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นสาวติสหรืออะไรหรอกนะคะ
แต่ฟังคนรอบข้างๆ บ่นตลอด ก็เลยคิดว่า อ่ออ หรือกรูจะติสจริงๆว่ะ 555
อุปนิสัยส่วนตัว เราเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงลิบลิ่วมากกกค่ะ กินข้าวคนเดียว
เที่ยวคนเดียว ดูหนังคนเดียวเป็นเรื่องโคตรปกติมาก
คือ ชิลอะ ฉันไปคนเดียวทำอะไรคนเดียว สบายใจกว่า
อยากไปไหนก็ไป อยากทำอะไรฉันก็จะทำ ประมาณนั้น คงจะติสจริงๆ
และแน่นอนว่า บุคคลประเภทนี้ มักจะเป็นโสดกันเสียส่วนใหญ่ T T
ซึ่งเราก็ครองความโสดดมานานนนมากค่ะ
เรียกง่ายๆว่า เกิดมาตรูยังไม่เคยมีแฟนเลยครัชท่านผู้ช้มมม
คือก็แอบคิดนะว่าเราก็ไม่ได้หน้าตาแบบดูไม่ได้ขนาดนั้น (แต่คุณแฟนชอบบอกเราขี้เหร่ ซกมก บลาๆ )
ทำม้ายย ทำไมไม่มีคนมาจีบซักที คือถึงจะติส แต่สาวติสก็มีมุมแอบเหงาเหมือนกันนะคะ
แต่ก็ไม่ได้ออกไปแสวงหา ได้แต่บ่นว่าเหงาจุงงอยู่คนเดียวเงียบๆ 55555
เข้าเรื่อง ตามที่จั่วหัวกะทู้ไว้ดีกว่า
อาจจะพิมไม่รู้เรื่องบ้างนะคะ แบบพิมสดๆไม่ได้นึกอะไรไว้ก่อน
แบบแค่อยากเล่าแบ่งปันเรื่องราวความรักเล็กๆของเราเท่านั้นเอง
เรารู้จักกับเขา ผ่านการทำค่ายค่ะ แต่ไม่ใช่ค่ายในมหา'ลัยทั่วไปนะคะ
แต่เป็นกลุ่มคนทำงานอาสาสมัครขนาดใหญ่
ประเด็นที่ต่อสู้กันก็มักจะเป็นปัญหาของชาวบ้านเรื่องเล็กๆไปจนถึงเรื่องระดับประเทศกันเลยทีเดียว
ตอนที่เราไปค่ายนี้ครั้งแรก คือแบบบังเอิญได้ยินเพื่อนคณะเดียวกันคนหนึ่งพูดถึงค่ายค่ายหนึ่งค่ะ
แล้วเราก็แบบ หันขวับไปหา แบบ เฮ้ยยย กรูไปด้วยยย อารมณ์นั้นแบบโหยหาอยากทำค่ายมากกกกกก
จะเรียนจบแล้ว ยังไม่ได้ทำค่ายอะไรเลย แต่ค่ายเขาจัดกันไปแล้วค่ะ จัดค่ายแบบ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
ซึ่งตอนนั้นก็วันศุกร์แล้วค่ะ นั่นก็หมายความถ้าเราไป หลังเลิกเรียนเราต้องไปเตรียมของไปค่ายแต่เช้าเลย
แล้วค่ายอะไรก็ยังไม่รู้ จัดที่ไหนก็ไม่รู้ ใครจัดก็ไม่รู้ ตกปากรับคำกับเพื่อนไว้ว่า อยากไป
ขอกลับไปคิดก่อนนะ กลับมานอนคิดประมาณสามสิบวินาที เออออ แบบ ไปก็ไปว่ะ
ตอนแรกเพื่อนสนิทไม่ไปด้วยค่ะ แต่นางมาเปลี่ยนใจตอนเช้า
บอกเป็นห่วง กลัวเราโดนหลอกไปขาย ฮาาาา
แต่เชื่อไหมคะว่า ตอนนั้นที่เราตัดสินใจ เรารู้สึกว่า
เราจะเสียใจมากถ้าเราไม่ได้ไป ซึ่งยังไม่ได้เจอ ขอแทนชื่อนายนั่นว่า พี่บีแล้วกันนะคะ
ให้เกียติเขาหน่อย เขาแก่กว่าเราสองสามปีได้ ไม่อยากลงรายละเอียดลึกนะคะ
กลัวเขาเข้ามาอ่าน ล่ะเค้าเขินนนนน 55555 เพื่อนยิ่งชอบอ่าบทู้พันทิบกันอยู่ด้วย
ซึ่งหลังจบค่ายนั้น เราก็เฟลไปพักหนึ่งนะคะ เรารู้สึกว่าเซนต์เรา
พลาดดอะ
ไม่เห็นจะมีอะไร ค่ายอะไรก็ไม่รู้ ไม่สนุกอย่างที่คิด
ตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าเป็นค่ายแบบจริงจัง
ไม่ได้เป็นค่ายสร้างเหมือนที่มหา'ลัยน่ะค่ะ
จะเป็นค่ายเน้นวิเคราะห์สังคมอะไรแนวนั้น แล้วเราก็โดนจีบมาเข้ากลุ่มค่ะ ฮาาาาา หลงคารมคนง่ายย
แบบ พี่ๆที่เขาทำค่ายก็ชวนไปกินข้าวบ้าง ชวนขึ้นไปหาเด็กบนดอยบ้าง
ค่ายแรกที่เราบอกว่าเฟลไปจัดค่ายที่หมู่บ้านบนดอยค่ะ เป็นดอยที่ไม่ไกลจากเมืองเท่าไหร่ (เราเรียนอยู่ทางเหนือค่ะ)
เราก็เออออ ใจง่ายย ตอนนั้นไม่มีอะไรทำ ไปก็ไป
สุดท้ายก็ติดเข้ามาทำงานอาสาสมัครที่กลุ่มนี้จนได้ ยังๆๆๆนะคะ
เรายังไม่รู้จักพี่บี ได้ยินแต่กิตติศัพท์ชื่อเสียงเรียงนามเรื่องความโคตรติสของนาง
ประมาณว่า เราเนี้ยชอบอ่านหนังสือนิยายแนวเดินป่ามากเลยค่ะ หนังสือนี่มีอิทธิพลกับเราจริงๆ
พูดชื่อหลายคนคงร้องอ๋อ ที่มีพรานหล่อๆชื่อรพินทร์ กับ
กะเหรี่ยงหุ่นแซ่บ ชื่อ แงซายนั่นแหละค่ะ 55555
แล้วก็ตามประสาคนพูดมาก อันเป็นอุปนิสัยส่วนตัวค่ะ 5555 คืออีนี่จะไม่มีความลับอะไรเลย
มีเรื่องอะไรโพนทะนาบอกชาวบ้านเขาโหมดดด
เป็นคนชอบอยู่คนเดียวแต่พูดมากค่ะ เพื่อนหลายคนก็งงเหมือนกัน
เราก็เล่าๆให้พี่ๆเขาฟังค่ะ ชอบอ่านเรื่องเดินป่า ชอบรถแนวคาริบเบี้ยน ออพโรดอะไรแบบนี้
เราก็เล่าว่าเราไปเที่ยวนู้นนี่นั่นคนเดียว แบกเป้ไปอะไรแบบนี้
พี่ที่เราเล่าให้ฟังเขาก็บอก เออ แกนี่เหมือนพี่บีมากเลยนะ พี่บีเนี้ยก็เป็นคนทำงานอาสมัครนี่เหมือนกันแหละ
แต่ตอนนั้นพี่แกเขาไปอยู่ป่าค่ะ ไปลงพื้นที่
หมู่บ้านพี่น้องกะเหรี่ยงบนดอย เราก็แบบ เฮ้ยยย ไลต์สไตล์พี่เขาเจ๋งดีอะ ไรแบบนี้ มีคาริบเบี้ยนด้วย
คือตอนนั้นคลั่งรถรุ่นนี้มาก คนเล่นพี่เบี้ยนคงจะเข้าใจดี
แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้สนใจอะไรนะคะ เราก็เล่าเรื่องของเราไปเรื่อย 5555
จนเราไปเจอรูปพี่เขาในเฟซเนี้ยล่ะคะ 55555 แบบบังเอิญมากกกนะ แล้วก็แบบ มันรู้สึกแปลกๆอะคะ
อารมณ์นั้นแบบ บอกไม่ถูกจริงๆนะทุกท่าน เราเป็นคนชอบอ่านนิยายรักนะคะ
แต่ไอ้เรื่องพรมลิขิต รักแรกพบ เราคิดว่ามันมีแค่ในนิยายอะคะ คืออ คงโสดดมานาน
จนคิดว่าเรื่องพวกนี้ไม่มีจริง
แต่ย้อนกลับไปคิดดู เราว่ามันคงจะโดนกับเราเข้าแล้วจริงๆ > <
ตอนนั้นเราก็แอบเข้าไปส่องเฟซนางตามปกติ ท่าทางเจ้าชู้เอาเรื่อง แต่ก็ยังส่องอยู่ 5555
ทั้งๆที่นางไม่ใช่สเปคเราเลยค่ะ เราไม่ชอบคนกินเหล้า สูบบุหรี่ ดูเฮฮาปาจิงโกะ ก้งตามผับ (เมื่อก่อนนางเที่ยวเยอะ)
แต่เคยเป็นไหมคะ เราห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้จริงๆ มารู้ทีหลังว่านางก็ตามส่องเฟซเราเหมือนกันค่ะ
เอริ้วววว พูดแล้วเขินนะ ทำเป็นเก๊กนะเธออออ 5555 แต่รูปในเฟซเราส่วนใหญ่มีแต่ตอนผมสั้นนะคะ เมื่อก่อนคนคิดว่าเป็นทอม
ชอบแต่งตัวแมนๆ เคยคุยกับผู้หญิงด้วย 5555 ว่างๆจะมาเล่า จากห้าวมาเป็นสาวให้ฟังนะคะ อิอิ
ต่อๆ แต่เราก็ไม่ได้แอด ได้ทักไปนะคะ ก็เรายังไม่รู้จักพี่เขานี่เนอะ
จนได้เจอพี่เขาครั้งแรก เป็นการเจอที่เรารู้สึก ว่า อีตานี่
โคตรขี้เก๊กกกกเลย น่ากลัวอีกต่างหาก ดูโลกส่วนตัวสูงงงลิ่วกว่าเราอีกค่ะ
พี่บีพึ่งกลับลงมาจากดอย นางก็แบบผมยาวๆพูดจาอะไรเพ้อๆ แบบคนปกติเค้าไม่พูดกัน 55555
คือตอนนั้นเราก็ยังเฉยๆนะคะ ตอนนั่งอยู่ในรถพี่แก พี่แกไปส่งที่หออะคะ ก็นั่งไปกันหลายคน
พี่บีแกก็พล่ามทริปเวียดนาม แบบจะเอาคาริบเบี้ยนไป อะไรแบบนี้ อ๊ากกกก เรานี่แบบหูผึ่งเลย
แกรรรร ฉันอยากไป ฉันจะไปตามรอย รักเราสองสามคน แต่ก็ยังไม่กล้าคุยกะพี่แกค่ะ อย่างที่บอก
เราเป็นคนที่เข้าหาคนอื่นไม่เป็น มนุษย์สัมพันธ์แย่มากๆๆค่ะ
ซึ่งมาคิดตอนหลังแบบเข้าข้างตัวเอง แกรตั้งใจพูดล่อเป้าฉันรึเปล่าย่ะ 55555
และก็มาถึงคำพูดประโยคแรกที่พี่เค้าพูดกับเราค่ะ
พี่แกก็ถามประมาณว่า เรียนอะไรน่ะ เรียนนี่ใช่ไหม พี่ก็มีเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกับน้องเหมือนกันนะ
บทสนทนาแรกก็เบสิคประมาณนี่ล่ะคะ ซึ่งเราก็ตอบไปตามที่พี่เขาถาม
แหม่ พี่เคอะ มาชวนคุยอะไรตอนถึงซอยเข้าหอน้องแล้วคะ
ซึ่งในวันนั้นก็มีแค่บทสนทนาสั้นๆแต่เพียงเท่านั้น แล้วเราก็ไม่ได้เจอพี่เขาอีกนานพอดู
เมื่อสาวติส มีแฟนคนแรกเป็นหนุ่มโคตรรติส
คือแบบเป็นคนที่ชอบอ่านเรื่องราวความรักของเพื่อนๆในพันทิบ
แล้วเรารู้สึก เออนะ ทั้งฟิน ทั้งเขินกระจายอย่างกับเป็นตัวเองอย่างนั้นแระ
ติดขนาดที่ว่าตื่นนอนมาขอเปิดกะทู้ที่ติดตามสักหน่อย เผื่อเขาเข้ามาต่อ 5555
เลยเกิดความคิดแวบขึ้นมาว่า อยากแชร์เรื่องราวของตัวเองบ้างจัง
เผื่อมีสาวติสที่ยัง งง หลงทาง อยู่กับความเหงา
เอาหน่าา ต้องมีใครสักคนเกิดมาเพื่อเราบ้างแหละะ > <
ต้องบอกก่อนนะคะว่า คือเราก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นสาวติสหรืออะไรหรอกนะคะ
แต่ฟังคนรอบข้างๆ บ่นตลอด ก็เลยคิดว่า อ่ออ หรือกรูจะติสจริงๆว่ะ 555
อุปนิสัยส่วนตัว เราเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงลิบลิ่วมากกกค่ะ กินข้าวคนเดียว
เที่ยวคนเดียว ดูหนังคนเดียวเป็นเรื่องโคตรปกติมาก
คือ ชิลอะ ฉันไปคนเดียวทำอะไรคนเดียว สบายใจกว่า
อยากไปไหนก็ไป อยากทำอะไรฉันก็จะทำ ประมาณนั้น คงจะติสจริงๆ
และแน่นอนว่า บุคคลประเภทนี้ มักจะเป็นโสดกันเสียส่วนใหญ่ T T
ซึ่งเราก็ครองความโสดดมานานนนมากค่ะ
เรียกง่ายๆว่า เกิดมาตรูยังไม่เคยมีแฟนเลยครัชท่านผู้ช้มมม
คือก็แอบคิดนะว่าเราก็ไม่ได้หน้าตาแบบดูไม่ได้ขนาดนั้น (แต่คุณแฟนชอบบอกเราขี้เหร่ ซกมก บลาๆ )
ทำม้ายย ทำไมไม่มีคนมาจีบซักที คือถึงจะติส แต่สาวติสก็มีมุมแอบเหงาเหมือนกันนะคะ
แต่ก็ไม่ได้ออกไปแสวงหา ได้แต่บ่นว่าเหงาจุงงอยู่คนเดียวเงียบๆ 55555
เข้าเรื่อง ตามที่จั่วหัวกะทู้ไว้ดีกว่า
อาจจะพิมไม่รู้เรื่องบ้างนะคะ แบบพิมสดๆไม่ได้นึกอะไรไว้ก่อน
แบบแค่อยากเล่าแบ่งปันเรื่องราวความรักเล็กๆของเราเท่านั้นเอง
เรารู้จักกับเขา ผ่านการทำค่ายค่ะ แต่ไม่ใช่ค่ายในมหา'ลัยทั่วไปนะคะ
แต่เป็นกลุ่มคนทำงานอาสาสมัครขนาดใหญ่
ประเด็นที่ต่อสู้กันก็มักจะเป็นปัญหาของชาวบ้านเรื่องเล็กๆไปจนถึงเรื่องระดับประเทศกันเลยทีเดียว
ตอนที่เราไปค่ายนี้ครั้งแรก คือแบบบังเอิญได้ยินเพื่อนคณะเดียวกันคนหนึ่งพูดถึงค่ายค่ายหนึ่งค่ะ
แล้วเราก็แบบ หันขวับไปหา แบบ เฮ้ยยย กรูไปด้วยยย อารมณ์นั้นแบบโหยหาอยากทำค่ายมากกกกกก
จะเรียนจบแล้ว ยังไม่ได้ทำค่ายอะไรเลย แต่ค่ายเขาจัดกันไปแล้วค่ะ จัดค่ายแบบ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
ซึ่งตอนนั้นก็วันศุกร์แล้วค่ะ นั่นก็หมายความถ้าเราไป หลังเลิกเรียนเราต้องไปเตรียมของไปค่ายแต่เช้าเลย
แล้วค่ายอะไรก็ยังไม่รู้ จัดที่ไหนก็ไม่รู้ ใครจัดก็ไม่รู้ ตกปากรับคำกับเพื่อนไว้ว่า อยากไป
ขอกลับไปคิดก่อนนะ กลับมานอนคิดประมาณสามสิบวินาที เออออ แบบ ไปก็ไปว่ะ
ตอนแรกเพื่อนสนิทไม่ไปด้วยค่ะ แต่นางมาเปลี่ยนใจตอนเช้า
บอกเป็นห่วง กลัวเราโดนหลอกไปขาย ฮาาาา
แต่เชื่อไหมคะว่า ตอนนั้นที่เราตัดสินใจ เรารู้สึกว่า
เราจะเสียใจมากถ้าเราไม่ได้ไป ซึ่งยังไม่ได้เจอ ขอแทนชื่อนายนั่นว่า พี่บีแล้วกันนะคะ
ให้เกียติเขาหน่อย เขาแก่กว่าเราสองสามปีได้ ไม่อยากลงรายละเอียดลึกนะคะ
กลัวเขาเข้ามาอ่าน ล่ะเค้าเขินนนนน 55555 เพื่อนยิ่งชอบอ่าบทู้พันทิบกันอยู่ด้วย
ซึ่งหลังจบค่ายนั้น เราก็เฟลไปพักหนึ่งนะคะ เรารู้สึกว่าเซนต์เราพลาดดอะ
ไม่เห็นจะมีอะไร ค่ายอะไรก็ไม่รู้ ไม่สนุกอย่างที่คิด
ตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าเป็นค่ายแบบจริงจัง
ไม่ได้เป็นค่ายสร้างเหมือนที่มหา'ลัยน่ะค่ะ
จะเป็นค่ายเน้นวิเคราะห์สังคมอะไรแนวนั้น แล้วเราก็โดนจีบมาเข้ากลุ่มค่ะ ฮาาาาา หลงคารมคนง่ายย
แบบ พี่ๆที่เขาทำค่ายก็ชวนไปกินข้าวบ้าง ชวนขึ้นไปหาเด็กบนดอยบ้าง
ค่ายแรกที่เราบอกว่าเฟลไปจัดค่ายที่หมู่บ้านบนดอยค่ะ เป็นดอยที่ไม่ไกลจากเมืองเท่าไหร่ (เราเรียนอยู่ทางเหนือค่ะ)
เราก็เออออ ใจง่ายย ตอนนั้นไม่มีอะไรทำ ไปก็ไป
สุดท้ายก็ติดเข้ามาทำงานอาสาสมัครที่กลุ่มนี้จนได้ ยังๆๆๆนะคะ
เรายังไม่รู้จักพี่บี ได้ยินแต่กิตติศัพท์ชื่อเสียงเรียงนามเรื่องความโคตรติสของนาง
ประมาณว่า เราเนี้ยชอบอ่านหนังสือนิยายแนวเดินป่ามากเลยค่ะ หนังสือนี่มีอิทธิพลกับเราจริงๆ
พูดชื่อหลายคนคงร้องอ๋อ ที่มีพรานหล่อๆชื่อรพินทร์ กับ
กะเหรี่ยงหุ่นแซ่บ ชื่อ แงซายนั่นแหละค่ะ 55555
แล้วก็ตามประสาคนพูดมาก อันเป็นอุปนิสัยส่วนตัวค่ะ 5555 คืออีนี่จะไม่มีความลับอะไรเลย
มีเรื่องอะไรโพนทะนาบอกชาวบ้านเขาโหมดดด
เป็นคนชอบอยู่คนเดียวแต่พูดมากค่ะ เพื่อนหลายคนก็งงเหมือนกัน
เราก็เล่าๆให้พี่ๆเขาฟังค่ะ ชอบอ่านเรื่องเดินป่า ชอบรถแนวคาริบเบี้ยน ออพโรดอะไรแบบนี้
เราก็เล่าว่าเราไปเที่ยวนู้นนี่นั่นคนเดียว แบกเป้ไปอะไรแบบนี้
พี่ที่เราเล่าให้ฟังเขาก็บอก เออ แกนี่เหมือนพี่บีมากเลยนะ พี่บีเนี้ยก็เป็นคนทำงานอาสมัครนี่เหมือนกันแหละ
แต่ตอนนั้นพี่แกเขาไปอยู่ป่าค่ะ ไปลงพื้นที่
หมู่บ้านพี่น้องกะเหรี่ยงบนดอย เราก็แบบ เฮ้ยยย ไลต์สไตล์พี่เขาเจ๋งดีอะ ไรแบบนี้ มีคาริบเบี้ยนด้วย
คือตอนนั้นคลั่งรถรุ่นนี้มาก คนเล่นพี่เบี้ยนคงจะเข้าใจดี
แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้สนใจอะไรนะคะ เราก็เล่าเรื่องของเราไปเรื่อย 5555
จนเราไปเจอรูปพี่เขาในเฟซเนี้ยล่ะคะ 55555 แบบบังเอิญมากกกนะ แล้วก็แบบ มันรู้สึกแปลกๆอะคะ
อารมณ์นั้นแบบ บอกไม่ถูกจริงๆนะทุกท่าน เราเป็นคนชอบอ่านนิยายรักนะคะ
แต่ไอ้เรื่องพรมลิขิต รักแรกพบ เราคิดว่ามันมีแค่ในนิยายอะคะ คืออ คงโสดดมานาน
จนคิดว่าเรื่องพวกนี้ไม่มีจริง
แต่ย้อนกลับไปคิดดู เราว่ามันคงจะโดนกับเราเข้าแล้วจริงๆ > <
ตอนนั้นเราก็แอบเข้าไปส่องเฟซนางตามปกติ ท่าทางเจ้าชู้เอาเรื่อง แต่ก็ยังส่องอยู่ 5555
ทั้งๆที่นางไม่ใช่สเปคเราเลยค่ะ เราไม่ชอบคนกินเหล้า สูบบุหรี่ ดูเฮฮาปาจิงโกะ ก้งตามผับ (เมื่อก่อนนางเที่ยวเยอะ)
แต่เคยเป็นไหมคะ เราห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้จริงๆ มารู้ทีหลังว่านางก็ตามส่องเฟซเราเหมือนกันค่ะ
เอริ้วววว พูดแล้วเขินนะ ทำเป็นเก๊กนะเธออออ 5555 แต่รูปในเฟซเราส่วนใหญ่มีแต่ตอนผมสั้นนะคะ เมื่อก่อนคนคิดว่าเป็นทอม
ชอบแต่งตัวแมนๆ เคยคุยกับผู้หญิงด้วย 5555 ว่างๆจะมาเล่า จากห้าวมาเป็นสาวให้ฟังนะคะ อิอิ
ต่อๆ แต่เราก็ไม่ได้แอด ได้ทักไปนะคะ ก็เรายังไม่รู้จักพี่เขานี่เนอะ
จนได้เจอพี่เขาครั้งแรก เป็นการเจอที่เรารู้สึก ว่า อีตานี่ โคตรขี้เก๊กกกกเลย น่ากลัวอีกต่างหาก ดูโลกส่วนตัวสูงงงลิ่วกว่าเราอีกค่ะ
พี่บีพึ่งกลับลงมาจากดอย นางก็แบบผมยาวๆพูดจาอะไรเพ้อๆ แบบคนปกติเค้าไม่พูดกัน 55555
คือตอนนั้นเราก็ยังเฉยๆนะคะ ตอนนั่งอยู่ในรถพี่แก พี่แกไปส่งที่หออะคะ ก็นั่งไปกันหลายคน
พี่บีแกก็พล่ามทริปเวียดนาม แบบจะเอาคาริบเบี้ยนไป อะไรแบบนี้ อ๊ากกกก เรานี่แบบหูผึ่งเลย
แกรรรร ฉันอยากไป ฉันจะไปตามรอย รักเราสองสามคน แต่ก็ยังไม่กล้าคุยกะพี่แกค่ะ อย่างที่บอก
เราเป็นคนที่เข้าหาคนอื่นไม่เป็น มนุษย์สัมพันธ์แย่มากๆๆค่ะ
ซึ่งมาคิดตอนหลังแบบเข้าข้างตัวเอง แกรตั้งใจพูดล่อเป้าฉันรึเปล่าย่ะ 55555
และก็มาถึงคำพูดประโยคแรกที่พี่เค้าพูดกับเราค่ะ
พี่แกก็ถามประมาณว่า เรียนอะไรน่ะ เรียนนี่ใช่ไหม พี่ก็มีเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกับน้องเหมือนกันนะ
บทสนทนาแรกก็เบสิคประมาณนี่ล่ะคะ ซึ่งเราก็ตอบไปตามที่พี่เขาถาม
แหม่ พี่เคอะ มาชวนคุยอะไรตอนถึงซอยเข้าหอน้องแล้วคะ
ซึ่งในวันนั้นก็มีแค่บทสนทนาสั้นๆแต่เพียงเท่านั้น แล้วเราก็ไม่ได้เจอพี่เขาอีกนานพอดู