@ThaiPBS: ดารา-หอภาพยนตร์ ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องจม.ทวงเงินบริจาค กปปส.
http://t.co/Tdp6FlnYpr #ThaiPBS
http://t.co/yGl7yGsNgx
จากกรณีที่มีผู้เผยแพร่จดหมายของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "กลุ่มดารานักแสดงผู้สนับสนุน กปปส." ส่งถึงพระสุเทพ ปภากโร เรื่องขอตรวจสอบความโปร่งใสในการใช้เงินบริจาคและทวงถามบัญชีรายรับ-รายจ่าย ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ดารานักแสดงบางคนที่เคยร่วมเคลื่อนไหวกับกปปส.ได้ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับจดหมายดังกล่าว
จดหมายฉบับนี้ลงวันที่ 5 ม.ค.2558 เขียนที่หอภาพยนตร์ (องค์กรมหาชน) 94 หมู่ 3 ถ.พุทธมณฑล สาย 5 จ.นครปฐม ถูกนำมาเผยแพร่บนเว็บไซต์พันทิพเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.2558) มีใจความว่า ตามที่พระสุเทพสมัยที่ยังเป็นฆราวาสได้ออกมาเป็นแกนนำเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.2556 ถึง 22 พ.ค.2557 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้บริจาคเงินสนับสนุนการเคลื่อนไหวเป็นจำนวนเกือบ 2 พันล้านบาท แต่กลับไม่ปรากฏว่าแกนนำกปปส.จะได้แสดงความสุจริตในการใช้จ่ายเงินบริจาคดังกล่าวนี้ด้วยการแสดงบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้สาธารณชนได้รับรู้ หรือได้ว่าจ้างผู้ตรวจสอบบัญชีมาตรวจสอบหรือไม่
"การดำเนินการดังกล่าวของพระคุณเจ้ากับคณะ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแสดงความสุจริตอย่างตรงไปตรงมาให้มากที่สุด เนื่องจากขณะนี้ได้เกิดข้อครหาและข้อสงสัยจากมวลมหาประชาชนรวมทั้งพี่น้องกปปส.จำนวนมาก"
"การกระทำดังกล่าวข้างต้นนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากองค์กรอิสระใดๆ ทั้งสิ้นจนถึงขณะนี้ ยิ่งจะทำให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อ กปปส.อย่างรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ หากปล่อยทิ้งไว้ก็รังแต่จะทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย หวาดระแวงในความทุจริตเงินบริจาคที่อาจเกิดขึ้นได้โดยตั้งในหรือมิได้ตั้งใจก็ตาม"
กลุ่มผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นกลุ่มดารานักแสดงผู้สนับสนุนกปปส.ที่เขียนจดหมายฉบับดังกล่าวได้เรียกร้องให้พระสุเทพและแกนนำกปปส.แสดงความสุจริตด้วยการเปิดเผยบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้สาธารณชนได้รับทราบโดยทั่วกัน
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ หรือ "เหมี่ยว" นักแสดงหญิงที่เป็นผู้สนับสนุนกปปส.ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสว่า ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เขียนและเผยแพร่จดหมายฉบับนี้ และแปลกใจว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ลงชื่อ
"ปกตินักแสดงที่สนับสนุนกปปส.ทุกคนเคลื่อนไหวโดยเปิดเผยชื่อ โดยส่วนตัวจึงคิดว่าจดหมายฉบับนี้ค่อนข้างเลื่อนลอย" ปวันรัตน์กล่าวและให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าขณะนี้ นักแสดงที่เคยร่วมเคลื่อนไหวกับกปปส.ไม่ได้รวมกลุ่มหรือมีกิจกรรมใดๆ ร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. แต่นายเอกนัฏไม่รับโทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม นายเอกนัฏได้กล่าวกับสถานีวิทยุ 100.5FM ว่าตนได้ทราบกรณีที่มีการเผยแพรร่จดหมายเปิดผนึกของกลุ่มดาราผู้สนับสนุน กปปส.แล้ว และเตรียมจะชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กในวันพรุ่งนี้ (12 ม.ค.2558)
ก่อนหน้านี้นายเอกนัฏเปิดเผยว่า ได้จดทะเบียนจัดตั้ง "มูลนิธิมวลมหาประชาชน" เรียบร้อยแล้ว โดยมีพระสุเทพ ปภากโร หรือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เป็นประธานมูลนิธิ ซึ่งระหว่างนี้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส.จะทำหน้าที่ประธานมูลนิธิแทน
นายถาวร เสนเนียม หนึ่งในแกนนำกปปส.ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสว่า ตนเชื่อว่าจดหมายนี้เป็นการโจมตีทางการเมือง ส่วนเรื่องเงินบริจาคนั้นคิดว่ามีไม่ถึง 2 พันล้านบาทตามที่เนื้อหาในจดหมายระบุ นายถาวรยืนยันด้วยว่าทาง กปปส.มีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายเงินบริจาคอย่างถูกต้อง
ทางด้านน.ส.ชลิดา เอื้อบำรุงจิต รองผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ (องค์กรมหาชน) ระบุว่า หอภาพยนตร์ไม่มีส่วนรู้เห็นกับจดหมายฉบับนี้ และได้สอบถามเจ้าหน้าที่แล้วพบว่าไม่มีใครทราบเรื่องว่าใครเป็นผู้เขียนจดหมายเปิดผนึกนี้ขึ้น
ดารา-หอภาพยนต์ ปฎิเสธไม่เกี่ยวข้องกับ จม.ทวงเงินบริจาค กปปส.
http://t.co/Tdp6FlnYpr #ThaiPBS http://t.co/yGl7yGsNgx
จากกรณีที่มีผู้เผยแพร่จดหมายของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "กลุ่มดารานักแสดงผู้สนับสนุน กปปส." ส่งถึงพระสุเทพ ปภากโร เรื่องขอตรวจสอบความโปร่งใสในการใช้เงินบริจาคและทวงถามบัญชีรายรับ-รายจ่าย ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ดารานักแสดงบางคนที่เคยร่วมเคลื่อนไหวกับกปปส.ได้ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับจดหมายดังกล่าว
จดหมายฉบับนี้ลงวันที่ 5 ม.ค.2558 เขียนที่หอภาพยนตร์ (องค์กรมหาชน) 94 หมู่ 3 ถ.พุทธมณฑล สาย 5 จ.นครปฐม ถูกนำมาเผยแพร่บนเว็บไซต์พันทิพเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.2558) มีใจความว่า ตามที่พระสุเทพสมัยที่ยังเป็นฆราวาสได้ออกมาเป็นแกนนำเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.2556 ถึง 22 พ.ค.2557 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้บริจาคเงินสนับสนุนการเคลื่อนไหวเป็นจำนวนเกือบ 2 พันล้านบาท แต่กลับไม่ปรากฏว่าแกนนำกปปส.จะได้แสดงความสุจริตในการใช้จ่ายเงินบริจาคดังกล่าวนี้ด้วยการแสดงบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้สาธารณชนได้รับรู้ หรือได้ว่าจ้างผู้ตรวจสอบบัญชีมาตรวจสอบหรือไม่
"การดำเนินการดังกล่าวของพระคุณเจ้ากับคณะ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแสดงความสุจริตอย่างตรงไปตรงมาให้มากที่สุด เนื่องจากขณะนี้ได้เกิดข้อครหาและข้อสงสัยจากมวลมหาประชาชนรวมทั้งพี่น้องกปปส.จำนวนมาก"
"การกระทำดังกล่าวข้างต้นนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากองค์กรอิสระใดๆ ทั้งสิ้นจนถึงขณะนี้ ยิ่งจะทำให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อ กปปส.อย่างรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ หากปล่อยทิ้งไว้ก็รังแต่จะทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย หวาดระแวงในความทุจริตเงินบริจาคที่อาจเกิดขึ้นได้โดยตั้งในหรือมิได้ตั้งใจก็ตาม"
กลุ่มผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นกลุ่มดารานักแสดงผู้สนับสนุนกปปส.ที่เขียนจดหมายฉบับดังกล่าวได้เรียกร้องให้พระสุเทพและแกนนำกปปส.แสดงความสุจริตด้วยการเปิดเผยบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้สาธารณชนได้รับทราบโดยทั่วกัน
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ หรือ "เหมี่ยว" นักแสดงหญิงที่เป็นผู้สนับสนุนกปปส.ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสว่า ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เขียนและเผยแพร่จดหมายฉบับนี้ และแปลกใจว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ลงชื่อ
"ปกตินักแสดงที่สนับสนุนกปปส.ทุกคนเคลื่อนไหวโดยเปิดเผยชื่อ โดยส่วนตัวจึงคิดว่าจดหมายฉบับนี้ค่อนข้างเลื่อนลอย" ปวันรัตน์กล่าวและให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าขณะนี้ นักแสดงที่เคยร่วมเคลื่อนไหวกับกปปส.ไม่ได้รวมกลุ่มหรือมีกิจกรรมใดๆ ร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. แต่นายเอกนัฏไม่รับโทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม นายเอกนัฏได้กล่าวกับสถานีวิทยุ 100.5FM ว่าตนได้ทราบกรณีที่มีการเผยแพรร่จดหมายเปิดผนึกของกลุ่มดาราผู้สนับสนุน กปปส.แล้ว และเตรียมจะชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กในวันพรุ่งนี้ (12 ม.ค.2558)
ก่อนหน้านี้นายเอกนัฏเปิดเผยว่า ได้จดทะเบียนจัดตั้ง "มูลนิธิมวลมหาประชาชน" เรียบร้อยแล้ว โดยมีพระสุเทพ ปภากโร หรือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เป็นประธานมูลนิธิ ซึ่งระหว่างนี้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส.จะทำหน้าที่ประธานมูลนิธิแทน
นายถาวร เสนเนียม หนึ่งในแกนนำกปปส.ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสว่า ตนเชื่อว่าจดหมายนี้เป็นการโจมตีทางการเมือง ส่วนเรื่องเงินบริจาคนั้นคิดว่ามีไม่ถึง 2 พันล้านบาทตามที่เนื้อหาในจดหมายระบุ นายถาวรยืนยันด้วยว่าทาง กปปส.มีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายเงินบริจาคอย่างถูกต้อง
ทางด้านน.ส.ชลิดา เอื้อบำรุงจิต รองผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ (องค์กรมหาชน) ระบุว่า หอภาพยนตร์ไม่มีส่วนรู้เห็นกับจดหมายฉบับนี้ และได้สอบถามเจ้าหน้าที่แล้วพบว่าไม่มีใครทราบเรื่องว่าใครเป็นผู้เขียนจดหมายเปิดผนึกนี้ขึ้น