สวัสดีครับวันนี้เป็นวันเด็กครับ : ) ณ ตอนนี้ผมเป็นนักลงทุนคนหนึ่ง ผมเลยอยากมองย้อนกลับไปถ้าเกิดมีใครสอนเราเรื่องลงทุนตั้งแต่ยังเล็กๆ ว่าให้ลงทุนในหุ้นระยะยาว เนื่องจากผลตอบแทนตลาดหุ้นระยะยาวจะวิ่งที่ 10% ทบต้นต่อปี แล้วเด็กคนนั้นทำตาม ณ วันนี้เขาจะมีอนาคตทางการเงินอย่างไร
สมมติผมย้อนกลับไปตอนปี 2540 ช่วงที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง แล้วผมบอกกับตัวเองว่า เฮ้ย ไอ้ด.ช.เช้านี้ฟ้าใส! นี่เป็นตัวนายจากอนาคตนะ มีเวลาแค่ 10 วิที่เราจะได้คุยกัน ให้เก็บเงินเดือนละ 1,000 บาทตั้งแต่วันนี้ลงทุนในกองทุนหุ้นเท่ากันทุกเดือนไปจน 20 เลยนะพวก ! ด.ช.เช้านี้ฟ้าใสคงจะงงๆ แต่เอาว่ะไม่ยากลองเชื่อมันดู การเก็บเงินเดือนละ 1,000 บาทก็คือเฉลี่ยวันละ 30 กว่าบาท โอเคพอทำได้ ลุยๆ แล้วเด็กน้อยก็ไปฝากเงินที่ธนาคารให้ตัดเงินเท่ากันทุกเดือนที่หนึ่งพันบาทเพื่อลงทุนกองทุนหุ้นทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน (เนื่องจากเป็นปี 2540 กองทุนหุ้นยังมีไม่มาก กองที่เขาเลือกคือ กองทุนรวมบัวแก้ว ของธ.สีน้ำเงิน) สมมติ ณ ปี 2540 ตัวผมอายุ 5 ขวบ ผ่านไป 18 ปีเมื่อถึงปลายปีที่แล้ว 2557 (รวม 18 ปี) เท่ากับอายุ 22-23 นั่นคือผมน่าจะจบมหาวิทยาลัยพอดี เงินผมจะมีเท่าไหร่? การลงทุน 1000 ทุกเดือนตามระยะเวลาดังกล่าว จะทำให้มีเงินต้นทั้งสิ้น 215,000 บาท ลงทุนผ่านร้อนผ่านหนาว (18 ฝน 18 หนาวววว) หลายวิกฤต เพียงแค่คุณลงทุนยาวๆ ถือหุ้นไว้ตลอด มองข้ามความผันผวนระยะสั้นๆซะ และใช้วินัยลงทุนไปเรื่อยๆ นี่คือ ผลลัพธ์ ...
ใช่แล้ว ผ่านไป 18 ปี ณ สิ้นปี 2557 ผมจะมีเงินทั้งสิ้นประมาณ 1 ล้านบาท !!!!!
ราคาหน่วยปัจจุบันของกองทุนอยู่ที่ 35 บาท แต่ต้นทุนเฉลี่ยของเราน้อยมากเนื่องจากซื้อสะสมทุกครั้งที่หุ้นตกหุ้นขึ้นตลอดเวลา จึงมีต้นทุนเฉลี่ยเพียง 7 บาทกว่าๆเท่านั้นเอง ถ้าคิดเป็นผลตอบแทนจากเงินต้นก็ 5 เด้ง ตกปีละ 15% นิดๆ นี่ล่ะครับผลของการใช้วินัยและการลงทุนหุ้นระยะยาว อยากให้ทุกคนเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่วันนี้ ลงทุนในหุ้นไม่ได้ยาก วิธีที่ง่ายที่สุดของคนทั่วไป คือลงทุนเท่าๆกันทุกเดือนในกองทุนหุ้น ใช้วินัยลงทุนระยะยาวผ่านหุ้นขึ้นหุ้นลง อย่าไปสนใจภาวะตลาดหุ้นระยะสั้นมากนัก หุ้นตกดีซะอีกจะได้ถัวราคาหน่วยต่ำๆให้ต้นทุนเราถูกลง (ตอนลงทุนปี 40 นี่หุ้นตกหนักมากไปเกือบ 3-5 ปี ซื้อทุกเดือนยังขาดทุน-เท่าทุนอยู่เลยครับ แต่ระยะยาวมันก็จะขึ้นมาโตไปตามกิจการและกำไรของบริษัทจดทะเบียนเอง) โดยส่วนตัวผมชอบ Index Fund หรือกองทุนดัชนีมากกว่า แต่เนื่องจาก ณ เวลานั้นกอง SET50 ยังไม่เกิด - เกิดปี 2544 ผมเลยเอาบัวแก้วของบลจ.บัวหลวงมาทำแบบจำลอง เพราะจะได้รู้ไปเลยถ้าลงทุนตั้งแต่ต้มยำกุ้ง การซื้อเท่ากันทุกเดือนหรือ DCA จะให้ผลตอบแทนดีหรือเปล่า และมันก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเยี่ยม!) ลงทุนในหุ้นไม่ได้ยาก แต่ต้องมีความเข้าใจและวินัยระดับหนึ่ง เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงโดยเฉพาะความเสี่ยงที่มาจากการไม่รู้ว่าเรากำลังทำอะไร
แน่นอนว่าเรื่องจริงคงไม่ทันทำแบบนั้น แต่ที่มาตั้งกระทู้ก็เพราะว่า แม้จะโตแล้วแต่จริงๆ ทุกคนก็น่าจะมีความเป็นเด็ก มีความฝันวัยเด็กในตัว จ่ายเงินลงทุนให้ตัวเองในวันนี้ เพื่ออนาคตของตัวเด็กที่จะอยู่กับคุณในวันข้างหน้า
ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร ....
มันก็ก็คืออนาคตของตัวคุณเองนั่นล่ะครับ
สุขสันต์วันเด็กครับ ^^
ถ้าคุณลงทุนกองทุนหุ้น 1,000 ทุกเดือนตั้งแต่ต้มยำกุ้ง คุณจะมีเงินล้าน !!!!!
สมมติผมย้อนกลับไปตอนปี 2540 ช่วงที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง แล้วผมบอกกับตัวเองว่า เฮ้ย ไอ้ด.ช.เช้านี้ฟ้าใส! นี่เป็นตัวนายจากอนาคตนะ มีเวลาแค่ 10 วิที่เราจะได้คุยกัน ให้เก็บเงินเดือนละ 1,000 บาทตั้งแต่วันนี้ลงทุนในกองทุนหุ้นเท่ากันทุกเดือนไปจน 20 เลยนะพวก ! ด.ช.เช้านี้ฟ้าใสคงจะงงๆ แต่เอาว่ะไม่ยากลองเชื่อมันดู การเก็บเงินเดือนละ 1,000 บาทก็คือเฉลี่ยวันละ 30 กว่าบาท โอเคพอทำได้ ลุยๆ แล้วเด็กน้อยก็ไปฝากเงินที่ธนาคารให้ตัดเงินเท่ากันทุกเดือนที่หนึ่งพันบาทเพื่อลงทุนกองทุนหุ้นทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน (เนื่องจากเป็นปี 2540 กองทุนหุ้นยังมีไม่มาก กองที่เขาเลือกคือ กองทุนรวมบัวแก้ว ของธ.สีน้ำเงิน) สมมติ ณ ปี 2540 ตัวผมอายุ 5 ขวบ ผ่านไป 18 ปีเมื่อถึงปลายปีที่แล้ว 2557 (รวม 18 ปี) เท่ากับอายุ 22-23 นั่นคือผมน่าจะจบมหาวิทยาลัยพอดี เงินผมจะมีเท่าไหร่? การลงทุน 1000 ทุกเดือนตามระยะเวลาดังกล่าว จะทำให้มีเงินต้นทั้งสิ้น 215,000 บาท ลงทุนผ่านร้อนผ่านหนาว (18 ฝน 18 หนาวววว) หลายวิกฤต เพียงแค่คุณลงทุนยาวๆ ถือหุ้นไว้ตลอด มองข้ามความผันผวนระยะสั้นๆซะ และใช้วินัยลงทุนไปเรื่อยๆ นี่คือ ผลลัพธ์ ...
ใช่แล้ว ผ่านไป 18 ปี ณ สิ้นปี 2557 ผมจะมีเงินทั้งสิ้นประมาณ 1 ล้านบาท !!!!!
ราคาหน่วยปัจจุบันของกองทุนอยู่ที่ 35 บาท แต่ต้นทุนเฉลี่ยของเราน้อยมากเนื่องจากซื้อสะสมทุกครั้งที่หุ้นตกหุ้นขึ้นตลอดเวลา จึงมีต้นทุนเฉลี่ยเพียง 7 บาทกว่าๆเท่านั้นเอง ถ้าคิดเป็นผลตอบแทนจากเงินต้นก็ 5 เด้ง ตกปีละ 15% นิดๆ นี่ล่ะครับผลของการใช้วินัยและการลงทุนหุ้นระยะยาว อยากให้ทุกคนเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่วันนี้ ลงทุนในหุ้นไม่ได้ยาก วิธีที่ง่ายที่สุดของคนทั่วไป คือลงทุนเท่าๆกันทุกเดือนในกองทุนหุ้น ใช้วินัยลงทุนระยะยาวผ่านหุ้นขึ้นหุ้นลง อย่าไปสนใจภาวะตลาดหุ้นระยะสั้นมากนัก หุ้นตกดีซะอีกจะได้ถัวราคาหน่วยต่ำๆให้ต้นทุนเราถูกลง (ตอนลงทุนปี 40 นี่หุ้นตกหนักมากไปเกือบ 3-5 ปี ซื้อทุกเดือนยังขาดทุน-เท่าทุนอยู่เลยครับ แต่ระยะยาวมันก็จะขึ้นมาโตไปตามกิจการและกำไรของบริษัทจดทะเบียนเอง) โดยส่วนตัวผมชอบ Index Fund หรือกองทุนดัชนีมากกว่า แต่เนื่องจาก ณ เวลานั้นกอง SET50 ยังไม่เกิด - เกิดปี 2544 ผมเลยเอาบัวแก้วของบลจ.บัวหลวงมาทำแบบจำลอง เพราะจะได้รู้ไปเลยถ้าลงทุนตั้งแต่ต้มยำกุ้ง การซื้อเท่ากันทุกเดือนหรือ DCA จะให้ผลตอบแทนดีหรือเปล่า และมันก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเยี่ยม!) ลงทุนในหุ้นไม่ได้ยาก แต่ต้องมีความเข้าใจและวินัยระดับหนึ่ง เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงโดยเฉพาะความเสี่ยงที่มาจากการไม่รู้ว่าเรากำลังทำอะไร
แน่นอนว่าเรื่องจริงคงไม่ทันทำแบบนั้น แต่ที่มาตั้งกระทู้ก็เพราะว่า แม้จะโตแล้วแต่จริงๆ ทุกคนก็น่าจะมีความเป็นเด็ก มีความฝันวัยเด็กในตัว จ่ายเงินลงทุนให้ตัวเองในวันนี้ เพื่ออนาคตของตัวเด็กที่จะอยู่กับคุณในวันข้างหน้า
ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร ....
มันก็ก็คืออนาคตของตัวคุณเองนั่นล่ะครับ
สุขสันต์วันเด็กครับ ^^